ก่อนที่ทาง Intel จะเริ่มสร้างชื่อ “ultrabook” เพื่อใช้ในการอธิบายโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับความบางและเบานั้นก่อนหน้านี้เราใช้คำว่า “thin-and-light” กันแบบตรงๆ ตัวเพื่อเป็นการสื่อถึงโน๊ตบุ๊คประเภทนี้ครับ แน่นอนว่ามีหลายผู้ผลิตที่ใช้คำดังกล่าวในการอธิบายถึงโน๊ตบุ๊คแบบนี้ซึ่งรวมไปถึง Samsung ด้วย หากจะว่าไปแล้วเราได้เห็นโน๊ตบุ๊คของทาง Samsung เข้ามาทำตลาดในบ้านเราแบบเงียบๆ(ไม่กระหน่ำเท่าสมาร์ทโฟน) ครับ(จริงๆ แล้วก็รวมกับการทำตลาดโน๊ตบุ๊คในประเทศอื่นๆ อื่นเช่นกันครับ)
ถึงแม้จะทำตลาดแบบเบาๆ แต่ทาง Samsung ก็ไม่ได้หายไปไหนเลยครับยังคงมีผลิตภัณฑ์ทางด้านโน๊ตบุ๊คต่อยอดออกมาเรื่อยๆ ในงาน CES 2016 นี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด(และไม่ให้คนลืมว่า Samsung ยังมีผลิตภัณฑ์สายโน๊ตบุ๊ครึเปล่า??) เราได้เห็นทาง Samsung ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊คซีรีส์ Notebook 9 อีกครั้ง โดยโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ Notebook 9 นั้นจะเป็นโน๊ตบุ๊คในรูปแบบ “ultrabook” หรือว่า “thin-and-light” ถูกแยกออกเป็น 2 โมเดลด้วยขนาดหน้าจอคือหน้าจอขนาด 13.3 นิ้วมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.84 kg ส่วนอีกโมเดลมีหน้าจออยู่ที่ 15 นิ้วน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.29 kg ซึ่งถือว่าเบามากครับ
ด้วยขนาดที่เบามากนั้นทำให้หลายๆ ท่านอาจจะเป็นกังวลในเรื่องของแบตเตอรี่บน Notebook 9 ครับ(น่ากังวลจนถึงขั้นที่ Vlad Savov เจ้าของบทความนี้จากทาง The Verge จับเครื่องขึ้นมาแล้วคิดว่ามันไม่มีแบตเตอรี่อยู่บนตัวเครื่องด้วยซ้ำ) แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับเพราะเจ้า Notebook 9 ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 โมเดลใหม่นั้นทาง Samsung สัญญาไว้ว่าเครื่องโมเดลขนาดจอ 15 นิ้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 3.33 ชั่วโมง และยังเหลือแบตเตอรี่อีก 83% ดังนั้นคุณสามารถใช้งานมันได้ทั้งวันแบบสบายๆ แน่นอนครับ
และไม่ต้องกลัวไปนะครับว่าโน๊ตบุ๊คที่ทั้งบางและเบาอย่าง Notebook 9 นี้ทำไมถึงใช้งานได้ยาวนานขนาดนั้น หรือว่ามันจะมาพร้อมกับชิปเซ็ท ARM รึเปล่า หรือว่าจะเป็น Intel Core M ที่ไม่ได้เน้นความแรง?? บอกไว้เลยตรงนี้ครับว่าเจ้า Notebook 9 ซีรีส์นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ท x86 ของทาง Intel แถมยังเป็นรุ่น Intel Core i7 สถาปัตยกรรม Skylake ที่เน้นเรื่องการประหยัดพลังงานเป็นหลัก(รุ่นหน่วยประมวลผลลงท้ายด้วยตัว U) ดังนั้นแล้วไว้ใจได้ในระดับหนึ่งเลยครับว่าอย่างน้อย Notebook 9 ซีรีส์นั้นแรงพอใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องรอนานแน่นอน(และใช้หน่วยประมวลผลรุ่นนี้ทั้ง 2 โมเดลขนาดหน้าจอด้วย)
สำหรับสเป็คอื่นๆ ที่ได้มีการเปิดเผยออกมานั้นจะได้แก่ หน่วยความจำ(RAM) สูงสุดที่ขนาด 8 GB และแหล่งเก็บข้อมูลภายในแบบ SSD มีขนาดความจุ 256 GB บนโมเดลขนาดจอ 15 นิ้ว และขนาดความจุ 128 GB บนโมเดลขนาดจอ 13.3 นิ้ว ตัวหน้าจอของทั้ง 2 รุ่นนั้นก็รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 1080p เท่านั้น กราฟิกแบบฝังกับหน่วยประมวลผลของทาง Intel ดังนั้นแล้ว Notebook 9 ซีรีส์นั้นคงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่าการนำมาเล่นเกมหนักๆ แบบโน๊ตบุ๊ครุ่นระดับมืออาชีพหรือโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหล่ะครับ
ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อนั้นก็จะมีการใช้ USB-C ที่มาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จเร็วครับ นอกเหนือไปจากนั้นแล้วก็จะมี micro HDMI, USB และ 3.5 audio jack ซึ่งถ้าเอาไปเทียบกับ MacBook ของ Apple แล้วก็คงจะดีกว่าเพราะมีตัวเลือกมาให้ใช้งานมากกว่า บานพับของตัวเครื่องนั้นรองรับการเปิดหน้าจอออกไปได้ 180 องศาแบบสบายๆ ตัวคีย์บอร์ดนั้นก็มีความเหมาะสมดีในดานของการใช้งานไม่ว่าจะเป็นระยะห่างของตัวแป้นและการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ
น่าเสียดายที่ทาง Samsung ยังไม่ได้กำหนดวันวางจำหน่ายและราคาของ Notebook 9 ซีรีส์ออกมาครับ โดยทาง Samsung ได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่ายังต้องมีการปรับปรุงในส่วนของฮาร์ดแวร์ในขั้นตอนสุดท้ายก่อน ดังนั้นเมื่อโน๊ตบุ๊คซีรีส์ Notebook ออกวางจำหน่ายนั้นมันอาจจะมีฮาร์ดแวร์เปลี่ยนไปจากตอนเปิดตัวก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในตลาดโน๊ตบุ๊คของทาง Samsung ที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวครับ
หมายเหตุ – Samsung นั้นเคยบุกตลาดบ้านเราหนักในช่วงปี 2009 – 2011 โดยจะเห็นได้ว่าตามร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คต่างๆ นั้นมีการนำโน๊คบุ๊คของทาง Samsung มาจำหน่ายมากพอสมควรแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆ หายไปโดยอาจจะเนื่องมาจากไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก งานนี้คงต้องลุ้นกันหน่อยครับว่า Notebook 9 ซีรีส์นั้นจะมีเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยด้วยหรือไม่
ที่มา : theverge