ถือเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้วว่าต้นปี Huawei จะจัดซีรีย์ Mate ตัวใหม่มาให้จับจองกัน และในปี 2016 นี้ก็ได้ส่ง Huawei Mate 8 ออกมา ด้วยฟีเจอร์ออปชั่นต่างๆจัดเต็มอัพเกรทขึ้นจาก Mate 7 ขึ้นมาพอสมควร ซึ่งส่วนตัวผมเองนั้นก็ได้ใช้ Huawei Mate 7 อยู่ก่อนหน้านี้ เมื่อได้มาสัมผัส Huawei Mate 8 แค่แรกพบก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างในหลายๆส่วน ทั้งตัวเครื่องและลูกเล่นภายใน ลบจุดอ่อนหลายๆอย่างของ Huawei Mate 7 ในราคา 23,990 บาท หลายๆท่านอาจจะมองว่าแพงไปหน่อยแต่อยากให้ดูฟีเจอร์ภายในครับแล้วจะรู้ว่าราคาสูงแต่ก็มีอะไรน่าสนใจไม่น้อย
รายละเอียดสเปค
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 0 (Android 6.0 Marshmallow)
- หน้าจอ 6.0 นิ้ว FHD 1080p (1920*1080), 368ppi
- HUAWEI Hisilicon Kirin 950 Octa core (4*2.3GHz A72 +4*1.8GHzA53)+i5 co-processor
- RAM 4GB + ROM 64GB
- 4G LTE /3G /2G
- TDD LTE:B38/B39/B40
- Bluetooth 2 support BLE
- Wi-Fi 11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G with Wi-Fi Direct support
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, f0 ,OIS ,BSI CMOS
- กล้องหน้า 8 ล้านพิเซล, f 4
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- Fingerprint Sensor
- รองรับ Micro SD
- ราคา 23,990 บาท
แรกพบ
Huawei Mate 8 บรรจุมาในกล่องสีดำสนิท แต่เปิดออกมาก็สัมผัสได้ถึงความหรูหรา ซึ่งในรุ่นหลังๆ Huawei เน้นตั้งแต่กล่องบรรจุภัณฑ์ให้ดูพรีเมี่ยม ไม่แพ้ความหรูหราของตัวเครื่องเลย พร้อมอุปกรณ์ภายในครบครัน ที่อยากแนะนำเลยคือ Adapter Fast Charge 2A ที่ช่วยให้ชาร์ตแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นกว่า adapter ทั่วไป และเคสฝาพับสีเดียวกับตัวเครื่องเป็นตัวเกรทสูงสุดที่ขายเลยก็ว่าได้ไม่ใช่เคสธรรมดาทั่วไป
แรกสัมผัส
อย่างที่เกริ่นไปก่อนแล้วครับว่าส่วนตัวเคยใช้ Huawei Mate 7 มาก่อนแล้ว ทำให้เมื่อมาจับ Huawei Mate 8 จึงสามารถรู้สึกได้ถึงความต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัส โดยตัวเครื่องยังคงเน้นการออกแบบที่หรูหราด้วยวัสดุพรีเมี่ยมจากอลูมิเนียมพร้อมการออกแบบสไตล์ unibody ไร้รอยต่อ โดยเฉพาะสี Mocca Brown ดูสวยงามไปอีกแบบ โดยยังมีสีอื่นให้เลือกซื้อกันด้วย โดยจุดที่ต่างจาก Huawei Mate 7 อย่างเห็นได้ชัดเลยคือความบางเบากว่าเดิมที่ 7.9 มิลลิเมตร แต่ยังให้ขนาดจอภาพ 6 นิ้วเท่าเดิม ด้วยขอบจอภาพที่บางยิ่งกว่าเดิมเพียง 0.4 มิลลิเมตร คิดเป็นพื้นที่ของจอภาพถึง 85% ด้วยเทคโนโลยีแบบ Diamond Cut Glass หรือนึกง่ายๆว่าขนาดเท่ากับ iPhone 6s Plus ที่จอภาพ 5.5 นิ้ว ทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวกโดยไม่รู้สึกเกะกะจนเกินไป แม้แต่เพื่อนๆผมเองบางคนยังไม่เชื่อว่านี่คือสมาร์ทโฟนขนาดจอภาพ 6 นิ้ว
Huawei Mate 8 มาพร้อมจอภาพความละเอียด Full HD แม้จะไม่ได้ละเอียดสูงสุดในตลาด แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนังในปัจจุบัน อีกทั้งไม่เป็นการเพิ่มภาระให้ซีพียู หรือแบตเตอรี่ทำให้เครื่องไม่ร้อน และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น โดยขอบด้านบนของจอภาพยังมาพร้อมกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอ และไฟแสดง notification ซึ่งยังคงใส่เข้ามาเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้
การออกแบบปุ่มใช้งานจะอยู่ทางซ้ายของตัวเครื่องหรือขวามือของเราเพื่อนให้สามารถใช้งานบนมือเดียวได้อย่างสะดวก ช่องใส่ซิมการ์ดด้านซ้าย ด้านบนจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน และช่องต่อ Headphone ด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB ไมค์หลักและลำโพง
ด้านหลังถือเป็นไฮไลด์เริ่มจากด้านบนด้วยกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม OIS กันสั่นขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ด้านหลัง และ Dual LED Flash ถัดลงมาอีกนิดจะเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ออกแบบเป็นทรงกลมต่างจาก Huawei Mate 7 ที่จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่กลับใช้งานสะดวกยิ่งกว่าเดิมด้วยขนาดพอดี โดยเดี่ยวผมจะขอพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงต่อไปครับ
สุดท้ายไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือเคสฝาพับที่แถมมาให้ยิ่งช่วยเสริมความหรูหราให้ Huawei Mate 8 มากขึ้นไปอีก โดยเป็นเคสระดับพรีเมี่ยมที่ขายตามช๊อปราคาแพงๆเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อปิดฝาพับลงมาแล้วยังคงสามารถทำงานพื้นฐานได้ไม่ว่าจะเป็นรับสาย เปลี่ยนเพลง เหมือนเสมือหน้าจอเล็กๆให้สามารถใช้งานได้ โดยไม่ต้องเปิดฝาพับออกมา
จากการจับถือใช้งานจริงแม้จะภาพจะใหญ่ถึง 6 นิ้ว แต่ก็สามารถจับถือได้อย่างสะดวก ส่วนนึงจะเป็นเพราะว่าผมเองตัวใหญ่พอสมควรทำให้รู้สึกจับถนัดมือ แต่ด้วยวัสดุอลูมิเนียมเองก็มีข้อเสียตรงที่เป็นรอยง่ายไปนิด แต่เมื่อใส่เคสแล้วก็รู้สึกอุ่นใจและยิ่งจับได้กระชับมือมากยิ่งขึ้น ปุ่มต่างๆวางตำแหน่งได้ลงตัวกดได้สะดวก โดยเฉพาะสแกนลายนิ้วมืออยู่ในตำแหน่งที่วางนิ้วชี้เพื่อปลดล๊อคได้พอดี หรือจะสลับไปมือซ้ายก็ยังได้อยู่ จอภาพคมชัดดีแต่ด้วยที่ขอบบางมากทำให้บางครั้งนิ้วไปถูกจอโดยไม่ตั้งใจเช่นจังหวะการถ่ายรูปทำให้โฟกัสผิดตำแหน่ง
เมื่อได้เล่น
Huawei Mate 8 มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด EMIUI 4.0 ที่มีพื้นฐานมาจาก android 6.0 marshmallow เวอร์ชั่นล่าสุดที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใช้กันอยู่ในขณะนี้ ถ้าวัดความเปลี่ยนแปลงจาก EMIUI 3.0 ใน Huawei Mate 7 อาจจะไม่รู้สึกต่างกันมา แต่ในรายละเอียดต่างไปพอสมควร แน่นอนว่าประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้นนอกจากส่วนของซอฟแวร์ที่ปรับจูนมาดีแล้ว ก็ยังต้องยกให้แรมตัวเครื่องที่ความจุสูงถึง 4GB สูงสุดในตลาดตอนนี้ เมื่อบวกกับซีพียูตัวใหม่ล่าสุดที่ทาง Huawei พัฒนาเองอย่าง CPU Kirin 950 Octa-core ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมหนักๆก็ยังสามารถตอบสนองได้ ที่สำคัญคือแม้จะเป็นซีพียูที่พัฒนาขึ้นมาเองแต่ก็สามารถใช่งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆใน play Store ได้อย่างไร้ปัญหา การเปิดโปรแกรมใหม่หรือสลับโปรแกรมใช้งานก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล
ในส่วนของการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น 3G 4G LTE ต่างๆก็สามารถทำได้หมดสนับสนุนทุกเครือข่ายบนโลกเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็น FDD-LTE ,TDD-LTE ,WCDMA ,TD-SCDMA ,GSM ,CDMA2000 โดยซิมหลักจะรองรับการเชื่อมต่อ 4G และซิม 2เชื่อมต่อแบบ 2G โดย Huawei Mate 8 พิเศษยิ่งกว่าตรงที่ใช้หน่วยประมวลผล HiSilicon RF ซึ่งสนับสนุนการเชื่อมต่อที่ครบคลุมกว่า 217 ประเทศ ทำให้ไม่ต้องห่วงเวลาไปใช้งานที่ต่างประเทศ WiFi ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ชอบมากก็คือสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วเพียงแต่เข้ามาในระยะสัญญาณก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันที รองรับทั้ง 2.4 GHz และ 5.0 GHz
โดยรวมจากที่ได้ใช้งานจริงการใช้งานมีความลื่นไหลดี สามารถเปิดแอพต่างๆได้รวดเร็ว และด้วยแรม 4GB ทำให้แม้เปิดหลายๆโปรแกรมซ้อนกันก็ไม่มีปัญหาอาการหน่วง
ฟีเจอร์เด็ดโดนใจ
สแกนลายนิ้วมือ
ถือเป็นจุดเด่นหลัก Huawei Mate 8 เลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่การวางตำแหน่งที่ทำให้สามารถใช้งานจริงได้สะดวก ตำแหน่งที่ต้องวางนิ้วแน่นอน โดยเมื่อแตะนิ้วลงไปตัวเครื่องก็จะปลดล๊อคและติดขึ้นมาทันที ไม่ต้องกดเปิดเครื่องเพื่อให้จอติดขึ้นมาก่อนแล้วค่อยสแกน ทำให้สะดวกรวดเร็วมาก อีกทั้งยังถนอมปุ่มปิดเครื่องได้ด้วย การตอบสนองก็สามารถทำได้รวดเร็ว พร้อมการสั่นให้เราทราบว่ามีการสแกนนิ้วถึงแม้ว่าจะติดหรือไม่ก็ตาม และแม้จะ วางนิ้วกลับหัวหรือจะแตะไม่เต็มนิ้วแต่เซ็นเซอร์ก็สามารถตรวจจับได้หมด อีกทั้งรายละเอียดของนิ้วเรายังจะเก็บไว้ที่ตัวชิปภายในเครื่องทำให้ปลอดภัยเป็นพิเศษ และแม้ว่าจะมีการซ่อมหรือเปลี่ยนเซนเซอร์ก็ยังสามารถใช้งานได้เลย
สามารถเพิ่มจำนวนนิ้วสูงสุดได้ถึง 5 นิ้ว และยังสามารถใช้งานฟังค์ชั่นอื่นๆได้ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพ เซลฟี่ (Selfie) แค่แตะนิ้วที่เซนเซอร์ก็จะถ่ายภาพให้เลย หรือจะใช้เป็นปุ่มรับสาย ปิดนาฬิกาปลุกก็ยังได้
แบตเตอรี่
คิดว่า Huawei Mate 7 แบตเตอรี่อึดแล้ว Huawei Mate 8 แบตเตอรี่ยิ่งอึดมากขึ้นยิ่งไปอีก ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,000 mAh ไม่ต่างจากรุ่นก่อน แต่ปรับการใช้พลังงานใหม่ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Heat Beat พิเศษเฉพาะใน Huawei Mate 8 ที่จะคอยตรวจเช็คแอพต่างๆเพื่อปรับการใช้งานที่เหมาะสมลดการใช้พลังงานของแอพต่างๆขณะสแตนด์บายลงครึ่งนึง เมื่อบวกกับหน่วยประมวลผลรวมแยก i5 ใน Kirin 950 ที่จะคอยประมวลผลงานเล็กๆน้อยๆเช่นการจดจำเสียงพูด ฟังเพลง mp3 ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ซีพียูตัวใหญ่ประมวลผลประหยัดพลังงานได้มากขึ้นไปอีก
ซึ่งจากการใช้งาน 4G 3G ผสมกับ wifi เล่นเน็ต แชท รวมถึงมีการเล่นเกมบ้างสามารถใช้งานทั้งวันได้อย่างสบายๆ จบวันแบตเตอรี่ยังเหลืออย่างน้อย 30% – 20% ถ้าไม่ค่อยได้เล่นเกม ไม่ค่อยได้เปิดจออยู่ได้วันครึ่งสบายๆ
ใช้งานบนมือเดียว
แม้ Huawei Mate 8 จะบางเบาสามารถใช้งานได้บนมือเดียว แต่สำหรับสุภาพสตรีบางท่านที่มือเล็กๆก็อาจจะไม่ได้รับความสะดวกมากนัก จึงมีการใส่ฟังค์ชั่นใช้งานมือเดียวเข้ามาทำให้สามารถปรับคีย์บอร์ดให้เอียงสอดรับกับมือฝั่งที่ถือได้ และยังสามารถย่อขนาดจอลงมาโดยการเลื่อนปุ่มบารด้านล้างจากกลางมาขวาเพื่อย่อจอ และลากจากด้านขวามากลางเพื่อปรับเป็นจอภาพขนาดปรกติ
ฟังค์ชั่นอื่นๆ
- Floating Dock หรือปุ่มเสมือสำหรับสั่งงานพื้นฐาน เช่น Back ,home หรือเปิดแอพด่วนที่เราตั้งค่าไว้
- Motions Control สั่งงานตัวเครื่องด้วยท่านทางเช่นคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า ยกเครื่องขึ้นเพื่อยลดเสียงเรียกเข้า หรือจะเป็นการยกเครื่องแนบหูเพื่อรับสายได้เลย
- Dual windows gesture ใช้ข้อนิ้วขีดตรงกลางจอเพื่อแบ่งใช้งาน 2 จอ
- Smart screenshot จับภาพหน้าจอเฉพาะจุด หรือจับภาพทั้งหน้าจอ โดยการใช้ข้อนิ้ววาดเป็นวงกลม
- Draw ใช้ข้อนิ้ววาดเป็นตัวอักศร C M E W เพื่อเปิดโปรแกรมด่วนตวามที่ต้องการ
เมื่อได้ถ่าย
Huawei Mate 8 ปรับปรุงในส่วนของกล้องแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลย นอกจากอัพสเปคตามสมัยนิยมแล้วยังใส่ฟังค์ชั่นเข้ามาอีกมากตั้งแต่กล้องความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล ที่รูรับแสง f 2.0 ทำให้ถ่ายภาพในที่มืดได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใส่กันสั่นภาพ (OIS) ยิ่งทำให้ถ่ายภาพได้สะดวกยิ่งขึ้นแม้แสงน้อย หรือจะถ่ายวีดีโอก็ทำให้ถ่ายได้นิ่งมากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังถ่าย Slow Motion หรือถ่ายภาพความเร็วสูงได้กว่า 10 เฟรมต่อวินาที วีดีโอก็สามารถถ่ายได้สูงสุดถึง 1080p แบบ 60 fps โดยมีโหมดต่างๆให้เลือกหลากหลายทั้งเปลี่ยนธีมสีภาพ HDR หรือจะปรับเองทั้งหมดก็สามารถทำได้ละเอียดไม่แพ้กล้อง DSLR เลย
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิเซล เล่นมุมกว้างทำให้สามารถถ่ายภาพเพื่อนๆร่วมเฟรมได้หมด อีกทั้งยังมีโหมดบิวตี้เพิ่มความวิ้งให้ใบหน้าได้อีก และเมื่อแตะเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังก็สามารถจับภาพได้เลย โดยไม่ต้องมาเอื้อมมือแตะที่จอภาพให้วุ่นวาย
ออกตัวเลยว่าไม่ประทับใจกับกล้องของ Huawei Mate 7 เท่าไร แต่เมื่อมาลอง Huawei Mate 8 ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปด้วยระบบโฟกัสที่ไว และแม่นยำมากขึ้น เลนส์มุมกว่างขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญคือมีกันสั่นทำให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดมากขึ้น แต่มีปัญหานิดนึงตรงที่ขอบจอบางมากทำให้บางครั้งนิ้วที่ถือไปโดนขอบจอโดยไม่ตั้งใจ
บทสรุป
Huawei Mate 8 แม้จะมีราคาค่าตัวที่สูงเอาเรื่องอยู่แต่ก็มีลูกเล่นต่างๆมากมายตั้งแต่ความพรีเมี่ยมของตัวเครื่องที่เป็นอลูมิเนียมแบบ unibody สวยงามหรูหรา บนจอภาพขนาด 6 นิ้ว ขนาดเทียบเท่าสมาร์ทโฟนอื่นที่จอขนาด 5.5 นิ้ว ทำให้จับได้กระชับมือ พร้อมฟังค์ชั่นภายในจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นระบบสแกนลายนิ้วมืออัจฉริยะ กล้องความละเอียดสูงพร้อมกันสั่นในตัว แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน และสเปคเครื่องที่จัดเต็มตั้งแต่ซีพียูทรงประสิทธิภาพ Kirin 950 Octa-core แรมสูงสุดในตลาดถึง 4GB และหน่วยความจำภายใน 64GB รองรับ 4G LTE ทุกค่ายบนโลกก็ว่าได้ ใครยังลังเลอยู่ละก็อยากให้ลองไปที่หน้าร้านแล้วลองเล่น ลองจับดูก่อนอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเพียงแค่เห็นราคาเครื่อง ไม่แน่อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกใจเพื่อนๆก็เป็นได้
จุดเด่น
- ออกแบบเครื่องได้พรีเมี่ยม หรูหราสมกับเป็นตัวท๊อปของ Huawei
- วัสดุตัวเครื่องที่ดีมาก งานประกอบสมบูรณ์แบบแทบไม่มีที่ติ
- สเปคแรงที่สุดตัวหนึ่งในตลาดตอนนี้ทั้งซีพียูและแรมถึง 4GB
- สแกนลายนิ้วมือที่ตอบสนองได้เร็วและอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก
- จอ 6 นิ้ว สวยงามคมชัด ขอบบางมากทำให้ขนาดไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนจอ 5.5 นิ้ว
- รองรับ 4G LTE เกือบทั่วโลก จับ wifi ได้ไว
- มาพร้อม Android 0 Marshmallow ครอบด้วย EMUI 4.0 ลื่น และเสถียร
- แบตเตอรี่อึดที่สุดสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่สเปคเทียบเท่า
- กล้องแจ่ม โฟกัสไว้ถ่ายสนุก แถมด้วยกันสั่นทำให้ถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น
- มีเคสแถมระดับพรีเมี่ยมแถมมาให้เลย
ข้อสังเกตุ
- ขอบจอภาพที่บางมากทำให้บางครั้งไปสัมผัสหน้าจอในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- ขนาดอาจจะใหญ่ไปสำหรับบางคน
- ตัวเครื่องมีโอกาสเป็นรอยได้ง่าย
Website : http://consumer.huawei.com/th/mobile-phones/tech-specs/huawei-mate8-th.htm