พัฒนากันอย่างต่อเนื่องมาถึงในรุ่นที่สามกันแล้วกับเครื่องเกมมิ่ง PC Barebone ขนาดเล็กจิ๋วที่เล่นเกมได้ลื่นสุดๆ แต่ประหยัดเนื้อที่มากๆ อย่าง MSI Nightblade MI2 ที่ต่อสานต่อความเฟี้ยวของผู้พี่อย่าง Nightblade MI และ Nightblade ได้อย่างเต็มภาคภูมิในหลายๆ แง่มุม
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่เพิ่มเข้ามาเยอะแยะมากมายนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่นแสงสีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจ, พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type C มาตรฐานใหม่ ที่เข้าถึงและถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคยมีมา , ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 Gen 3ที่ส่งให้การเข้าถึงเกม โปรแกรม และซอฟแวร์ได้ทันใจ รวมไปถึงทีเด็ดทีขาดของ MSI Nightblade MI2 ที่ติดตั้งชิปประมวลผล Intel “Skylake” แรม DDR4 และกราฟิกการ์ด GTX970 ตัวแรงรุ่นล่าสุดที่บอกได้เลยว่าเด็ดดวงมาก
VDO Introduce
Specification
สเปคบน MSI NightBlade MI2 ตัวท็อปที่เราได้มาทดสอบ เลือกติดตั้งหน่วยประมวลผลหรือซีพียูในรุ่น Intel Core i7-6700 Processor (8M Cache, up to 4.00 GHz ในตระกูล Skylake ที่กินไฟต่ำเพียง 65 W พร้อมด้วยแรม DDR4 So-Dimm สูงสุด 16GB แบบ Dual Channel (8GBx2) ติดตั้งที่เก็บข้อมูล HDD 1TB 7200RPM และ SSD M.2 128GB ความเร็วสูง และยังสามารถติดตั้งติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟเพิ่มเติมแบบ 3.5 นิ้วได้ถึง 2 ตัว และยังเพิ่มเติม SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ได้อีกหนึ่งอีกด้วย
การเล่นเกมหายห่วงเลยเพราะทาง MSI เลือกติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่รองรับอนาคตของเกมอย่าง DirectX 12 ขับเคลื่อนผ่านกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce GTX970 4GB GDDR5 บนเมนบอร์ด ITX ในชิป B150 ผ่านตัวจ่ายไฟหรือ PSU 350W 80+ Bronze รุ่นพิเศษจาก FSP หายห่วงได้เลยทั้งในแง่ของความแรงความลื่นไหลในการเล่นเกม และหายห่วงได้เลยว่ากำลังไฟจะจ่ายไม่พอ
MSI NightBlade MI มาพร้อมขนาดเล็กกระทัดเพียง 127x 234x 340 มิลลิเมตร (10 ลิตร) เทียบเท่าได้กับ UPS หรือเครื่องสำรองไฟตัวเล็กๆ ตัวนึง แต่เห็นเล็กๆ แบบนี้มาแบบจื๋วแต่แจ๋วเลยละครับ เพราะมีพอร์ตให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังอย่าง 1 x Gaming device port(PS/2) , 2 x USB 2.0 , 1 x Clear CMOS Button , 4 x USB 3.0 , 1 x HDMI , 1 x Displayport , 6 x OFC Audio jacks , 1 x S/PDIF และด้านหน้าอย่าง 1 x USB 3.1 Gen 1 type C , 1 x USB 2.0 , 1 x Mic in / 1 x Headphone out และ Slim DVD พร้อมด้วยการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Intel Wireless-AC 3165 + Bluetooth 4.0 ใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะถ่ายโอนข้อมูลหรือเล่นเกมก็ทำได้ดี
Using Experience
จากในเรื่องสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ กันไปแล้ว เรามาตามต่อในส่วนของรูปร่างหน้าตา ดีไซน์ การออกแบบ และประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI 2 กันยาวๆ เลย โดยในส่วนแรกในเรื่องของการออกแบบ และดีไซน์ของตัวเครื่องที่ยังอ้างอิงพื้นฐานภาพการรวมออกแบบมาจาก MSI Nigitbade MI เครื่องเกมมิ่งขนาดเล็กรุ่นก่อนเป็นหลัก แต่ก็ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดจะเป็นกรอบด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนสีไฟได้แตกต่างจากตัวเดิม ตามแนวโน้มสีจี๊ดๆ ตามสไตล์เกมมิ่ง RGB พร้อมติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อล้ำอนาคตไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type C หรือการเชื่อมต่ออย่าง M.2 SSD Gen 3 และอื่นๆ อีกมากมาย
ตามมาดูในส่วนของหน้ากากของตัวเครื่อง MSI Nigitbade MI2 สีดำที่ตัดด้วยแผงรังผึ้งสีแดงบริเวณมุมด้านล่างและขอบด้านข้าง พร้อมโดดเด่นด้วยโลโก้มังกร Gaming G Series มีไฟแสดงผลสีขาวสวยงาม และยังมีไฟแสดงผลบริเวณด้านหน้าตัวเครื่องที่ปรับได้หลากหลายสีในรูปแบบของเฟดไล่เฉดหรือจะเป็นสีเดียวก็ทำได้
พร้อมกันนั้นด้านหน้าของตัวเครื่องยังใช้งานได้สะดวกผ่าน ODD แบบ DVD Slim โดยฝาหน้าด้านล่างจะทำเว้าเล็กน้อยเพื่อดูดลมเย็นเข้าไปด้วย เช่นกันกับปุ่มเปิด-ปิดรวมถึงพอร์ตต่างๆ หรือ Front Panel I/O จะอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มเปิดเครื่องที่มีไฟแสดงสถานะ , พอร์ต USB 3.1 Type C และ USB 3.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็วม รวมถึงมีพอร์ตหูฟัง และไมค์ด้วยเช่นกัน
การออกแบบด้านขวาและซ้ายของฝาครอบตัวเครื่องจะเป็นลักษณะตัว U กลับหัวบนเหล็กหนาชุบสีดำดูแข็งแรงทนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนของการออกแบบเลย์เอาท์ทาง MSI เลือกที่จะจัดวางแบบกลับหัว เจาะช่องดูดลมเย็นระบายความร้อนแผงรังผึ้งด้านข้างขวา พร้อมมีการเล่นลวดลายปั้มเว้า ปั้มนูนสวยงาม ส่วนด้านฝาบนตัวเครื่องจะเป็นเหล็กชุบดำผิวเรียบไม่มีลวดลาย เช่นเดียวกันกับตัวเคสด้านล่างก็จะเรียบๆ และมียางรองกันลื่น ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องก็มีพอร์ตเชื่อมต่อ I/O Connector ต่างมาให้อย่างครบครันทั้ง 1 x Gaming device port(PS/2) , 2 x USB 2.0 , 1 x Clear CMOS Button , 4 x USB 3.0 , 1 x HDMI , 1 x Displayport , 6 x OFC Audio jacks และ 1 x S/PDIF ที่เห็นบอกได้เลยว่าเล็กพริกขี้หนูดีจริงๆ
ส่องด้านในตัวเครื่อง MSI Nigitbade MI 2 กันต่อ โดยการเปิดฝาเครื่องต้องรูดเปิดฝาข้างทั้งหมดเลื่อนออกทางด้านหลัง ที่จะเห็นการจัดวางโซนนิ่งต่างๆ ได้เป็นสัดเป็นส่วนและชัดเจนมากๆ ถึง 6 โซน ทั้ง โซนระบายความร้อนที่ใช้พัดลมแบบ Silent Storm Cooling เอกสิทธิเฉพาะ MSI , โซนเก็บสายที่เก็บได้อย่างเป็นระเบียบ , โซนภาคจ่ายไฟคุณภาพสูง , โซนที่เก็บข้อมูลทั้งจาก SSD 2.5″ และ HDD 3.5″ , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูงอย่าง GTX 970 และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นจะเป็นการ์ดจอตัวเป้งที่ติดตั้งการ์ดจอ MSI GeForce GTX 970 สีขาวอร่ามตาเด่นเป็นสง่า ผ่าน Riser แนวตั้งแบบแข็ง พร้อมตัวจ่ายไฟแบบ Slim ขนาด 350W มาตรฐาน 80 Plus Bronze จาก FSP รุ่นพิเศษแบบวัตต์ที่เอาสเปคนี้อยู่อย่างสบายๆ
ซึ่งเมื่อรื้อการ์ดจอจากแผง Riser ออกมาจะเห็นสายไฟที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแบ่งเป็นส่วนๆ ไว้อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้นก็จะเห็นแผงแรมที่ใส่ได้หนึ่งแผง รวมไปถึงชุดพัดลมแบบก้นหอยสั่งทำพิเศษระบายความร้อนได้ดีในชื่อ Silent Storm Cooling โดยชุดระบายความร้อนตัวนี้ทำงานผ่านท่อฮีทไปป์ 2 เส้นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อนและเป่าไล่ลมร้อน โดยจะมีพัดลมด้านหน้าเครื่องช่วยทำให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกหนึ่งทาง
ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนของตัวเครื่องจะเห็นที่เก็บข้อมูลในรูปแบบของ Hot Swop แบบถาดที่สามารถใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้ว ได้ 2 ลูกโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณและสายไฟให้ยุ่งยาก ส่วนถัดมาจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับทั้ง SSD และ SSHD ได้ด้วย ซึ่ง MSI Nigitbade MI 2 ตัวนี้พิเศษกว่า MSI Nightblade รุ่นอื่นๆ ที่ผ่านมาเพราะสามารถรองรับ M.2 SSD Gen 3 อีกด้วย (ในเครื่องติดตั้ง SSD M.2 128GB) รวมไปถึงยังรองรับแรม DDR4 แบบ So-DIMM ได้ 2 แผงที่ความจุสูงสุด 8GB x 2 รวมเป็น 16GB ที่เข้าถึงการอัพเกรดทั้ง M.2 และแรมได้จากด้านหลังของเมนบอร์ดครับผม
ประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI 2 รู้สึกได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า MSI Nigitbade MI รวมถึง MSI Nigitbade ตัวก่อนหน้าอยู่บ้างพอสมควร ในแง่ของการเปิดไฟล์ เปิดภาพ เปิดโปรแกรม ด้วยก็เพราะการติดตั้ง SSD แบบ M.2 Gen3 ที่มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลทีรวดเร็วถึง 2200MB/s รวมไปถึงก็ประทับใจในเรื่องของขนาดเครื่องที่เล็กจิ๋วและกระทัดดีเยี่ยมจริงๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้เขียนเองที่อยู่คอนโดไซด์กลางๆ สามารถยกเครื่อง MSI Nigitbade MI 2 ไปต่อเสียบสายเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือไปต่อเล่นเกมผ่านทีวีในห้องนอนทีก็ฟินไม่เบาเลยทีเดียว แถมได้ไฟแบบไล่โทนไล่เฉดสียิ่งแลดูมีพลังสมเป็นเกมมิ่งพีซีเล็กๆ แรงๆ ดีๆ จริงๆ
การใช้ทำงานหรือการเล่นเกมเองกับสเปคขั้นท็อปที่ MSI Nigitbade MI 2 เลือกติดตั้งมาในตัวเครื่องทั้งชิปประมวลผล Core i7-6700 รุ่นล่าสุด , แรม DDR4 มาตรฐานใหม่ และการ์ดจอตัวแรงอย่าง GTX970 เองก็ตอบสนองความบ้าพลังของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับการเล่นเกมผ่านจอโค้งขนาด 34 นิ้วที่ความละเอียดระดับ 3440×1440 พิกเซล ที่สามารถทำได้ลื่นไหนเหลือเชื่อ เล่นเกมปรับ High ได้ทุกเกมเลยละ แต่อาจจะต้องมีปิดฟีเจอร์ปรับลดรอยหยักลงไปบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เช่นกันถ้านำมาเล่นเกมบนความละเอียด Full-HD ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่เพราะ MSI Nigitbade MI 2 ทำได้อย่างดีมากที่ต้องขอบคุณสเปคระดับท็อปๆ ที่ติดมาให้นั่นเองละครับ
ถ้าอยากถ่ายโอนข้อมูล ลงเกม เก็บไฟล์ต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB 3.1 Type C สุดล้ำอนาคตแต่ทาง MSI ดึงอนาคตมาไว้ในปัจจุบัน รวมไปถึงถ้าอยากเชื่อมต่อท่องโลกกว้างก็ทำได้ง่ายๆ ผ่าน Intel Wireless-AC 3165 ได้ด้วยเช่นกัน และถ้าใครกังวลว่าเครื่องเล็กอย่าง MSI Nigitbade MI 2 จะร้อนหรือเปล่า จะเสียงดังหรือไม่นั้นบอกได้เลยว่าหายห่วงเพราะทาง MSI ติดชุดระบายความร้อนอย่าง Silent Storm Cooling ที่รับรองได้ว่าระบายความร้อนได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ส่วนระดับเสียงรบกวนต่างๆ ในขณะใช้งานแทบไม่มีเสียงรบกวนเลย แต่ขณะเล่นเกมหนักๆ จะมีเสียงรบกวนเพิ่มเข้ามาเล็กน้อยจากพัดลมที่มีรอบสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ต้องยอมรับเรื่องการระบายความร้อนและการหมุนเวียนของอากาศ MSI Nigitbade MI 2 ทำได้ดีจริงๆ
เช่นกันกับซอฟแวร์อย่าง MSI Gaming Center เองที่ MSI ติดตั้งมาให้ด้วยที่ปรับแต่งได้หลากหลายและใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการปรับแต่งซอฟแวร์ ระบบเสียงพิเศษอย่าง Nahimic สีภาพ สีไฟ รวมไปถึงประสิทธิภาพของเครื่องได้ด้วย
Performance / Software
มาถึงช่วงทดสบอกันแล้วกับ MSI Nigitbade MI 2 ซึ่ง ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบนั้นจะมีสเปคข้างต้นตามด้านบนเลยครับ
โปรแกรมอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ระบุเอาไว้
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนตามประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามสไตล์สเปคของระบบขั้นกลางสูง
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ HDD 7200RPM ความจุ 1TB ไว้สำหรับเก็บข้อมูล ที่มีความเร็วอยู่ในระดับที่ที่น่าพอใจ
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จาก Transend ความจุ 128GB แบบ M.2 ก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะใช้เป็นตัวติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10
การตั้งค่า : CS:GO – All Very High // GTA 5 – All High // Fallout 4 – All Ultra //
MGSVPP – All High // Dota 2 – Best looking // CS:GO – All Ultra
การเล่นเกมต่างๆ จะเห็นได้ว่าทำได้ดีมาก เพราะแต่ละเกมมีเฟรมเรทที่ทำได้ลื่นไหลพอที่จะเล่นได้บนภาพกราฟิกสวยๆ ความละเอียดระดับ Full HD ปรับสุดได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามถ้าเพื่อนๆ อยากใช้ความละเอียดระดับ 4K UHD ขอแนะนำให้เล่นเกมที่คุณภาพกราฟิกระดับ Medium จะได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีที่สุด
โปรแกรม Benchmark หรือทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมยอมฮิตอย่างชุดทดสอบ 3D Mark สำหรับเพื่อนๆที่อยากเห็นคะแนนครับผม
ส่วนในเรื่องของความร้อนที่หลายๆ คนกังวลบอกได้เลยว่าหายห่วง เพราะจากผลทดสอบด้านในตัว CPU จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความร้อนโดยรวมอยู่ที่ราวๆ 41 องศาฯ แต่ถ้าใช้งานประมวลผลหนักๆ ความร้อนของซีพียูจะไปสูงสุดอยู่ที่ระดับ 74 องศาฯ ซึ่งจัดอยู่ในโซนที่ค่อนข้างปลอดภัยทีเดียว ที่ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับชุดระบายความร้อนนั่นเองละครับ ส่วนตัวการ์ดจอเองก็ชิวๆ เลยเพราะความร้อนสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 81 องศาฯ เท่านั้นเอง เย็นสบายหายห่วง ยิ่งถ้าปรับรอบพัดลมไป 100% ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก
Conclusion / Award
ถือได้ว่า MSI Nigitbade MI 2 เป็นเครื่องเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ Barebone ขนาดเล็กที่ MSI ทำออกมาได้อย่างประทับใจมาก ทั้งในแง่มุมของขนาดของตัวเครื่องที่ยังคงรูปแบบไซด์มินิๆ เล็กๆ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดวาง แต่ก็ไม่ละทิ้งในเรื่องของประสิทธิภาพที่เด็ดและแรงแบบจัดหนักจัดตัดเต็มที่สุดในระดับเดียวกับกับเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ Full Tower กันเลยทีเดียว ด้วยสเปคของระบบอย่างชิปประมวลผล Intel Core i7-6700 รุ่นล่าสุด พ่วงแรม DDR4 มาตรฐานใหม่ รวมไปถึงยังติดตั้งกราฟิกการ์ดเล่นเกมระดับสูงอย่าง GTX970 ทรงประสิทธิภาพแบบเต็มสตรีมส่งผลให้เล่นเกมได้ทุกรูปแบบอย่างลื่นไหนสุดๆ แถมยังเก็บข้อมูลได้หลากหลายและรวดเร็วทั้งจากฮาร์ดไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้ว ที่รองรับได้ถึง 2 ตัว รวมถึง SSD ขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับได้อีก 1 ตัว และที่สำคัญยังสามารถติดตั้ง SSD แบบ M.2 ฟีเจอร์ล้ำอนาคตที่รองรับการอ่านเขียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
เช่นกันกับในแง่ของฟีเจอร์ต่างๆ ที่ MSI Nigitbade MI 2 อัดแน่นมาอย่างเต็มสูบ และพร้อมใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริงไม่ว่าจะเป็นสีไฟหน้ากากที่สวยงามตามสไตล์เกมมิ่ง ปรับเปลี่ยนได้หลายเฉด , พอร์ตเชื่อมต่อมีสายและไร้สายที่หลากหลายและครบครัน , มาพร้อมชุดระบายความร้อน SilentStrom ที่ออกแบบระบายการระบายความร้อนและการไหลเวียนของอากาศได้ดีมาก , มีระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ รวมถึงการออกแบบแปลกใหม่และลงตัวช่วยให้การอัพเกรดและอากาศภายในตัวเครื่องไม่อบอ้าวและถ่ายเทได้ดี ซึ่งในภาพรวม MSI Nigitbade MI 2 ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากและเหมาะสมเป็นเครื่องเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กสำหรับทุกสภาพห้องไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่นหรือห้องไหนๆ ก็สามารถนำ MSI Nigitbade MI 2 เครื่องนี้ไปเล่นเกมแบบเต็มรูปแบบแต่ประหยัดเนื้อที่ในการใช้งานได้อีกด้วย กระนั้นแล้วด้วยการออกแบบและขนาดที่เล็ก แต่มีประสิทธิภาพสูงก็ส่งผลให้มีราคาที่จะสูงด้วยเช่นกัน ซึ่งใครที่งบประมาณสูงพอและอยากได้เครื่องคอมพิวเตอร์เล่นเกมแรงๆเล็กๆ ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน แต่ถ้าเพื่อนมีงบไม่มาก คอมพิวเตอร์ประกอบแบบ ITX ก็พอถูไถได้ในระดับหนึ่งครับ แต่รับรองได้เลยว่าไม่มีเคส หรือคอมพิวเตอร์ประกอบเครื่องไหนๆ รุ่นไหนๆ ที่มีประสิทธิภาพดีและเล็กเท่า MSI Nigitbade MI 2 อย่างแน่นอน เพื่อนๆ ผู้อ่านท่านไหนที่สนใจก็สามารถสอบถามตัวแทนจำหน่าย MSI ชั้นนำทั่วประเทศไทยได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุดูดี งานประกอบเยี่ยม แข็งแรงทนทาน
- หน้ากากสามารถปรับเปลี่ยนสีไฟได้ดั่งใจ
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-6700 พ่วงแรม DDR4 รวมไปถึงยังติดตั้งกราฟิกการ์ดเล่นเกมระดับสูงอย่าง GTX970
- สามารถติดตั้ง SSD แบบ M.2 มาตรฐานใหม่อย่าง Gen 3 ความเร็วสูงถึง 2,200 MB/s
- ขนาดเล็กกระทักรัด เหมาะกับการจัดวางในทุกพื้นที่
- ชุดระบายความร้อน Silent Storm Cooling ที่ออกแบบมาได้ดีมาก และมีการไหลเวียนอากาศดีมาก
- ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type C , USB 3.0 , HDMI , DP และอื่นๆ อีกมามาย
ข้อสังเกต
- ฝาข้าง-ฝาบนตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวกัน ถอดได้ยากสักเล็กน้อย
Award
นับว่า MSI Nigitbade MI 2 เป็นเกมมิ่งพีซีขนาดเล็กที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์และการออกแบบมากๆ ด้วยการคิดค้นและพัฒนาทำให้เกิดเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งแรงๆ บนขนาดที่เล็กกระทัดรัดสมบูรณ์ในทุกแง่มุมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่บอกได้เลยว่าเหล่าเกมเมอร์เห็นแล้วต้องเป็นปลื้มอย่างแน่นอน ยิ่งกับฟีเจอร์ที่ปรับแสงสีของหน้ากากตัวเครื่องด้วยตามสไตล์เกมมิ่งยิ่งทำได้น่าประทับใจมาก
VDO Introduce
Specification
สเปคบน MSI NightBlade MI2 ตัวท็อปที่เราได้มาทดสอบ เลือกติดตั้งหน่วยประมวลผลหรือซีพียูในรุ่น Intel Core i7-6700 Processor (8M Cache, up to 4.00 GHz ในตระกูล Skylake ที่กินไฟต่ำเพียง 65 W พร้อมด้วยแรม DDR4 So-Dimm สูงสุด 16GB แบบ Dual Channel (8GBx2) ติดตั้งที่เก็บข้อมูล HDD 1TB 7200RPM และ SSD M.2 128GB ความเร็วสูง และยังสามารถติดตั้งติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟเพิ่มเติมแบบ 3.5 นิ้วได้ถึง 2 ตัว และยังเพิ่มเติม SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ได้อีกหนึ่งอีกด้วย
การเล่นเกมหายห่วงเลยเพราะทาง MSI เลือกติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่รองรับอนาคตของเกมอย่าง DirectX 12 ขับเคลื่อนผ่านกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce GTX970 4GB GDDR5 บนเมนบอร์ด ITX ในชิป B150 ผ่านตัวจ่ายไฟหรือ PSU 350W 80+ Bronze รุ่นพิเศษจาก FSP หายห่วงได้เลยทั้งในแง่ของความแรงความลื่นไหลในการเล่นเกม และหายห่วงได้เลยว่ากำลังไฟจะจ่ายไม่พอ
MSI NightBlade MI มาพร้อมขนาดเล็กกระทัดเพียง 127x 234x 340 มิลลิเมตร (10 ลิตร) เทียบเท่าได้กับ UPS หรือเครื่องสำรองไฟตัวเล็กๆ ตัวนึง แต่เห็นเล็กๆ แบบนี้มาแบบจื๋วแต่แจ๋วเลยละครับ เพราะมีพอร์ตให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังอย่าง 1 x Gaming device port(PS/2) , 2 x USB 2.0 , 1 x Clear CMOS Button , 4 x USB 3.0 , 1 x HDMI , 1 x Displayport , 6 x OFC Audio jacks , 1 x S/PDIF และด้านหน้าอย่าง 1 x USB 3.1 Gen 1 type C , 1 x USB 2.0 , 1 x Mic in / 1 x Headphone out และ Slim DVD พร้อมด้วยการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Intel Wireless-AC 3165 + Bluetooth 4.0 ใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะถ่ายโอนข้อมูลหรือเล่นเกมก็ทำได้ดี
Using Experience
จากในเรื่องสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ กันไปแล้ว เรามาตามต่อในส่วนของรูปร่างหน้าตา ดีไซน์ การออกแบบ และประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI 2 กันยาวๆ เลย โดยในส่วนแรกในเรื่องของการออกแบบ และดีไซน์ของตัวเครื่องที่ยังอ้างอิงพื้นฐานภาพการรวมออกแบบมาจาก MSI Nigitbade MI เครื่องเกมมิ่งขนาดเล็กรุ่นก่อนเป็นหลัก แต่ก็ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดจะเป็นกรอบด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนสีไฟได้แตกต่างจากตัวเดิม ตามแนวโน้มสีจี๊ดๆ ตามสไตล์เกมมิ่ง RGB พร้อมติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อล้ำอนาคตไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type C หรือการเชื่อมต่ออย่าง M.2 SSD Gen 3 และอื่นๆ อีกมากมาย
ตามมาดูในส่วนของหน้ากากของตัวเครื่อง MSI Nigitbade MI2 สีดำที่ตัดด้วยแผงรังผึ้งสีแดงบริเวณมุมด้านล่างและขอบด้านข้าง พร้อมโดดเด่นด้วยโลโก้มังกร Gaming G Series มีไฟแสดงผลสีขาวสวยงาม และยังมีไฟแสดงผลบริเวณด้านหน้าตัวเครื่องที่ปรับได้หลากหลายสีในรูปแบบของเฟดไล่เฉดหรือจะเป็นสีเดียวก็ทำได้
พร้อมกันนั้นด้านหน้าของตัวเครื่องยังใช้งานได้สะดวกผ่าน ODD แบบ DVD Slim โดยฝาหน้าด้านล่างจะทำเว้าเล็กน้อยเพื่อดูดลมเย็นเข้าไปด้วย เช่นกันกับปุ่มเปิด-ปิดรวมถึงพอร์ตต่างๆ หรือ Front Panel I/O จะอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มเปิดเครื่องที่มีไฟแสดงสถานะ , พอร์ต USB 3.1 Type C และ USB 3.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็วม รวมถึงมีพอร์ตหูฟัง และไมค์ด้วยเช่นกัน
การออกแบบด้านขวาและซ้ายของฝาครอบตัวเครื่องจะเป็นลักษณะตัว U กลับหัวบนเหล็กหนาชุบสีดำดูแข็งแรงทนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนของการออกแบบเลย์เอาท์ทาง MSI เลือกที่จะจัดวางแบบกลับหัว เจาะช่องดูดลมเย็นระบายความร้อนแผงรังผึ้งด้านข้างขวา พร้อมมีการเล่นลวดลายปั้มเว้า ปั้มนูนสวยงาม ส่วนด้านฝาบนตัวเครื่องจะเป็นเหล็กชุบดำผิวเรียบไม่มีลวดลาย เช่นเดียวกันกับตัวเคสด้านล่างก็จะเรียบๆ และมียางรองกันลื่น ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องก็มีพอร์ตเชื่อมต่อ I/O Connector ต่างมาให้อย่างครบครันทั้ง 1 x Gaming device port(PS/2) , 2 x USB 2.0 , 1 x Clear CMOS Button , 4 x USB 3.0 , 1 x HDMI , 1 x Displayport , 6 x OFC Audio jacks และ 1 x S/PDIF ที่เห็นบอกได้เลยว่าเล็กพริกขี้หนูดีจริงๆ
ส่องด้านในตัวเครื่อง MSI Nigitbade MI 2 กันต่อ โดยการเปิดฝาเครื่องต้องรูดเปิดฝาข้างทั้งหมดเลื่อนออกทางด้านหลัง ที่จะเห็นการจัดวางโซนนิ่งต่างๆ ได้เป็นสัดเป็นส่วนและชัดเจนมากๆ ถึง 6 โซน ทั้ง โซนระบายความร้อนที่ใช้พัดลมแบบ Silent Storm Cooling เอกสิทธิเฉพาะ MSI , โซนเก็บสายที่เก็บได้อย่างเป็นระเบียบ , โซนภาคจ่ายไฟคุณภาพสูง , โซนที่เก็บข้อมูลทั้งจาก SSD 2.5″ และ HDD 3.5″ , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูงอย่าง GTX 970 และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นจะเป็นการ์ดจอตัวเป้งที่ติดตั้งการ์ดจอ MSI GeForce GTX 970 สีขาวอร่ามตาเด่นเป็นสง่า ผ่าน Riser แนวตั้งแบบแข็ง พร้อมตัวจ่ายไฟแบบ Slim ขนาด 350W มาตรฐาน 80 Plus Bronze จาก FSP รุ่นพิเศษแบบวัตต์ที่เอาสเปคนี้อยู่อย่างสบายๆ
ซึ่งเมื่อรื้อการ์ดจอจากแผง Riser ออกมาจะเห็นสายไฟที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแบ่งเป็นส่วนๆ ไว้อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้นก็จะเห็นแผงแรมที่ใส่ได้หนึ่งแผง รวมไปถึงชุดพัดลมแบบก้นหอยสั่งทำพิเศษระบายความร้อนได้ดีในชื่อ Silent Storm Cooling โดยชุดระบายความร้อนตัวนี้ทำงานผ่านท่อฮีทไปป์ 2 เส้นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อนและเป่าไล่ลมร้อน โดยจะมีพัดลมด้านหน้าเครื่องช่วยทำให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกหนึ่งทาง
ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนของตัวเครื่องจะเห็นที่เก็บข้อมูลในรูปแบบของ Hot Swop แบบถาดที่สามารถใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้ว ได้ 2 ลูกโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณและสายไฟให้ยุ่งยาก ส่วนถัดมาจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับทั้ง SSD และ SSHD ได้ด้วย ซึ่ง MSI Nigitbade MI 2 ตัวนี้พิเศษกว่า MSI Nightblade รุ่นอื่นๆ ที่ผ่านมาเพราะสามารถรองรับ M.2 SSD Gen 3 อีกด้วย (ในเครื่องติดตั้ง SSD M.2 128GB) รวมไปถึงยังรองรับแรม DDR4 แบบ So-DIMM ได้ 2 แผงที่ความจุสูงสุด 8GB x 2 รวมเป็น 16GB ที่เข้าถึงการอัพเกรดทั้ง M.2 และแรมได้จากด้านหลังของเมนบอร์ดครับผม
ประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI 2 รู้สึกได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า MSI Nigitbade MI รวมถึง MSI Nigitbade ตัวก่อนหน้าอยู่บ้างพอสมควร ในแง่ของการเปิดไฟล์ เปิดภาพ เปิดโปรแกรม ด้วยก็เพราะการติดตั้ง SSD แบบ M.2 Gen3 ที่มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลทีรวดเร็วถึง 2200MB/s รวมไปถึงก็ประทับใจในเรื่องของขนาดเครื่องที่เล็กจิ๋วและกระทัดดีเยี่ยมจริงๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้เขียนเองที่อยู่คอนโดไซด์กลางๆ สามารถยกเครื่อง MSI Nigitbade MI 2 ไปต่อเสียบสายเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือไปต่อเล่นเกมผ่านทีวีในห้องนอนทีก็ฟินไม่เบาเลยทีเดียว แถมได้ไฟแบบไล่โทนไล่เฉดสียิ่งแลดูมีพลังสมเป็นเกมมิ่งพีซีเล็กๆ แรงๆ ดีๆ จริงๆ
การใช้ทำงานหรือการเล่นเกมเองกับสเปคขั้นท็อปที่ MSI Nigitbade MI 2 เลือกติดตั้งมาในตัวเครื่องทั้งชิปประมวลผล Core i7-6700 รุ่นล่าสุด , แรม DDR4 มาตรฐานใหม่ และการ์ดจอตัวแรงอย่าง GTX970 เองก็ตอบสนองความบ้าพลังของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับการเล่นเกมผ่านจอโค้งขนาด 34 นิ้วที่ความละเอียดระดับ 3440×1440 พิกเซล ที่สามารถทำได้ลื่นไหนเหลือเชื่อ เล่นเกมปรับ High ได้ทุกเกมเลยละ แต่อาจจะต้องมีปิดฟีเจอร์ปรับลดรอยหยักลงไปบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เช่นกันถ้านำมาเล่นเกมบนความละเอียด Full-HD ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่เพราะ MSI Nigitbade MI 2 ทำได้อย่างดีมากที่ต้องขอบคุณสเปคระดับท็อปๆ ที่ติดมาให้นั่นเองละครับ
ถ้าอยากถ่ายโอนข้อมูล ลงเกม เก็บไฟล์ต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB 3.1 Type C สุดล้ำอนาคตแต่ทาง MSI ดึงอนาคตมาไว้ในปัจจุบัน รวมไปถึงถ้าอยากเชื่อมต่อท่องโลกกว้างก็ทำได้ง่ายๆ ผ่าน Intel Wireless-AC 3165 ได้ด้วยเช่นกัน และถ้าใครกังวลว่าเครื่องเล็กอย่าง MSI Nigitbade MI 2 จะร้อนหรือเปล่า จะเสียงดังหรือไม่นั้นบอกได้เลยว่าหายห่วงเพราะทาง MSI ติดชุดระบายความร้อนอย่าง Silent Storm Cooling ที่รับรองได้ว่าระบายความร้อนได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ส่วนระดับเสียงรบกวนต่างๆ ในขณะใช้งานแทบไม่มีเสียงรบกวนเลย แต่ขณะเล่นเกมหนักๆ จะมีเสียงรบกวนเพิ่มเข้ามาเล็กน้อยจากพัดลมที่มีรอบสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ต้องยอมรับเรื่องการระบายความร้อนและการหมุนเวียนของอากาศ MSI Nigitbade MI 2 ทำได้ดีจริงๆ
เช่นกันกับซอฟแวร์อย่าง MSI Gaming Center เองที่ MSI ติดตั้งมาให้ด้วยที่ปรับแต่งได้หลากหลายและใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการปรับแต่งซอฟแวร์ ระบบเสียงพิเศษอย่าง Nahimic สีภาพ สีไฟ รวมไปถึงประสิทธิภาพของเครื่องได้ด้วย
Performance / Software
มาถึงช่วงทดสบอกันแล้วกับ MSI Nigitbade MI 2 ซึ่ง ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบนั้นจะมีสเปคข้างต้นตามด้านบนเลยครับ
โปรแกรมอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ระบุเอาไว้
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนตามประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามสไตล์สเปคของระบบขั้นกลางสูง
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ HDD 7200RPM ความจุ 1TB ไว้สำหรับเก็บข้อมูล ที่มีความเร็วอยู่ในระดับที่ที่น่าพอใจ
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จาก Transend ความจุ 128GB แบบ M.2 ก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะใช้เป็นตัวติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10
การตั้งค่า : CS:GO – All Very High // GTA 5 – All High // Fallout 4 – All Ultra //
MGSVPP – All High // Dota 2 – Best looking // CS:GO – All Ultra
การเล่นเกมต่างๆ จะเห็นได้ว่าทำได้ดีมาก เพราะแต่ละเกมมีเฟรมเรทที่ทำได้ลื่นไหลพอที่จะเล่นได้บนภาพกราฟิกสวยๆ ความละเอียดระดับ Full HD ปรับสุดได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามถ้าเพื่อนๆ อยากใช้ความละเอียดระดับ 4K UHD ขอแนะนำให้เล่นเกมที่คุณภาพกราฟิกระดับ Medium จะได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีที่สุด
โปรแกรม Benchmark หรือทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมยอมฮิตอย่างชุดทดสอบ 3D Mark สำหรับเพื่อนๆที่อยากเห็นคะแนนครับผม
ส่วนในเรื่องของความร้อนที่หลายๆ คนกังวลบอกได้เลยว่าหายห่วง เพราะจากผลทดสอบด้านในตัว CPU จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความร้อนโดยรวมอยู่ที่ราวๆ 41 องศาฯ แต่ถ้าใช้งานประมวลผลหนักๆ ความร้อนของซีพียูจะไปสูงสุดอยู่ที่ระดับ 74 องศาฯ ซึ่งจัดอยู่ในโซนที่ค่อนข้างปลอดภัยทีเดียว ที่ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับชุดระบายความร้อนนั่นเองละครับ ส่วนตัวการ์ดจอเองก็ชิวๆ เลยเพราะความร้อนสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 81 องศาฯ เท่านั้นเอง เย็นสบายหายห่วง ยิ่งถ้าปรับรอบพัดลมไป 100% ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก
Conclusion / Award
ถือได้ว่า MSI Nigitbade MI 2 เป็นเครื่องเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ Barebone ขนาดเล็กที่ MSI ทำออกมาได้อย่างประทับใจมาก ทั้งในแง่มุมของขนาดของตัวเครื่องที่ยังคงรูปแบบไซด์มินิๆ เล็กๆ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดวาง แต่ก็ไม่ละทิ้งในเรื่องของประสิทธิภาพที่เด็ดและแรงแบบจัดหนักจัดตัดเต็มที่สุดในระดับเดียวกับกับเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ Full Tower กันเลยทีเดียว ด้วยสเปคของระบบอย่างชิปประมวลผล Intel Core i7-6700 รุ่นล่าสุด พ่วงแรม DDR4 มาตรฐานใหม่ รวมไปถึงยังติดตั้งกราฟิกการ์ดเล่นเกมระดับสูงอย่าง GTX970 ทรงประสิทธิภาพแบบเต็มสตรีมส่งผลให้เล่นเกมได้ทุกรูปแบบอย่างลื่นไหนสุดๆ แถมยังเก็บข้อมูลได้หลากหลายและรวดเร็วทั้งจากฮาร์ดไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้ว ที่รองรับได้ถึง 2 ตัว รวมถึง SSD ขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับได้อีก 1 ตัว และที่สำคัญยังสามารถติดตั้ง SSD แบบ M.2 ฟีเจอร์ล้ำอนาคตที่รองรับการอ่านเขียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
เช่นกันกับในแง่ของฟีเจอร์ต่างๆ ที่ MSI Nigitbade MI 2 อัดแน่นมาอย่างเต็มสูบ และพร้อมใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริงไม่ว่าจะเป็นสีไฟหน้ากากที่สวยงามตามสไตล์เกมมิ่ง ปรับเปลี่ยนได้หลายเฉด , พอร์ตเชื่อมต่อมีสายและไร้สายที่หลากหลายและครบครัน , มาพร้อมชุดระบายความร้อน SilentStrom ที่ออกแบบระบายการระบายความร้อนและการไหลเวียนของอากาศได้ดีมาก , มีระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ รวมถึงการออกแบบแปลกใหม่และลงตัวช่วยให้การอัพเกรดและอากาศภายในตัวเครื่องไม่อบอ้าวและถ่ายเทได้ดี ซึ่งในภาพรวม MSI Nigitbade MI 2 ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากและเหมาะสมเป็นเครื่องเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กสำหรับทุกสภาพห้องไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่นหรือห้องไหนๆ ก็สามารถนำ MSI Nigitbade MI 2 เครื่องนี้ไปเล่นเกมแบบเต็มรูปแบบแต่ประหยัดเนื้อที่ในการใช้งานได้อีกด้วย กระนั้นแล้วด้วยการออกแบบและขนาดที่เล็ก แต่มีประสิทธิภาพสูงก็ส่งผลให้มีราคาที่จะสูงด้วยเช่นกัน ซึ่งใครที่งบประมาณสูงพอและอยากได้เครื่องคอมพิวเตอร์เล่นเกมแรงๆเล็กๆ ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน แต่ถ้าเพื่อนมีงบไม่มาก คอมพิวเตอร์ประกอบแบบ ITX ก็พอถูไถได้ในระดับหนึ่งครับ แต่รับรองได้เลยว่าไม่มีเคส หรือคอมพิวเตอร์ประกอบเครื่องไหนๆ รุ่นไหนๆ ที่มีประสิทธิภาพดีและเล็กเท่า MSI Nigitbade MI 2 อย่างแน่นอน เพื่อนๆ ผู้อ่านท่านไหนที่สนใจก็สามารถสอบถามตัวแทนจำหน่าย MSI ชั้นนำทั่วประเทศไทยได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุดูดี งานประกอบเยี่ยม แข็งแรงทนทาน
- หน้ากากสามารถปรับเปลี่ยนสีไฟได้ดั่งใจ
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-6700 พ่วงแรม DDR4 รวมไปถึงยังติดตั้งกราฟิกการ์ดเล่นเกมระดับสูงอย่าง GTX970
- สามารถติดตั้ง SSD แบบ M.2 มาตรฐานใหม่อย่าง Gen 3 ความเร็วสูงถึง 2,200 MB/s
- ขนาดเล็กกระทักรัด เหมาะกับการจัดวางในทุกพื้นที่
- ชุดระบายความร้อน Silent Storm Cooling ที่ออกแบบมาได้ดีมาก และมีการไหลเวียนอากาศดีมาก
- ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type C , USB 3.0 , HDMI , DP และอื่นๆ อีกมามาย
ข้อสังเกต
- ฝาข้าง-ฝาบนตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวกัน ถอดได้ยากสักเล็กน้อย
Award
นับว่า MSI Nigitbade MI 2 เป็นเกมมิ่งพีซีขนาดเล็กที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์และการออกแบบมากๆ ด้วยการคิดค้นและพัฒนาทำให้เกิดเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งแรงๆ บนขนาดที่เล็กกระทัดรัดสมบูรณ์ในทุกแง่มุมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่บอกได้เลยว่าเหล่าเกมเมอร์เห็นแล้วต้องเป็นปลื้มอย่างแน่นอน ยิ่งกับฟีเจอร์ที่ปรับแสงสีของหน้ากากตัวเครื่องด้วยตามสไตล์เกมมิ่งยิ่งทำได้น่าประทับใจมาก