Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

HGST นำเสนอฮาร์ดดิสก์เทคโนโลยี Helium-filled ความจุ 10 TB ตัวแรกของโลก

ถึงแม้ว่าช่วงนี้แหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD จะมาแรงและเริ่มมีราคาถูกลงมากกว่าเดิมแล้วแต่ฮาร์ดดิสปกติทั่วไปก็ยังคงมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ครับ ปัจจัยส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ราคาต่อความจุของฮาร์ดดิสแบบธรรมดานั้นมีราคาถูกกว่าแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD อยู่มาก ในตลาดนั้นมีผู้ผลิตหลายเจ้าด้วยกันที่ยังคงพัฒนาฮาร์ดดิสแบบธรรมดาอยู่แต่ที่เราได้เห็น(และวางจำหน่ายในเมืองไทยอย่างกว้างขวาง) ก็จะมีอยู่ 2 เจ้าด้วยกันคือ Seagate และ Western Digital ครับ

Advertisement

ultrastar-he10-600

ล่าสุดทาง HGST บริษัทลูกของ Western Digital ได้ทำการเปิดตัวฮาร์ดดิสเทคโนโลยี helium-filled ความจุ 10 TB ของโลกสำหรับการใช้งานทั่วไปในชื่อรุ่น Ultrastar He10 ครับ ซึ่งในการเปิดตัวครั้งนี้ของทาง HGST นั้นถือได้ว่าเป็นการตัดหน้า Seagate ที่ยังคงย่ำอยู่กับฮาร์ดดิสความจุ 8 TB เท่านั้น สำหรับจุดเด่นของ Ultrastar He10 นั้นก็มีด้วยกันอยู่ 2 ประการได้แก่การที่มันเป็นฮาร์ดดิสที่ถูกผนึกอย่างแน่นหนาและภายในเต็มไปด้วยก๊าซฮีเลียมซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่สำหรับฮาร์ดดิสและมันมาพร้อมกับจานหนาจำนวน 7 จาน(platters) ในขณะที่ตัวฮาร์ดดิสรุ่น Ultrastar He10 นั้นยังคงมีขนาดความสูงเท่าเดิมคืออยู่ที่ 25.4 mm(หรือ 1 นิ้ว) ตามมาตรฐานฮาร์ดิสปกติทั่วไปครับ

seagate-smr-vs-conventional-hard-drive-writing 600

PMR vs. SMR

จานแต่ละจานบน Ultrastar He10 นั้นยังมาพร้อมกับความน่าประทับใจอีกด้วยครับ เพราะแทนที่มันจะใช้เทคโนโลยี shingled magnetic recording (SMR) เพื่อที่จะทำการเพิ่มความจุให้มากขึ้นด้วยการวางจานเก็บข้อมูลซ้อนๆ กัน และใช้วิธีการเขียนข้อมูลในรูปแบบของแนวตั้งลงมาตาม Track ซึ่งถึงจะเพิ่มขนาดความจุได้มากขึ้นแต่ความเร็วในการเขียนข้อมูลจะต่ำลง(ดังรูปข้างบน) แต่ Ultrastar He10 นั้นกับมาพร้อมกับเทคโนโลยี perpendicular magnetic recording (PMR) แบบธรรมดาตามมาตรฐานของฮาร์ดดิสที่ใช้กันมาตั้งแต่ในปี 2005

ข้อดีของเทคโนโลยี PMR ก็คือแต่ละจานข้อมูลนั้นจะสามารถที่จะมีองค์ประกอบที่เอามาใช้ในการป้องกันจานได้ และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการที่มันใช้หลักการเขียนข้อมูลตามแนวนอนไปตามส่วนของจานแต่ละ Track(เขียนไปเรื่อยๆ ทีละจานจนเต็มแล้วค่อยย้ายไปเขียนจานใหม่ต่อไป) ทำให้ความเร็วในการเขียนข้อมูลนั้นจึงมากกว่าเทคโนโลยีแบบ SMR แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยี PMR ก็คือด้วยการที่มันมาพร้อมกับองค์ประกอบสำหรับป้องกันจานในแต่ละจานทำให้ไม่สามารถที่จะทำการเพิ่มขนาดความจุของฮาร์ดดิสที่ใช้เทคโนโลยีนี้ได้มากนัก(อยู่ในช่วง 100 Gb – 1000 Gb ต่อตารางนิ้ว) แต่ตอนนี้ทาง HGST ก็สามารถทะลุข้อจำกัดดังกล่าวได้แล้วครับ

หมายเหตุ – ข้อเสียของเทคโนโลยี SMR ก็คือการที่มันใช้วิธีเรียงจานต่อเนื่องกันโดยไม่มีอะไรมาป้องกันระหว่างจาน ทำให้ในการใช้งานจริงนั้นฮาร์ดดิสที่มาพร้อมกับการเรียงจานแบบเทคโนโลยี SMR ไม่เหมาะกับการเปิดใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลาทุกวัน

hgst-he10-ultrastar- 600 01

ทั้งนี้ Ultrastar He10 จะมีวางจำหน่ายแบ่งออกมาเป็นหลายๆ รุ่นด้วยกันครับ โดยแต่ละรุ่นก็จะมีรายละเอียดของประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามภาพที่แสดงทางข้างบนนี้ ในส่วนของราคานั้นทาง HGST ยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแต่หากเทียบกับฮาร์ดดิสที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี helium-filled อย่างรุ่น He8 ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ราวๆ £400 หรือประมาณ 21,675 บาทแล้ว Ultrastar He10 นั้นน่าจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ £600 หรือประมาณ 32,500 บาทครับ

หมายเหตุ – เมื่อเทียบราคาของฮาร์ดดิสขนาด 8 TB ของ Seagate ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี SMR แล้วถือว่าแพงพอควรครับเพราะของ Seagate นั้นมีราคาอยู่ที่ราวๆ £170 หรือประมาณ 9,200 บาทเท่านั้น

หมายเหตุ 2 – นอกเหนือไปจากเทคโนโลยี PRM แล้วเทคโนโลยีของฮาร์ดดิสในยุคต่อไปที่น่าจะถูกนำมาใช้กันก็คือ heat-assisted magnetic recording หรือ HAMR ซึ่งทั้งทาง Seagate และ HGST กำลังดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีนีอยู่ครับ ทั้งนี้เทคโนโลยี HAMR นั้นจะใช้เลเซอร์ในการเพิ่มความร้อนไปยังพื้นที่เล็กๆ บนฮาร์ดดิสที่กำลังมีการเขียนข้อมูลอยู่ โดยความร้อนนั้นจะไปทำให้อนุภาคแม่เหล็กบนจานเกิด superparamagnetic effect ในช่วงเวลาสั้นๆ

hamr-diagram-hgst 600

ด้วยวิธีการ HAMR นั้นจะทำให้สามารถทำการเก็บข้อมูลกับอนุภาคแม่เล็กในขนาดเล็กลงกว่าเดิมได้และเป็นผลให้ขนาดของความจุเพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังมีปัญหาอยู่ครับเพราะกระบวนการในลักษณะนี้นั้นจะก่อให้เกิดปรากฎการณ์ Superparamagnetism ที่น่ารำคาญขึ้นมาได้ ตัวอย่างของปัญหาจากปรากฎการณ์นี้ก็คือบางที binary ที่เราเก็บไว้เป็น 0 อาจจะกลับกลายเป็น 1 แบบสุ่มโดยที่เราไม่รู้ตัวขณะใช้งาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลขึ้นได้ครับ

ที่มา : arstechnica

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

PR-News

ในยุคดิจิทัลที่คึกคักของเรา ที่ขนาดของข้อมูลและความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมีความสำคัญ ก็มีคลังของความทรงจำในยุคอนาล็อก โดยเฉพาะช่วงเวลาแสนอบอุ่นในอดีตและความรักกุ๊กกิ๊กสมัยมัธยม ยุคที่เรามักจะบันทึกความทรงจำต่าง ๆ ไว้บนฟิล์มภาพถ่ายและล้างอัดภาพออกมา เราต่างก็เก็บภาพเหล่านั้นไว้ในอัลบั้มรูป เรียกว่าเป็นสิ่งยืนยันความรักและความไร้เดียงสาในช่วงวัยใส แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีก็นำเราเข้าสู่โลกดิจิทัลที่ความทรงจำของเราไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภาพที่พิมพ์ออกมา แต่เปลี่ยนมาเก็บในรูปแบบดิจิทัลแทน ด้วยโซลูชันนวัตกรรมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจาก เวสเทิร์น ดิจิตอล (Western Digital) และแซนดิสก์ (SanDisk) ทำให้ตอนนี้เราสามารถเรียกความทรงจำอันหวานชื่นในยุคอนาล็อกของเราให้มาอยู่ในยุคดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ และเราสามารถที่จะเข้าถึงและย้อนกลับไปดูภาพเก่าได้แบบฉ่ำๆ เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของเราAdvertisement อ่านข่าว Western...

PR-News

จจุบันความต้องการในการรับชมคอนเทนต์ที่รังสรรค์ภาพที่คมชัด รวมถึงการผลิตเนื้อหาดิจิทัลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และนี่เป็นปัจจัยที่นำไปสู่การนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้เพื่อรองรับการผลิตและการเสพเนื้อหาที่น่าสนใจอัดแน่นด้วยภาพ เสียง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว

CONTENT

HDD หรือแหล่งเก็บข้อมูลแบบจานหมุนยังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่พอใช้ไปนานๆ แล้วกลับช้าลงอย่างเห็นได้ชัด มาดูกันว่าจะมีโปรแกรมอะไรบ้างช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกับ HDD ได้บ้าง แม้ว่าในปัจจุบันเราๆ ท่านๆ จะเปลี่ยนมาใช้แหล่งเก็บข้อมูลแบบ Solid state drive(SSD) หรือแหล่งเก็บข้อมูลแบบที่ใช้ชิปหน่วยความจำ(NAND) กันมากขึ้นเพราะความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงมากกว่าแหล่งเก็บข้อมูลแบบจานหมุนหรือ Hard disk drive(HDD) แต่ก็ไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้เลยว่ายังคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้งานแหล่งเก็บข้อมูลแบบ HDD อยู่ในปัจจุบัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากราคาต่อพื้นที่ความจุเฉลี่ยของ HDD นั้นคุ้มค่ากว่า...

CONTENT

ระบบปฎิบัติการ Windows นั้นมีฟีเจอร์การบีบอัดพื้นที่บน Harddisk มานานหลายยุคหลายสมัย ทว่าหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าฟีเจอร์นี้มีอยู่ ลองมาดูกันว่าฟีเจอร์นี้คืออะไรและควรทำหรือไม่ การบีบอัดไดรฟ์ระบบปฏิบัติการเป็นวิธีประหยัดพื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ การลดขนาดไฟล์ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น เนื่องจากไดรฟ์ OS มักจะมีซอฟต์แวร์ที่อัดแน่นไปด้วยทรัพยากร, ไฟล์ปรับแต่งและโค้ดที่ซ้ำกัน ผู้คนจึงตั้งทฤษฎีว่าการบีบอัดไดรฟ์ OS อาจทำให้พื้นที่ว่างจำนวนมากขึ้นและด้วยระบบไฟล์บีบอัดแบบโปร่งใส(Transparent Compression) ผู้ใช้จึงสามารถใช้ไฟล์ของตนได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องบีบอัดและขยายขนาดด้วยตนเอง ดังนั้นคุณควรบีบอัดไดรฟ์ OS ของคุณหรือไม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องคืออะไร และการบีบอัดแบบโปร่งใสหมายถึงอะไร...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก