แนวเกม Open World จัดว่าเป็นแนวเกมที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากด้วยจุดเด่นตรงขนาดของแผนที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลเรียกว่าถ้าจะให้สำรวจพื้นที่ให้ครบนั้นอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียวแต่ในปัจจุบันถ้าหากสังเกตุให้ดีก็จะพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่เกมเมอร์หลายคนอาจจะรู้สึกได้แล้วนั่นก็คือ”ขนาดของแผนที่”ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้นก็คือการลดความสำคัญลงนั่นเอง
ซึ่งนั่นอาจจะดูเหมือนเป็นข้อเสียสำหรับคอเกม Open World ที่ต้องการสำรวจพื้นที่แต่ความจริงแล้วมันก็มีสิ่งอื่น ๆ ที่ถูกทดแทนหรือเสริมเข้ามาโดยไม่ทำให้อรรถรสเสียเลย ดังจะเห็นได้จากเกม GTA 5 ที่น่าจะเป็นตัวอย่างเห็นได้ชัดที่สุดที่ถึงแม้ว่าขนาดแผนที่ของเกมนี้จะดูกว้างมากแต่นั่นก็ไม่มากจนเกินไป คุณสามารถนั่งเฮลิคอปเตอร์จากจุดหนึ่งข้ามไปยังอีกฟากของแผนที่ได้ในไม่กี่นาทีแต่ในช่วงที่ระหว่างเดินทางนั้นหากลองมองดูรอบ ๆ ตัวก็จะพบกับรายละเอียดที่ถูกใส่เข้ามานับไม่ถ้วนอาทิเช่น บ้านเรือน , สภาพภูมิประเทศที่มีหลากหลายจนไปถึงบรรยากาศท้องฟ้าเวลานั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น
หรือถ้าหากคุณขโมยรถใครสักคนแล้วขับท่องเที่ยวไปก็จะเห็นวิถีชีวิตของชาวเมือง Los Santos ได้ชัดเจนแม้กระทั่งถ้าหากเราขับรถไปชนหรือตกข้างทางพวก NPC ที่อยู่รอบ ๆ บางคนก็เดินผ่านไม่สนใจแต่บางคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วยเหมือนกับว่าพวก NPC เหล่านั้นมีชีวิตจริง ๆ
นอกจาก GTA 5 แล้วอีกเกมที่พอจะเห็นว่าขนาดของเกมนั้นไม่สำคัญนักก็คือ Metal Gear Solid: Ground Zeroes ที่หลายคนต่างก็บอกว่าเป็นเกมที่สั้นมากเล่นไม่นานก็จบแล้วแต่ในความเล็กของมันก็เต็มไปด้วยมันส์และสนุกเอามาก ๆ ทีเดียวตลอดระยะเวลา 30 ชั่วโมงที่สัมผัสรู้สึกได้ถึงความสมจริงสมจังมาก มีระบบ Stealth ที่ช่วยให้การเล่นทำได้หลากหลายขึ้นแม้กระทั่งวิธีการสังหารข้าศึกก็ทำได้หลายวิธีจะย่องไปเชือดแบบเงียบ ๆ หรือโจมตีแบบแรมโบ้ก็สามารถทำได้ไม่มีใครว่า
หรือจะเป็น Elite: Dangerous ซึ่งเป็นเกมประเภท Open World เหมือนกันแต่สิ่งที่เกมนี้มีมากกว่าขนาดแผนที่ที่กว้างใหญ่ก็คือความเป็น Sandbox ที่สามารถทำอะไรก็ได้ในเกมคุณสามารถเป็นพ่อค้าซื้อขายของจะเป็นโจรสลัดอวกาศหรือนักล่าค่าหัวไล่ถล่มยานชาวบ้านแถมยังมีระบบอัพเกรดความสามารถของยานรบของคุณให้แกร่งขึ้นได้ซึ่งก็มีการปรับแต่งที่ละเอียดย่อยขึ้นไปอีกฉะนั้นแล้วนอกจากขนาดแผนที่อันยิ่งใหญ่ก็ยังมีระบบดังกล่าวที่ว่ามาให้เล่นได้ไม่รู้จบหรือแม้กระทั่ง Just Cause 3 เองที่เพิ่งวางจำหน่ายไปก็จะเน้นไปที่ความแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผาตึกมากกว่าความกว้างใหญ่ของแผนที่
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเกมที่มีขนาดแผนที่ใหญ่ ๆ เพียงอย่างเดียวจะไม่ดีแต่ถ้าไม่นำจุดเด่นอื่น ๆ มาเสริมมันก็จะกลายเป็นเกมที่น่าเบื่อในไม่ช้าแต่กลับกันบรรดาเกมที่มีจุดเด่นอื่นที่นอกจากขนาดแผนที่แล้วจะมอบความสนุกให้แก่เกมเมอร์มากกว่าและต่อให้เล่นจนจบเนื้อเรื่องก็ยังสามารถหยิบมาเล่นต่อได้เรื่อย ๆ อยู่ดี ดังนั้นแล้วอาจจะบอกได้ว่าเกม Open World ในปัจจุบันนั้นเรื่องขนาดแผนที่จะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอีกต่อไปแต่เป็นการพัฒนาระบบเกมเพลย์และสภาพบรรยากาศภายในเกมที่สมจริงดูมีชีวิตชีวาต่างหากที่มีความสำคัญมากกว่าครับ
ที่มา : PCGAMER