นอกจากบริษัทที่มีพื้นฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีนจะมาแรงแล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทจากอีกประเทศหนึ่งที่ใหญ่ไม่แพ้กันในเอเชียของเราอย่างประเทศอินเดียก็มาแรงไม่แพ้กันครับ และถ้าหากพูดถึงชื่อ Lava แล้วหล่ะก็เชื่อได้ว่าทุกท่านๆ โดยเฉพาะผู้ที่เคยดูโฆษณาหรือโปรโมชันมือถือราคาย่อมเยาว์ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเบอร์หนึ่ง(ณ เวลานี้) ของบ้านเราอย่าง AIS แล้วต้องรู้จักและคุ้นเคยกับชื่อ Lava เป็นอย่างดีแน่นอนครับ ล่าสุดนั้นทาง Lava ได้ทำการประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตชื่อรุ่น Twinpad แบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คหรือแท๊บเล็ตก็ได้ออกมาครับ
Twinpad นั้นถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ตัวแรกของทางบริษัท Lava ครับ โดยสเปคนั้นก็อยู่ในระดับที่พอใช้ได้ดังต่อไปนี้ครับ
- หน้าจอขนาด 10.1 นิ้วใช้ panel แบบ IPS รองรับความละเอียดที่ระดับ HD
- หน่วยประมวลผล Intel รุ่น Atom Z3735F สถาปัตยกรรม Baytrail-T แบบ Quad-core ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดอยู่ที่ 1.83 GHz
- ชิปกราฟิก Intel HD Graphics
- หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 2 GB แบบ DDR3
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในความจุ 32 GB สามารถเพิ่มได้ผ่านทาง MicroSD Card สูงสุดอีก 64 GB
- กล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียดเท่ากันอยู่ที่ 2 MP
- แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion polymer ความจุ 7,400 mAh
- น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 570 g
- มาพร้อมกับความสามารถในการใส่ SIM Card ได้โดยจะรองรับการใช้งานข้อมูลผ่านเครือข่าย 3G
- สามารถทำการผลิกส่วนของหน้าจอเชื่อมกับส่วนของคีย์บอร์ดได้แบบ 2 ทางคือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง(ตามรูปด้านล่าง)
- รองรับกับปากกาสไตลัส(แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะแถมมาด้วยในชุดจำหน่ายเลยหรือไม่)
- มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10(แต่ยังไม่แน่นอนว่าเป็น Windows 10 Home, Pro หรือ Mobile)
ทั้งนี้ Lava Twinpad นี้จะพร้อมวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกที่ประเทศอินเดียในช่วงเร็วๆ นี้ สนนราคาที่อินเดียนั้นอยู่ที่เครื่องละ Rs. 15,999 หรือประมาณ 8,420 บาท สำหรับในประเทศอื่นๆ นั้นก็ต้องรอดูกันต่อไปส่วนในเมืองไทยนั้นคงต้องลุ้นกันครับว่าทาง AIS จะนำเอา Lava Twinpad มาทำตลาดด้วยหรือไม่เพราะตัวเครื่องนั้นรองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G ผ่าน SIM Card ซึ่งน่าจะทำให้ AIS ใช้ในการทำตลาดได้ครับ
หมายเหตุ – ช่วงนี้จะเห็นได้ครับว่าหลายๆ บริษัทนั้นมีการเปิดตัว 2-in-1 ระบบปฎิบัติการ Windows 10 ออกมาเยอะมากจริงๆ แถมที่สำคัญนั้นราคาไม่แพงมากเท่าไรนักอีกต่างหากแสดงให้เห็นว่าตอนนี้กระแส 2-in-1 ที่ Microsoft สร้างมาพร้อมกับซีรีส์ Surface นั้นมาจริงๆ ครับ
ที่มา : mspoweruser