จากผลกระทบที่ตลาดกล้องถ่ายภาพทุกรูปแบบลดลงจนทำให้ยอดรายรับของบริษัทที่เคยมาแรงอย่าง GoPro นั้นลดลงแบบฮวบฮาบถึง 31% คือจากที่เคยได้รายได้ถึง $634 million หรือประมาณ 2.2824 หมื่นล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 ที่ผ่านมา แต่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 ที่ผ่านมานั้นรายได้รวมของ GoPro อยู่ที่ $437 million หรือประมาณ 1.5732 หมื่นล้านบาทเท่านั้น(ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ $496 million หรือประมาณ 1.7856 หมื่นล้านบาทอีกด้วย)
ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ GoPro อย่าง Nicholas Woodman
ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวออกมาครับว่าทาง GoPro ได้ทำการหยุดจ้างพนักงานไปส่วนหนึ่งแล้วเพื่อรักษาส่วนใหญ่ของบริษัทไว้ ทว่าการเลิกจ้างพนักงานในตอนนั้นดูเหมือนจะไม่ช่วยส่งผลดีกับทาง GoPro มากสักเท่าไรนักเนื่องจากราคาหุ้นของทาง GoPro ยังคงตกลงเรื่อยๆ จนในปัจจุบันนั้นเหลืออยู่ที่ $10.74 หรือประมาณ 386.64 บาทต่อหุ้นเท่านั้นลดลงมากถึง 83% ภายในละยะเวลา 6 เดือนเท่านั้นซึ่งถือว่าดูแล้วย่ำแย่มากเลยทีเดียวครับ
อย่างไรก็ตามแต่เพื่อให้บริษัทยังคงสามารถที่จะยืนหยัดต่อไปได้นั้นทาง Nicholas Woodman ผู้ก่อตั้งและ CEO ของทาง GoPro ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าทางบริษัทมีนโยบายที่จะทำการเปลี่ยนตัว CFO ใหม่ในเดือนหน้านี้เพื่อที่จะดำเนินแผนการรุกตลาดอย่างจริงจังมากขึ้นโดย ผู้ที่จะมารับตำแหน่าง CFO ใหม่ของ GoPro นั้นก็คือ Brian McGee ชายวัย 30 ปีที่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการเงินมาอย่างโชกโชนและก่อนหน้านี้ก็เคยเป็น CFO ให้กับบริษัทดังๆ ทางด้านการเงินมาก่อนถึง 2 บริษัทโดยทาง McGee นั้นได้เข้ามาร่วมงานใน GoPro ตั้งแต่ในปี 2015 ที่ผ่านมาและจะทำการเริ่มงานในตำแหน่ง CFO ของ GoPro ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ต่อเนื่องจาก CFO คนเก่าอย่าง Jack Lazar ครับ
งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปหล่ะครับว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั้นจะทำให้ GoPro สามารถกู้สถานการณ์ของตัวเองกลับมาได้หรือไม่ โดยในปีนี้นั้นทาง GoPro เองก็มีแผนการที่จะเปิดตัวกล้องซีรีส์ Hero 5 ออกมาแต่กระแสข่าวที่มีออกมาก่อนหน้านี้ดูจะไมื่ค่อยดีเท่าไรเพราะ Josh Constine นักเขียนจากทาง TechCrunch เองก็ยังเคยบอกเอาไว้ครับว่าถ้าคุณมีกล้องของ GoPro อยู่แล้วหล่ะก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อกล้องซีรีส์ใหม่นี้เลยครับ
ที่มา : techcrunch