หากมองไปที่ความคุ้มค่าสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปกับซีพียู Intel Gen6 Skylake แล้ว เมนบอร์ด H170 ดูจะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่แพ้เมนบอร์ดชิป Z170 รุ่นพี่เลยด้วยซ้ำ จะมีเพียงการสนับสนุนการเชื่อมต่อบางอย่าง และการปรับความเร็วสำหรับโอเวอร์คล็อกไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือไม่ได้เน้นที่การโอเวอร์คล็อก H170 ดูจะลดค่าใช้จ่ายไปไม่น้อยเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับเมนบอร์ดจาก ASRock ในรุ่น H170 Pro4 นี้ ที่เรียกว่าเป็นเมนบอร์ดอีกหนึ่งเรือธงในตลาดกลาง สำหรับทำงานร่วมกับซีพียู Intel Gen6 Skylake ล่าสุด พร้อมสนับสนุน DDR4 ความเร็วสูงและฟีเจอร์สำคัญ SuperAlloy และ Full Spike Protection รวมถึงการสนับสนุนกราฟฟิกการ์ด PCIe 3.0 ที่รองรับ AMD Quad CrossFireX™, CrossFireX™ และ Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3) สำหรับโมดูล M.2 ได้อีกด้วย นับว่าเป็นเมนบอร์ดที่ให้ฟังก์ชั่นในการใช้งานมาอย่างครบครัน
Specifications :
- ASRock Super Alloy
- Supports 6th Generation Intel® Core™ Processors (Socket 1151)
- Digi Power, 10 Power Phase design
- Supports Dual Channel DDR4 2133
- 2 PCIe 3.0 x16, 3 PCIe 3.0 x1
- AMD Quad CrossFireX™, CrossFireX™
- Graphics Output Options: DVI-D, HDMI
- 7.1 CH HD Audio (Realtek ALC892 Audio Codec), ELNA Audio Caps
- 1 SATA Express, 6 SATA3, 1 Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3)
- 8 USB 3.0 (2 Front, 6 Rear)
- Supports Full Spike Protection, ASRock Live Update & APP Shop
สามารถเข้าไปดูสเปกเต็มได้ที่ ASRock H170 Pro4 specification
Key Feature
เมนบอร์ดมาในโทนสีดำที่คุ้นเคยกันดี แต่ที่ดูแปลกตาคือซิงก์ระบายความร้อนสีทองขนาดใหญ่มีถึง 3 จุดด้วยกัน ที่ภาคจ่ายไฟด้านบนและด้านข้าง รวมถึงชิปเซ็ต รวมไปถึงชุดครอบพอร์ตด้านหลังและบริเวณชุดชิปสังเคราะห์เสียง ที่สร้างความแปลกตาได้ดี อาจจะดูเรียบๆ แต่ก็แฝงด้วยความหรูหราอยู่ในตัว พร้อมอค์ประกอบที่มีอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สล็อตกราฟฟิกการ์ดและสะดุดตากับสล็อต Ultra M.2
พื้นที่บริเวณโดยรอบซ็อกเก็ต LGA1151 กับชุดระบายความร้อนสีทองขนาดใหญ่ XXL และ คาปาซิเตอร์ในแบบพรีเมียม พร้อมภาคจ่ายไฟ 10 เฟส ที่ดูจะตอบโจทย์การใช้งานของเกมเมอร์ได้ดีทีเดียว
มาพร้อมกับระบบเสียง ELNA Audio และคาปาซิเตอร์ Nichicon 12K แพลตตินัม ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งดูค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว
สล็อตกราฟฟิก PCI-Express 3.0 x16 รองรับการทำงาน CrossFireX
จุดที่น่าสนใจก็คือ การติดตั้งสล็อตสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ Ultra M.2 ที่ให้ความเร็วในการทำงานได้มากถึง 32Gbps เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ในปัจจุบัน
มาพร้อมพอร์ต SATA3 จำนวน 6 ช่อง รวมถึง SATA Express อีกหนึ่งชุด ซึ่งวางในตำแหน่งแนวตั้ง ช่วยให้การต่อสายสะดวกดีเหมือนกัน แต่ในส่วนของ SATA Express จะอยู่ลึกลงไปมุมด้านล่างมากไปบ้าง เมื่อจัดลงเคสแล้ว อาจจะต่อสายยากขึ้นเล็กน้อย
สนับสนุนแรม DDR4 2133 โดยพื้นฐาน บนสล็อตแรมจำนวน 4 แถว สนับสนุนได้มากสุดที่ 64GB ใช้งานได้แบบเหลือๆ
ส่วนพอร์ตสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงด้านหลัง มีทั้ง USB 3.0 ที่มีถึง 6 พอร์ตและช่องต่อระบบเสียง 7.1 channel รวมไปถึงพอร์ตแสดงผล DVI-D และ HDMI ซึ่งอยู่ในการทำงานพื้นฐานแทบทั้งสิ้น
Conclusion
ต้องถือว่าเป็นเมนบอร์ดรุ่นเรือธงในแบบที่คุ้มค่าของทาง ASRock ที่มีดีกรีระดับ H170 สำหรับเพาเวอร์ยูสเซอร์และบรรดาเกมเมอร์ที่จะเริ่มต้นกับซีพียู Intel Gen6 แบบงบประมาณไม่สูงมาก เพราะหากมองถึงฟีเจอร์ต่างๆ ทาง ASRock ก็จัดมาได้พอเหมาะกำลังดีในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาคจ่ายไฟที่มากพอ ชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ที่มีให้ถึง 3 จุด พร้อมกับ Ultra M.2 ที่เชื่อว่าจะมีบทบาทมากขึ้นในการใช้งาน กับอัตราตอบสนองต่อการจัดเก็บข้อมูลความเร็วสูงและยังมีในเรื่องพอร์ตต่อพ่วงที่มีให้ครบครันเลยทีเดียว จะมีเพียงเล็กน้อยก็คือ ปรับแต่งสัญญาณนาฬิกาไม่ได้ตามลักษณะของชิปเซ็ตและพื้นที่ของซิงก์ขนาดใหญ่ ก็อาจจะทำให้การติดตั้งอุปกรณ์บางส่วนคับแคบไปบ้าง แต่ก็เป็นเพียงส่วนที่เล็กน้อย หากเทียบกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาบนเมนบอร์ด
จุดเด่น
- มีฟีเจอร์มาให้ค่อนข้างเยอะ
- มีสล็อต Ultra M.2 สำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง
- ภาคจ่ายไฟมากถึง 10 เฟส
- มีพอร์ต USB 3.0 จำนวนมาก
- ซิงก์ระบายความร้อนขนาดใหญ่
ข้อสังเกต
- พื้นที่บางส่วนถูกบังด้วยซิงก์อาจทำให้ติดตั้งสายไฟได้ยาก
- ส่วนของพอร์ต SATA มุมด้านล่างของเมนบอร์ดอาจทำให้ต่อสายยากเมื่ออยู่ในเคส