นอกจากในงาน MWC 2016 หรือ Mobile World Congress 2016 ที่กำลังจัดขึ้นในตอนนี้ ณ ประเทศสเปนทาง HP จะทำการประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่สเปคแรงสุดๆ อย่าง HP Elite x3 ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile แล้ว ทาง HP ยังได้ทำการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้งานร่วมกับ HP Elite x3 ออกมาด้วยถึง 2 ตัวด้วยกันคือ HP Desk Dock และ HP Mobile Extender ซึ่งอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวนั้นจะใช้ฟีเจอร์ Continuum แบบเต็มที่แต่มีลักษณะการทำงานแตกต่างกันไป จะแตกต่างกันอย่างไรนั้นไปชมกันได้เลยครับ
HP Desk Dock
เริ่มต้นกับ HP Desk Dock ซึ่งหากจะว่าไปแล้วก็เหมือนกันกับ Continuum display dock ของทาง Microsoft เองหล่ะครับ(ซึ่ง Continuum display dock ของทาง Microsoft นั้นสามารถใช้งานร่วมกับ HP Elite x3 ได้ด้วยเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน) โดยส่วนหลักๆ แล้วนั้นฟีเจอร์การใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนัก จะต่างกันก็ตรงที่ HP Desk Dock นั้นได้เพิ่มในส่วนของช่องเชื่อมต่อ Kensington Security Slot(หรือ Kensington Lock) มาให้ในตัวพร้อมกับมีช่องเชื่อมต่อแบบ Ethernet มาให้ด้วยครับ
ด้วยความที่ใช้ฟีเจอร์ Continuum ของ Windows 10 Mobile ดังนั้นมันจึงมีข้อเสียสำคัญอยู่ซึ่งนั่นก็คือมันไม่สามารถที่จะทำการรันซอฟต์แวร์แท้ๆ ของ Windows 10 ได้ครับ(Desktop Apps) ที่รันได้นั้นจะเป็นแอปพลิเคชันที่โหลดผ่าน Windows Store หรือที่เรียกว่า Universal Apps อย่างไรก็ตามทาง HP ได้อุดจุดด้อยดังกล่าวนี้ไว้ด้วยการให้ซอฟต์แวร์ HP onboard software and external cloud solution ที่สามารถทำการรันซอฟต์แวร์ธรรมดาในรูปแบบเสมือนจริงได้(จำลอง: virtualized) เลยทำให้ HP Elite x3 พร้อมกับ HP Desk Dock ดูน่าใช้กว่า Lumia และ Dock ของทาง Microsoft เยอะครับ
สำหรับสเปคของ HP Desk Dock นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
ถ้าไม่คิดมากในส่วนของการต้องแบก Dock ขนาด 450 g แล้วรวมกับคีย์บอร์ดและเมาส์ขนาดเบาๆ ที่น้ำหนักรวมกันน่าจะไม่เกิน 250 g รวมด้วยน้ำหนักตัวของ HP Elite x3 อีก 200 g เป็น 900 g กับการได้เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาที่จำเป็นจะต้องใช้แค่จอสำหรับต่อเพื่อทำจอใหญ่แล้วเจ้า HP Desk Dock นั้นถือว่าน่าใช้งานมากเลยทีเดียวครับ แต่ครับแต่ ถ้าคุณคิดว่า HP Desk Dock ยังไม่สะดวกพอรอดูอุปกรณ์เสริมชิ้นต่อไปที่(ส่วนตัวผมแล้วคิดว่า) น่าจับจองเป็นเจ้าของร่วมกับ HP Elite x3 เป็นอย่างมากครับ
HP Mobile Extender
สำหรับอุปกรณ์เสริมตัวต่อมาอย่าง HP Mobile Extender (หรือ me dock) นั้นมาในรูปแบบของโน๊ตบุ๊คเลยครับ อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า HP Mobile Extender นั้นยังคงใช้ฟีเจอร์ Continuum ของ Windows 10 Mobile แต่คราวนี้นั้นคุณไม่ต้องไปหาหน้าจอสำหรับการเชื่อมต่อ Dock แยกหรือพกอุปกรณ์หลายๆ ตัวไปพร้อมกับเหมือนตอนใช้ Dock เพราะ HP Mobile Extender ครบเซ็ทมีทั้งหน้าจอสำหรับใช้งานที่ขนาด 12.5 นิ้วแบบ LED รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 1080p (FHD) พร้อมกับคีย์บอร์ดและ Trackpad ในตัว ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือมันยังมีแบตเตอรี่เสริมในตัวเองพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อแยกและลำโพงต่างหากอีกด้วยครับ
เอาเป็นว่าหากคุณคิดภาพไม่ออกว่าเจ้า HP Mobile Extender (หรือ me dock) นั้นคืออะไร ให้คิดซะว่ามันคือโน๊ตบุ๊คที่มีแต่จอ, ลำโพง, พอร์ทเชื่อมต่อบางพอร์ท, แบตเตอรี่ในตัว, คียบอร์ดและ Trackpad เท่านั้น เจ้า HP Mobile Extender ขาดหน่วยประมวลผล, หน่วยความจำ, แหล่งเก็บข้อมูล ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้เราจะต้องใช้ฟีเจอร์ Continuum ของ Windows 10 Mobile ที่อยู่บน HP Elite x3 มาร่วมใช้งานด้วยกันเพื่อให้มันกลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่สมบูรณ์แบบนั่นเองครับ สำหรับสเปคของ HP Mobile Extender มีดังต่อไปนี้ครับ
ข้อเสียของ HP Mobile Extender นั้นยังคงเหมือนกับ HP Desk Dock ตรงที่มันไม่ใช้งานรันซอฟต์แวร์แท้ๆ ของ Windows 10(Desktop Apps) ได้โดยตรงครับ แต่ตรงนี้ทาง HP ก็ได้อุดช่องว่างด้วยการให้ซอฟต์แวร์ HP onboard software and external cloud solution ที่สามารถทำการรันซอฟต์แวร์ธรรมดาในรูปแบบเสมือนจริงได้(จำลอง: virtualized) มาด้วยแล้วทำให้ปัญหาดังกล่าวน่าจะหมดห่วงไป เรียกได้ว่า HP Mobile Extender + HP Elite x3 นั้นคือการรวมตัวของการเคลื่อนที่ที่ทันใจคนสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวจริงๆ ครับ
สรุป
HP Desk Dock และ HP Mobile Extender นั้นต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 ของ HP Elite x3 นั้นสามารถที่จะตอบโจทย์ของคนสมัยใหม่ที่ชอบพก Gadget ไปไหนมาไหนไม่เยอะมากนักแต่ใช้งานได้เต็มที่ได้อย่างลงตัว ทั้งนี้คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าวันวางจำหน่ายและราคาอย่างเป็นทางการนั้นจะถูกเปิดเผยออกมาเมื่อใด(แต่มีแหล่งข่าวบอกว่าราคาค่อนข้างสูงอยู่รวมถึงวางขายเฉพาะในบางประเทศและจะมีการเปิดราคาของอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 ในเร็วๆ นี้)
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการใช้งานรันซอฟต์แวร์แท้ๆ ของ Windows 10(Desktop Apps) ที่ต้องทำผ่านซอฟต์แวร์ HP onboard software and external cloud solution ที่สามารถทำการรันซอฟต์แวร์ธรรมดาในรูปแบบเสมือนจริงได้(จำลอง: virtualized) นั้นก็ยังไม่มีใครได้ลองตัวจริงกันครับว่ามันสามารถทำงานได้กับ HP Elite x3 ดีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสำหรับผู้ใช้โดยทั่วไปที่คาดว่าตัวเองจะซื้อเฉพาะตัว HP Elite x3 เพียงอย่างเดียวก็ไม่น่าจะมีปัญหากับเรื่องนี้มากนัก แต่กับผู้ที่จะซื้อ HP Desk Dock และ HP Mobile Extender มาใช้ด้วยนั้นคงต้องติดตามกันอีกทีครับ
ที่มา : windowscentral