ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานี้ทาง Apple ได้ยื่นจดสิทธิบัตรใหม่ซึ่งอธิบายเกี่ยวกับปุ่ม Home ที่เป็น Touch ID อาจจะมีการเพิ่มเติมฟังก์ชันให้ผู้ใช้ได้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น ตามสิทธิบัตรนั้นอ้างว่าปุ่ม Touch ID ตะสามารถที่กระทำการต่างๆ ได้โดยการเปลี่ยนลายนิ้วสัมผัส(หรือสามารถสั่งการตัวเครื่องให้ทำงานที่แตกต่างกันไปโดยใช้วิธีแยกจากลอยนิ้วมือของแต่ละนิ้วที่แตกต่างกัน) รวมไปถึงยังได้มีการอธิบายเพิ่มเอาไว้ด้วยใว้ด้วยว่า Apple นั้นอาจจะเพิ่มเซ็นเซอร์ในการแยกแยะแรงกดที่ทำให้ Touch ID สามารถที่จะทำงานได้เหมือน 3D Touch ได้อีกด้วยครับ
สิทธิบัตรดังกล่าวนั้นค่อนข้างที่จะมีจุดเด่นในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีอยู่มากเลยทีเดียวครับ ทว่าข้อเสียของตัวสิทธิบัตินี้ก็คือในตัวสิทธิบัตินั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวน้อยมากๆ จนเรียกได้ว่าแทบจะไม่มี โดยที่พอจะมองออกว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถนำไปใช้งานอะไรได้บ้างจากข้อมูลที่ Apple ให้ไว้ในสิทธิบัตรนั้นมีอยู่ 2 ประการดังนี้ครับ
- การตรวจสอบลายนิ้วมือที่รองรับหลายนิ้วมากขึ้นน่าจะทำให้มีการรองรับการใช้งาน iPhone และ iPad ในรูปแลลผู้ใช้หลายคน ซึ่งแต่ละผู้ใช้ที่มีลายนิ้วมือแตกต่างกันไปนั้นก็จะสามารถเข้าถึงการใช้งานบนตัวเครื่องได้แตกต่างกันออกไปตามที่เจ้าของเครื่องได้ทำการตั้งเอาไว้ ส่วนนี้นั้นน่าจะเป็นประโยชน์มากกับผู้ปกครองที่ต้องการจะจำกัดการเข้าถึงต่างๆ ของลูกหลานเพื่อไม่ให้เกินวัยครับ(อาจจะรวมไปถึงการจำกัดเวลาการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ผ่านทางลายมือที่ระบุตัวตนเข้าไปใช้ด้วย)
- สำหรับเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกดนั้นน่าจะเอาไว้ใช้งานในการระบุว่าเมื่อผู้ใช้ทำการปลดล๊อคตัวเครื่องผ่านทาง Touch ID แล้วจะตรงไปที่การทำงานอะไรครับ เช่นหากกดหนักๆ ก็จะเป็นการเข้าแอปพลิเคชันกล้อง หรือถ้ากดเบาๆ ก็จะเป็นการเข้าแอปพลิเคชัน Message เป็นต้น ลักษณะดังกล่าวนี้นั้นก็เสมือนกับว่าผู้ใช้สามารถที่จะใช้ปุ่ม Home ในการกำหนดการเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ได้นั่นเองครับ
ในสิทธิบัตรดังกล่าวนี้ยังได้มีการระบุเอาไว้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวอาจจะถูกนำไปใช้งานกับ Trackpad ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งลักษณะของการทำงานนั้นก็จะคล้ายๆ กันแต่จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการรองรับการออกท่าทางให้มากขึ้นครับ ทั้งนี้คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Apple จะนำสิทธิบัตรดังกล่าวนี้ไปใช้จริงหรือไม่และใช้กับ iPhone, iPad รุ่นไหน หรือท้ายที่สุดแล้วสิทธิบัตินี้อาจจะกลายเป็นสิทธิบัตรหนึ่งที่จดเอาไว้เฉยๆ แต่ไม่สามารถนำเอาไปใช้งานได้จริงด้วยเหตุผลทางด้านเทคนิคก็เป็นได้ครับ
ที่มา : 9to5mac