ในบรรดาฮีโร่สาย Str นั้น Wraith King เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่มีระดับการเล่นที่ค่อนข้างง่ายทีเดียวและถ้าหากเล่นให้ดีแล้วมันก็มีโหดมากเช่นกันเพราะตัวในเองที่นอกจากเป็นฮีโร่สาย Tanker แล้วมันยังสามารถกลายร่างเป็นฮีโร่สาย Carry ได้อีกด้วยและในวันนี้เราก็จะมานำเสนอเทคนิควิธีการเล่นของฮีโร่ตัวนี้กันว่ามันเล่นกันอย่างไร
ก่อนอื่นใดเรามาทำความรู้จักกับ Wraith King กันก่อนว่าตัวในมีสกิลอะไรกันบ้างและข้อดีของการเลือกฮีโร่ตัวนี้มาครับ
- Wraithfire Blast (Active Skill) – ยิงลูกไฟใส่ศัตรูทำให้เกิดสถานะ Stun และ Slow 20 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับทำความเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นระยะเวลา 2 วินาที Cooldown 8 วินาที เสียมานา 140 และทำความเสียหายสูงสุด 300 ที่เลเวล 4
- Vampiric Aura (Passive Skill) – ดูดเลือดจากศัตรูจำนวน 15% / 20% / 25% / 30% มีรัศมี 900 เป็นสกิลแบบออร่าเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในระยะสามารถรับความสามารถนี้ได้
- Mortal Strike (Passive Skill) – มีโอกาส 15% ที่จะโจมตีติด Critical โดยจะเพิ่มความเสียหาย 150% / 200% / 250% / 300%
- Reincarnation (Passive Skill) – เมื่อ Wraith King ตายสามารถฟื้นคืนชีวิตใหม่ (เลือดและมานาเต็ม) ได้ในระยะเวลา 3 วินาทีพร้อมกับทำการ Slow ศัตรูที่อยู่รอบ ๆ เป็นเวลา 5 วินาที Cooldown 260 / 160 / 60 วินาที เสียมานา 360
จะเห็นได้ว่า Wraith King จะมีสกิลพื้นฐาน 4 โดยใน 3 สกิลนั้นจะเป็นสกิลแบบ Passive ติดตัวจึงทำให้การใช้งานหรือควบคุมทำได้ง่ายมากเพราะมีสกิลกดใช้เพียงแค่ 1 สกิลเท่านั้นและยังเป็นสกิลประเภท Disable อีกด้วย นอกจากนี้ข้อดีของมันก็คือมีพลังโจมตีพื้นฐานที่รุนแรงและบวกกับสกิล Mortal Strike ด้วยแล้วจะยิ่งเห็นผลมากในช่วงเลทเกมและมีสกิลออร่าดูดเลือดที่ไม่จำเป็นต้องวิ่งกลับบ้านบ่อย ๆ
เมื่อเราทำความรู้จักความสามารถเบื้องต้นแล้วก็มาดูกันต่อว่าในแต่ละช่วงเวลาของเกมเราควรจะออกไอเท็มอะไรกันบ้าง
Early Game
ในช่วงต้นเกมนี้สิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำก็คือการ Last Shot ครีปให้ได้มากที่สุดฉะนั้นการออก Quelling Blade ก็จะช่วยได้มากในเรื่องการ Last Shot หรือถ้าหากเจอฮีโร่โจมตีไกลการออก Stout Shield ก็จะลดความเสียหายได้เยอะมากแต่ทั้งนี้ก็ควรจะพกยา Healing Slave หรือ Tango และกิ่งไม้ Iron Branch ไว้ด้วยและที่สำคัญควรจะไป Safe Lane สำหรับสาย Carry ส่วนสาย Tanker ควรจะไป Hard Lane ส่วนสกิลที่ต้องอัพนั้นควรจะอัพ Wraithfire Blast (ต้องอัพให้เต็ม) กับ Vampiric Aura (อัพประมาณเลเวล 1 หรือ 2) สลับกันเพราะจะช่วยให้การอยู่ในเลนได้นานขึ้นอีกทั้งเราอาจจะได้ฆ่าศัตรูด้วยจากการใช้ Wraithfire Blast และอัพ Mortal Strike ไว้แค่เลเวล 1 ก่อนครับ
Mid Game
ในช่วงกลางเกมนี้เราอาจจะแอบไปฟาร์มครีปในป่าก็ได้เพราะสกิล Vampiric Aura ที่อัพตอนต้นเกมและในช่วงนี้ถ้าหากมีการปะทะกันหรือรวมพลก็ควรจะไปร่วมด้วยเพื่อเป็นตัวเปิดเข้าปะทะก่อนและสกิลอัลติเมทอย่าง Reincarnation ก็จะช่วยให้เราตายยากขึ้นด้วยโดยไอเท็มในช่วงนี้ควรจะออกไอเท็มเกี่ยวการเพิ่มความเสียหายและความเร็วการเคลื่อนที่อย่าง Phase Boot , Drum of Endurance , Armlet of Mordiggian , Black King Bar หรือถ้าอยากจะฟาร์มให้ไวก็ออก Hands of Midas กับ Maelstorm ก็ได้หรือถ้าอยากจะ Gank ศัตรูในป่าการออก Shadow Blade ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันแต่ถ้าเล่นเป็นสาย Tanker ก็ควรจะออก Pipe of Insight , Blade Mail หรือ Solar Crest ครับ
ส่วนการอัพสกิลนั้นก็ให้อัพ Mortal Strike ให้เต็มโดยเร็วเพื่อเพิ่มความเสียหายการโจมตีให้มากที่สุดและ Vampiric Aura ด้วยเช่นกันเพราะในช่วงนี้ผู้เล่นต้องเก็บ Kill เอาค่า Gold จากศัตรูให้มากที่สุดครับ
Late Game
เมื่อถึงเลทเกมก็เป็นช่วงเวลาแห่งการฆ่าอย่างเดียวแล้วซึ่งไอเท็มที่จำเป็นสำหรับช่วงนี้ก็จะเน้นไปที่เลือดและพลังโจมตีกายภาพอย่างเช่น Abyssal Blade , Hearth of Tarrasque , Assault Cuirass , Boots of Travel , Moon Shard หรือ Eye of Skadi , Heaven Halberd สำหรับสาย Tanker
ส่วนสกิลในช่วงนี้ควรจะต้องอัพเต็มหมดตั้งแต่ช่วงปลาย Mid Game แล้วและเลเวลที่เหลือให้ไปลงที่ค่าสเตตัสให้หมดครับ ด้านการเข้าโจมตีก็ให้เน้นฆ่าฮีโร่แนวหลังจำพวกสาย Int หรือตัว Carry ฝ่ายตรงข้ามเป็นอันดับแรกโดยหลีกเลี่ยงพวก Str หรือฮีโร่ Tanker
Extra Item
ในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามมีฮีโร่ที่มีความสามารถเฉพาะตัวอย่าง Riki , Phantom Assassins แนะนำให้ออกไอเท็ม Monkey King Bar เพราะจะทำให้โจมตีไม่พลาด 100% หรือถ้าหากเจอพวกฮีโร่เคลื่อนที่เร็วหรือซ่อนตัวเก่งก็ควรออก Blink Dagger เพื่อย่นระยะทางไล่ตามศัตรูให้เร็วขึ้นหรือจะใช้เปิดตอนเข้าปะทะกันก็ยังได้
ข้อควรระวัง
แม้ว่าจะเป็นฮีโร่ที่เล่นง่ายโหดไวแต่ก็มีฮีโร่และไอเท็มแก้ทางอยู่เพียบซึ่งคู่ปรับที่ผู้เล่นอาจจะต้องระวังตัวก็คือ Anti-Mage ที่สามารถเบิร์นมานาทุกครั้งที่โจมตีหรือไอเท็ม Diffusal Blade ที่จะลดความเร็วการเคลื่อนที่และเบิร์นมานาทุกครั้งเมื่อโจมตีเช่นกันเพราะจุดอ่อนของ Wraith King คือค่ามานาที่มีน้อยซึ่งถ้าหากมานาหมดก็จะใช้ท่า Reincarnation ไม่ได้ด้วย
“Anti-Mage ศัตรูคู่ปรับตลอดกาล”
แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีวิธีแก้ไขด้วยการออก Soul Ring ที่เมื่อกดใช้จะเป็นการฟื้นฟูค่ามานาจำนวนหนึ่งซึ่งถ้าหากใช้ให้ดีแล้วถึงเราจะโดนเบิร์นมานาไปแต่ก็มีโอกาสฟื้นคืนชีพหรือใช้สกิลตอบโต้ได้หรืออีกวิธีแบบดิบ ๆ ก็คือแลกหมัดกันซึ่งหน้าไปเลยโดยเราจะได้เปรียบตรงที่มีสกิล Mortal Strike และ Vampiric Aura ครับ (กรณีหลังควรมีพลังโจมตีที่สูงก่อนนะครับ)
เลือกบทบาทให้ดี
สำหรับ Wraith King สามารถเป็นได้ทั้งฮีโร่ Tanker และ ฮีโร่ Carry ฉะนั้นแล้วก่อนเริ่มเกมผู้เล่นต้องรู้จุดมุ่งหมายก่อนว่าต้องการเป็นฮีโร่ประเภทไหนโดยต้องเลือกมันทางใดทางหนึ่งและการเล่นแบบสายผสมนั้นก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่นักเพราะจะทำให้ฮีโร่ของเราไปไม่สุดสักทาง เทคนิคเล็กน้อยในการเลือกก็คือถ้าหากเพื่อนร่วมทีมมีฮีโร่ประเภท Carry ทั้งระยะไกลหรือใกล้เราก็ควรจะเลือกสาย Tanker แต่ถ้าหากเพื่อนร่วมทีมมีฮีโร่ Tank อยู่แล้วหรือมีฮีโร่สนับสนุนก็ควรจะเลือกสาย Carry ครับ
ศึกษาจาก Pro Player
การศึกษาวิธีเล่นจากผู้เล่นระดับโปรก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะได้เช่นกันโดยมีแมทช์สำคัญที่น่าสนใจมากมายดังนี้
“Alliance.Loda vs. Cloud 9 (Wraith King สาย Carry)”
“EG.Zai vs. Secret (Wraith King สาย Tank)”
สุดท้ายนี้สำหรับเทคนิคที่ว่ามาก็ไม่มีอะไรที่ตายตัวซึ่งผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนการอัพสกิลหรือออกไอเท็มได้ตามสถานการณ์ในเกมซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนพอสมควรถึงจะทราบว่าเหตุการณ์ไหนควรต้องทำอะไรแต่เชื่อว่าคงไม่ยากเกินความสามารถของเพื่อน ๆ แน่นอนครับ