Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

Other News

[Mobile] อนาคตต่อจากนี้ไปไม่มีอีกแล้วกับยอดขายในตลาดสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นเกิน 10%

เป็นเวลาหลายปีแล้วครับที่ยอดขายของสมาร์ทโฟนนั้นเติบโตขึ้นด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก อย่างในปี 2014 และ 2015 ที่ผ่านมานั้นสมาร์ทโฟนจากประเทศจีนอย่างยี่ห้อ Xiaomi และ Huawei

เป็นเวลาหลายปีแล้วครับที่ยอดขายของสมาร์ทโฟนนั้นเติบโตขึ้นด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก อย่างในปี 2014 และ 2015 ที่ผ่านมานั้นสมาร์ทโฟนจากประเทศจีนอย่างยี่ห้อ Xiaomi และ Huawei นั้นสามารถที่จะทำยอดขายในตลาดทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ทุกราย(แล้วแต่ภูมิภาคแต่ส่วนใหญ่แล้วโดยรวมยอดขายของทั้ง 2 ยี่ห้อดังกล่าวนี้เพิ่มขึ้นในแต่ละปีเกินเลข 2 หลักเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น) ทว่าจากรายงานงานวิจัยตลาดสมาร์ทโฟนล่าสุดของทาง Kantar Worldpanel ComTech ดูเหมือนในอนาคตนั้นคงจะไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วครับ

smartphone picture 600

Advertisement

Kantar Worldpanel ComTech นั้นได้ทำการวิจัยการเจาะตลาดสมาร์ทโฟนในหลายๆ ภูมิภาคด้วยกันพร้อมกับได้นำเสนอตัวเลขของจำนวนสมาร์ทโฟนที่ผู้คนมีกันในแต่ละภูมิภาคใหญ่ๆ ประกอบไปด้วยสหรัฐอเมริกาและยุโรป(เฉพาะ 5 ประเทศใหญ่ใน EU) รวมกันถึง 91% และเมืองใหญ่ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีนก็มีจำนวนสูงถึง 97% หากเจาะลึกลงไปกว่านั้นจะพบว่าประชากรภายในสหรัฐอเมริกามีสมาร์ทโฟนรวมกันทั้งหมดมากถึง 65%, ประชากรชาวยุโรปมีสมาร์ทโฟนรวมกันทั้งหมดมากถึง 74% และประชากรในเมืองใหญ่ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนก็มีสมาร์ทโฟนแล้วมากถึง 72% ครับ

ตามที่ทาง Kantar Worldpanel ComTech ได้วิเคราะห์เอาไว้นั้นพบว่าจำนวนของยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้พุ่งไปถึงจุดสูงสุดของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Carolina Milanesi ผู้นำเสนองานวิจัยชิ้นนี้ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าภายในปี 2016 นั้นยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนจะไม่พุ่งมากแบบก้าวกระโดดหรือมีตัวเลขของยอดขายเพิ่มขึ้นไปจากเดิมมากกว่า 2 ตัวเลขเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของยอดการจำหน่าย(หรือง่ายๆ ก็คือยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของแต่ละยี่ห้อนั้นจะไม่มีทางเพิ่มขึ้นเกิน 10% นั่นเองครับ)

smartphone LifeCycles sales down(Feb 2016) 600

Milanesi ได้กล่าวเอาไว้ว่าสมาร์ทโฟนที่จะสามารถทำยอดขายได้ดีในปี 2016 นั้นจะต้องมาพร้อมกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน 2 สิ่งดังต่อไปนี้

  • มาพร้อมกับฟีเจอร์เดนตายที่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องการมันมากจริงๆ
  • สมาร์ทโฟนนั้นๆ จะต้องมีแรงจูงใจมากพอที่จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าอยากจะได้และต้องการ “next big thing” 

ทั้งนี้ทาง Milanesi นั้นไม่ได้พูดเปล่าๆ นะครับเพราะทางเขาและ Kantar Worldpanel ComTech เองนั้นได้มีข้อมูลยอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนในปี 2013 – 2015 ของแต่ละประเทศใหญ่ๆ มาให้ดูกันด้วย(ตามตารางด้านบน) ซึ่งจะเห็นได้ครับว่ายอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนในประเทศใหญ่ๆ นั้นถึงแม้ว่าในแต่ละปีจะเพิ่มขึ้น แต่ที่เพิ่มขึ้นนั้นเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รวมแล้วก็ไม่ได้มากอะไรเท่าไรนัก ที่หนักไปกว่านั้นบางประเทศที่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานนั้นยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนประจำปีกลับลดลงอีกด้วยต่างหาก(อย่างเช่นอิตาลีเป็นต้น)

อีกจุดหนึ่งที่ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนจะไม่เพิ่มขึ้นไปจากนี้มากกว่า 10% นั้น ทาง Milanesi ได้ให้สาเหตุเอาไว้ครับว่าเป็นเพราะผู้ใช้มือถือแบบธรรมดา(feature phone) หลายๆ คนไม่ได้มีความอยากจะได้สมาร์ทโฟนมาใช้งานสักเท่าไรนัก สาเหตุหลักที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากว่าราคาของสมาร์ทโฟนที่เมื่อเทียบกับมือถือธรรมดาแล้วถือว่าสูงกว่ากันพอควร

ตัวอย่างเช่นในประเทศเยอรมันนั้นมือถือแบบธรรมดาทั่วไปกว่า 79% จะมีราคาต่ำกว่า €60 หรือประมาณ 2,340 บาท ส่วนสมาร์ทโฟนนั้นจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ €276 หรือประมาณ 10,770 บาท ซึ่งทำให้ในเยอรมันนั้นมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ยอมเปลี่ยนจากการใช้มือถือแบบธรรมดาแค่ประมาณ 19% เท่านั้นครับ(นี่คือตัวเลขที่ยังไม่รวมค่าใช้บริการรายเดือนที่มากขึ้นตามไปด้วยเพราะมีการใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายมาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ)

Top 3 smartphone Brands(Feb 2016) 600

จริงๆ แล้วนั้นยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างเลยทีเดียวครับจากงานวิจัยของทาง Milanesi ที่นำเสนอออกมาผ่านทาง Kantar Worldpanel ComTech อย่างไรก็ตามแต่แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือในตลาดสมาร์ทโฟนที่อิ่มตัวแล้วอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ 5 ประเทศใหญ่ๆ ใน EU รวมไปถึงในเมืองใหญ่ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนมักจะมองสมาร์ทโฟนในระดับสูงกันทั้งนั้นซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อในกลุ่มดังกล่าวนี้จะมีกำลังซื้อมากกว่า $500 หรือประมาณ 18,000 บาทขึ้นไป

ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสมาร์ทโฟนราคาสูงกว่า $500 ถูกซื้อจากผู้บริโภคมากกว่า 48% คิดเป็นอัตราการเติบโตจากปี 2014 มาปี 2015 ที่ 9% ส่วน 5 ประเทศใหญ่ใน EU นั้นมีอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟนราคาสูงมากจากปี 2014 มาปี 2015 อยู่ที่ 6% คิดเป็นยอดขายของสมาร์ทโฟนระดับสูง(ที่ราคาเมื่อเทียบแล้วมากกว่า $500) อยู่ที่ 27% เท่านั้น

Milanesi บอกว่าในปี 2016 นั้นสถานการณ์การจำหน่ายของสมาร์ทโฟนจะแย่ลงไปจากเดิมอีกพอสมควรแถมสมาร์ทโฟนที่จะยังครองตำแหน่งอันดับที่ 1 และ 2 ได้ในตลาดนั้นก็จะยังคงเป็น Apple และ Samsung โดยอาจจะมีในบางตลาดบ้างที่ผู้ผลิตรายอื่นแทรกเข้ามาอย่างเช่นในตลาดสหรัฐอเมริกานั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่กว่า 40% จะเลือกสมาร์ทโฟนของ Apple และ 35% จะเลือกสมาร์ทโฟนของทาง Samsung โดยส่วนต่างนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5% แต่ถ้าไปดูที่สมาร์ทโฟนอันดับที่ 3 และ 4 ที่ผู้ใช้ต้องการอย่าง Motorola และ LG นั้นจะอยู่ที่ 6% และ 5% ตามลำดับเท่านั้นซึ่งถือว่าต่ำมากครับ(ตามตารางทางด้านบน)

ทั้งนี้สรุปโดยรวมแล้วตลาดสมาร์ทโฟนนั้นคงจะไม่ทได้พบเจอกับยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นอย่างมากไปอีกนานต่อเนื่องกันหลายปี(เหมือนกับที่เคยผ่านมาในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้) ทว่าตลาดสมาร์ทโฟนนั้นก็จะยังคงสามารถที่จะทำการขายได้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลกว่าที่เราคาดไว้เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ออกมาและมีแรงจูงใจมากพอให้เราๆ ท่านๆ ต้องการมันได้หล่ะครับ

ที่มา : kantarworldpanel

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

ข่าวลือเกี่ยวกับดีไซน์ของ iPhone 18 Pro ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญที่บ่งชี้ว่า Apple อาจเดินหน้าอัปเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่จริง โดยมีรายงานใหม่จากแหล่งข่าวในจีนที่เชื่อถือได้ ระบุว่า Apple กำลังทดสอบต้นแบบที่ซ่อนเซ็นเซอร์บางส่วนของ Face ID ไว้ ใต้แผง AMOLED ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์ iPhone ดีไซน์ใหม่ของ iPhone 18 Pro อาจเล็กลงกว่าเดิมด้วยการย้ายเซ็นเซอร์...

IT NEWS

รายงานใหม่จาก Bloomberg สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการเทคโนโลยี เมื่อแหล่งข่าวระบุว่า Johny Srouji ผู้บริหารระดับสูงที่กุมทิศทางการพัฒนา Apple Silicon มาเกือบหนึ่งทศวรรษ อาจกำลังพิจารณาอำลาบริษัท แม้ว่าข่าวยังไม่ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Apple แต่เพียงแค่กระแสข่าวก็เพียงพอให้เกิดความกังวล เนื่องจาก Srouji เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของบริษัท และเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมทุกทีมด้านฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกัน Apple ประสบความสำเร็จในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเพราะความสามารถในการควบคุมเทคโนโลยีชิปตั้งแต่การออกแบบ สถาปัตยกรรม การผลิต ไปจนถึงการจัดการ supply...

IT NEWS

ก้าวใหม่ของอุตสาหกรรมหน่วยความจำจาก Samsung Samsung เดินหน้าแสดงศักยภาพด้านหน่วยความจำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี NAND รุ่นใหม่ที่สามารถลดการใช้พลังงานลงได้มากถึง 96% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับอุปกรณ์ที่ทำงานตลอดเวลาอย่างหน่วยความจำแฟลช เทคโนโลยีนี้ถือเป็นคำตอบต่อความต้องการของยุค AI ซึ่งสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป และศูนย์ข้อมูลต้องการหน่วยความจำที่เร็วขึ้น ปริมาณมากขึ้น แต่กลับมีข้อจำกัดด้านพลังงานมากขึ้นเช่นกันผลการวิจัยครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารระดับโลก Nature โดยทีมวิจัยกว่า 34 คน ยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสำหรับการใช้งานจริงในอนาคตอันใกล้Advertisement หัวใจของ NAND รุ่นใหม่:...

IT NEWS

ทำไม iOS 27 จึงเป็นอัปเดตที่ “แปลก” แต่สำคัญที่สุดในหลายปี รายงานล่าสุดจาก Mark Gurman (Bloomberg) ชี้ว่า Apple เตรียมเดินหน้ากับแนวทางใหม่ใน iOS 27 ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่มักอัปเดตด้วยฟีเจอร์ใหม่แบบ “หวือหวา” ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรีดีไซน์ UI, ฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้อง, หรือฟีเจอร์ AI...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก