งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกประจำปี 2016 ของ Apple กำลังจะเกิดขึ้นในคืนวันจันทร์ที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้แล้วครับ(ตามเวลาไทยนะครับ) โดยตามข่าวลือ, ข้อมูลหลุดและการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ชื่อดังหลายๆ คนต่างก็บอกว่าสิ่งที่จะเปิดตัวในงานวันที่ 21 มีนาคมนี้จะประกอบไปด้วย iPhone 5se หรือ iPhone รุ่นขนาดจอ 4 นิ้วที่ทาง Apple หยิบมาปรับปรุงใหม่, iPad Pro ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วและ Apple Watch ที่มาพร้อมกับสายรัดข้อมือแบบใหม่(แต่ตัวเรือนยังคงเป็นรุ่นเดิม(นอกนั้นเป็นอัพเดทของระบบปฎิบัติการเช่น iOS 9.3, tvOS 9.2 และ OS X 10.12 พร้อมด้วยการอัพเดท iTune ครับ)
สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ Apple จะเปิดตัวออกมาในวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้นั้นทางเราเองและสื่อหลายๆ ที่ก็ได้แนะนำไปบ้างแล้ว ทว่าสิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ Apple ต้องการหลายๆ ตัวที่รอเท่าไรก็ไม่เห็น Apple จะเปิดตัวรุ่นอัพเดทออกมาเลยนั้นวันนี้ทางเรา(ผ่านทาง 9to5Mac) ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านั้นมารวมกันไว้ให้ทุกท่านได้ดูกันเพื่อว่าจะมีสักผลิตภัณฑ์ที่คุณๆ หรือท่านๆ รออยู่ จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
Apple Thunderbolt Display : หน้าจอที่ใช้การเชื่อมต่อผ่านพอร์ท Thunderbolt
ไม่รู้ว่าหลายๆ ท่านจะทราบรึเปล่านะครับว่าจริงๆ แล้วทาง Apple เองนั้นก็ได้มีการผลิตหน้าจอแบบแยกออกมาจำหน่ายในแบรนด์ของตัวเองด้วยเช่นเดียวกันซึ่งออกมาตั้งแต่ในปี 2011 แล้วครับ(Apple Thunderbolt Display) โดยตัวหน้าจอนั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 27 นิ้วใช้การเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt รองรับความละเอียดที่ระดับ 2K หรือ 2560 x 1440 pixels ซึ่งหากจะว่าไปแล้วมันก็ยังคงดูดีมีระดับและน่าจะยังใช้งานได้เป็นอย่างดีในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามจากเวลา 4 ปีที่ผ่านมานั้นทาง Apple ก็ไม่เคยอัพเดทสเปคของหน้าจอตัวนี้เลยแถมยังคงขายที่ราคาเดิมมาโดยตลอดซึ่งนั่นก็คือ $999 หรือราคาใน Apple Store Online ของไทยจะอยู่ที่ 33,900 บาทครับ
อย่างที่บอกไปหล่ะครับว่าเรื่องของสเปคต่างๆ ของมันนั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ด้วยความที่ Apple ยังคงจำหน่าย Apple Thunderbolt Display ในราคาเดิมตั้งแต่ปี 2011 ไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในราคานี้นั้นผู้บริโภคสามารถที่จะหาซื้อหน้าจอที่สดใหม่กว่าจากผู้ผลิตรายอื่นแถมสเปคสูงกว่ามาพร้อมเทคโนโลยีที่มากกว่าได้แบบสบายๆ โดยที่อาจจะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเท่ากับ Apple Thunderbolt Display ด้วยซ้ำไปครับ
จะว่าไปแล้วนั้นถึง Apple จะวางแผนไว้ว่าจะอัพเดท iMac ให้รองรับกับความละเอียดหน้าจอที่ระดับ 4K และ 5K แถมในปัจจุบันนั้นเราก็มีพอร์ทการเชื่อมต่อแบบใหม่อย่าง Thunderbolt 3 และ USB Type-C ออกมาให้ได้ใช้งานกันซึ่งพอร์ททั้ง 2 แบบนั้นก็รองรับกับการส่งสัญญาณภาพวีดีโอได้ตั้งแต่ที่ความละเอียดที่ระดับ 3K ไปจนถึง 5K ด้วย ดังนั้นแล้วน่าจะถึงเวลาสักทีแล้วหล่ะครับที่ Apple นั้นควรจะหยิบเอา Apple Thunderbolt Display มาทำการปัดฝุ่นได้แล้วสักที
หมายเหตุ – นอกเหนือไปจากเรื่องของความสามารถในการโอนถ่ายข้อมูลของพอร์ท Thunderbolt 3 และ USB Type-C ที่มากกว่าเดิมแล้ว พอร์ทรุ่นใหม่ทั้ง 2 นี้ยังสามารถที่จะส่งกำลังไฟฟ้าที่ 100 W ไปยังอุปกรณ์ได้ด้วยดังนั้นเวลาเชื่อมต่อกับ Mac แล้วเราก็ใช้แค่สายเดียวเท่านั้นหล่ะครับ ดูดีกว่าเดิมเยอะเลย
MacBooks
สิ่งหนึ่งที่หายไปจากข่าวลือสำหรับอุปกรณ์ที่จะมีการเปิดตัวในวันที่ 21 มีนาคมนี้เลยก็คือ MacBook ครับ แต่ทว่าดูจากระยะเวลากลไกการอัพเดทผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้วนั้น MacBook เป็นผลิตภัณฑ์สายหนึ่งที่ Apple มักจะทำการอัพเดทในทุกๆ โดยหากเราย้อนดูกันไปกับ MacBook แต่ละรุ่นที่ได้มีการอัพเดทออกมาล่าสุดเมื่อปีที่แล้วนั้นก็จะได้รายการดังต่อไปนี้ครับ
- MacBook Pro ขนาดจอ 13 นิ้วอัพเดทล่าสุดเมื่อมีนาคม 2015, ขนาดจอ 15 นิ้วอัพเดทล่าสุดพฤษภาคม 2015
- MacBook Air ทั้งขนาดจอ 11 นิ้วและ 13 นิ้วอัพเดทล่าสุดช่วงต้นปี 2015
- MacBook ขนาดจอ 12 นิ้วเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายน 2015
ทั้งนี้ในช่วงของการอัพเดทของ MacBook ทุกรุ่นนั้นเป็นก่อนหน้าที่หน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Skylake ของทาง Intel จะทำการเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ ทำให้ MacBook ทุกรุ่นที่ Apple อัพเดทไปก่อนหน้านั้นต่างก็มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Broadwell และ Haswell ทั้งสิ้นซึ่งแน่นอนว่าในส่วนของประสิทธิภาพและเทคโนโลยีนั้นถือว่าไม่ทันผู้ผลิตรายอื่นแล้วครับ ดังนั้นแล้วทาง Apple น่าจะทำการอัพเกรดให้เร็วที่สุดเพื่อแฟนๆ ซึ่งหลายๆ คนหวังไว้ว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2016 ทว่าข่าวของการอัพเดท MacBook ในวันจันทร์ที่ 21 มีนาคมนี้เงียบสนิทกลับเป็นว่ามีข่าวลือออกมาว่า Apple จะอัพเดท MacBook Air ในช่วงกลางปีแทนโดยจะทำการเปิดตัวในงาน WWDC 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนครับ
หมายเหตุ – MacBook Pro ขนาดจอ 13 นิ้วที่เป็นรุ่นล่าสุดของ Apple แต่เทคโนโลยีตกไปแล้วนั้นยังคงขายราคาเดิมอยู่คือเริ่มต้นที่ 41,900 บาท หากเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นที่ออกรุ่นใหม่อัพเดทกันมาหมดแล้วแถมราคายังต่ำกว่าของ Apple ด้วยนั้นงานนี้ถ้าคุณอยากจะซื้อ MacBook จริงๆ หล่ะก็ขอแนะนำให้รอ Apple อัพเดทรุ่นใหม่ออกมาก่อนจะดีกว่าครับ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วจะเจ็บใจโดยใช่เหตุครับ
หมายเหตุ 2 – จริงๆ แล้วเคยมีข่าวลือว่า Apple จะทำการอัพเดท MacBook Air ในช่วงต้นปี 2016 นี้ แต่ด้วยยอดขายของ iPad Pro รุ่นขนาดจอ 12.9 นิ้วนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไร(จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ทางด้านแท็บเล็ตก็แย่กันยกตลาด) แถมด้วยในปัจจุบันนั้นกระแสของผู้ใช้ก็เริ่มเทไปที่อุปกรณ์แบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้ในรูปแบบแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คก็ได้มากกว่า ดังนั้นคิดว่าทาง Apple เองจึงอาจจะต้องกลับไปปรับกลยุทธ์ของ MacBook ใหม่อีกรอบก่อนเปิดตัวหล่ะครับ
Mac Pro
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ไม่มีการอัพเดทเลยตั้งแต่ปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 ก็คือ Mac Pro ที่หากจะว่าไปแล้วนั้นถามกันตรงๆ ว่า Mac Pro ยังแรงและทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่ไหมก็ต้องตอบกันตรงๆ เลยหล่ะครับว่ายังดีอยู่ ทว่าด้วยความที่ Apple ยังคงไม่อัพเดท Mac Pro เลยทั้งๆ ที่ผ่านมาได้ 2 ปีกว่าแล้วนั้นทำให้เทคโนโลยีของ Mac Pro ตกยุคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เหตุผลของการที่ Apple ควรจะหยิบเอา Mac Pro มาทำการอัพเดทได้แล้วก็หนีไม่พ้นเรื่องเทคโนโลยีที่มันตกยุคอย่างเช่นหน่วยประมวลผล Intel Xeon E5 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Haswell เก่ารวมไปถึงกราฟิกการ์ด AMD FirePro DXXX ซีรีส์แบบคู่ที่เก่าไปแล้ว ฯลฯ เทียบกับราคาจำหน่ายเริ่มต้นมหาโหดที่ 114,900 บาทนั้นบอกได้คำเดียวครับว่าถึงเวลาแล้วที่ Apple ควรจะอัพเดท Mac Pro สักที
หมายเหตุ – สาเหตุเพิ่มเติมก็คือ Mac Pro นั้นไม่มีพอร์ทใหม่ๆ ที่มีในปัจจุบันอย่าง Thunderbolt 3 และ USB Type-C ซึ่งความพิวเตอร์ระดับสูงสำหรับใช้งานในการตัดต่อภาพหรือเขียนแบบ 3 มิติเป็นหลักนั้นควรจะมีเนื่องด้วยอัตราการโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วกว่ารองรับความละเอียดระดับ 4K หรือ 5K ได้สบายๆ นี่ยังไม่รวมไปถึงการที่ Apple ควรที่จะทำให้ Mac Pro รองรับการใช้งานอุปกรณ์สำหรับการสร้างภาพเสมือนจริงที่กำลังมาแรงในปี 2016 นี้(ทาง Oculus ได้ออกมาบอกเองด้วยครับว่า Mac Pro 2013 นั้นสเปคไม่พอเพียงที่จะใช้กับ Oculus Rift)
AirPort Express/Extreme/Time Capsule
มาต่อกันที่ 3 อุปกรณ์เสริมอย่าง AirPort Express ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ในปี 2012 กับ AirPort Extreme และ AirPort Time Capsule ที่เปิดตัวออกมาในปี 2013 โดยอุปกรณ์ทั้ง 3 ตัวนี้นั้นต่างก็เคยมีข่าวลือหลุดออกมาครับว่าทาง Apple อาจจะทำการทดลองผลิตภัณฑ์ที่ว่ากันว่ารวมเอาความสามารถของอุปกรณ์ทั้ง 3 ตัวดังกล่าวเข้ากับผลิตภัณฑ์ Router และแหล่งเก็บข้อมูลอื่นๆ ของทาง Apple แม้กระทั่ง Apple TV เองก็เคยมีข่าวลือเรื่องนี้ออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตามข่าวลือที่ผ่านมานั้นการรวมร่างผลิตภัณฑ์จะทำให้อุปกรณ์นั้นน่าใช้มากเลยครับ
ทั้งนี้คงได้แต่หวังหล่ะครับว่า Apple จะทำการอัพเดทอุปกรณ์ในซีรีส์ AirPort ในเร็วๆ นี้เพราะจริงๆ แล้วหากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Google เองที่สร้างแพลตฟอร์ม OnHub ซึ่งเพิ่มเติมความอัจฉริยะลงไปในอุปกรณ์จำพวก Router เป็นอย่างมากแล้วนั้น ซีรีส์ AirPort ก็ดูตกยุคไปโดยปริยาย(ถึงแม้ว่าหากพูดกันตามตรงแล้วสเปคของซีรีส์ AirPort ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้ดูด้อยอะไรเท่าไรนัก) Apple ยังสามารถที่จะใส่ลูกเล่นเข้าไปในซีรีส์ AirPort ได้อีกเยอะไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Siri เข้าไปเป็นต้น ถ้าทำได้แบบนี้จริง AirPort จะน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมเลยหล่ะครับ(เอาง่ายๆ ก็คืออัพเดทให้มันมาพร้อมกับความเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบอัจฉริยะนั่นเองหล่ะครับ)
Mac mini
ต่อกันที่ Mac Mini คอมพิวเตอร์ Mac ขนาดเล็กที่เปิดตัวไปในช่วงเดือนตุลาคม 2012 และมีการอัพเดทไปแล้วหนึ่งรอบในช่วงตุลาคมของปี 2014 ซึ่งจากช่วงเวลาที่ Apple ทำการอัพเดท Mac Mini นั้นจะเห็นได้ว่าอยู่ในช่วง 2 ปี ดังนั้นแล้วในปี 2016 นี้ทาง Apple เองก็น่าจะทำการอัพเดท Mac Mini ด้วยเช่นเดียวกันแต่ทว่าตามช่วงเวลานั้นก็น่าจะไปอัพเดทเอาในเดือนตุลาคมเหมือนเดิมนั่นแหละครับ
อย่างไรก็ตามแต่สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับ Mac Mini นั้นก็คือมันเหมือนกับเป็น Mac ที่ถูกลืมไปจาก Apple หล่ะครับ ให้ว่ากันตามตรงแล้วนั้นระยะเวลาในการอัพเดทสเปค Mac Mini 2 ปีครั้งนั้นดูจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรเนื่องจากว่าฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ออกมาทุกปี(ดูอย่าง MacBook เองที่หลายๆ รุ่นมักจะอัพเดทแบบปีต่อปีครับ) ยิ่งปี 2015 ที่ผ่านมานั้นเราได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหน่วยประมวลผลที่แรงกว่าเดิม, กราฟิกชิปแบบฝังที่ดีขึ้นกว่าเดิม, ความสามารถในการออกแบบเครื่องให้เล็กลงกว่าเดิมเพิ่มขึ้น นี่ยังไม่รวมไปถึงพอร์ทใหม่ๆ ที่เปิดตัวกันออกมาอย่าง USB Type-C ดังนั้นแล้วการเลือกอัพเดท Mac Mini 2 ปีครั้งนั้นดูท่าจะเป็นทางเลือกเวลาที่ไม่ค่อยดีแล้วหล่ะครับ
Beats/Apple wireless EarPods
ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ออกมาอย่างหนาหูว่า Apple จะทำการตัดพอร์ท Audio Jack 3.5 mm ออกจาก iPhone 7 คงเหลือไว้เพียงพอร์ทที่อาจจะเป็น USB Type-C(หรือไม่ก็ Lighting เหมือนเดิม) เพื่อการออกแบตัวเครื่องที่สามารถทำได้บางลงกว่าเดิมนั้น ก็มีกระแสคำถามของแฟนๆ iPhone อย่างมากครับว่าถ้าเป็นเช่นนั้นจริงแล้วทาง Apple จะใช้หูฟังในรูปแบบไหน ซึ่งบทสรุปล่าสุดที่อ้างอิงตามกระแสข่าวลือนั้นก็คือหูฟัง EarPods แบบไร้สายที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth นี่แหละครับ
ด้วยความที่ในปัจจุบันนี้ทาง Apple เองก็มี Beats บริษัทที่ผลิตหูฟังและลำโพงชื่อดังไปอยู่ในมือด้วยแล้วนั้น การพัฒนา EarPods ดังกล่าวจึงไม่น่าที่จะยากสำหรับ Apple เลยหล่ะครับ ทว่าจริงๆ แล้วด้วยความที่ Apple ได้ Beats ไปอยู่ในมือตั้งนานแล้ว EarPods แบบไร้สายน่าจะมีการพัฒนาออกมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำไปครับ(เพราะว่ามันจะสามารถใช้กับ iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ได้ด้วย) การรอเวลาทำการเปิดตัว EarPods แบบไร้สายพร้อมกับ iPhone 7 ที่ลือกันว่าจะตัด Audio Jack 3.5 mm ทิ้งไปนั้นดูน่าเสียดายในเรื่องของโอกาสทางด้านการจำหน่ายและการลองของไปหน่อยครับ
ลองคิดดูสิครับว่าถ้า Apple เปิดตัว EarPods แบบไร้สายก่อนหน้าที่จะเปิดตัว iPhone 7 ที่ตัดพอร์ท Audio Jack 3.5 mm ออกไปเพื่อรอดูกระแสก่อนมันจะดีขนาดไหน อีกทั้ง Apple น่าจะยังมีเวลามากพอที่จะใช้ในการปรับปรุง EarPods แบบไร้สายให้ดีจริงๆ ก่อนที่จะเปิดตัว iPhone 7 ได้อีก ได้แต่เสียดายครับที่ทาง Apple ไม่ได้คิดแบบนี้ ยังไงก็แล้วแต่เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปหล่ะครับ
Apple Pencil & international Smart Keyboards
ค่อนข้างจะเป็นที่แน่นอนแล้วครับว่าในงานวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ทาง Apple น่าจะทำการเปิดตัว iPad Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วออกมาแน่ๆ(ถ้าไม่โดน Apple หักหลังนะครับ) อย่างไรก็ตามแต่ด้วยความที่มันเป็น iPad ที่ตามด้วยชื่อ Pro นั้นทำให้มันมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil หรือสไตลัสในแบบฉบับของ Apple ที่จะว่าไปแล้วเสียงตอบรับก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักในสมัยที่มันเปิดตัวพร้อมกับ iPad Pro ขนาดจอ 12.9 นิ้ว(รีวิวหลายๆ ที่ต่างลงคะแนนเป็นเสียงเดียวกันว่าวิธีการชาร์จของ Apple Pencil นั้นดูแล้วไม่น่าใช่อุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบมาจาก Apple เลย)
ตามข่าวลือที่ปรากฎออกมาก่อนหน้านี้นั้นไม่มีสักข่าวลือเดียวครับที่บอกว่าในงานวันที่ 21 มีนาคมนี้ทาง Apple จะเปิดตัว Apple Pencil ที่ได้รับการอัพเดทเปลี่ยนแปลงอะไรออกมาด้วย จะมีที่หลุดมาก็คือในส่วนของ Smart Keyboards ที่จะได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับ iPad Pro ขนาดจอ 9.7 นิ้วเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัว Smart Keyboards เองนี่แหละครับที่ควรจะได้รับการอัพเกรดด้วยเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าเจ้า Smart Keyboards รุ่นเก่านั้นรองรับการใช้งานแค่ภาษาอังกฤษแบบ US-English เท่านั้นครับ ถ้า Apple คิดจะเต็มที่กับอุปกรณ์ในซีรีส์ iPad Pro มากกว่านี้ก็น่าจะอัพเดท Smart Keyboards ให้รองรับกับภาษาสากลให้มากกว่านี้ครับ(แต่เรื่องนี้เชื่อว่าไม่นานนักน่าจะมีการอัพเดทหล่ะครับแต่ก็คงเป็นภาษาในประเทศใหญ่ๆ เช่นภาษาในโซนยุโรป, จีนและญี่ปุ่นก่อนครับ
USB-C lightning cables
ท้ายสุดกับสายเชื่อมต่อ Lighting ที่มีอีกด้านหนึ่งเป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C ซึ่งหลายๆ คนอาจจะตั้งคำถามครับว่าจะเอามาทำไมเพราะในความเป็นจริงแล้วอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ท USB-C ในปัจจุบันนั้นก็มีเพียง MacBook ขนาดจอ 12 นิ้วเท่านั้นแถมที่สำคัญก็คือบนเจ้า MacBook ขนาดจอ 12 นิ้วนั้นก็มีพอร์ท USB-C เพียงพอร์ทเดียวซะอีกด้วย แต่ตรงจุดนี้อยากให้ทุกท่านมองกว้างไปกว่านั้นเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ท USB-C ที่กำลังออกมามากขึ้นเรื่อยๆ(จากผู้ผลิตรายอื่นๆ) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็น battery packs ที่สามารถใช้งานในการชาร์จ MacBook ขนาดจอ 12 นิ้วได้ครับ
ลองคิดดูเล่นๆ สิครับว่าถ้าเรามีสายเชื่อมต่อ Lighting ที่มีอีกด้านหนึ่งเป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C ด้วยนั้นนั่นหมายความเราสามารถที่จะนำ battery packs ตัวนี้มาใช้งานกับอุปกรณ์จำพวก iPhone ได้ด้วย นอกเหนือไปจากนั้นแล้วหากมีสายเชื่อมต่อ Lighting ที่มีอีกด้านหนึ่งเป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C เกิดขึ้นมาจริงๆ งานนี้การเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับ MacBook ขนาดจอ 12 นิ้วหรือรุ่นอื่นๆ ที่จะออกมาในอนาคตซึ่งน่าจะมีพอร์ท USB-C ติดมาด้วยเหมือนกันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นทำให้เราไม่ต้องใช้ Dock อีกต่อไปครับ(เชื่อได้ว่าสายเชื่อมต่อ Lighting ที่มีอีกด้านหนึ่งเป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C นั้นทาง Apple น่าจะทำออกมาอยู่แล้วหล่ะครับแต่คงจะไม่ได้เปิดตัวในช่วงงานวันที่ 21 มีนาคมนี้ก็เท่านั้น
ที่มา : 9to5mac