เปิดตัวออกมาให้ผู้คนได้พูดถึงและสัมผัสกันแล้วสักพักกับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กแต่แรงอย่าง iPhone SE ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 4 นิ้วแต่สเปคภายในนั้นถอดมาจาก iPhone 6S(เกือบทั้งหมด) นอกเหนือไปจากนั้นแล้วราคาเปิดตัวในต่างประเทศก็ต่ำกว่าที่คิดคือที่สหรัฐอเมริกานั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $399 หรือประมาณ 14,035 บาท(ราคาแต่ละประเทศแตกต่างกันไปตามค่าความต่างของสกุลเงิน)
แถมยังไม่หมดเท่านั้นครับ ในตอนนี้มีร้านค้าบางร้านในเมืองไทยได้เปิดให้จองเครื่องฮ่องกงที่มีประกันกับ MacCenter ของ ไทยได้ในราคาเริ่มต้น 19,990 บาท(ติดตามได้จากข่าวเก่า [Apple] iPhone SE เครื่องนอกเข้าไทยแล้ว ราคา 19,900 บาท รับประกันศูนย์ MacCenter ไทย) วันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาสทาง NBS จึงขอยกรีวิวจากทาง The Wall Street Journal มาให้ทุกท่านได้ศึกษากันและเราจะมาดูกันครับว่า ณ เวลานี้ iPhone SE คุ้นแล้วหรือยังที่จะซื้อ
สเปคแรงบนเครื่องขนาดเล็ก – เหมาะกับผู้ที่มีขนาดฝ่ามือไม่ใหญ่มาก
สมาร์ทโฟนในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 2 ขนาดครับคือไม่ “ใหญ่” ก็ “ใหญ่มาก” ดังนั้นแล้วหากจะว่าไป iPhone SE นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใส่ใจในเรื่องของขนาดเป็นพิเศษเพราะมันสามารถที่จะทำให้ผู้ใช้ซึ่งมีขนาดฝ่ามือ(รวมไปทั้งหัวแม่มือ) ไม่ใหญ่มากนักสามารถที่จะใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มที่ในการกวาดนิ้วเพื่อออกคำสั่งโดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งานสมาร์ทโฟนด้วยมือ 2 มือหรือว่าใช้ใช้ฟีเจอร์ One-Hand Operated อีกต่อไปครับ
ด้วยราคาเปิดตัวที่ถือว่าต่ำมาก(หากคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีระดับและใช้ยี่ห้อ Apple) รวมทั้งยังมาพร้อมกับสเปคที่ยกเอามาจาก iPhone 6S ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมียมของทาง Apple เองในปี 2015 มาใส่ไว้บน iPhone SE(เกือบทั้งหมด) ไม่ว่าจะเป็นกล้องความละเอียด 12 MP, ชิปเซ็ท Apple A9, หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 2 GB ฯลฯ และที่สำคัญเลยก็คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่า iPhone รุ่นขนาดหน้าจอใหญ่แบบเห็นความต่างได้อย่างชัดเจน(รวมทั้งสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่อื่นๆ ของคู่แข่งด้วย) ทำให้ iPhone SE นั้นถือได้ว่าเป็นการกลับมาของสมาร์ทโฟนหน้าจอเล็กที่สามารถ “แก้แค้น” สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่แบบได้ผลชะงัดมากครับ
เมื่อถามว่า iPhone SE จะมีผลต่อการเลือกสมาร์ทโฟนของคุณมากแค่ไหน ตอบได้เลยครับว่ามันจะมีผลมากถ้าคุณจะทำการเลือกสมาร์ทโฟนมากกว่าเพื่อเป็นการตามแฟชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ใส่ใจในเรื่องของการใช้งานเป็นพิเศษแล้ว iPhone SE ถือได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานบนมือเดียวของคุณได้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอน คุณสามารถที่จะถือ iPhone SE ด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวได้อย่างสบายๆ แถมการใช้งานคำสั่งต่างๆ นั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทุกนิ้วบนฝ่ามือเดียวอีกด้วย เอาเป็นว่า iPhone SE จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงโลกได้จากฝ่ามือเพียงฝ่ามือเดียวจริงๆ ครับ(ทั้งพอดีแถมให้ความสบายเหมาะมือ)
อย่างไรก็ตามแต่หากคุณเคยชินกับการใช้สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า 4 นิ้วมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาสักพักหนึ่ง เมื่อคุณมาจับ iPhone SE ที่มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว(วัดตามแนวทแยง) เป็นครั้งแรก คุณอาจจะรู้สึกติดขัดและแปลกตาไปจากเดิมเล็กน้อยด้วยเหตุผลในเรื่องของความเคยชินที่คุณเคยใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่กว่านี้มาก่อน หลายท่าน(รวมถึง Geoffrey A. Fowler ผู้ที่ทำการรีวิว iPhone SE ผ่านทาง WSJ) อาจจะรู้สึกไม่อยากใช้งาาน iPhone SE เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องหลักของตัวเองในช่วงแรกๆ ของการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลที่ระบุว่าในสหรัฐอเมริกานั้นยังคงมีผู้ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 4 นิ้วมากถึง 20% แถมในปี 2015 ที่ผ่านมานั้นทาง Apple ก็ยังคงสามารถที่จะจำหน่าย iPhone ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้วได้มากถึง 30 ล้านเครื่องที่เป็นรุ่นเก่ากว่า, ช้ากว่าและแน่นอนว่าถูกกว่า ดังนั้นแล้วจึงถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอควรครับที่ไม่มีผู้ผลิตหลักรายอื่นเลยสนใจที่จะทสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 4 นิ้วพร้อมด้วยสเปคระดับพรีเมียมออกมาแบบที่ Apple เลือกทำกับ iPhone SE(ในสหรัฐอเมริกาซึ่งหลักการณ์นี้อาจจะใช้การไม่ได้กับบ้านเรา)
แรงดึงดูดของ iPhone SE
อย่างที่บอกไปหล่ะครับว่า iPhone SE นั้นดึงเอาสเปคเกือบทั้งหมดมาจาก iPhone 6S ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมียมของปี 2015 ที่ผ่านมา ทำให้เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 4 นิ้วอย่าง iPhone 5S ของทาง Apple เองที่เปิดตัวจำหน่ายตั้งแต่ในปี 2012 นั้น iPhone SE มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมผ่านการทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark สูงกว่า iPhone 5S ถึง 70%(ผ่านแอปผลิเคชัน GeekBench) และประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไปนั้นก็เหนือกว่า iPhone 5S มากถึง 3 เท่าตัว
ราคาเปิดตัวของ iPhone SE คืออีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณโดนแรงดึงดูดของมันเข้าอย่างจังโดยไม่รู้ตัวครับ ด้วยราคาเปิดตัวที่ถือว่าถูกมากเมื่อคิดว่าเป็น iPhone สเปคสูงแถมวัสดุที่ใช้ประกอบนั้นก็ถือเป็นเกรดพรีเมียมไม่ใช่พลาสติกเหมือนแบบที่ผู้ผลิตบางเจ้าทำ ดังนั้นแล้วคุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจไปกับ iPhone SE ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลย ข้อดีที่ดูเหมือนจะมาจากข้อเสียของการที่ Apple เลือกใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบเดียวกับ iPhone 5(iPhone 5S) นั้นก็คือในตลาด ณ เวลานี้คุณจะพบกับอุปกรณ์เสริ่มสำหรับเอาไว้ใช้งานกับ iPhone SE ได้เยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเคสที่มีให้เลือกแบบละลานตาไปหมดครับ
การที่ iPhone SE ยังคงมาพร้อมกับระบบ Touch ID(ที่มีการพิสูจน์จากหลายสำนักแล้วว่าเป็นคนละตัวกับบน iPhone 6S) ทำให้มันสามารถที่จะใช้งานกับ Apple Pay ระบบจ่ายเงินผ่านทาง iPhone ได้ทันทีแต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ระบบ Apple Pay นั้นยังคงรองรับการใช้งานแค่ในบางประเทศเท่านั้นดังนั้นหากคุณอยู่ในประเทศที่ระบบ Apple Pay ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วการมีระบบดังกล่าวนี้ไว้บนตัวเครื่องอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นมากเท่าไรนัก(แต่ก็ดีกว่าไม่มีนะครับ)
จุดเด่นที่เป็นแรงดึงดูดอีกส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณสนใจซื้อ iPhone SE มาใช้งานก็คือเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ถือได้ว่าดีมากขึ้นกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ เป็นอย่างมากรวมไปถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone SE นั้นยังดีกว่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของคู่แข่งด้วยอีกต่างหากครับ คุณสามารถที่จะใช้งาน iPhone SE โดยการปรับให้ตัวเครื่องปรับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง(ในการเข้าอ่านเว็บไซต์) ซึ่งไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใดเลยสามารถที่จะทำแบบนี้ได้(ถ้าไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุมหึมา) อย่างไรก็ตามแต่แล้วตรงนี้ต้องถือว่าเป็นข้อดีของสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดเล็กหล่ะครับ
หมายเหตุ – อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone SE นานกว่า iPhone 6S และ 5S อยู่ ราวๆ 2 ชั่วโมงนิดๆ และนานกว่า Samsung Galaxy S7 อยู่ที่ราวๆ 3 ชั่วโมง
จุดด้อยที่เป็นผลพวงมาจากการที่หน้าจอมีขนาดเล็กกว่าชาวบ้าน
สิ่งหนึ่งที่คุณต้องยอมรับให้ได้ก่อนเลยที่จะซื้อ iPhone SE ก็คือมันมีขนาดจอเล็กกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาดครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าถ้าคุณเคยใช้สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่านี้มาก่อน(และต้องเป็นรุ่นระดับกลางไปจนถึงระดับสูงด้วย) คุณจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนบนมือของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าถึงเว็บไซต์, การดูวีดีโอ ฯลฯ ที่แน่นอนหล่ะครับว่าด้วยหน้าจอที่มีขนาดเล็กลงมุมมองที่ได้ย่อมน้อยลงแถมเรื่องของความละเอียดของตัวหน้าจอนั้นก็น้อยลงกว่าเดิมอีกด้วย
เปรียบเทียบความหนาระหว่าง บน : iPhone SE และ ล่าง : iPhone 6S
อีกจุดหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตรายอื่นอาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นจุดด้วยแต่กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของ Apple อาจจะเสียดายนั้นก็คือเรื่องของการที่ iPhone SE ไม่ได้มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Touch ด้วย ซึ่งเหตุผลที่ทาง Apple ตัดเอาเทคโนโลยี 3D Touch ทิ้งไปบน iPhone SE นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตโดยหากจะว่าไปแล้วในระยะสั้นก็อาจจะไม่เป็นไรเพราะในปัจจุบันนั้นก็ยังคงมีแอปพลิเคชันที่ใช้ความสามารถของ 3D Touch ออกมาไม่มากแต่ในระยะยาวนั้น iPhone SE อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีมากเท่าไรนักครับ(ต้ัองไม่ลืมด้วยนะครับว่า iPhone SE เน้นตลาดผู้ใช้ในระดับกลางไปถึงล่างที่ไม่ค่อยจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อยๆ แบบปีต่อปี)
3 ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ iPhone SE
อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีครับว่า iPhone SE นั้นคือ iPhone 6S ที่ลดขนาดหน้าจอและวัสดุมาเป็น iPhone 5S แถมด้วยการตัดฟีเจอร์บางอย่างออกไปเพื่อที่จะทำการเปิดตัวและจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้นที่เรียกได้ว่าต่ำจนน่าตกใจเมื่อคิดว่าเป็น iPhone ที่มาจากทาง Apple ดังนั้นแล้วก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ iPhone SE นั้นคุณควรที่จะชั่งน้ำหนักจากปัจจัย 3 อย่างดังต่อไปนี้ก่อนครับ
- สิ่งที่คุณเห็น : ก่อนอื่นคงปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่าเรื่องของหน้าจอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณ ในปัจจุบันนั้นคงต้องยอมรับกันแล้วหล่ะครับว่าเทรนของสมาร์ทโฟนในตลาดโลกนั้นคือสมาร์ทโฟนที่มาในรูปแบบของ Phablet หรือสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอ 5 นิ้วขึ้นไปซึ่งสามารถที่จะรองรับความละเอียดในการแสดงผลรวมทั้งสามารถที่จะแสดงผลข้อมูลต่างๆ ได้มากกว่าหน้าจอขนาดเล็ก ในปัจจุบันผู้ผลิตหลายๆ เจ้าพยายามที่จะออกแบบสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอใหญ่ให้สามารถใช้งานสั่งการได้ด้วยฝ่ามือเดียวซะเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เราไม่เห็นผู้ผลิตรายอื่นสนใจที่จะทำการพัฒนาสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอเล็กแต่มาพร้อมกับสเปคสูงครับ เอาแค่ความต่างของขนาดหน้าจอ iPhone 6S(4.7 นิ้ว) และ iPhone SE(4 นิ้ว) ที่อยู่ที่ 25% นั้นอาจจะส่งผลต่อการใช้งานทั่วไปหรือกระทั่งส่งผลไปถึงการใช้งานจำเป็นที่คุณทำผ่านสมาร์ทโฟนทุกวันๆ ได้แล้วครับ
- สิ่งที่นิ้วหัวแม่มือของคุณสามารถจะเอื้มถึงได้บนหน้าจอ : อีกเรื่องหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกันก็คือเรื่องของการสั่งการใช้งานสมาร์ทโฟนผ่านนิ้วหัวแม่มือซึ่งแน่นอนหล่ะครับว่าขนาดฝ่ามือและนิ้วหัวแม่มือของแต่ละท่านนั้นย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนที่จะทำการซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่งคุณควรที่จะทำการทดสอบก่อนว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นๆ รองรับการใช้งานการกวาดนิ้วหัวแม่มือผ่านการถือด้วยฝ่ามือเดียวได้มากน้อยแค่ไหน(เข้าไปทดสอบได้ที่เว็บ Awwapp.com เป็นต้นครับ) ทั้งนี้อย่างไรก็ตามแต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอใหญ่(รวมไปถึง phablet) จะรู้ถึงข้อจำกัดนี้เป็นอย่างดีดังนั้นแล้วในสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอใหญ่จากผู้ผลิตหลายยี่ห้อคุณจะได้เห็นว่ามันมาพร้อมฟีเจอร์ One-Hand Operated ด้วย ทว่าก็ต้องยอมรับหล่ะครับว่าคงไม่สามารถใช้งานได้ง่ายเหมือนกับใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดเล็กแน่
- สิ่งที่คุณสามารถถือได้อย่างสะดวกสบาย : ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์หรือปัจจัยในการดำรงชีวิตอย่างที่ 5 ไปแล้วหล่ะครับ(หรือบางท่านอาจจะนับเงินตรามาก่อนสมาร์ทโฟนก็ไม่ว่ากันครับ) ดังนั้นสิ่งที่ควรต้องคำนึงเป็นปัจจัยสุดท้ายก่อนตัดสินใจที่จะทำการซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่งก็คือในส่วนของความสะดวกสบายในการถือ ตรงจุดนี้นั้นแต่ละคนจะมีจุดสบายในการถือแตกต่างกันไปแต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนักโดยหากคุณสามารถที่จะถือ iPhone SE ให้อยู่ในอุ้งมือระหว่างข้อนิ้วโป้งไปจนกระทั่งข้อนิ้วอื่นๆ โดยที่คุณยังสามารถที่จะกวาดนิ้วโป้งไปรอบๆ หน้าจอของ iPhone SE ได้อย่างสะดวกสบายและกวาดนิ้วมือไปได้ทุกส่วนของหน้าจอ iPhone SE โดยไม่จำเป็นที่จะต้องขยับตัวเครื่องนั่นหมายถึงว่า iPhone SE เหมาะกับฝ่ามือของคุณหล่ะครับ
สรุป – เหมาะไหมที่จะซื้อ iPhone SE เครื่องนอกในตอนนี้
หากคุณๆ ท่านๆ ได้อ่านรีวิวมาจนถึงจุดนี้จะเห็นได้ครับว่ารีวิวแปลฉบับนี้ของ Geoffrey A. Fowler จากทาง WSJ นั้นจะไม่ได้เน้นเรื่องเจาะลึกอย่างเช่นสเปคความแรงผลของ Benchmark อะไรมากมายเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากว่า iPhone SE นั้นเป็นการนำเอาสเปคของ iPhone 6S มาใส่ไว้ใน iPhone 5S ที่มีขนาดจออยู่ที่ 4 นิ้วแล้วตัดเอาฟีเจอร์ใหม่ๆ บางส่วนออกไปก็เท่านั้นครับ
สิ่งที่คุณจะสามารถสังเกตได้เลยก็คือ Geoffrey A. Fowler นั้นจะเน้นในเรื่องของความสะดวกสะบายในการใช้งาน iPhone SE มากกว่าว่ามันเหมาะสมหรือไม่กับชีวิตประจำวันของคุณ เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ระดับ 4 นิ้วนั้นหากคุณเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟนที่มีขนาดจอใหญ่กว่านี้มาแล้วสักพัก(มากกว่า 1 ปีขึ้นไป) คุณคงต้องใช้เวลาในการทำความเคยชินกับหน้าจอที่มีขนาดเล็กลงไปพอสมควรครับ
และเมื่อถามลึกไปกว่านั้นว่าเหมาะสมรึยังที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้ iPhone 5, 5S ที่มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้วเท่ากับ iPhone SE ใหม่นี้จะอัพเกรดซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งในตอนนี้ก็เป็นเครื่องนอกโดยจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 19,900 บาทในเครื่องรุ่นที่มาพร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลความจุ 16 GB นั้น บอกได้เลยครับว่าให้ใจเย็นๆ เก็บเงินของท่านเอาไว้ก่อนถึงแม้ว่าเครื่องจะมาพร้อมกับประกันศูนย์ MacCenter ไทยก็ตาม ทว่าด้วยราคา 19,900 นี้หากคุณเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยคุณจะสามารถไปเล่น iPhone 6 หรือ 6S ได้อย่างสบายๆ และตามข้อมูลภายในนั้นก็บอกว่าประเทศไทยจะมีการวางจำหน่าย iPhone SE ออกมาอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ด้วย
เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ได้รีบอะไรมากขนาดนั้นและยังคงพอใจกับ iPhone 5 และ 5S ที่อยู่บนมือของคุณอยู่หล่ะก็ ไม่แน่เมื่อ iPhone SE เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการด้วยราคา 2x,xxx ต้นๆ คุณอาจจะได้โมเดลที่มาพร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลความจุ 64 GB ไปครองเลยก็เป็นได้ครับ(แต่ถ้าคุณรีบก็ไม่ว่ากันครับ)
ที่มา : wsj