ก่อนที่เราจะมีฮาร์ดแวร์ตัวแรงตัวเทพให้ได้เลือกใช้เลือกซื้อกันในปัจจุบันนั้นย่อมต้องมีจุดกำเนิดเสียก่อนซึ่งในวันนี้เราจะมาย้อนเวลาดูกันว่าในอดีตได้มีนวัตกรรมหรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ตัวไหนบ้างที่เป็นที่จดจำและทำให้เทคโนโลยีของ PC ก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดจำนวน 9 ชิ้นด้วยกันดังนี้ครับ
IBM Color Graphics Adapter
เริ่มต้นด้วยตำนานการ์ดแสดงผลหน้าจอรุ่นบุกเบิกที่ IBM ส่งเข้าประกวดกับ CGA หรือที่เรียกว่า Color Graphics Adapter ในยุคที่คอมพิวเตอร์กำลังมาใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นคอมพิวเตอร์ PC จะแสดงภาพได้เพียงแค่สีเดียวผ่านตัวแสดงผลที่เรียกว่า Monochrome Display Adapter (MDA) และถ้าอยากจะแสดงภาพสีก็ต้องใช้เจ้า CGA ตัวนี้ที่จะช่วยในเรื่องของการแสดงผลกราฟิกและแสดงภาพสีได้แต่จะมีความละเอียดน้อยกว่า MDA ในความละเอียด 320×200 แสดงผล 4 สีและจากตัวแสดงผลนี้ก็พัฒนาเรื่อย ๆ มาเป็น EGA และ VGA ในปัจจุบันครับ
The Microsoft Mouse
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ขึ้นหิ้งจาก Microsoft กับเม้าส์ตัวแรกที่ถือกำเนิดในปี 1983 กับประโยชน์ของมันที่ช่วยทำให้การใช้งานกับงานเอกสารใน Microsoft Word ได้ง่ายขึ้นโดยมีรูปร่างที่ Old School สุด ๆ มีปุ่มคลิกซ้าย-ขวาสองปุ่มอันใหญ่โตและด้านหลังที่มีลูกกลิ้งที่ใครอยู่ในยุค 80-90 น่าจะรู้จักกันดีและการที่ Microsoft ผลิตอุปกรณ์ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ทำให้เกิดเม้าส์ตัวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอีกมากมายครับ
Intel 80386 Microprocessor
เป็นไมโครโพรเซสเซอร์รุ่นที่ 3 ในช่วงปี 1985 ที่มาพร้อมกับขนาดถึง 32 บิตซึ่งมีข้อดีกว่าไมโครโพรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้าคือมันสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่าด้วยกันพร้อมกับมีรุ่นย่อยออกมาอีกมากมายรองรับกับ PC ในสมัยนั้นได้ดีโดยเฉพาะการเล่นซึ่งมีประสิทธิภาพมากจึงทำให้ไมโครโพรเซสเซอร์รุ่นที่ 3 ได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลามจนถึงปี 1990 ก็ยังมี PC จำนวนมากที่ยังใช้ไมโครโพรเซสเซอร์รุ่นนี้เป็นสเปคขั้นต่ำในเกมยุคนั้นอีกด้วย
Sound Blaster
ในยุคที่มีการใส่ใจเรื่องของเสียงมากขึ้นสิ่งที่เรียกกันว่า Sound Card ก็เริ่มมีการขยับขยายพัฒนากันมากขึ้นเช่นกันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานโดยผู้บุกเบิกรายแรกในเรื่องเสียงก็คือ AdLib กับ AdLib Music Synthesizer Card ในปี 1987 แต่ต่อมาก็เป็นทาง Creative Labs ที่รับช่วงต่อซึ่งมี Sound Blaster Live 5.1 เป็นสินค้าประเดิมที่สามารถจำแนกเสียงได้หลากหลายชัดเจนมากขึ้นตอบสนองความต้องการของนักเล่นเกมหูเทพในยุคนั้นได้ดีและด้วยจุดเด่นดังกล่าวก็ทำให้ Creative ต้องพัฒนาการ์ดเสียงรุ่นถัดไปออกมามากมายจนถึงปัจจุบัน
CD-ROM
หนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการอ่าน-บันทึกข้อมูลแบบใหม่แทนที่แผ่น Floppy Disk ที่มาพร้อมกับความสามารถอ่าน-บันทึกข้อมูลได้มากกว่าเร็วกว่าและไม่จำกัดรูปแบบจะเป็นภาพ เสียง ตัวอักษร CD-ROM ตัวนี้สามารถทำได้หมด อีกทั้งความจุของ CD 1 แผ่นที่มีประมาณ 650 MB ซึ่งนับว่ามหาศาลมากถ้าเทียบกับ Floppy Disk และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ CD-ROM ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและใช้มาจวบจนถึงทุกวันนี้อีกด้วย
3dfx graphics cards
ในยุคที่มีการพัฒนากราฟิก 3D กันมากขึ้นก็จำเป็นจะต้องมีการ์ดที่รองรับกับภาพกราฟิก 3D บนเครื่องเกมหรือโฮมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะและการเปิดตัวของกราฟิกการ์ดในชื่อ Voodoo ภายใต้บริษัท 3dfx ก็เป็นการเปลี่ยนโฉมวงการ 3D อย่างสิ้นเชิงกับประสิทธิภาพการรีดพลังกราฟิกออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อตอบโจทย์เกมเมอร์และนักพัฒนาเกมได้ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะการ์ดจอที่เป็นตำนานอย่าง Voodoo5 6000 ก็น่าจะคุ้นเคยแก่เกมเมอร์ยุคเก่าเป็นอย่างดี
USB
นี่ก็เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกของการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในชื่อว่า USB หรือ Universal Serial Bus กับคุณสมบัติที่สามารถรองรับกับอุปกรณ์ได้แทบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเม้าส์ , คีย์บอร์ด , เครื่องปริ้นท์เตอร์และความง่ายต่อการใช้งานของมันก็ทำให้ช่องเสียบอุปกรณ์แบบเก่าสูญสลายหายไปทันที
Flat panel displays
ในส่วนของหน้าจอมอนิเตอร์แสดงผลก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กันเพื่อตอบรับการเล่นเกม PC ที่นับวันกราฟิกภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการมาของ Flat panel displays ก็ช่วยให้การแสดงผลของภาพทำได้เต็มที่เห็นถึงความตื้นลึกได้อย่างชัดเจน มีน้ำหนักที่เบาและบางอย่างไม่น่าเชื่อบวกกับสามารถแบ่งหน้าจอเป็น 2 จอพร้อมกันได้อย่างเช่นจอ LCD ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมกว่าจอประเภท CRT (Cathode Ray Tube) แบบเก่าด้วย
Solid state drives
Solid state drives หรือชื่อย่อที่คุ้นหูคือ SSD ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีการทำงานโดยใช้ชิปที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์แทนจานหมุนแบบสมัยก่อนซึ่งมีคุณสมบัติเรียกข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมในระดับมิลลิวินาที มีความทนทานสูงโดยเฉพาะเรื่องความร้อนที่เป็นปัญหาโลกแตกซึ่ง SSD จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เลยจึงทำให้เทคโนโลยี SSD นี้ก็เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการฮาร์ดดิสก์ไปตลอดกาลครับ
ที่มา : PCGAMER
