อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของใครหลายๆ คน กับโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานได้ทั้งโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ต ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาเรื่อยๆ หลากหลายแบรนด์ด้วยกัน แต่ที่ฮือฮากันที่สุดก็คงเป็นในส่วนของ Microsoft Surface Pro 4 โดยล่าสุดทาง HP ได้พร้อมท้าชนแล้ว กับการนำเสนอ HP Elite x2 1012 ที่เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ระดับมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหนือกว่าหลายๆ อย่าง
ไม่ว่าจะเป็นงานประกอบและดีไซน์ คุณสมบัติที่ทันสมัยที่สุด อุปกรณ์เสริมที่มีอย่างครบครัน รวมไปถึงการรับประกันและการบริการขั้นเทพ ด้วย On-site Service ระยะเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตามก็มีข้อสังเกตุว่าชิปประมวลผลเป็น Intel Core m เท่านั้น ไม่ได้มีตัวเลือกเป็น Intel Core i แต่อย่างใด อีกทั้งหน้าจอก็เป็นความละเอียด Full HD
ก่อนอื่นขอลงรายละเอียดสิ่งที่ HP Elite x2 1012 เหนือกว่า Microsoft Surface Pro 4
- ติดตั้งพอร์ต USB Type-C มาในตัว รองรับการใช้งานหลากหลาย
- มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับองค์กรครบครัน
- ดีไซน์สวยสุดๆ พร้อมกับความทนทานระดับกองทัพสหรัฐ
- อุปกรณ์เสริมมีมากมาย ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน
- มีการรับประกันระยะถึง 3 ปี แบบ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
โดยที่ HP Elite x2 1012 มาในรูปลักษณ์ที่มีความบางเบามากกว่าโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทั่วไป ซึ่งมีความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 8.1 มิลลิเมตร เท่านั้น และหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม รวมถึงมีลักษณะการใช้งานในสไตล์ของ Microsoft Surface Pro 4 ที่ทำเป็นแบบแท็ปเล็ตและมีขาตั้งด้านหลัง พร้อมคีย์บอร์ดมาให้ รวมถึงเพิ่มสไตลัสมาในตัว พร้อมพลังในการทำงานเช่นเดียวกับ Surface Pro 4 ด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core m Gen 6 และหน้าจอขนา 12 นิ้ว ให้ความละเอียด 1920 x 1280 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS รองรับการทัชสกรีน 10 จุดและปากกาสไตลัส HP Active Pen
ปากกาสไตลัส HP Active Pen ทาง HP ได้ร่วมกับ Wacom ในการผลิต โดยตัวสไตลัสจะมีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Surface Pro 4 ทุกอย่าง เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้างและทางด้านบน (ซึ่งปุ่มทางด้านบนจะเอาไว้ใช้สำหรับการรันโปรแกรม OneNote) และที่สำคัญสไตลัสนี้ยังรองรับระดับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียว ส่วนลำโพงคู่หน้าและระบบเสียงทรงพลัง จาก Bang & Olufsen ที่ขึ้นชื่อ
ฐานตั้งหน้าจอของ HP Elite x2 early 2016 นั้นทาง HP ยืนยันว่าแข็งแรงและทนทาน โดยสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมได้มากสุดถึง 150 องศา โดยการตั้งหน้าจอที่มุม 150 องศานี้ทาง HP บอกว่าจะเหมาะสมเป็นอย่างมากกับการใช้งานด้วยสไตลัสในการทำงานต่างๆ
และหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญก็คือ มีการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 โดยใน HP Elite x2 1012 มีความทนทานสูง ผลิตขึ้นจากโลหะผสมอลูมิเนียมและยังผ่านการทดสอบ Military Standard ซึ่งทำให้ตัวเครื่องสามารถทนฝุ่นและน้ำ พร้อมหน้าจอในแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ทนต่อรอยขีดข่วน พอร์ตรองรับ USB 3.0 และ USB Type-C รวมถึง Thunderbolt 3 ผู้ใช้สามารถเลือกการใช้งาน 4G LTE สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในแบบ on-the-go ได้เลย
สำหรับที่ชาร์จของ HP Elite x2 1020 นั้นจะมีขนาดเล็กพอเหมาะเนื่องจากว่าสเปกภายในไม่ค่อนกินพลังงานเท่าไหร่ จะเห็นได้ว่าพอร์ทที่ใช้สำหรับการชาร์จนั้นจะเป็น Thunderbolt 3 ซึ่งจัดว่าเป็นพอร์ตที่สุดยอดและทันสมัยที่สุดไปแล้ว โดยผลิตขึ้นมาจากวัสดุ 7000-series Aluminum เป็นองค์ประกอบในส่วนของฐานตั้งหน้าจอและส่วนอื่นๆ ใช้วัสดุเป็น 6000-series Aluminum (มีน้ำหนักน้อยกว่าซีรีส์ 7000)
นอกจากนี้ HP ยังได้นำเสนอ Travel Keyboard ที่มีความเบาและบางแต่เป็นลักษณะของฮาร์ดคีย์บอร์ดที่เหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปแน่นอนมีไฟ backlight ในตัว หรือคีย์บอร์ดแบบรองรับงานหนักๆ ร่วมกับฟีเจอร์ NFC และ Smart Card Reader อีกด้วย ซึ่ง HP ได้พัฒนา Elite x2 1012 ให้มี Dock ที่ง่ายต่อการใช้ในการเชื่อมต่อพอร์ตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 ในการเชื่อมต่อกับ HP Elite USB-C Docking station เป็นต้น รวมไปถึงยังมี Docking แบบไร้สายด้วย ทำให้เราสามารถเข้าภาพขึ้นจอหรือข้อมูลผ่านยังการเชื่อมต่อ WiGig ได้ เรียกได้ว่าเหนือชั้นจริงๆ
ในส่วนของระบบความปลอดภัย HP Elite x2 1012 มาพร้อมกับ HP Sure with Dynamic Protection, TPM และระบบสแกนลายนิ้วมือหรือตัวอ่านมีเดียการ์ด ถ้าเกิดความเสียหาย ก็ยังมีบริการแบบ On-site Service ระยะเวลา 3 ปีอีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 38,990 บาท สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core M3-6Y30 แรม 4GB และ SSD 128GB มาพร้อมปากกาสไตลัส HP Active Pen (ไม่มี Travel Keyboard) ซึ่งมีสเปกต่างๆ ดังต่อไปนี้
HP Elite x2 1012 สเปกและราคาที่จำหน่ายในไทย
- Core M3-6Y30 / RAM 4GB / SSD 128GB : ราคา 38,990 บาท
- Core M5-6Y57 / RAM 4GB / SSD 128GB / Travel Keyboard : ราคา 49,990 บาท*
- Core M5-6Y57 / RAM 8GB / SSD 256GB / Travel Keyboard : ราคา 57,990 บาท*
- Core M7-6Y57 / RAM 8GB / SSD 512GB / Travel Keyboard : ราคา 66,990 บาท*
* มี HP Fingerprint Reader ** สามารถออฟชั่นเพิ่มการรองรับ 4G LTE ได้
*** ทาง HP ยังได้มีการเตรียมอุปกรณ์เสริมแยกขายต่างหากเพื่อใช้งานร่วมกับ HP Elite x2 1020 เอาไว้อีกมากมาย
เอาเป็นว่าใครสนใจกับโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ก็ลองดูเป็น HP Elite x2 1012 ได้นะครับ ส่วนบทความรีวิวรอติดตามกันได้ แต่ถ้าใครอดใจไม่ไหวต้องสั่งซื้อแล้ว ก็เข้าไปที่ www.hpstorethailand.com กันได้เลย