ใครว่าฮีโร่สาย Int มีหน้าที่คอยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมเท่านั้นซึ่งในเหล่าฮีโร่สาย Int มากมายนั้นก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่สามารถแปลงโฉมเป็นได้ทั้งฮีโร่ Support และ Carry ได้ซึ่งฮีโร่ที่จะมานำเสนอในครั้งนี้ก็ได้แก่ Windranger นักธนูสาวสวยสุดพริ้วนั่นเองครับ
สำหรับฮีโร่ตัวนี้ก็จะเป็นฮีโร่สาย Int มีการโจมตีระยะไกล ส่วนข้อดีและมีสกิลความสามารถพื้นฐานก็จะมีดังต่อไปนี้ครับ
- Shackleshot (Active Skill) – ทำการสตันศัตรูเป็นเวลา 0.75 วินาทีและถ้าหากมีต้นไม้หรือยูนิตด้านหลังจะเพิ่มระยะเวลาสตันอีก 1.5 / 2.25 / 3 / 3.75 วินาทีซึ่งถ้าหากด้านหลังเป็นครีปหรือฮีโร่ก็จะติดสตันไปด้วย
- Powershot (Active Skill) – ชาร์จธนูเป็นเวลา 1 วินาทียิงออกไปเป็นเส้นตรงเป็นระยะทาง 2600 ความเสียหาย 120 / 200 / 280 / 360 สามารถยิงทะลุต้นไม้ได้และความเสียหายจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อยิงไปโดนต้นไม้หรือครีป
- Windrun (Active Skill) – ทำให้หลบการโจมตีแบบกายภาพ 100% เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 50% และลดความเร็วศัตรูเป็นระยะเวลา 3 / 4 / 5 / 6 วินาที
- Focus Fire (Active Skill) – เร่งความเร็วการโจมตีสูงสุดเป็นระยะเวลา 20 วินาทีแต่ความเสียหายจะลดลง 50% / 40% / 30% สามารถอัพเกรดด้วยไอเท็ม Aghanim’s Scepter ได้
ส่วนข้อดีของฮีโร่ตัวนี้คือเป็นฮีโร่ที่มีสกิล Disable , Nuke ถึง 2 สกิลมีสกิลหลบหนีอย่าง Windrun และสกิลไม้ตาย Focus Fire ที่สามารถกำจัดศัตรูหรือโจมตีป้อมได้รวดเร็วเรียกว่าเป็นฮีโร่ที่ครบเครื่องทุกอย่างเก่งได้ด้วยตนเองอีกทั้ง Windranger เป็นฮีโร่ที่ไม่จำเป็นต้องฟาร์มป่ามากมายแถมยังสามารถ Gank ศัตรูได้ต้นแต่ต้นเกมและเมื่อถึงช่วงเลทเกมสกิลความสามารถของมันก็ยังมีประโยชน์ใช้พลิกเกมได้ด้วยครับ
เมื่อเรารู้จักข้อมูลเบื้องต้นแล้วเรามาดูแต่ละช่วงเวลาของเกมกันว่าเวลาไหนควรอัพสกิลไหนก่อนและออกไอเท็มอะไรบ้างซึ่งในที่นี้จะขอแบ่งสายเป็น Support และ Carry ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเล่นกันนะครับ
Early Game
Support: ในสายสนับสนุนควรอยู่ Safe Lane เพื่อช่วยเลี้ยงตัว Carry ของเราซึ่งหน้าที่หลัก ๆ คือการ Deny ครีป , ตัดครีปป่า , บล็อคครีปและใช้สกิล Powershot กดดันศัตรูซึ่งสกิลที่ควรจะอัพตอนต้นเกมคือ Powershot และ Shakleshot ให้เต็มก่อนหรืออาจจะแบ่งไปอัพ Windrun สัก 1 เลเวลก็ได้ครับเอาไว้ใช้หลบหนีและเลเวล 6 ก็ให้อัพ Focus Fire ส่วนในกรณีอยากจะ Gank ฮีโร่เลนกลางหรือใน Safe Lane นั้นก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงใช้ Shakleshot ใส่ศัตรูโดยต้องให้ศัตรูอยู่ใกล้ต้นไม้หรือเราจะวิ่งทำมุมประมาณ 45-60 องศาก็จะเพิ่มโอกาสติดได้เยอะขึ้นจากนั้นก็ยิงตอดไปเรื่อย ๆ โดยให้เพื่อน Carry ของเราเป็นคน Last Shot ครับ
ไอเท็มที่ควรออก: Tango , Observer Ward , Clarity , Iron Branch
Carry: ถ้าเราเป็นฮีโร่ Carry สิ่งที่ทำให้เลเวลขึ้นไวที่สุดคือการอยู่เลนกลางและต้อง Last Shot ครีปให้ได้ทุกตัวแต่อาจจะไม่ต้องกดดันฮีโณ่ศัตรูมากนักเพราะช่วงนี้สิ่งที่เราโฟกัสอย่างเดียวก็คือค่า Gold และการวิ่งตัด Rune โดยสกิลที่อัพในช่วงนี้ก็จะคล้ายกับสาย Support แต่ให้อัพ Shakleshot นำหน้าแทน Powershot นอกนั้นก็เหมือนกันครับ นอกจากนี้ Windranger สามารถ Last Shot ครีป 2-3 ตัวพร้อมกันได้ด้วยการโจมตีครีปแนวหน้า 2 ตัวให้เลือดต่ำกว่าครึ่งจากนั้นก็ใช้ Powershot จัดการโดยต้องเล็งไปให้โดนครีปตัวด้านหลังด้วยครับ
ไอเท็มที่ควรออก: Null Talisman , Tango หรือ Iron Branch , Bottle
Mid Game
Support: พอถึงช่วงกลางเกมเราควรจะออกไปตระเวณ Gank กับเพื่อนให้บ่อยขึ้นเพื่อเอาค่า Xp กับ Gold ด้วยสกิล Shakleshot กับ Powershot ที่ควรจะอัพเต็มแล้ว นอกจากนี้ในช่วง Mid Game จะมีการดันป้อมหรือป้องกันป้อมซึ่งการใช้ Powershot ยิงเปิดจะได้ผลดีมากเพราะความสามารถของมันจะช่วยเปิดแผนที่ไปด้วยและจะมีประโยชน์มากเวลาดันป้อมแล้วอยากรู้ตำแหน่งศัตรูก็ให้ยิงสกิลนี้เปิดแผนที่นำหน้าก่อนได้เลยแถมยังมีระยะยิงที่ไกลอีกด้วย ส่วนสกิลที่ต้องอัพก็คือ Windrun และค่าสเตตัส
ไอเท็มที่ควรออก: Phase Boot , Force Staff , Ghost Scepter , Eul’s Scepter of Divinity
Carry: สำหรับ Carry ในช่วงนี้เราสามารถเข้าป่าฟาร์มก็ได้ครับแต่ถ้าหากมีการปะทะก็ขอให้ไปร่วมวงกับเพื่อนทุกครั้งเพราะสกิลของเราในช่วงนี้จะมีประโยชน์มากที่สุด วิธีการเข้าโจมตีคือใช้ Shakleshot เปิดแล้วตามด้วย Focus Fire ถึงแม้ว่าความเสียหายจาก Focus Fire จะลดลงไปแต่ก็ทดแทนด้วยความเร็วสูงโดยต้องจัดการพวกสาย Int เป็นอันดับแรกจากนั้นค่อยไปจัดการกับพวก Carry ศัตรูและในช่วงนี้การใช้สกิล Windrun จะมีประโยชน์มากเวลาเจอฮีโร่ที่โจมตีกายภาพเพราะมันสามารถหลบการโจมตีได้ 100% เอาไว้ยิงแลกก็ได้หรือจะใช้หรือเพื่อตั้งหลักก็ดีฉะนั้นในช่วง Mid Game ควรอัพ Windrun ให้เต็ม
ยังมีอีกวิธีสำหรับการเข้าโจมตีแบบสายฟ้าแลบที่เราสามารถฆ่าได้โดยไม่ต้องง้อเพื่อนก็คือการใช้ Blink Dagger เข้าไปหาศัตรูแล้วใช้ Shakleshot โดยให้ผูกติดกับต้นไม้และใช้ Focus Fire ยิงถล่มได้เลยซึ่งระยะเวลาสตันของสกิลนี้จะนานมากถึง 3.75 วินาทีเลยทีเดียว
ไอเท็มที่ควรออก: Power Treads หรือ Phase Boot , Monkey King Bar , Maelstorm , Blink Dagger
Late Game
Support: ถ้าหากเกมยืดเย้อมาถึงช่วงเลทเกมสิ่งที่เราพอจะทำได้คือการใช้ Shakleshot สตันศัตรูและใช้ไอเท็มช่วยเหลืออย่าง Force Staff หรือ Eul’s Scepter of Divinity หรือจะใช้ Powershot ยิงสนับสนุนจากระยะไกลก็ได้ครับ นอกจากนี้ไอเท็มที่ควรจะออกเพิ่มควรเป็นไอเท็มเกี่ยวการหยุดศัตรูหรือปกป้องเพื่อนร่วมทีมเป็นหลักครับ
ไอเท็มที่ควรออก: Scythe of Vyse , Shiva’s Guard , Orchid Malevolence
Carry: ในช่วงนี้เรามีหน้าที่สังหารศัตรูให้มากที่สุดจะ Gank ก็ได้หรือ All พร้อมเพื่อนก็ดีโดยไอเท็มที่ต้องมีคือไอเท็มเพิ่มความเสียหายสูงบวกกับไอเท็มยับยั้งศัตรูติดตัวไว้ด้วยโดยไม่จำเป็นต้องออกไอเท็มเพิ่มความเร็วเพราะ Focus Fire จะดึงความเร็วสูงสุดและมีคูลดาวน์ที่น้อยอีกด้วย
ไอเท็มที่ควรออก: Scythe of Vyse , Desolator , Daedalus , Aghanim’s Scepter
ข้อควรระวัง
แม้ว่าจะเป็นฮีโร่ที่ค่อนข้างครบเครื่องแต่ถ้าหากเล่นไม่ดีหรือไม่ชำนาญมันก็จะกลายเป็นฮีโร่ที่ไปไม่สุดสักทางอีกทั้งพื้นฐานของ Windranger ก็ไม่ใช่ Carry โดยธรรมชาติซึ่งถ้าหากในทีมมี Carry โดยกำเนิดอยู่แล้วเราควรจะเล่นในบทบาท Support หรือ Semi-Carry จะดีกว่าและสกิล Windrun ที่สามารถหลบการโจมตีได้นั้นมันไม่สามารถหลบการโจมตีเวทย์มนต์ได้ฉะนั้น Windranger มักจะแพ้ทางฮีโร่ที่ใช้สกิลหนัก ๆ เยอะ ๆ และถ้าโดนเปิดก่อนโอกาสรอดจะค่อนข้างยากทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีวิธีการแก้ทางด้วยการออก Linken Sphere หรือ Black King Bar เพื่อป้องกันเวทย์มนต์ได้ครับและข้อเสียอีกอย่างคือถ้าหากเล่นเป็นสาย Carry จำเป็นต้องพึ่งพาไอเท็มพอสมควรครับเพราะพลังโจมตีพื้นฐานค่อนข้างต่ำครับ
ศึกษาจาก Pro Player
นี่ก็เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยได้มากทีเดียวซึ่งผู้เล่น Windranger ที่น่าสนใจก็มี SumaiL จากทีม EG หรือ Dendi จาก Na’Vi ครับ
อย่างไรก็ตามการออกไอเท็มที่ว่ามาสามารถเปลี่ยนแปลงและพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์นะครับไม่จำเป็นต้องออกไอเท็มแบบนี้ตายตัวและจะรู้ว่าสาย Int ก็ฆ่าคนเป็นเหมือนกัน