คงต้องยอมรับกันจริงๆ หล่ะครับว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นกระแสของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่สามารถถอดหน้าจอออกเพื่อใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ตหรือจะเชื่อมกับส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานแบบโน๊ตบุ๊คก็ได้นั้นมาแรงจริงๆ ความดีความชอบนี้คงต้องมอบให้กับทาง Microsoft ที่ยืนหยัดกับซีรีส์ Surface จนทำให้เกิดเป็นกระแสจนกระทั่งมีหลายๆ ผู้ผลิตทำตามกันออกมามากมาย แถมเหนือไปกว่านั้นก็คือบริษัทวิเคราะห์ตลาดรายใหญ่อย่าง IDC ยังได้ทำนายตลาดไว้อีกด้วยครับว่าภายหลังจากนี้ไปอีก 4 ปียอดส่งออกของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 นี้จะสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์ PC ได้ถึง 1 ใน 4 ส่วนเลยทีเดียวอีกด้วยต่างหาก
อย่างไรก็ตามแต่แล้วภายใต้ความสดใหม่และดีไซน์อันเพียวบางของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 นั้นมีปัญหาที่ยิ่งใหญ่ซ่อนเอาไว้อยู่ครับ ปัญหาดังกล่าวนั้นก็คือปัญหาเรื่อง “อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง” ซึ่งเวลาใช้ๆ งานอยู่เนี่ยผู้ใช้หลายๆ คนอาจจะเจอปัญหาที่ระบบปฎิบัติการ Windows บนเครื่องโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 นั้นขึ้นหน้าจอแบบรูปภาพทางด้านล่างนี้ครับ
ทาง LaptopMag โดย Sam Rutherford(ซึ่งเป็นที่มาของบทความนี้) ได้บอกเอาไว้เลยครับว่าตั้งแต่ในการทดสอบโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ของทาง LaptopMag กับเครื่องโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 มานั้นพวกเขา(ทางเว็บไซต์ LaptopMag) ได้เจอปัญหานี้กับเครื่องโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ทุกรุ่นที่ผ่านเข้ามาให้พวกเขาได้ทำการทดสอบ และไม่ต้องไปไกลเลยครับจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนั้นเครื่อง Lenovo Miix 700 ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core m5-6Y54 ที่ว่ากันว่าประหยัดพลังงานแล้วก็เจอปัญหานี้บ่อยๆ เหมือนกันครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นจากการทดสอบอายุการใช้งานโดยรวมของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 จากทาง LaptopMag นั้นเมื่อดูอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบบเฉลี่ยเครื่องที่ทาง LaptopMag ทดสอบมาทั้งหมดนั้นจะมีเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.57 ชั่วโมงเท่านั้นต่างจาก Ultrabook ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 8 ชั่วโมงซึ่งทำให้เห็นได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนของอุปกรณ์ทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นอย่างมากครับ
จากภาพเปรียบเทียบอายุการใช้งานของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ทั้งหมดที่ LaptopMag ทำการทดสอบทางด้านบนโดยมีการกำหนดความสว่างของหน้าจอของเครื่องทดสอบไว้ที่ 100 nits และใช้งานในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ เรื่อยๆ ผ่านทาง WiFi จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy TabPro S มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานสุดตามมาด้วย HP Spectre x2, Microsoft Surface Pro 4, Lenovo Miix 700 และ Dell XPS 12 ตามลำดับ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้นั้นต่างก็ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows โดยจากภาพกราฟการทดสอบทางด้านบนจะเห็นได้ครับว่าอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งแตกต่างจากอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกันที่ใช้ระบบปฎิบัติการ iOS(อย่าง iPad Pro) และ Android(อย่าง Pixel C) เป็นอย่างมาก(เกือบเท่าตัว)
หมายเหตุ – โน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ทั้งหมดที่อยู่ในกราฟการทดสอบนั้นใช้หน่วยประมวลผลของ Intel ซีรีส์ Core M ทั้งหมดเว้น Microsoft Surface Pro 4 ที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i5-6300U
ทั้งนี้อาจจะมีหลายๆ ท่านถามถึง Surface Book ของทาง Microsoft ครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทาง LaptopMag ก็มีคำตอบให้เช่นเดียวกันว่า Surface Book นั้นมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 12.5 ชั่วโมง(ภายใต้การทดสอบเดียวกันกับเครื่องรุ่นอื่น) ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมากเลยทีเดียวแต่ทว่าภายใต้ความน่าประทับใจนั้นก็มีคำถามเกิดตามมาต่อครับว่าทั้งๆ ที่ลักษณะ From Factor ของ Surface Book และ Surface Pro 4 รวมไปถึงเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในการทดสอบก็คล้ายๆ กันแต่ทำไมผลการทดสอบถึงได้ห่างกันแบบสิ้นเชิงขนาดนี้
คำตอบของปัญหานี้ตอบได้ไม่ยากเลยครับ สาเหตุที่ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งของ Surface Book และ Surface Pro 4 รวมไปถึงเครื่องรุ่นอื่นๆ ต่างกันมากก็เป็นเพราะ Surface Book มีการออกแบบให้มีแบตเตอรี่อีกก้อนหนึ่งอยู่บนส่วนของคีย์บอร์ดด้วยครับ อย่างไรก็ตามแต่ด้วยราคาของ Surface Book ที่เริ่มต้นที่ $1,499 หรือประมาณ 53,970 บาทนั้นก็คงเอาไปเทียบกับโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ตัวอื่นๆ ที่อยู่ในการทดสอบได้หล่ะครับที่สำคัญไปกว่านั้นแล้วตำแหน่งทางการตลาดของ Surface Book นั้นทาง Microsoft ก็วางไว้ให้เป็นคู่แข่งกับ MacBook Pro นู่นเลยครับ
สาเหตุของปัญหาเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยบนโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่ทาง LaptopMag จำแนกไว้นั้นน่าสนใจครับ ซึ่งสาเหตุต่างๆ เหล่านั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
- สาเหตุแรกคือดีไซน์ของตัวเครื่องที่นิยมการมาพร้อมกับความบางเฉียบจนไปเทียบกับแท็บเล็ตได้นั่นแหละครับ ด้วยดีไซน์บางเฉียบที่ดูสวยงามและพกพาสะดวกก็จริงแต่ท้ายที่สุดแล้วปัญหาเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยของโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 นั้นก็ส่งผลให้ผู้ใช้ยังคงจำเป็นที่จะต้องพกพามันไปไหนมาไหนกับที่ชาร์จด้วยอยู่ดีเพราะว่าหากจะพกตัวเครื่องไปเปล่าๆ แล้วนั้นคงจะไม่สามารถใช้งานได้พ้น 1 วันทำงานแน่ครับ
- สาเหตุที่สองคือหน้าจอขนาด 12 นิ้วที่มาพร้อมกับความละเอียดระดับเกิน Full HD ขึ้นไปตั้งแต่ 2736 x 1824 pixels บน Surface Pro 4 ไปจนถึงระดับ Quad HD ในเครื่องรุ่นอื่นๆ ซึ่งถามว่าการที่เครื่องมาพร้อมกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูงนี้ดีไหมต้องตอบว่าดีนะครับเพราะนอกจากจะทำให้การแสดงผลดูคมชัดสวยงาม, มีพื้นที่ในการทำงาน ฯลฯ แล้วยังถือว่าบริษัทผู้ผลิตไม่กั๊กเทคโนโลยีมาให้ผู้ใช้ด้วย ทว่าในทางกลับกันมันก็ได้กลายมาเป็นดาบ 2 คมเพราะการที่หน้าจอมาพร้อมกับความละเอียดสูงมากขึ้นเท่าไรนั่นหมายความว่ามันต้องใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น(เหมือนกับหน้าจอของสมาร์ทโฟนแหละครับ) — อย่างไรก็ตามแต่ด้วยขนาดหน้าจอที่ระดับ 12 นิ้วนั้นถามว่าความละเอียดที่ให้มาระดับ Quad HD จำเป็นไหมคำตอบก็คือไม่ครับเพราะถึงพื้นที่การใช้งานบน Windows จะมากขึ้นแต่ทว่าไอคอนต่างๆ รวมไปถึงตัวหนังสือที่เห็นจะเล็กลงตามไปด้วยครับ
หมายเหตุ – สาเหตุดังกล่าวทั้ง 2 นี้เกิดขึ้นมาแล้วกับวงการณ์สมาร์ทโฟนที่เห็นได้ว่าผู้ผลิตพยายามในการเร่งในอุตสาหกรรมหน้าจอสมาร์ทโฟนมาพร้อมกับความละเอียดระดับสูงและดีไซน์ของตัวเครื่องที่บางลงเรื่อยๆ เร็วมากจนเกินไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้โดยที่ไม่พัฒนาเรื่องของแบตเตอรี่ตามไปด้วย ผลลัพธ์ก็คือผู้ใช้ต้องทนใช้สมาร์ทโฟนที่อายุการใช้งานหมดอย่างรวดเร็วไปพักใหญ่จนกว่าเทคโนโลยีของแบตเตอรี่หรือการจัดการการใช้งานแบตเตอรี่ของระบบปฎิบัติการบนสมาร์ทโฟนจะสามารถทำได้ดีกว่านี้ครับ
ณ เวลานี้อาจจะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีมากนักที่คุณจะทำการซื้อโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 รุ่นในปัจจุบันมาใช้งานครับถ้าคุณมองอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งเป็นจุดสำคัญ ทว่าถ้าหากคุณอยากจะยังใช้โน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 จริงๆ อยู่หล่ะก็ลองมองเครื่องรุ่นเก่าอย่าง Surface Pro 3 ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 7.27 ชั่วโมงหรือจะเป็น Surface 3 ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 8.01 ชั่วโมง(แต่ว่าตัวหลังนี้ใช้หน่วยประมวลผล Atom ที่ไม่ค่อยจะเร็วมากเท่าไร) ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
หรือถ้าคุณไม่ติดว่าโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่คุณจะซื้อมาใช้นั้นจะต้องเป็นแบบที่ถอดหน้าจอออกได้(เพราะถ้าจะแนะนำ Surface Book หลายท่านก็อาจจะบอกว่าแพงไป) ลองดูโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 แบบที่มีฝาพับติดอยู่แต่สามารถหมุนหน้าจอได้ 360 องศาอย่างเช่น Lenovo Yoga 900 ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 7.57 ชั่วโมงและ HP Spectre x360 13t ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 8.26 ชั่วโมงแทนดูก็ได้ครับ(แต่ถ้าคุณไม่ได้รีบมากก็รออีกนิดในช่วงกลางปีนี้ไปน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงกันหล่ะครับ)
ที่มา : laptopmag