Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

Belkin เปิดตัว “Charge Dock” ที่สามารถใช้ชาร์จได้ทั้ง iPhone และ Apple Watch ในเวลาเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่มีการเปิดตัว Apple Watch ออกมานั้นทาง Apple ได้เผยข้อมูลออกมาครับว่าทางบริษัทต้องการที่จะทำฐานตั้งสำหรับชาร์จ Apple Watch ขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่มีการเปิดตัว Apple Watch ออกมานั้นทาง Apple ได้เผยข้อมูลออกมาครับว่าทางบริษัทต้องการที่จะทำฐานตั้งสำหรับชาร์จ Apple Watch ขึ้นมา ทว่าจนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นฐานตั้งสำหรับชาร์จของ Apple สำหรับ Apple Watch ออกมาสักทีครับ(จะมีก็แต่ที่ชาร์จแม่เหล็กเท่านั้น)

Belkin Charge Dock 600 01

Advertisement

อย่างไรก็ตามใช่ว่า Apple จะทิ้งเงียบไปเฉยๆ เลยครับ เพราะทาง Apple ได้ร่วมกับบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมชื่อดังอย่าง Belkin ในการพัฒนา “Charge Dock” ขึ้นมา และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเปลี่ยนเจ้า “Charge Dock” ตัวนี้จึงมาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จได้ทั้ง iPhone และ Apple Watch โดยส่วนที่ชาร์จ iPhone นั้นก็จะเป็นฐานเชื่อมต่อ Lighting ส่วนตรงส่วนที่ชาร์จ Apple Watch นั้นก็จะเป็นฐานตั้งขึ้นมาพร้อมด้วยแทบแม่เหล็กสำหรับชาร์จครับ

ดีไซน์

Belkin “Charge Dock” นี้นั้นถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่นตัวแรกก็ว่าได้ครับที่มาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จได้ทั้ง iPhone และ Apple Watch ตัว Belkin “Charge Dock” นั้นมีดีไซน์ที่คงความเป็น Apple อยู่พอสมควร โดยส่วนฐานนั้นจะใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมและมีโครงแขนโครเมี่ยมที่ยื่นออกมาเพื่อที่จะรองรับ iPhone เวลาเสียบเพื่อชาร์จกับยื่นออกมาด้านข้างเป็นฐานชาร์จวงกลมลอยอยู่เหนือฐานตั้งสำหรับชาร์จ Apple Watch ครับ

Belkin Charge Dock 600 02

ข้อเสีย(ที่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน) ก็คือ Belkin “Charge Dock” จะมีวางจำหน่ายเฉพาะสีเงินเท่านั้นครับ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ไม่เข้ากันกับ iPhone สีอื่นๆ เท่าไรนัก แถมฐานที่เคลือบอลูมิเนียมกับแขนโครเมี่ยมเงาๆ ที่ยื่นออกมานั้นก็อาจจะไม่ค่อยตรงใจบางคนเท่าไรอีกด้วย นอกไปจากนั้นส่วนของฐานที่มีตัวเชื่อมต่อ Lighting สำหรับชาร์จ iPhone ที่ใช้สีดำนั้นก็ดูขัดตากับสีเงินแบบแปลกๆ (แต่ถ้าเสียบ iPhone ชาร์จลงไปอยู่ตรงส่วนนี้ก็จะไม่เห็นครับ)

Belkin Charge Dock 600 03

มามองดูในส่วนของขนาดกันบ้าง เมื่อนำไปเทียบกับ iPhone 6s และ Apple Watch(ตามรูปด้านบน) จะเห็นได้ครับว่าเจ้า Belkin “Charge Dock” ค่อนข้างจะมีขนาดเล็กกระทัดรัด ทำให้เวลาวางไว้บนโต๊ะต่างๆ ก็ไม่ได้กินพื้นที่มากเท่าไรนัก ขนาดของ Belkin “Charge Dock” จะอยู่ที่ 5″(ยาว) x 3″(กว้าง) x 1″(หนา) ครับ

Belkin Charge Dock 600 04

ทางด้านล่างของ Belkin “Charge Dock” นั้นจะเป็นพื้นผิวที่ไม่ลื่นครับ ทำให้เวลาที่ตั้งบนโต๊ะแบบพื้นผิวใดๆ ทำให้มันค่อนข้างที่จะเคลื่อนย้ายได้ยาก ซึ่งนั่นถือว่าเป็นข้อดี และถึงว่าตัวมันจะมีขนาดเล็กกระทัดรัดแต่น้ำหนักกับการประกอบโดยรวมทั้งหมดก็เป็นไปในทิศทางาที่ดี จับแล้วดูมั่นคง ทนทานให้ความรู้สึกเหมือนกับวัสดุโลหะที่ประกอบมาอย่างดีจริงๆ ครับ(จะเว้นก็ตรงส่วนที่เป็นที่ชาร์จที่ไม่ใช่โลหะครับ)

Belkin Charge Dock 600 05

จุดเด่นที่ถือว่าดีที่สุดของเจ้า Belkin “Charge Dock” ก็คือถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่ทว่ามันก็สามารถที่จะทำการชาร์จ iPhone และ Apple Watch ได้ในเวลาเดียวกันครับ ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่า Belkin “Charge Dock” ได้รับการออกแบบมาอย่างดีมากเพราะว่าเวลาที่ทำการชาร์จนั้นตัว iPhone และ Apple Watch ก็จะแยกส่วนออกจากกัน สามารถที่จะดึงเอา iPhone หรือ Apple Watch อุปกรณืใดๆ อุปกรณ์หนึ่งออกไปใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องขยับอีกอุปกรณ์หนึ่งให้ลำบากครับ

Belkin “Charge Dock” นั้นมาพร้อมกับตัวจ่ายไฟ AC ที่มีสายยาว 1.5 m แยกต่างหากซึ่งมีกำลังไฟพอที่จะสามารถทำการชาร์จได้ทั้ง iPhone และ Apple Watch ในเวลาเดียวกัน ทว่าสิ่งหนึ่งที่ดูแล้วไม่เข้ากันเลยก็คือตัวจ่ายไฟ AC นั้นเหมือนไม่ได้รับการออกแบบที่ดีพอให้เข้ากันกับ Belkin “Charge Dock” เลยทำให้เมื่อวางเข้าชุดกันแล้วก็ดูแปลกๆ ตาไปนิดนึงครับ(โดยปกติแล้วอุปกรณ์ของ Apple นั้นมักจะเข้าชุดกันทั้งหมด)

ฟังก์ชันการใช้งาน

Belkin Charge Dock 600 06

อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับว่าถึงแม้ Belkin “Charge Dock” จะมีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่ในการใช้งานนั้นเมื่อเสียบ iPhone พร้อมทั้งวาง Apple Watch ลงไปก็จะเข้ามุมกันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของพอร์ทชาร์จ Lighting สำหรับ iPhone นั้นทาง Belkin ได้ออกแบบมาให้สามารถปรับเลื่อนขึ้นลงได้เพื่อเวลาที่ไม่ใช้งาน หรือเวลาที่ใช้งานกับ iPhone ที่สวมเคสอยู่จะได้ไม่ต้องถอดเคสออก ซึ่งส่วนที่เอาไว้ใช้ปรับพอร์ท Lighting ขึ้นลงนี้จะอยู่ทางด้านหลังของฐานบริเวณใกล้ๆ กับที่เสียบตัวจ่ายไฟ AC ครับ

Belkin Charge Dock 600 07

ตัวพอร์ทเชื่อมต่อ Lighting นั้นมาพร้อมกับความสามารถในการหมุนปรับมุมไปทางข้างหน้าหรือด้านหลังได้ ซึ่งทำให้เวลาที่เสียบ iPhone เข้าไปเพื่อชาร์จนั้นคุณจะสามารถขยับ iPhone ไปข้างหน้าและข้างหลังได้นิดหน่อยครับ ฐานสีดำที่เป็นส่วนสำหรับวาง iPhone นั้นจะเป็นยางตัดกับส่วนที่เป็นโลหะ กับตรงแขนโครเมี่ยมที่ยื่นขึ้นมาตรงด้านหลังที่วาง iPhone ก็จะมียางสำหรับกันไม่ให้ iPhone สัมผัสกับแขนโครเมี่ยมโดยตรงอยู่ ตรงนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนกับ iPhone เวลาที่เสียบชาร์จครับ

iPhone 6s Plus นั้นสามารถที่จะเสียบชาร์จได้ตรงร่องเป็นอย่างดี และตัวที่ชาร์จนั้นก็รองรับกับ iPad Mini และ iPad Air 2 ด้วย ทว่าอุปกรณ์แท็บเล็ตทั้ง 2 นั้นไม่สามารถที่จะทำการวางลงไปได้อย่างสะดวกสักเท่าไรนัก แถมถ้าฝืนเสียบเข้าไปแท็บเล็ตก็จะเลยออกมาขวางในส่วนของที่ชาร์จ Apple Watch อีกด้วยครับ

Belkin Charge Dock 600 08

ส่วนที่เป็นปัญหาของ Belkin “Charge Dock” นั้นไม่ได้อยู่ตรงที่ชาร์จ iPhone แต่อยู่ตรงส่วนที่ชาร์จ Apple Watch ครับ โดยส่วนของที่ชาร์จ Apple Watch นั้นจะยื่นออกมาด้วยแขนโครเมี่ยมและยึดติดกับ Apple Watch โดยใช้แม่เหล็กทางด้านหลังของตัว Apple Watch เท่านั้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีครับว่าการชาร์จโดยใช้แค่แม่เหล็กยึดกับ Apple Watch นั้นมันไม่ยึดติดมากพอ ทำให้เวลาใช้งานจริงนั้นเมื่อเสียบชาร์จทั้ง iPhone และ Apple Watch ลงไป แล้วทำการขยับเขยื้อน iPhone ออกมาหรือดันฐานของ Belkin “Charge Dock” นิดหน่อย Apple Watch ก็จะเอียงผิดรูปไปจากตอนตั้งครับ

Belkin Charge Dock 600 09

ภาพเมื่อทำการขยับ Belkin “Charge Dock” เล็กน้อย Apple Watch จะหมุนไปจากมุมเดิมที่ทำการวางชาร์จไว้

ปัญหาดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ Belkin “Charge Dock” กับ Apple Watch ที่มีน้ำหนักมากครับ ทว่าดูเหมือนกับทาง Belkin จะไหวตัวทันและรู้ตัวถึงปัญหานี้ดีในชุดวางจำหน่ายของ Belkin “Charge Dock” จริงจึงมีแขนพลาสติกยื่นออกมาทางด้านล่างของส่วนที่ชาร์จ Apple Watch(ดังรูปด้านล่าง) เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถทำการยึด Apple Watch เข้ากับฐานชาร์จไม่ให้เกิดการขยับเขยื้อนครับ

Belkin Charge Dock 600 10

อย่างไรก็ตามแต่ในการวาง Apple Watch เข้ากับที่ชาร์จ Belkin “Charge Dock” นั้นจะทำได้ในทิศแนวตั้ง ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาที่เราทำการชาร์จ Apple Watch กับ Belkin “Charge Dock” จะสามารถเปิดใช้งาน Apple Watch ได้ ทว่าตัว Apple Watch ก็จะไม่รองรับ Nightstand mode ที่พึ่งถูกเพิ่มเข้ามาบน WatchOS 2(ซึ่งคงจะไม่ดีแน่ๆ ถ้าคุณวางฐานชาร์จ Belkin “Charge Dock” ไว้ใกล้ที่นอนของคุณ)

สรุป

Belkin “Charge Dock” เปิดตัวออกมาด้วยราคา $129.99 หรือประมาณ 4,680 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างจะแพงมากพอดูครับ แต่ด้วยราคาระดับนี้ก็ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า Belkin “Charge Dock” นั้นประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ภายในที่ได้รับมาตรฐานรองรับจากทาง Apple ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดผลเสียใดๆ ตามมากับ iPhone และ Apple Watch ที่มีราคาแพงกว่า Belkin “Charge Dock” เยอะ

Belkin Charge Dock 600 11

จากราคาดังกล่าวนี้นั้นหากเทียบกับราคาจำหน่าย iPhone Dock กับ Apple Watch Dock ที่ $65 หรือประมาณ 2,340 บาท(ทั้งคู่) ก็ถือว่าไม่ได้แพงมากเกินไปครับ เพราะซื้อ 1 อุปกรณ์แต่คุณชาร์จได้ถึง 2 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน Belkin “Charge Dock” ถือว่าเป็นอุปกรณ์แบบ All-in-one ที่ลงตัวอุปกรณ์หนึ่งสำหรับผู้ที่มีทั้ง iPhone และ Apple Watch ครับ ทั้งนี้ Belkin “Charge Dock” วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการทั้งผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Belkin เองและหน้าเว็บไซต์ Apple รวมไปถึงร้านค้าปลีกของ Apple ด้วยครับ(แต่ตอนนี้ยังมีเฉพาะในสหรัฐอเมริกานะครับ)

จุดเด่น

  • ใช้สายเชื่อมต่อน้อย
  • ดีไซน์ขนาดกระทัดรัด
  • คุณภาพสูง
  • พอร์ท Lighting สามารถปรับมุมและเคลื่อนที่ได้
  • มียางป้องกันรอยขีดข่วนสำหรับ iPhone

จุดสังเกต

  • เมื่อวางชาร์จ Apple Watch แล้วดูไม่มั่นคงเท่าไรนัก
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • สายไฟ AC ดูน่าเกลียดไม่เหมาะกับการเป็นอุปกรณ์สำหรับ iPhone และ Apple Watch
  • มีวางจำหน่ายแค่สีเดียวเท่านั้น

ที่มา : macrumors

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Mac Corner

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนเป็นใครอยากได้ ว่าด้วยราคาเครื่องจะจ่ายเงินสดรอบเดียวก็ยังได้แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินก้อนเมื่อไหร่ หลายคนจึงเลือกวิธีผ่อนไอโฟนทีละงวดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ถึง 30 เดือนก็มี ตามที่ร้านค้ากับธนาคารเจ้าของบัตรจะทำข้อตกลงกันไว้ ทำให้ลูกค้าได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น และยังไม่รวมแคมเปญอื่นๆ จาก Apple กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละเจ้าเอามาเป็นจุดจูงใจเพิ่มเติมอีกด้วย ข้อดีของการจ่ายเงินผ่อน นอกจากไม่ต้องลงเงินก้อนครั้งเดียวแต่เฉลี่ยจ่ายไปเรื่อยๆ จนครบได้แล้ว ยังมีเครื่องมือทางการเงินอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยแบ่งเบาผู้ใช้ได้อีกมาก ไม่ว่าจะใช้แต้มในบัตรเครดิตหักลดราคาเครื่องก่อนผ่อนชำระได้, กดส่งโค้ดเอาแต้มกับเงินคืนไว้ใช้ในโอกาสอื่นได้ไม่พอ ในยุคนี้บางร้านค้ายังให้ผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อีก เป็นทางเลือกเพื่อคนไม่มีบัตรเครดิตแต่มีเงินในกระเป๋าแบ่งจ่ายค่าเครื่องได้สะดวกไม่แพ้กันAdvertisement ผ่อนไอโฟนวิธีไหนได้บ้าง? ปัจจุบันสามารถผ่อนมือถือได้หลายวิธี...

Mac Corner

พอ Apple เปิดตัว iPhone 16 Series เปิดตัว iPhone 15 ราคาก็ถูกลงตามกลไกการตลาด หลีกทางให้สินค้ารุ่นใหม่และเคลียร์สต็อกสินค้าเก่าไปด้วย ถึงจะตกรุ่นแล้วแต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปเน้น Social network, ถ่ายวิดีโอเก็บภาพความทรงจำและเล่นเกมบ้าง ไม่เน้น Apple Intelligence (AI) ตามสมัยนิยมเอาความแรงตัวชิปเซ็ตเข้าว่า ก็พูดได้ว่าราคาไอโฟน 15 ตอนนี้ก็คุ้มดีแล้วใช้เป็นมือถือเครื่องหลักไปได้อีกหลายปีก่อนจะหมดรอบการอัปเดต iOS...

Tips & Tricks

กำแพงภาษาอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวจะสื่อสารไม่ได้คุยกับใครไม่รู้เรื่อง แต่ในยุคนี้ก็มีแอพแปลภาษาให้โหลดไปติดตั้งในสมาร์ทโฟนเอาไว้สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็สามารถพูดสื่อสารกันได้ตั้งแต่ถามเส้นทางการเดินทางไปจนติดต่อคุยงานกันในยามจำเป็นก็ยังได้ แม้จะไม่ถึงระดับของล่ามที่ฝึกฝนภาษานั้นมาเป็นเวลานานจนเชี่ยวชาญแต่ในนาทีสำคัญมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้แน่นอนแถมส่วนใหญ่เป็นแอพฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือถ้าจ่ายค่าบริการเพิ่มก็ได้ฟีเจอร์มาเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกหลายอย่าง ถ้าพูดถึงแอพฯ เหล่านี้เมื่อไหร่ เป็นใครก็ต้องคิดถึง Google Translate ก่อนเป็นชื่อแรกแน่นอนแ แต่บางประเทศ เช่น จีนแผ่นดินใหญ่ปลายทางยอดนิยมของชาวไทยตอนนี้หรือรัสเซียก็ไม่สามารถใช้ Google ได้ ยกเว้นจะ Roaming สัญญาณเน็ตเข้าไป ก็มีทางออกโดยหันมาใช้แอพฯ เฉพาะของที่นั่นแทน ซึ่งใช้งานได้ดีพอกันและออกแบบมาเพื่อภาษานั้นโดยเฉพาะด้วย ทำให้การแปลภาษาลื่นไหลสื่อสารกับผู้คนได้ต่อเนื่อง แถมแอพฯ เหล่านี้ก็พัฒนาตัวเองให้แปลเอกสารและไฟล์...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก