การ Benchmarks มักจะทำกับเกมที่ใช้กราฟิกโหด ๆ หรือใช้ทรัพยากรเครื่องจำนวนมากโดยในปี 2016 เกมที่เน้นกราฟิกอย่าง The Division ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะก่อนที่ตัวเกมจะออกมาก็มีการเปรียบเทียบกราฟิกระหว่างคอนโซลกับ PC หรือข่าวคราวเรื่องกราฟิกดรอปลงในเวอร์ชั่น PC และในวันนี้ก็เลยมีการทดสอบกันให้รู้ชัดกันไปเลยว่า The Division จะแสดงผลได้ดีขนาดไหนบนกราฟิกการ์ดจากค่าย Nvidia และ AMD
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ก็จะใช้กราฟิกการ์ดจากสองค่ายชื่อดังทั้งหมดจำนวน 12 ตัวด้วยกันพร้อมกับสเปคคอมที่ใช้ทดสอบโดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
CPU: Intel Core i7-5930K: 6-core HT OC’ed @ 4.2GHz
Motherboard: Gigabyte GA-X99-UD4
GPUs:
- AMD R9 Fury X (Reference)
- AMD R9 390 (Sapphire)
- AMD R9 380X (Sapphire)
- AMD R9 380 (Sapphire)
- AMD R9 290X (Gigabyte)
- AMD R9 285 (Sapphire)
- Nvidia GTX 980 Ti (Reference)
- Nvidia GTX 980 (Reference)
- Nvidia GTX 970 (Asus)
- Nvidia GTX 960 2GB (EVGA)
- Nvidia GTX 950 2GB (Asus)
- Nvidia GTX 770 2GB (Reference)
SSD: Samsung 850 EVO 2TB
PSU: EVGA SuperNOVA 1300 G2
Memory: G.Skill Ripjaws 16GB DDR4-2666
Cooler: Cooler Master Nepton 280L
Case: Cooler Master CM Storm Trooper
OS: Windows 10 Pro 64-bit
Drivers: AMD Crimson 16.3 Beta , Nvidia 364.51
ส่วนการทดสอบนั้นก็จะทดสอบจำนวนทั้งสิ้น 5 ระดับได้แก่ 3840×2160 High , 2560×1440 Ultra , 1920×1080 Ultra , 1920×1080 High และ 1920×1080 Medium มีรายละเอียดการทดสอบแต่ละระดับดังนี้
3840×2160 High
จากการทดสอบในความละเอียด 3840×2160 High ก็พบสิ่งที่น่าสนใจทีเดียวซึ่งตัวเกมแม้ว่าจะซัพพอร์ต Gamework จาก Nvidia แต่ผลที่ออกมา R9 Fury X จาก AMD กลับทำได้ดีกว่า GTX 980 Ti แถมยังมีระดับ fps เกือบจะถึง 60 ขณะเดียวกัน R9 290X ก็ยังทำงานได้ดีกว่า GTX 980 โดยมีระดับ fps เกือบ 30 ครับ
2560×1440 Ultra
มาในส่วนของการปรับภาพระดับ Ultra กันบ้าง R9 Fury X ก็ยังเหนือกว่า 980 Ti อยู่ดีแต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่มีเฟรมเรตต่ำสุดเกิน 30 fps ส่วนทางด้านกราฟิกการ์ดระดับล่างลงมาก็พบว่า R9 290X กับ R9 390 มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันแต่คราวนี้ GTX 980 กลับมีประสิทธิภาพนำหน้าทั้งสองเล็กน้อยดังนั้นถ้าหากจะเล่นเกมในความละเอียดเช่นนี้ก็อาจจะต้องปรับกราฟิกให้ต่ำลงหน่อยเพื่อให้ตัวเกมไหลลื่นยิ่งขึ้น
1920×1080 Ultra
เมื่อนำมาทดสอบในความละเอียด 1080p ก็จะพบว่า 980 Ti SLI ทำค่า fps พุ่งทะลุไปเกือบ 100 fps แถมค่า fps ต่ำสุดก็เกือบ 60 อีกต่างหากซึ่งเป็นอะไรที่บ้าพลังมากแต่ถ้ามองลงมา Nvidia’s 980 Ti ก็เฉือนเอาชนะ R9 Fury X ไปได้เล็กน้อยและทั้งคู่ก็มีค่าเฟรมเนตเกิน 6o fps ส่วนการ์ดจอตัวอื่น ๆ ก็ไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพเกิน 60 fps ได้เลย
1920×1080 High
แต่ถ้าลองลดระดับมายัง High ก็พบว่ามีกราฟิกการ์ดทั้งจาก Nvidia และ AMD ทำค่าเฟรมเรตเกิน 60 fps หลายตัวเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น GTX 980 , R9 290X , R9 390 และ GTX 970 โดยความละเอียดภาพเช่นนี้น่าจะส่งผลให้เกมเมอร์นิยมปรับแต่งภาพในระดับนี้แน่นอน
1920×1080 Medium
เมื่อความละเอียด 1080p เหมือนกันแต่ปรับกราฟิกเป็น Medium ซึ่งระดับการทดสอบนี้เป็นระดับต่ำสุดแต่ก็ยังมีการ์จอที่ไม่ผ่านระดับ 60 fps ได้แก่ GTX 950 , GTX 770 และ R9 285 แต่ที่ใกล้เคียงที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็น R9 285 ที่ทำได้ 59 fps ส่วนการ์ดจอที่นอกเหนือ 3 ตัวนี้สามารถแสดงประสิทธิภาพเกิน 60 fps ได้ทั้งหมดในระดับความละเอียด 1920×1080 Medium
หลังจากเรารู้ผลทดสอบกราฟิกการ์ดแล้วต่อไปก็จะมาในส่วนของการปรับแต่งกราฟิกเกมให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและไม่ทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปซึ่งในหมวดปรับแต่งกราฟิกใน The Division ถือว่ายืดหยุ่นมากโดยมีค่าการปรับแต่งมากถึง 26 ชนิดและการปรับแต่งที่ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั้นสามารถดูได้จากรูปด้านล่างเลยครับ
เมื่อทำการปรับแต่งตามรูปด้านบนแล้วและทดสอบด้วยความละเอียด 1920×1080 High ซึ่งเป็นความละเอียดที่เหมาะสมที่สุดจากการ Benchmark ข้างต้นก็พบว่าภาพที่ได้มีความคมชัดสมจริง ด้านแสงเงามีความละเอียดและนุ่มนวลซึ่งค่า fps ที่ได้จากการปรับแต่งแบบนี้จะอยู่ที่ 63.5 fps และเมื่อมีการทดสอบปรับคุณภาพทั้งแบบสูงที่สุดและต่างที่สุดก็พบอีกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้การปรับแต่งในส่วนเอฟเฟ็กต์ย่อยที่ตัวเกมให้มานั้นเมื่อลองปรับทั้งแบบต่ำสุดและสูงสุดก็ให้ผลลัพธ์คือไม่จำเป็นต้องปรับสูงสุดทุกอันก็ได้โดยจะอยู่ในระดับ Medium หรือ High เพราะการปรับแบบ Ultra ก็ยังไม่ทำให้ประสิทธิภาพกราฟิกดึงออกมาได้เต็มที่และเมื่อเทียบกับ High ก็แทบจะไม่แตกต่างแถมยังทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักอีก ส่วนทางด้านเอ็ฟเฟกต์แบบเปิด/ปิดได้เมื่อลองเปิดใช้งานทั้งหมดก็ไม่ทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักมากนักและผลที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจแต่อาจจะยกเว้นเรื่องตัวสนับสนุนอย่าง Nvidia PCSS+, Nvidia HFTS ที่ไม่เปิดใช้งานแต่เมื่อปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ตัวอื่นมันก็ทดแทนกันได้
ฉะนั้นแล้วการปรับแต่งกราฟิกใน The Division ที่แสดงผลดีที่สุดและไม่ทรมานเครื่องจนเกินไปก็คือการปรับ Preset ให้อยู่ในความละเอียดระดับ 1920×1080 High ไม่ว่าจะใช้การ์ดจอของค่ายไหนก็ตามครับ ส่วนตัวเกม The Division ก็วางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน มีนาคม หาซื้อเกมได้ทางเว็บไซต์ Steam ครับ
ที่มา: PCGAMER