Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

DisplayMate เผยผลการวิเคราะห์หน้าจอพบ iPad mini 4 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า iPad Pro เสียอีก

ในเมื่อออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้สักพักแล้วทาง DisplayMate ก็ต้องนำเอาแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple อย่าง iPad Mini 4 กับ iPad Pro มาผ่านห้องปฎิบัติการเพื่อทำการทดสอบกันหน่อย

ในเมื่อออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้สักพักแล้วทาง DisplayMate ก็ต้องนำเอาแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple อย่าง iPad Mini 4 กับ iPad Pro มาผ่านห้องปฎิบัติการเพื่อทำการทดสอบกันหน่อยครับว่าหน้าจอของแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นนั้นเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นเก่าอย่าง iPad Air 2 ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ในปี 2014 นั้นจะมีประสิทธิภาพการใช้งานในด้านต่างๆ ของหน้าจอดีขึ้นกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลที่ออกมานั้นผิดคาดครับเนื่องจาก iPad Mini 4 ที่มีขนาดหน้าจอเล็กสุดนั้นได้ผลการทดสอบดีกว่า iPad อีกทั้ง 2 รุ่นครับ

iPad-Pro-Trio 600

Advertisement

ภาพจากซ้ายไปขวา : iPad Mini 4, iPad Air 2 และ iPad Pro

จากผลการทดสอบของทาง DisplayMate ที่ได้เปิดเผยออกมานั้นพบว่าหน้าจอของ iPad Mini 4(ที่วางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาก่อน iPad Pro) ได้ผลการทดสอบในทุกๆ ด้านเป็น “Best” หรือ “ดีที่สุด” ครับ จะเว้นก็แต่ในการทดสอบเรื่องของ contrast ratio(อัตราส่วนของหน้าจอ) ที่ได้ผลการทดสอบเป็น “Very Good” หรือ “ดีมาก” เท่านั้น

ทาง Raymond Soneira ประธานของ DisplayMate ได้อธิบายไว้ว่าหากเทียบหน้าจอของ iPad Mini 4 กับแท็บเล็ตเครื่องอื่นๆ แล้ว Mini 4 นั้นทำลายบันทึกการทดสอบในด้านความถูกต้องของสี(color accuracy), อัตราความคมชัด(contrast rating) ภายใต้แสงของสภาวะแวดล้อมที่มากและอัตราการการสะท้อนของหน้าจอ(screen reflectance) ลงได้ทั้งหมด ทั้งๆ ที่ Mini 4 นั้นเป้นแท็บเล็ตที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $399 หรือประมาณ 14,400 บาทเท่านั้น ทำให้ Mini 4 นั้นเป็นแท็บเล็ตสำหรับการอ่านหนังสือที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก(เมื่อเทียบกับหน้าจอแบบ LCD)

Soneira ได้บอกเอาไว้ครับว่าหากหน้าจอขนาด 7.9 นิ้วเพียงพอต่อความต้องการของคุณแล้วหล่ะก็ iPad Mini 4 ถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตหน้าจอเทคโนโลยี LCD ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียวครับ(ซึ่งในคำกล่าวนี้ไม่ได้ไปเปรียบเทียบกับหน้าจอ Super AMOLED บน Samsung Galaxy Tab S และ S2 นะครับ)

iPad Pro Preview NBS-3

มาถึงคิวของ iPad Pro แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ 12.9 นิ้วซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตออกมานั้น จากการทดสอบของห้องปฎิบัติการของ DiaplayMate ทาง Soneira ได้บอกเอาไว้ว่าผลการทดสอบหน้าจอของ iPad Pro จะอยู่ในระดับ “Very Good” หรือ “ดีมาก” ไปจนถึง “Excellent” หรือ “ดีเยี่ยม” ในทุกๆ การทดสอบเท่านั้น ไม่สามารถที่จะก้าวไปถึงระดับ “Best” หรือ “ดีที่สุด” เหมือนกับที่ iPad Mini 4 สามารถทำได้ทั้งๆ ที่ในเรื่องของความละเอียดหน้าขอของ iPad Pro นั้นสูงกว่าครับ(อยู่ที่ 2732 x 2048 pixels ส่วน iPad Mini 4 อยู่ที่ 2048 x 1536 pixels)

หมายเหตุ – คะแนนในเรื่องของความละเอียดหน้าจอนั้น DisplayMate ให้ iPad Pro และ iPad Mini 4 อยู่ที่ระดับ “Very Good” หรือ “ดีมาก” เท่ากัน

จากการทดสอบของ DisplayMate นั้นพบว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว iPad Pro จะได้คะแนนตามหลัง iPad Mini 4 ครับ จะเว้นก็แต่ในส่วนของ true contrast ratio ที่ iPad Pro ได้คะแนนไปมากที่สุดครับเอาชนะ iPad Mini 4 ไปได้ ทว่า iPad Pro นั้นก็มีจุดเสียใหญ่ๆ ที่ทำประสิทธิภาพได้ไม่ดีมากนักอยู่ 2 กลุ่มด้วยกันครับ กลุ่มแรกก็คือในส่วนของ intensity scale(การควบคุมการแสดงสีแดง, เขียวและน้ำเงินเพื่อผสมเป็นสีอื่นๆ ในการแสดงผลทางหน้าจอ) ซึ่งพบว่าคะแนนที่ได้นั้นต่ำกว่า iPad Air 2 ซะอีกครับ

iPad Pro Preview NBS-4

สำหรับกลุ่มที่สองก็คือ absolute color accuracy(ความถูกต้องแน่นอนของการแสดงสี) ที่ถึงแม้ว่า iPad Pro จะสามารถทำคะแนนเอาชนะ iPad Air 2 ไปได้ ทว่า iPad Mini 4 นั้นกลับทำคะแนนได้ดีกว่าแถมทิ้งห่างไปเยอะพอสมควรด้วยอีกต่างหากครับ ใช่ว่าจะมีการติแต่อย่างเดียวครับ ทาง DisplayMate ได้ชมหน้าจอของ iPad Pro ไว้อยู่ด้วยเหมือนกันเช่นการใช้พลังงานของหน้าจอที่มีประสิทธิภาพ, โลหะออกไซด์ทางด้านหลังก็ทำให้แสงผ่านออกมาทางหน้าจอได้มาก และเทคโนโลยีการลดอัตราการรีเฟรช(refresh rate) ของ iPad Pro นั้นก็ถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียวครับ

ท้ายที่สุด Soneira ก็ได้บอกเอาไว้ว่า iPad Pro ก็ยังเป็นแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ที่เขาเลือกจะแนะนำให้กับผู้ใช้ที่อยากได้แท็บเล็ตขนาดหน้าจอใหญ่อยู่ดี เพราะไม่เพียงแค่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องจะสูงเท่านั้นแต่เมื่อเทียบขนาดพื้นที่ของหน้าจอกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นแล้ว iPad Pro มีขนาดหน้าจอให้ทำงานมากกว่า iPad Air 2 เกือบจะ 2 เท่าและมีขนาดพื้นที่หน้าจอให้ทำงานมากกว่า iPad Mini 4 เกือบ 3 เท่าตัวเลยทีเดียวครับ

หมายเหตุ – ท่านใดสนใจอยากดูคะแนนผลการทดสอบเพิ่มสามารถเข้าไปที่ลิงค์ DisplayMate ได้เลยครับ

ที่มา : cnet

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Mac Corner

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนเป็นใครอยากได้ ว่าด้วยราคาเครื่องจะจ่ายเงินสดรอบเดียวก็ยังได้แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินก้อนเมื่อไหร่ หลายคนจึงเลือกวิธีผ่อนไอโฟนทีละงวดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ถึง 30 เดือนก็มี ตามที่ร้านค้ากับธนาคารเจ้าของบัตรจะทำข้อตกลงกันไว้ ทำให้ลูกค้าได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น และยังไม่รวมแคมเปญอื่นๆ จาก Apple กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละเจ้าเอามาเป็นจุดจูงใจเพิ่มเติมอีกด้วย ข้อดีของการจ่ายเงินผ่อน นอกจากไม่ต้องลงเงินก้อนครั้งเดียวแต่เฉลี่ยจ่ายไปเรื่อยๆ จนครบได้แล้ว ยังมีเครื่องมือทางการเงินอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยแบ่งเบาผู้ใช้ได้อีกมาก ไม่ว่าจะใช้แต้มในบัตรเครดิตหักลดราคาเครื่องก่อนผ่อนชำระได้, กดส่งโค้ดเอาแต้มกับเงินคืนไว้ใช้ในโอกาสอื่นได้ไม่พอ ในยุคนี้บางร้านค้ายังให้ผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อีก เป็นทางเลือกเพื่อคนไม่มีบัตรเครดิตแต่มีเงินในกระเป๋าแบ่งจ่ายค่าเครื่องได้สะดวกไม่แพ้กันAdvertisement ผ่อนไอโฟนวิธีไหนได้บ้าง? ปัจจุบันสามารถผ่อนมือถือได้หลายวิธี...

Mac Corner

พอ Apple เปิดตัว iPhone 16 Series เปิดตัว iPhone 15 ราคาก็ถูกลงตามกลไกการตลาด หลีกทางให้สินค้ารุ่นใหม่และเคลียร์สต็อกสินค้าเก่าไปด้วย ถึงจะตกรุ่นแล้วแต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปเน้น Social network, ถ่ายวิดีโอเก็บภาพความทรงจำและเล่นเกมบ้าง ไม่เน้น Apple Intelligence (AI) ตามสมัยนิยมเอาความแรงตัวชิปเซ็ตเข้าว่า ก็พูดได้ว่าราคาไอโฟน 15 ตอนนี้ก็คุ้มดีแล้วใช้เป็นมือถือเครื่องหลักไปได้อีกหลายปีก่อนจะหมดรอบการอัปเดต iOS...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก