คำว่า ซอมบี้ ในปัจจุบันนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางด้วยเสน่ห์ของมันที่สามารถฟื้นจากความตาย แพร่กระจายเชื้อได้และความดุร้ายอันบ้าคลั่งของมันจึงทำให้หลาย ๆ คนหลงไหลได้ไม่ยากซึ่งในวงการเกมก็มีเกมแนวซอมบี้มากมายถูกพัฒนาออกมาให้ได้เล่นเช่นกันและในวันนี้เราจะมาดูว่ามีเกมไหนกันบ้างที่จัดว่าเป็นเกมซอมบี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดโดยรวบรวมมาทั้งสิ้น 10 เกมครับ
Resident Evil
เมื่อพูดถึงซอมบี้ก็ต้องนึกถึงเกมนี้เป็นเกมแรกแน่นอนด้วยความสยองของผีดิบกับเหล่าสัตว์ประหลาดกลายพันธ์ในคฤหาสน์ขนหัวลุกเชื่อได้เลยว่าใครที่เล่นเกมนี้มาก่อนจะต้องเสียวสันหลังวาบและไม่กล้าเล่นคนเดียวกันทุกคนซึ่งนอกจากความสยองขวัญที่ไม่มีกั๊กแล้วระบบการเล่นในสมัยนั้นจัดว่าแน่นปึ้กเลยทีเดียวและที่สำคัญจำนวนไอเท็มหรือกระสุนปืนนั้นมีจำกัดการที่จะยิงอะไรจำเป็นต้องคิดให้ดีเสียก่อนจึงทำให้ Resident Evil มีความยากระดับโหดหินเกมหนึ่งเลยทีเดียว
Resident Evil 4
เกมภาคต่อของ Resident Evil ที่ในภาคนี้จะมีความแตกต่างจากภาคที่ผ่านมาเยอะทีเดียวเพราะตัวซอมบี้นั้นจะเกิดจากไวรัสพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า “พลากัส” โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Leon S. Kenedy มีภารกิจหลักคือตามหาลูกสาวของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและ Leon จะต้องเผชิญกับความลับของหมู่บ้านสุดสยอง ถึงแม้ว่าในภาคที่ 4 จะมีเนื้อเรื่องค่อนข้างออกทะเลบวกกับไดอะล็อกสุดเชยก็ตามแต่จุดเด่นของภาคนี้จะอยู่ที่ตัวหมู่บ้านที่มีการออกแบบอันน่ากลัวเหมือนว่าเราเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งกับบรรดาผู้ติดเชื้อที่มีรูปลักษณ์ที่น่าสยดสยองกว่าเดิมและรวมไปถึงมีสัตว์ประหลาดแปลก ๆ ที่เป็นมินิบอสให้ผู้เล่นต้องปราบด้วย
Left 4 Dead 2
ภาคต่อของเกมยิงผีดิบที่ดังเปรี้ยงปร้างไปเมื่อปี 2008 จนได้รับไฟเขียวให้สร้างภาคต่อในปีถัดมาโดยจะเล่าเรื่องถึงกลุ่มผู้รอดชีวิต 4 คนกลุ่มใหม่ที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพผีดิบความเร็ว 4 x 100 มีระบบการเล่น Co-op เหมือนเดิมแต่ในภาคที่สองก็ได้มีลูกเล่นใหม่ ๆ เพิ่มเติมไม่ให้เกิดความจำเจเช่นแผนที่ใหม่ , อาวุธใหม่เร้าใจกว่าเดิม (กระทะ , ไม้เบสบอล , กีต้าร์ไฟฟ้า) , เนื้อเรื่องที่เข้มข้นโดยมีการเชื่อมต่อกับภาคแรกอย่างลงตัวและในบางภารกิจผู้เล่นก็จะได้เห็นตัวละครจากภาคแรกมาร่วมแจมด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า Left 4 Dead 2 จึงมีอะไร ๆ ที่สนุกกว่าภาคแรกเยอะ
Plants vs. Zombies
แม้ซอมบี้จะดูน่าเกลียดน่ากลัวแต่นั่นคงไม่ใช่กับเกมนี้ที่ผู้พัฒนา PopCap ได้ออกแบบเหล่าซอมบี้ได้น่ารักน่าชังกับเกมแนว TD (Tower Defense) ซึ่งจะให้ผู้เล่นเป็นชาวไร่ปลูกผักผลไม้เพื่อรับมือกับกองทัพซอมบี้ที่บุกมาหลังบ้านของคุณ โดยข้อเด่นของเกมนี้คืออาวุธของคุณจะเป็นพืชผักผลไม้มีความสามารถแตกต่างกันไปและในขณะเดียวกันถ้าหากเล่นไปเรื่อย ๆ พวกซอมบี้ก็จะมีรูปร่างและความสามารถใหม่ดาหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ อีกด้วย กราฟิกของเกมก็ถูกออกแบบมาให้น่ารักสดใสเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยจึงไม่แปลกเลยที่ Plants vs. Zombies จะครองใจผู้เล่นจนมีภาคสองเข็มออกมาให้ติดกันงอมแงม
The Walking Dead
เป็นเกมที่มอบความสนุกปนสยองได้ดีไม่แพ้ทีวีซีรี่ส์ต้นฉบับด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเกมเพลย์ที่มอบทางเลือกได้อิสระทำให้เนื้อหาในเกมสามารถเปลี่ยนไปตามการกระทำของผู้เล่นและความดราม่าอันเป็นจุดเด่นของซีรี่ส์นี้ก็ยังทำได้ดีเยี่ยมและถ้าหากใครที่ชอบซีรี่ส์ The Walking Dead ก็ต้องชอบเกมนี้ด้วยเช่นกันครับ
Project Zomboid
ท่ามกลางเกมซอมบี้มากมายที่ส่วนมากมักจะเป็นเกมเดินยิงแต่ Project Zomboid เลือกที่จะต่างออกไปด้วยสไตล์การเล่นแบบ RPG เอาชีวิตรอดกับเนื้อหาเกมที่เล่าถึงเหตุการณ์ซอมบี้ครองโลกและผู้เล่นเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่จะต้องเอาตัวรอดจากซอมบี้ให้ได้ในแต่ละวัน ตัวเกมมีบรรยากาศที่สร้างความกดดันได้ดีมีเสียงประกอบภายในเกมชวนสยองหรือเสียฝีเท้าของซอมบี้ที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะโผล่มาจากไหนและด้วยความที่เกมเป็น RPG นี้เองผู้เล่นก็จะสามารถเดินทางเก็บไอเท็มตามบ้านร้างเพื่อให้มีชีวิตต่อไปหรือจะสร้างที่พักชั่วคราวปลูกผักประทังชีวิตรวมไปถึงเลือกคลาสอาชีพก็สามารถทำได้ จุดเด่นเกมนี้อีกอย่างก็คือความสมจริงโดยที่ผู้เล่นสามารถตายได้นอกจากโดนซอมบี้กัดเช่นการเจ็บป่วย , อดอาหาร , บาดเจ็บ เป็นต้น แต่จะมีข้อเสียตรงที่กราฟิกจะไม่สวยเท่าไหร่นักครับ
House of the Dead
อีกหนึ่งเกมในตำนานที่ถูกพอร์ตทั้งใน PC และในรูปแบบเกมตู้หยอดเหรียญที่มอบความสยองขวัญสั่นประสาทที่ผู้เล่นจะต้องผจญภัยในคฤหาสน์ลึกลับและต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผีดิบสุดโหด ด้านเกมเพลย์ก็ไม่มีอะไรมากเป็นเกมแนวแอ็คชั่นชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่หนึ่งแต่จุดเด่นของมันอยู่ที่เอฟเฟ็กต์จัดว่าฮาร์ดคอร์เลยทีเดียวเพราะมีเลือดสาดแขนขาขาดได้รวมไปถึงมีบอสให้จัดการเป็นด่าน ๆ อีกด้วยและเชื่อเถอะว่าแม้จะเป็นเกมแอ็คชั่นชู้ตติ้งธรรมดาแต่ถ้าลองแล้วจะต้องติดใจจนวางไม่ลงเลยหล่ะ
Typing of the Dead
เป็นเกมที่มีความแหวกแนวกว่าเกมซอมบี้อื่น ๆ ทั่วไปกับเกมเพลย์ที่จะให้ผู้เล่นฆ่าศัตรูได้ด้วยการพิมพ์คำที่กำหนดมาให้ฉะนั้นแล้วอาวุธคู่ใจของผู้เล่นจะไม่ใช่ปืนกระบอกโตอานุภาพรุนแรงแต่เป็นคีย์บอร์ดและความเร็วของนิ้วผู้เล่นต่างหากที่เป็นอาวุธที่แท้จริงตัวเกมจะมี 9 ด่านให้พิชิตและมีโทนเรื่องที่คล้ายคลึงกับ House of the Dead งานนี้ใครที่ทำงานสายพิมพ์ดีดหรือแม่นคำศัพท์ภาษาอังกฤษบอกได้เลยว่าหวานหมูแน่นอนครับ
Dead Rising 2
ภาคต่อของเกมเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ที่แฝงไปด้วยความฮาเกมนี้ก็จะรูปแบบการเล่นที่เหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือมุกฮา ๆ ที่แฝงมาตลอดทั้งเกม มีภารกิจหลัก/รองให้ต้องทำและแข่งขันกับเวลาซึ่งก็สร้างความกดดันได้ดีรวมทั้งอาวุธก็จะมีให้เลือกผสมกันหลากหลายหรือสิ่งของบางชิ้นก็สามารถแปลงอาวุธตบหัวซอมบี้ให้กระจุยได้แบบไม่น่าเชื่อและด้วยเนื้อหาที่เครียดผสมกับความฮานี้ก็ทำให้ Dead Rising 2 เป็นเกมยอดฮิตติดลมบนของบรรดาเกมเมอร์ขาซอมบี้เกมหนึ่งเลยทีเดียวเชียว
Dying Light
สำหรับเกมสุดท้ายที่จะพูดถึงก็ต้องยกให้เกมตะลุยซอมบี้ฟรีรันนิ่งอย่าง Dying Light ที่มาในเกมแนว Open World ตามฉบับของเกมสมัยนี้แต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างจากเกมอื่นมากพอสมควรที่มีเกมเพลย์สุดมันส์จัดการซอมบี้ไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวในลักษณะปากัวร์หรือฟรีรันนิ่ง มีระบบผสมไอเท็มจนได้อาวุธแปลก ๆ ทรงอานุภาพ ความสามารถของซอมบี้จะเปลี่ยนไปตามระบบกลางวัน-กลางคืนหรือในส่วนของ Multiplayer ก็ทำออกมาได้มันส์ไม่แพ้กันและที่สำคัญผู้เล่นสามารถเลือกเป็นฝ่ายซอมบี้ไล่งับคนได้และด้วยความเร็วของซอมบี้ในเกมนี้จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าความตายมันอยู่แค่เอื้อมจริง ๆ
ที่มา : PCGAMER