ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นถือว่าเป็นปีทีเด็ดของ Huawei ก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีของการก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดจำหน่ายอันดับหนึ่งของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีนแทน Xiaomi แถมยอดจำหน่ายของ phablet อย่าง Mate 7 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้วนั้นก็สูงถึง 5 ล้านเครื่องทั่วโลก(เทียบกับเป้าหมายในตอนแรกที่ Huawei หวังไว้แค่ 1 ล้านเครื่องทั่วโลก) ไหนจะรุ่นน้องอย่าง Mate S ที่มีขนาดหน้าจอลดลงมาหน่อยอยู่ที่ 5.5 นิ้วก็ยังทำยอดจำหน่ายได้อยู่เรื่อยๆ อีก ทาง Huawei จึงเห็นว่าช่องทางของ phablet ที่มีขนาดหน้าจอ 6 นิ้วนั้นน่าจะไปได้อีกไกลครับ
Huawei Mate 8
เพื่อเป็นการยืนยันว่าบริษัทคิดแบบนั้นจริงๆ ทาง Huawei จึงได้ทำการเปิดตัว phablet รุ่นใหม่ของทางบริษัทเองในซีรีส์ Mate อย่าง Huawei Mate 8 ซึ่งยังคงเป็น phablet ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6 นิ้วออกมาสานต่อความสำเร็จของ Mate 7 ครับ สำหรับสเป็คของ Huawei Mate 8 นั้นก็เรียกได้ว่าจัดเต็มเหมือนเดิมดังต่อไปนี้ครับ
- หน้าจอขนาด 6 นิ้ว panel แบบ PS-NEO LCD รองรับความละเอียดที่ระดับ 1080p และครอบคลุมความกว้างของโทรสี NTSC ถึง 95%
- กระจกหน้าจอเป็นแบบโค้ง 2.5D (โดยจะเป็นกระจกกันรอยเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass 4)
- ชิปเซ็ท HiSilicon Kirin 950 octa-core(4 x Cortex-A72 ที่ความเร็วสูงสุด 2.53 GHz และ 4 x Cortex-A53 ที่ความเร็วสูงสุด 1.8 GHz) ผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการผลิต 16 nm FinFET ใหม่(โดยชิปเช็ทรุ่นนี้มีโมเด็ม LTE Cat 6 ฝังอยู่ภายในด้วย)
- ชิปกราฟิก ARM Mali-T880 MP4 รุ่นล่าสุด
- ระบบสแกนลายนิ้วมือทางด้านหลังของตัวเครื่อง(เป็นรูปกลมทางด้านล่างของกล้องหลัง) โดยจะมีความสามารถเหนือกว่าระบบสแกนลายนิ้วมือของ Mate 7 คือสามารถอ่านลายนิ้วมือได้แบบ “Level 3 Detail”
- กล้องหลังความละเอียด 16 MP ซึ่งใช้ image signal processor ของทาง Huawei เองและมีระบบ optical image stabilization(OIS) กันภาพสั่น มีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ F/2.0
- กล้องหน้าความละเอียด 8 MP พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ F/2.4
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยี fast charging โดยสามารถชาร์จได้ 37% ในเวลาเพียงแค่ 30 นาที
- มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย Huawei Emotion UI 4.0
- จะมีวางจำหน่ายทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Champagne Gold, Moonlight Silver, Space Gray และ Mocha Brown
- รองรับการใช้งาน SIM Card ได้ 2 Sim โดยผู้ใช้สามารถที่จะเลือกใช้ SIM เดียวแล้วอีกช่องใส่ microSD Card แทนเพื่อเพิ่มขนาดแหล่งเก็บข้อมูลก็ได้(สนับสนุนมากสุดที่ 128 GB)
- ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 157.1 x 80.6 x 7.9 mm
- น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 185 g
ทั้งนี้ตามข้อมูลนั้นระบุเอาไว้ว่า Huawei จะปล่อย Mate 8 ให้ผู้ใช้ในประเทศจีนได้ใช้งานก่อน โดยหลังจากนั้นในงาน CES 2016 ช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ก็จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ(แบบทั่วโลก) ในส่วนของราคาวางจำหน่ายนั้น Huawei Mate 8 ได้แบ่งเป็นรุ่นย่อยตามขนาดของแหล่งเก็บข้อมูลภายในและขนาดหน่วยความจำ(RAM) ดังนี้ครับ
- รุ่นหน่วยความจำขนาด 3 GB และแหล่งเก็บข้อมูลภายในความจุ 32 GB มีราคาเปิดตัวที่ 2,999 หยวนหรือประมาณ 16,800 บาท
- รุ่นหน่วยความจำขนาด 4 GB และแหล่งเก็บข้อมูลภายในความจุ 64 GB มีราคาเปิดตัวที่ 3,699 หยวนหรือประมาณ 20,700 บาท
- รุ่นหน่วยความจำขนาด (RAM) 4 GB และแหล่งเก็บข้อมูลภายในความจุ 128 GB มีราคาเปิดตัวที่ 4,399 หยวนหรือประมาณ 24,700 บาท
หมายเหตุ – ทั้งนี้ได้มีผลหลุดการทดสอบของ Huawei Mate 8 ด้วยแอปพลิเคชันทดสอบชื่อดังอย่าง Antutu ออกมาแล้ว ซึ่ง Huawei Mate 8 นั้นสามารถทำคะแนนได้สูงถึง 79,000 คะแนนเลยครับ(มากกว่า Samsung Galaxy S6 และ Note 5 แต่หากคิดว่า Mate 8 เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับปี 2016 แล้วนั้นก็ถือว่าคะแนนยังน้อยกว่าสมาร์ทโฟนของทาง Samsung ที่ใช้ชิปเซ็ท Exynos 8 รุ่นใหม่ซึ่งมีข่าวหลุดออกมาเหมือนกันว่าทำคะแนนพุ่งเกิน 100,000 คะแนนไปเป็นที่เรียบร้อยครับ)