ในประเทศไทยเรานั้นมีน้อยคนมากครับที่จะรู้จักกับบริษัทที่ชื่อว่า Tesla Motors Inc. บริษัทผลิตรถยนต์หรูชื่อดังที่เน้นผลิตแต่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าออกมาจำหน่าย ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ผลิตออกมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น ได้รับเสียงตอบรับทั้งดีและไม่ดีแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยบริษัท Tesla นี้มี CEO อย่าง Elon Musk เป็นผู้กุมบังเหียนของบริษัทอยู่ครับ
และเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทได้ทำการเผยข้อมูลรายรับประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 ออกมา ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยจะดีเท่าไรและดูเหมือนกับว่าบริษัทจะสูญเสียกระแสความสนใจจากผู้ใช้งานไปค่อนข้างที่จะมากเลยทีเดียวครับ ในโอกาสนี้อดีตรองประธานของบริษัท General Motors และ Chrysler(รวมไปถึงบริษัทอื่นๆ) อย่าง Bob Lutz ได้ออกมาเผยว่า Tesla กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่และอาจจะล้มละลายได้ครับ
Tesla Model S
จากงานเขียนของ Lutz ผ่านทางหนังสือ Road and Track ได้ระบุว่าบริษัท Tesla นั้นได้เผยถึงสัญญาณของปัญหาหลายๆ อย่างด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเงินสดของบริษัทไหลออก, มีการใช้สินทรัพย์ของบริษัทเป็นหลักทรัพย์ในการทำธุรกรรมต่างๆ และมีสินค้าคงคลังมากจนเกินไป ซึ่งนี่เป็นสัญญาณที่คนในวงการผู้ผลิตรถยนต์ต่างรู้กันดีครับว่ามันคือหายนะ แถมทุกๆ บริษัทต่างก็ต้องคอยสังเกตสัญญาณนี้เพราะถ้า Tesla ล้มก็จะเกิดการล้มแบบโดมิโนติดตามกันไปครับ
คำเตือนจาก Luts ไปยัง Musk นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทาง Tesla เปิดตัวรถยนต์ Model S ใหม่ไปได้ไม่นานและตัวรถยนต์ Model S ก็เกิดปัญหาขึ้นครับ โดยในตอนแรกของการเปิดตัวนั้นทาง Consumer Reports ได้ให้คะแนนของ Model S ไว้แบบติดลมบนเอามากๆ จนเรตติ้งที่ Consumer Reports ให้กับรถยนต์รุ่น Model S นี้ก็อยู่ในระดับ “recommended” หรือ “แนะนำ” แต่ก็อยู่ในระดับนี้ได้ไม่นานครับ
Tesla Model 3
ต่อมาไม่นานนักเมื่อผู้ใช้เจอปัญหากับรถยนต์รุ่น Model S มีข้อบกพร่อง, ปัญหาด้านคุณภาพของการสร้าง แถมด้วยความสามารถในการรับมือกับปัญหาของทาง Tesla ก็ต่ำมาก ทำให้ทาง Consumer Reports ลดเรตติ้งลงแบบต่ำติดดินมาอยู่ที่ “worse than expected” หรือ “แย่เกินคาด” จนทำให้ทาง Musk ต้องออกมาตอบโต้ Consumer Reports ผ่านทาง Twitter ด้วยข้อความต่อไปนี้ครับ
ไม่รู้ว่าจะเป็นการแก้ตัวหรือไม่แต่ทาง Musk ก็ได้บอกว่าการสำรวจความน่าเชื่อถือของทาง Consumer Reports นั้นได้รวมเอารถยนต์ Model S ที่ผลิตในล๊อตแรกๆ ไปด้วย ทว่าทาง Tesla ได้ทำการแก้ไขปัญหาทั้งหมดไปแล้วในการผลิตล๊อตหลังๆ ต่อมา ซึ่งการโต้ตอบนี้ของทาง Musk ก็ไม่ได้ช่วยให้เรตติ้งบน Consumer Reports เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ถึงแม้ทาง Musk จะระบุเอาไว้ด้วยว่า 97% ของผู้ใช้พึงพอใจและต้องการที่จะใช้รถยนต์จาก Tesla ในคันต่อไปก็ตามครับ
Tesla Model X
นอกเหนือไปจากนั้นแล้วยังมีรายงานว่า Tesla ทำการขายรถยนต์แบบขาดทุนที่จำนวนเงิน $4,000 ต่อคัน(หรือประมาณ 144,000 บาท) จากปริมาณยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2015 ที่ผ่านมา แถมด้วยการเปิดตัวรถยนต์ระดับบนรุ่นใหม่อย่าง Tesla Model X ก็เป็นปัญหาที่สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะรถยนต์รุ่น Model X นั้นมาพร้อมกับประตูแบบเปิดขึ้นข้างบนเหมือนนกกางปีก(gull-wing doors ดังรูปด้านบน) ซึ่งประตูแบบนี้ทำให้การผลิตมีปัญหาทางด้านความซับซ้อนและความน่าเชื่อถือได้เข้าไปอีก(ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ผลิตยี่ห้ออื่นถึงได้เลี่ยงประตูที่เปิดแบบนี้)
ปัญหาทั้งหมดที่ Lutz กังวลนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นครับถ้าทาง Tesla สามารถที่จะทำยอดขายจากรถยนต์รุ่น Model S ที่เป็นรุ่นประหยัดได้มากพอ(Model S พร้อมเปิดจองในเดือนมีนาคมปีหน้าและจะเริ่มเดินสายผลิตในปี 2017) รวมไปถึงสามารถที่จะจำหน่าย Model X EV ได้ถึง 60,000 คันและ Model X crossovers 30,000 คันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2016 ที่จะถึงนี้ ซึ่งคงจะต้องดูกันต่อไปครับ เพราะที่ผ่านมานั้นในปี 2009 ทาง GM ก็เคยยื่นขอล้มละลายมาก่อนทั้งๆ ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นก็เข้าอุ้มเพื่อช่วยพยุงสถานเอาไว้ครับ
หมายเหตุ – Tesla ได้ทำการเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ประเดิมด้วยการส่ง Model S รุ่น 85D และ รุ่น P90D ลงตลาด โดยคาดว่าจะพยายามให้ทันในช่วงสิ้นปีนี้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 5 – 7 ล้านบาท พร้อมด้วยการขยายสถานีสำหรับเติมไฟฟ้ากว่า 120 แห่งทั่วประเทศ(ทุกๆ ระยะ 200 km)
ที่มา : fortune