หลังจากที่ได้ดูผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 ของทั้งบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Apple, AMD, Microsoft และ Sony กันไปแล้วมาในคราวนี้เราขอนำเสนอผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 หรือผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2016 ของพี่ใหญ่ทางฝั่งจีนและเจ้าของอันดับหนึ่งในส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ PC อย่าง Lenovo กันบ้างครับ
ถึงแม้ว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 ที่ผ่านมานั้นหลายๆ บริษัทจะมีผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัททางด้านคอมพิวเตอร์ PC ที่ยอดส่วนแบ่งในตลาดและผลประกอบการดูจะไม่ค่อยดีเท่าไร ทว่าพี่ใหญ่อย่าง Lenovo ที่มีธุรกิจหลักเลยเป็นด้านคอมพิวเตอร์ PC นั้นกลับสามารถทำกำไรได้ ซึ่งการทำกำไรได้ดังกล่าวนี้ก็เนื่องมาจากที่ทาง Lenovo ได้มีการปรับโครงสร้างไปก่อนหน้านี้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 หรือไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2016 ที่ผ่านมาครับ(ซึ่งในไตรมาสนั้น Lenovo ขาดทุนไปจึงได้มีการประกาศปรับโครงสร้างดังกล่าวครับ) โดยสรุปแล้วผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมาของ Lenovo มีดังต่อไปนี้ครับ
- กลับมามีกำไรอีกครั้งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 โดยหากคิดรายได้ก่อนหักภาษีจะอยู่ที่ $397 million หรือประมาณ 1.4292 หมื่นล้านบาท
- รายได้หลังจากหักภาษีทั้งหมดแล้วอยู่ที่ $320 million หรือประมาณ 1.152 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี(ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีรายได้หลังจากหักภาษีแล้วอยู่ที่ $300 หรือประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท)
- รายได้รวมทั้งปี 2015 อยู่ที่ $12.9 billion หรือประมาณ 4.644 แสนล้านบาท ลดลง 8% เมื่อคิดแบบปีต่อปี(หรือลดลง 2% เมื่อคิดอัตราสกุลเงินเท่ากับปีเดิม)
- สามามรถเก็บเงินออมให้กับทางบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2015 เป็นจำนวนเงิน $650 million หรือประมาณ 2.34 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปีแล้วมีเงินออมอยู่ที่ $1.35 billion หรือประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท
- สามารถบรรลุจุดคุ้มทุนในธุรกิจกลุ่มอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ภายใน 4-6 ไตรมาสตามที่ได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้าและหลังจากที่มีการเข้าซื้อ Motorola อย่างเป็นทางการโดยยังคงสามารถที่จะทำเงินได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่คาดไว้ที่ตั้งไว้ว่าองค์กรจะได้รายได้รวมอยู่ที่ $5 billion หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท(บนพื้นฐานอัตราแลกเปลี่ยนคงที่)
- ยอดส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์ PC ของ Lenovo ยังคงเพิ่มขึ้นโดยอยู่ในจุดสูงที่สุดเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาคือสามารถทำส่วนแบ่งในตลาดนี้ไปได้ 21.6%
- กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน(EPS) อยู่ที่ $2.71 หรือประมาณ 96.34 บาท
อย่างไรก็ตามแต่ถึงแม้ว่าถ้าดูจากตารางนั้นจะเห็นได้ว่ากำไรขั้นต้นและรายได้ของทาง Lenovo ประจำไตรมาสที่ผ่านมานั้นจะลดลงไปบ้างเมื่อเทียบแบบปีต่อปี แต่การที่ Lonovo ยังยืนหยัดสามารถทำกำไรได้นั้นแสดงให้เห็นว่า Lenovo เริ่มปรับโครงสร้างการบริหารที่มาถูกทางแล้วครับ งานนี้คงต้องดูต่อไปว่าทาง Lenovo จะยังคงสามารถทำการรักษากำไรของทางบริษัทเอาไว้ให้อยู่ในแดนบวกอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่
ที่มา : businesswire