HP ได้มีการปรับไลน์ของโน๊ตบุ๊คในกลุ่มโมบายเวิร์กสเตชั่น ซึ่ง ZBook Studio นี้ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลในแบบ 4K พร้อมหน่วยประมวลผล Intel Xeon และฮาร์ดดิสก์ที่มากถึง 2TB ในการจัดเก็บข้อมูล ในรูปแบบของ PCIe และให้พอร์ต Thunderbolt 3 พอร์ต ภายใต้น้ำหนัก 4.4 ปอนด์ หรือประมาณ 1.99 กิโลกรัม แต่มีความหนาเพียง 18 มม. กับสนนราคาในเบื้องต้นที่ประมาณ 1699USD หรือประมาณ 61,100 บาท เช่นเดียวกับเดียวกับเวิร์กสเตชั่นรุ่นอื่นๆ โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพในการสร้างสรรค์ผลงาน
การออกแบบ
ด้วยความแตกต่างจากเครื่องเวิร์กสเตชั่นอื่นๆ ZBook Studio มีรายละเอียดมากมายในตัว ไม่ว่าจะเป็นฝาปิดอลูมิเนียม ที่มีรอยเล็กๆ ทั่วไปเต็มฝา ภายใต้การออกแบบรูปทรงสามเหลี่ยม ที่เป็นแพทเทิร์นเดียวกับ HP Omen ซึ่งเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นหนึ่งเช่นเดียวกัน ที่ดูค่อนข้างลงตัวในการออกแบบ โดยทั้งสองรุ่นมีความน่าสนใจ เช่นเดียวกับ MacBook Pro ที่ใช้อลูมิเนียมเป็นตัวที่ดึงเสน่ห์ความสนใจได้มากขึ้น ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ใกล้เคียงกันคือประมาณ 4.4 ปอนด์ หรือประมาณ 1.99 กิโลกรัม
ในด้านความแตกต่างของ ZBook Workstation ที่อยู่ในไลน์ของ HP ในรุ่น Studio จะขาดเพียง Trackpoint สำหรับลดการใช้เมาส์ลง แต่ก็มี ClickPad ขนาดใหญ่
เสริมเข้ามาให้ แต่ไม่ได้เป็นแบบเดียวกับที่พบใน EliteBook ด้วยคีย์บอร์ดที่มีไฟ Backlit เรืองแสงอยู่ด้านใต้แป้นพิมพ์ พร้อมชุดลำโพงขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้าน ทำให้นึกถึง MacBook Pro รุ่นก่อนหน้านี้
หน้าจอการแสดงผล
ZBook Studio เริ่มต้นกับหน้าจอบนความละเอียด 1080p ซึ่งเป็นพาแนลแบบ IPS ผู้ใช้สามารถเลือกออพชั่นที่เป็นจอแบบ 4K (3840 x 2160) DreamColor ซึ่งให้ความละเอียดที่ตอบสนองการใช้งานได้น่าสนใจ ด้วยการใช้งานด้านกราฟฟิกที่ยืดหยุ่นและใช้ร่วมกับโปรแกรมกับพื้นที่ได้มากกว่า
หน่วยประมวลผลและชุดจัดเก็บข้อมูล
ZBook ให้หน่วยประมวลผลที่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยซีพียู Intel Xeon E3-1545M v5 สำหรับงานกราฟฟิกโดยเฉพาะ และแรมที่สามารถอัพเกรดได้ถึง 32GB โดยในปัจจุบันซีพียูรุ่นสูงสุดที่ใช้บนโมลายเวิร์กสเตชั่น เป็นรุ่น Intel Xeon E3-1505 จากค่าย Dell ที่มาพร้อมแรม 16GB ส่วนของ Mac จะเป็นซีพียู Intel Core i7 และแรม 16GB
โครงสร้างภายในของ ZBook Studio มีสล็อตสำหรับติดตั้งฮาร์ดไดรฟ์ได้ 2 สล็อต พร้อมรองรับการใช้งานในแบบ PCIe หนึ่งในสล็อตที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่มีอยู่ก็คือ mSATA SSD ส่วนค่ายอื่นนั้น ก็มีสล็อต PCIe NVMe ช่องเดียวที่สามารถติดตั้งได้ถึง 1TB มาเป็นทางเลือก
ด้านกราฟฟิการ์ด
เวลานี้ Intel Iris Pro เป็นกราฟฟิกล่าสุดที่ทรงพลังในการทำงาน (ส่วน Iris Pro P850 จะเป็นออพชั่นมาในปี 2016) สำหรับใครที่ต้องการพลังที่มากขึ้น ก็ยังมีทางเลือกเป็น nVIDIA Quadro M1000M 2GB ที่เป็น GDDR5 มาให้ เช่นเดียวกับค่ายอื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ Radeon R9 M370X ที่มาพร้อมหน่วยความจำ GDDR5 2GB
ZBook Studio นำเอาพอร์ต Thunderbolt 3 พอร์ตมาเป็นตัวชูโรง นอกเหนือจาก HDMI, Ethernet LAN และพอร์ต USB 2.0 ซึ่งจะต่างจากคู่แข่งในรุ่นเดียวกัน ที่อาจมาพร้อม Thunderbolt 3 พอร์ต USB 3.0 อีกสองพอร์ตและ HDMI จะเห็นได้ว่า แม้บอดี้จะไม่ใกญ่มาก แต่ก็ให้พอร์ตสำหรับการใช้งานที่สำคัญมาครบครัน
แบตเตอรี่
HP ค่อนข้างมั่นใจกับแบตของ ZBook ที่อาจจะใช้งานได้นานถึง 9.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ต้องถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ อย่างไรก็ดีด้วยคู่แข่งบางรุ่น เช่น Dell Precision กลับทำเวลาได้ถึง 16 ชั่วโมงในการทดสอบบน Laptop Mag Battery ในการทดสอบด้วยการท่องเว็บ ด้วย WiFi บนความหนาแน่นพิกเซล 100-nits ส่วน MacBook Pro อยู่ที่ประมาณ 9 ชั่วโมง
ราคาเป็นอย่างไร
ZBook Studio ราคาเริ่มต้นที่ 1699USD หรือประมาณ 61,100 บาท แต่ยังต้องรอการยืนยันจาก HP อีกครั้ง เป็นราคาที่คาดว่าจะได้ซีพียู Intel Core i7-6820HQ ความเร็ว 2.7GHz และกราฟฟิก Intel HD Graphic 530 บนจอแสงผล 1080p แรมที่ 8GB แบะ SSD 128GB SSD mSATA ส่วนคู่แข่งอย่าง Dell Precision จะเริ่มที่ราคา 1399USD หรือประมาณ 50,000 บาท มาพร้อมซีพียู Intel Core i5-6300HQ 2.3GHz พร้อมแรม 8GB และฮาร์ดดิสก์จานหมุน 500GB 7200rpm บนจอแสดงผล 1080p กราฟฟิกเฉพาะทาง nVIDIA Quadro M1000M
โดยที่ ZBook Studio คาดว่าจะวางจำหน่ายช่วงปลายเดือน ธันวาคมที่จะถึงนี้
ที่มา :laptopmag