ถึงปี 2015 จะล่วงเลยไปแล้วกว่า 3 เดือนแต่เชื่อว่าในปีที่ผ่านมาก็มีเกมหลายเกมได้สร้างปรากฏการณ์และยังเป็นที่น่าจดจำมาจนถึงทุกวันนี้แน่นอนและเพื่อเป็นการย้อนรำลึกเกมเหล่านั้นทางเว็บไซต์ Gamespot จึงได้รวบรวมเกมที่จัดว่าโด่งดังที่สุดยอดเยี่ยมที่สุดจากทั่วทุกแพลตฟอร์มมาให้ชมกันถึง 25 เกมกันครับและไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลย
25.Assassin’s Creed: Syndicate
เริ่มต้นกันด้วยเกมนักฆ่าฟอร์มยักษ์จาก Ubisoft ที่ในภาคนี้ได้ให้ผู้เล่นผจญภัยกันในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษซึ่งภาต Syndicate ถือว่าเปลี่ยนโฉมเกมนักฆ่าลอบเร้นไปสมควรโดยระบบการต่อสู้จะเน้นการบู๊แบบซึ่ง ๆ หน้าหรือดุเดือดมากขึ้นหรือจะเป็นระบบ Gangster ที่ต้องขยายอิทธิพลของตนเองเพื่อประโยชน์ในด้านข่าวสารหรือกำลังเสริม นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสลับตัวละครอีกตัวที่เป็นนักฆ่าสาวสวยได้อีกด้วยครับ
24.Evolve
เกม FPS ระดับ AAA จากทีมผู้สร้าง Left 4 Dead เกมนี้ก็สร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้เล่นมากเลยทีเดียวแม้ว่าระบบส่วนใหญ่จะเหมือนกับ Left 4 Dead ก็ตามแต่โทนเรื่องที่ค่อนข้างไซไฟยิงสัตว์ประหลาดก็สร้างความระทึกตื่นเต้นได้ดีหรือจะเป็นระบบคลาสอาชีพที่หลากหลายและจุดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นระบบ Multiplayer แบบ 4 vs 1 ที่ให้ผู้เล่นหนึ่งคนเป็นเอเลี่ยนสุดโหดไล่ฆ่าผู้เล่นอีกฝั่ง 4 คนก็เป็นอะไรที่ท้าทายมาก ๆ ครับ
23.Halo 5: Guardians
ใน Halo 5: Guardians ก็ต้องเป็นหนึ่งในเกมชูตติ้งยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยด้วยระบบการเล่นที่เร้าใจด้วยโหมด War Zone ที่รองรับผู้เล่นถึง 24 คนตอบสนองความมันส์แก่ผู้เล่นได้เต็มเปี่ยมและยังคงความคลาสสิกของเกม ขณะเดียวกันเนื้อเรื่องในภาคนี้ก็อัดแน่นความเข้มข้นของ Chief ปะทะ Locke ก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นเอามาก ๆ ครับ
22.Heroes of the Storm
เกมแนว MOBA จากค่ายพายุน้ำแข็งที่สร้างความแตกต่างจากเกม MOBA ทั่วไปด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนตัวฮีโร่ที่มีความสมดุลเท่าเทียมกันในทุกช่วงเวลาจึงเรียกได้ว่าต่อให้เป็นสาย Support ก็เก่งได้เมื่อตอนเลทเกม อีกทั้งระบบเกมก็เน้นการปะทะมากขึ้นเพราะไม่มีระบบซื้อไอเท็มให้วุ่นวายและแผนที่แต่ละแบบก็มีภารกิจย่อยให้ทำอีกต่างหากครบเครื่องจริง ๆ
21.Project CARS
เกมแข่งรถก็ติดโผกับเขาด้วยเหมือนกันกับ Project CARS ที่เมื่อวางจำหน่ายออกมาก็เป็นที่สมคำร่ำลือในเรื่องกราฟิกระบบการเล่นที่ละเอียดหรือระบบฟิสิกส์ภายในเกมอันสมจริง นอกจากนี้บรรดารถแข่งที่มีให้ก็จัดเต็มทุกรุ่นทุกยี่ห้อจึงบอกได้ว่า Project CARS เป็นเกมที่คอเกมนักซิ่งตัวจริงต้องซื้อมาเล่นด้วยประการทั้งปวง
20.SOMA
เกมสยองขวัญสั่นประสาทที่จะพาผู้เล่นเข้าสู่ความมืดใต้ท้องทะเลซึ่งผู้เล่นจะรับบทเป็นนักวิจัยบนสถานีใต้น้ำเพียงคนเดียวแต่แล้วเขาก็รู้สึกว่าไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่อยู่ในสถานีอันลึกลับนี้ ตัวเกมมีจุดเด่นที่ไม่มีระบบการต่อสู้แต่จะเน้นการเอาชีวิตรอดด้วยสิ่งของรอบตัวและการลอบเร้นหลบหนีจากสิ่งลึกลับใต้ทะเล
19.Undertale
เกมฟอร์มเล็กที่มีกราฟิกไม่ค่อยสวยงามนักแต่การที่มันติดอันดับ 19 ก็ไม่ธรรมดาตรงที่ระบบการเล่นที่แน่น , บทสนทนาของตัวละครในเกมที่มีความสัมพันธ์กันจึงบอกได้ว่าการพูดคุยกับ NPC ในเกมจะส่งผลต่ออนาคตข้างหน้าด้วยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบแก่เกมเมอร์ที่โปรดปรานการอ่านบทสนทนาสนุกตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน
18.Her Story
อีกเกมที่เป็นเกมเล็ก ๆ แต่การดำเนินเรื่องจัดว่าเจ๋งมากเพราะเราจะต้องสืบสวนสอบสวนผู้หญิงคนหนึ่งด้วยหลักฐานที่มีตั้งแต่รูปภาพ , คลิปเสียง เท่านั้นยังไม่พอผู้เล่นจะต้องสังเกตุท่าทางของเธอด้วยว่ามีพิรุธหรือไม่และในบางครั้งก็ต้องจำบทสนทนาด้วยว่าเธอโกหกอะไรไปหรือเปล่าและด้วยระบบเกมเช่นนี้จึงทำให้ Her Story ติดอันดับ 18 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
17.Tom Clancy’s Rainbow Six: Siege
ถึงจะเป็นเกมที่วางจำหน่ายปลายปีแต่ความแรงของมันก็กระโดดมาที่อันดับ 16 เลยกับระบบการเล่นที่เน้น Teamwork เป็นหลักกราฟิกที่สวยงามระบบฟิสิกส์ที่สมจริงอีกทั้งการที่สิ่งกำบังในเกมสามารถถูกทำลายได้ก็เป็นการฉีกกรอบความคิดสร้างสรรค์ในการวางแผนอีกด้วยว่าควรจะบุกตรงจุดไหนหรือจะป้องกันตรงไหนบ้างหรือระบบคลาสที่เลือกซ้ำกันไม่ได้ดังนั้นจึงต้องวางแผนกับเพื่อนร่วมทีมให้ดีว่าจะทำหน้าที่อะไร นอกจากนี้ตัวเกมก็มีหน่วยรบพิเศษขึ้นชื่อจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกเล่นจึงทำให้คอเกมแนวทหารได้ฟินสุด ๆ และเล่นกันจนลืมเวลาหลับนอนกันเลยทีเดียว
16.Just Cause 3
สานต่อภาคที่ 3 กับ Just Cause 3 ที่ยังหนักแน่นกับคอนเซ็ปต์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมเช่นเดิมแถมด้วยชุด Wingsuit เหิรเวหาสุดเท่และปืน Grapple Gun ที่ยึดเกาะได้ทุกสิ่งก็ยังมอบความมันส์ระห่ำแก่ผู้เล่นได้เหมือนเคย ตัวเกมที่ปิดกว้างก็ทำให้ผู้เล่นสามารถเถลไถลนอกทางได้อีกด้ววยจึงทำให้เกมนี้สร้างความเอ็นเตอร์เทนแก่ผู้เล่นได้ดีมาก ๆ
15.Xenoblade Chronicles X
ข้ามายังเกมไซไฟกันบ้างที่เปิดให้ผู้เล่นท่องดวงดาวนามว่า Mira ที่มีจุดเด่นคือความกว้างใหญ่ไพศาลของเกมที่ว่ากันว่าต้องใช้เวลาร่วม 100 ชั่วโมงเลยทีเดียวที่จะสำรวจพื้นที่ดาวดวงนี้ให้หมด นอกจากนี้ด้านระบบการต่อสู้หรือการสำรวจพื้นที่ก็โดดเด่นพอกันและเกมนี้น่าจะเป็นสวรรค์ของเกมเมอร์ที่ชอบสำรวจโลกเลยล่ะครับ
14.Dying Light
มาถึงเกมซอมบี้เอาชีวิตรอดกับจุดเด่นสุดแหวกแนวเพราะได้นำทักษะศิลปะการวิ่งปากัวร์เข้ามาผสมผสานด้วยจึงทำให้เกมนี้ผู้เล่นจะปืนป่ายตะกายตึกหนีซอมบี้กันพร้อมกับระบบกลางวัน/กลางคืนที่เหล่าซอมบี้จะมีความเร็วดุร้ายมากขึ้น นอกจากนี้อาวุธที่มีให้ก็จัดว่าเยอะแยะแต่ละอย่างมอบความมันส์ผสมฮาร์ดคอร์ได้อย่างดีส่วนระบบมัลติเพลย์เยอร์นั้นผู้เล่นสามารถเลือกเป็นฝั่งซอมบี้ได้อีกด้วยครับ
13.Cities: Skylines
เกมสร้างเมืองที่ชวนให้คิดถึงเกมตระกูล Sim City แต่ใน Cities: Skylines จะเปิดให้ผู้เล่นสร้างเมืองได้อิสระด้วยขนาดพื้นที่อันกว้างใหญ่มีระบบของเกมแน่นปึ๊กเกี่ยวกับการสร้างเมืองเพิ่มผลผลิตประชากร การคมนาคมขนส่ง การงานอาชีพ ทุกอย่าง Cities: Skylines สามารถตอบสนองให้ได้ทั้งหมดและกราฟิกในเกมนี้ก็เข้าขั้นสวยงามมากทีเดียวจึงทำให้เกมสร้างเมืองเกมนี้รั้งอันดับ 13 ไปครอง
12.Splatoon
เกมแนวชู้ตติ้งจากค่าย Nintendo ที่จะเปลี่ยนโฉมแนวเกมประเภทนี้ให้ดูสดใสไร้ความรุนแรงเพราะกระสุนในเกมนี้จะเป็นน้ำหมึกแทนและจุดมุ่งหมายของเกมนี้คือการพ่นสีลงในแผนที่ให้มากที่สุดเพื่อเป็นการทำแต้มทำคะแนนดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเกมที่ไม่มีความกดดันมากนักเหมาะสำหรับมือใหม่มีวิธีการเล่นที่เข้าใจง่ายแถมสีสันภายในเกมนี้ก็จัดว่าคลเลอร์ฟูลกันสุด ๆ ด้วยรูปแบบเกมที่เป็นมิตรนี้ก็ทำให้ Splatoon คว้ารางวัลเกมในงาน Game of the Year 2015 มาแล้วด้วยครับ
11.Until Dawn
สุดยอดเกมสยองขวัญแห่งปี 2015 ที่มีการดำเนินเรื่องสุดระทึกใจเหมือนกำลังชมภาพยนตร์สยองขวัญอยู่ก็มิปานมีจุดเด่นที่การเดินเรื่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ได้ตลอดเวลากล่าวคือถ้าหากตัวละครทำสิ่งใดมันก็จะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องในอนาคตรวมไปถึงตอนจบอีกด้วยและนั่นก็หมายความว่า Until Dawn จะมีตอนจบหลายแบบนั่นเองและบรรยากาศในเกมนี้บอกเลยว่าโคตรหลอน!
10.Kerbal Space Program
ในบรรดาเกมแนวสร้างยานอวกาศท่องดวงดาวต่าง ๆ เชื่อว่าจะต้องมีชื่อ Kerbal Space Program อยู่แน่ ๆ กับเกมซิมูเลชั่นสร้างยานอวกาศที่มีจุดเด่นที่ความสมจริงมากเพราะผู้เล่นจะต้องคำนึงถึงน้ำหนักของวัสดุที่ใช้สร้างหรือปริมาณเชื้อเพลิงที่ต้องสัมพันธ์กับน้ำหนักและแรงโน้มถ่วงของโลกอีกด้วยและถ้าหากเล่นเกมนี้ก็จะเข้าใจความรู้สึกของเหล่าวิศวกรได้เลยว่าการสร้างยานอวกาศมันยากกว่าที่คิดและเกมนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบแก่เกมเมอร์ที่ชอบความท้าทายอีกต่างหาก
9.Tales from the Borderlands: A Telltale Games Series
เข้าสู่อันดับเกมเลขหลักเดียวแล้วโดยอันดับที่ 9 ก็ได้แก่เกม Tales from the Borderlands ซึ่งในภาคนี้จะให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละครถึงสองตัวด้วยกันซึ่งจะมีลักษณะความสามารถที่ต่างออกไปพร้อมกับแนวเกมที่เป็นประเภท Point and Click ก็ทำให้ผู้เล่นสนุกสนานไปกับมันมากพร้อมกับบทสนทนาการดำเนินเรื่องหรือเนื้อเรื่องของภาคนี้ก็จัดว่าดีเยี่ยมเช่นกันจึงไม่แปลกที่อันดับ 9 จะเป็นของ Tales from the Borderlands: A Telltale Games Series
8.Rise of the Tomb Raider
ภาคต่อของสุดยอดเกมผจญภัยล่าสมบัติที่มีการพัฒนาจากภาครีบูทมากขึ้นเราจะได้เห็น Lara Croft บุกตะลุยไปยังสถานที่สุดโหดอย่างไซบีเรียที่เต็มไปด้วยพายุหิมะหรือเผชิญหน้ากับสัตว์อันดุร้ายนอกจากนี้ผู้พัฒนาก็ได้ใส่ฟีเจอร์เกี่ยวกับการหาสมบัติมีปริศนาแก้ไขมากขึ้นจนเหมือนกับว่า Rise of the Tomb Raider เป็นการคืนสู่รากเหง้าของ Tomb Raider อย่างแท้จริง ส่วนระบบเกมเพลย์ก็อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นเดินหลบกับดักสิ่งกีดขวางรวมไปถึงการอัพเกรดอาวุธที่ดีขึ้นกว่าเดิม
7.Ori and the Blind Forest
มาถึงเกมนี้ก็คงต้องบอกว่าสุดยอดในส่วนของเนื้อเรื่องสุดซึ้งความรักของคนเป็นแม่และกราฟิกในเกมที่สวยงามราวกับเทพนิยายถึงแม้ว่าตัวเกมจะมีรูปแบบการเล่นเดินข้างคล้ายคลึงกับ Mario แต่ก็มีปริศนาให้ขบคิดแก้ไขตลอดเวลานับว่าเป็นเกมที่ขายไอเดียล้วน ๆ และได้รับความนิยมอย่างมากและเกมนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะได้เคยคว้ารางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยมในงาน The Game Awards 2015 มาแล้วด้วยครับ
6.Fallout 4
เกมยอดเยี่ยมในปี 2015 ถ้าไม่มี Fallout 4 มันก็กระไรอยู่และการกลับมาครั้งนี้ก็ได้สร้างความนิยมยอดฮิตกันอย่างมากด้วยระบบการเล่นอันคุ้นเคยแต่มีการปรับปรุงให้มันส์เร้าใจมากขึ้นหรือจะเป็นระบบใหม่อย่างการสร้างค่ายพักก็เป็นอะไรสร้างสรรค์มีลูกเล่นให้ทำเยอะมากหรือจะเป็นเนื้อเรื่องในภาคนี้ก็จะอยู่ที่บอสตันกับโลกหลังเหตุการณ์นิวเคลียร์ที่คงบรรยากาศสุดสยองเพราะผู้เล่นจะได้เจอกับเหล่าสัตว์ประหลาดหรือพวกกลายพันธ์ที่พร้อมจะปลิดชีพผู้เล่นได้ทันทีและการที่ Fallout 4 ได้รับความนิยมขนาดนี้ก็เพราะมีการสนับสนุน Mod เสริมอีกด้วยจึงทำให้ตัวเกมมีสีสันมากขึ้นกลับมาเล่นกี่รอบก็ไม่เบื่อ
5.Super Mario Maker
สำหรับ Super Mario Maker ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเป็นนักสร้างด่าน Mario โดยจะมีเครื่องมือสร้างเกมอันครบครันจะใส่อุปสรรคหรือทางเดินมากแค่ไหนก็ได้ตามใจผู้เล่นซึ่งถ้าหากสร้างเสร็จก็สามารถเล่นเพื่อทดสอบเองหรือจะแชร์ให้เพื่อนเล่นด้วยก็ได้และเกมนี้ก็เป็นการวัดความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นแต่ละด้วยครับว่าด่านที่สร้างออกมาจะบรรเจิดมากแค่ไหน
4.Bloodborne
สุดยอดเกม RPG สุด Exclusive ในเครื่อง PS4 และจากผู้สร้าง Dark Souls ที่มีโทนเกมอันมืดหม่นโดยผู้เล่นจะมีหน้าที่เดินทางตามหาเบาะแสการเกิดโรคร้ายที่คร่าชีวิตชาวเมืองไปมากมายและนั่นก็ทำให้ผู้เล่นพบเจอกับภยันตรายเกินคาดเดา Bloodborne จะมีจุดเด่นที่การฟื้นฟูพลังชีวิตจะทำได้ด้วยการฆ่าศัตรูโดยให้เลือกกระเซ็นมาโดนตัวเราหรือระบบอาวุธในเกมที่อาวุธหนึ่งชิ้นสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 แบบและตัวเกมมีระบบท่าไม้ตายการโจมตีสวนกลับที่รุนแรงเลือดสาดสะใจชาวฮาร์ดคอร์เป็นอย่างยิ่ง
3.Metal Gear Solid V: The Phantom Pain
เกมปิดตำนาน MGS และเกมสุดท้ายจากคุณ Hideo Kojima ที่ทิ้งทวนได้อย่างสมบูรณ์แบบกับเนื้อเรื่องของลุง Snake ที่เดินทางมาถึงตอนจบสุดท้าย ตัวเกมเพลย์มีการปรับปรุงให้สนุกมันส์มากขึ้น มีระบบมากมายที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น ฐานแม่ , น้องหมา D-Dog , ตัวละคร Quint คู่หูสุดเซ็กซี่ , เนื้อเรื่องอันเข้มข้น , อาวุธยุทโธปกรณ์ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Metal Gear Solid V: The Phantom Pain เป็นเกมปิดตำนานอย่างสมบูรณ์แบบครับ
2.Rocket League
ถึงจะเป็นเกมเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนูจริง ๆ ครับกับ Rocket League เกมกีฬาสุดแหวกแนวเมื่อผู้เล่นจะต้องเลี้ยงลูกฟุตบอลด้วยรถยนต์วิทยุบังคับ ตัวเกมก็จะมีจุดเด่นที่ลูกเล่นของรถยนต์ที่มีให้ปรับแต่งทางด้านความเร็ว , ความอึด , อาวุธ เพราะนอกจากจะต้องพาลูกบอลเข้าไปยังประตูฝ่ายตรงข้ามแล้วผู้เล่นยังสามารถใช้อาวุธทำลายคู่ต่อสู้ที่มาขัดขวางได้และการที่เกมนี้รองรับผู้เล่นได้หลายคนเหมือนกับทีมฟุตบอลก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจเล่นกี่รอบก็ไม่เบื่อ
1.The Witcher 3: Wild Hunt
สำหรับอันดับที่หนึ่งก็ต้องยกให้ The Witcher 3: Wild Hunt ไปครับเพราะเกมนี้เป็นเกม RPG ที่มีระบบการเล่นอันสมบูรณ์แบบตัวเกมเปิดกว้างแบบ Open World ให้ผู้เล่นได้อกเดินทางสำรวจพื้นที่สุดแสนตระการตา มีระบบเควสหลักเควสรองที่ไม่ซ้ำซากหรือไร้ประโยชน์หรือระบบการต่อสู้ในมุมมองบุคคลที่สามที่ทำได้สนุกไม่น่าเบื่อ ส่วนกราฟิกในเกมก็อยู่ในขั้นเพอร์เฟคเก็บทุกรายละเอียดตั้งแต่โมเดลตัวละครไปจนถึงสภาพพื้นที่ในเกม ทั้งนี้ในด้านเนื้อเรื่องก็เข้มข้นชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นยันจบและใครที่เล่นเกมนี้จะต้องหลงเสน่ห์ของพ่อหนุ่ม Geralt เป็นแน่และเพื่อการันตีความยอดเยี่ยมของเกมนี้ The Witcher 3: Wild Hunt ได้คว้ารางวัลเกมแห่งปีในงาน Game of the Year 2015 อีกด้วยเรียกว่าควรค่าด้วยประการทั้งปวงเลยล่ะครับ
ที่มา: Gamespot