ทุกท่านคงรู้จักกับ Ultrabook จากทาง ASUS กันมาจากหลากหลายค่ายแล้ว โดยมาในซีรีย์ของ ZenBook มาในตอนนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC ของเราก็มี ZenBook รุ่นล่าสุดมารีวิวให้ชมกัน ซึ่งก็คือ ASUS ZenBook UX305 ที่จัดได้ว่าเป็น Ultrabook รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิปประมวลผลมาตรฐานใหม่อย่าง Core m ที่ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมระบายความร้อน น้ำหนักและดีไซน์การออกแบบก็ระดับ Ultrabook ไฮเอนด์ แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ ASUSl มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาในราคาที่คุ้มค่า ทุกคนเป็นเจ้าของได้ง่าย
ASUS ZenBook UX305 นอกจากจะเป็นชิประมวลผล Intel Core m ก็ยังมาพร้อม SSD ความเร็วสูง ที่ความจุ 128GB หรือ 256GB รวมไปถึงยังมีกน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนลก็เป็น IPS ให้สีสันที่สวยงามสมจริงแบบสุดๆ ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่า Ultrabook ทั่วๆ ไปในตลาด สนนราคาเริ่มต้นทเพียง 19,990 บาท ไปจนถึง 29,990 บาทเท่านั้น
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook UX305 ขนาดหน้า 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ด้านชิปประมวลผลเป็น Intel Core m-5Y10 ความเร็ว 0.8 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 2.0 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 2 คอร์ 4 เทรด รุ่นล่าสุดที่เน้นการประหยัดไฟและลดความร้อน ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDRL3 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 5300 ที่เรียกได้ว่าสดใหม่กว่า HD Intel Core i รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ฮาร์ดดิสก์ SSD ยังมีความจุสูงที่ 256GB ทำให้มีความเร็วสูงทั้งเขียนและอ่าน พร้อมขนาดที่พอเพียงการใช้งาน
ตัวเครื่อง ASUS ZenBook UX305 ติดตั้งกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720 และไมโครโฟนแบบ Dual Microphone ไว้สำหรับแชท และวิดีโอคอลได้อย่างคมชัดลื่นไหล พอร์ตเชื่อมต่อเองก็จะมี USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต, micro HDMI สำหรับต่อหน้าจอแยกตัวที่ 2 , Audio Combo Jack, รองรับการเชื่อมไร้สายอย่าง Wireless 802.11 b/g/n , Bluetooth 4.0 และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 19,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี
สเปกเต็มๆ ของ ASUS ZenBook UX305
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook UX305 เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่ดูแล้วดีไซน์บางกว่า Ultrabook ทั่วไปที่ใช้ Core i ส่งผลให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา จากการที่เลือกใช้ชิปประมวลผล Core m ที่ไม่จำเป็นต้องมีพัดลมช่วยระบายความร้อน ส่วนของบอดี้จะใช้เป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยเครื่องที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้มารีวิวนั้นเป็นสีขาวสวยงาม ซึ่งอีกสีหนึ่งก็จะเป็นสีดำ ที่หรูหราไม่แพงกัน รวมไปถึงในบันเดิลยังมีซองหนังสีเดียวกับตัวเครื่องและอแดปเตอร์แปลง USB เป็น LAN มาให้อีกด้วย
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย ฝาหลังอลูมิเนียมที่เรียบเนียนส่วนขอบรอบของตัวเครื่องให้ความสวยงามมันวาว สำหรับวัสดุพลาสติกนั้นจะถูกนำเอามาใช้ด้านในของตัวเครื่องเป็นหลัก โดยให้ความรู้สึกที่แข็งแรงไม้แพ้ในส่วนที่เป็นอลูมิเนียมเลย แถมยังไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายด้วย แต่อย่างไรก็ตามที่เป็นสีขาวก็ต้องรักษาความสะอาดเสียหน่อย ไม่งั้นอาจจะเลอะแล้วเช็ดออกลำบาก
อีกหนึ่งจุดเด่นของ ASUS ZenBook UX305 ที่เป็น Ultrabook ระดับสูงก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางก็เพียง 12 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าบางเทียบเท่ากับ MacBook ของทาง Apple ได้อย่างสบายๆ นอกจากจากนี้ยังมีสุดที่เด่นที่เมื่อเรากางหน้าจอ ASUS ZenBook UX305 ออกมาแล้ว ส่วนขอบฝาหลังที่มียาวรอง จะทำหน้าที่ดันตัวเครื่องให้ยกสูงขึ้น แน่นอนว่าทำให้ตัวเครื่องลาดเอียด และเรานั้นใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งการพิมพ์หรือมองหน้าจอ
อย่างไรก็ตามถ้าหากจะหาการออกแบบที่ขาดหายไปจาก ASUS ZenBook UX305 ตัวนี้สักอย่างนึง ก็เป็นจะเรื่องของความง่ายในการอัพเกรดตัวเครื่องเองของผู้ใช้ด้วยตนเอง แต่นั่นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ ASUS ไม่ได้ตั้งใจหรือมีความต้องการให้ผู้ใช้ทำอะไรมากมายกับตัวเครื่องมากนักนั่นเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ Ultrabook อยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องใช้แรมและ SSD ที่มากกว่ารุ่นเริ่มต้น ก็ต้องเลือกสเปคที่สูงกว่านั่นเอง
จัดได้ว่า ASUS ZenBook UX305 เป็นการออกแบบ Ultrabook ที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจน ว่านี่คือ ASUS ZenBook ที่ได้รับการต่อยอดมาอย่างยาวนาน โดยใส่ในรายละเอียดอย่างที่สุด ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงจนเกินไป ทุกคนสามารถจำต้องได้
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีขาวเหมือนกัยตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรสีดำ มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งคีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size ซึ่งในด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ในส่วนของไฟ LED Backlit เสียดายที่ไม่มีการติดตั้งมาให้แต่อย่างใด ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ Ultrabook หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า แน่นอนว่าใช้ร่วมกับ Windows 10 ได้อย่างลงตัว
Screen / Speaker
หน้าจอของ ASUS ZenBook UX305 นอกเหนือจากเรื่องความบางเฉียบแล้ว จุดเด่นที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ASUS เลือกใส่มาให้เป็นความละเอียดสูงระดับ Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนล IPS ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่ Ultrabook ราคาใกล้เคียงกันไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการใช้งานก็เรียกได้ว่าประทับใจ จากประสิทธิภาพการแสดงผลที่เหนือชั้นกว่าพาเนล TN ทั่วไป รวมไปถึงความละเอียด Full HD ก็ให้ทั้งความเรียบเนียนตา และพื้นที่การใช้งานที่มากกว่า HD ปกติ ไม่ว่าจะทำงานหรือความบันเทิงก็ตอบโจทย์เป็นอย่างดี
ด้านของลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้ในระดับที่สอบผ่าน แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ZenBook UX305 นี้จัดว่าเป็น Ultrabook ที่มีความครบครับระดับนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต และ micro HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน รวมถึงมีช่อง SD Card Reader นอกเหนือจากนี้ยังมีช่องต่อกับ Power Adapter สำหรับจ่ายไฟให้กับตัวเครื่อง ส่วนอแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็ก พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น
ตัวเครื่องเมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook 13.3 นิ้วทั่วไปถือเป็นมาตรฐาน ซึ่งดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คปกติพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็น Ultrabook ในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
ASUS ZenBook UX305 ตัวทดสอบนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core M-5Y10 ซึ่งเป็นซีพียูใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 0.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i แบบตรงๆ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 5300 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส U แล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม (ถือว่าไม่สูงเท่าใดนัก แต่เพียงพอกับการใช้งานแน่นอน)
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก ทั้งการเขียนและการอ่าน ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด ตั้งแต่การเปิดเครื่อง หรือระบบโดยรวม
สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่า Ultrabook ชิป Core m รุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยได้คะแนนอยู่ที่ 10720 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 69.32 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ ASUS ZenBook UX305 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี
อีกเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แน่นอนว่าที่ความละเอียด Native 1920 x 1080 พิกเซล ไม่สามารถเล่นอย่างลื่นๆ ได้ สำหรับการปรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็ปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 40-50 แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 30 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook UX305 จะเป็นแบตเตอรี่แบบฝังอยู่ในตัวเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาเพื่อเปลี่ยนในภายหลังได้ ดังนั้นเมื่อใช้งานแล้วแบตเตอรี่ใกล้หมดก็ไม่สามารถหาแบตเตอรี่สำรองมาเปลี่ยนได้ ไม่ก็ตั้งให้เป็น Sleep Mode, ดับเครื่อง ก็ต้องหาที่สำหรับเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่อย่างเดียว ทว่าสำหรับระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องแบบใช้งานจริง สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง ในการทำงานแบบปกติ คือดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ตและก็ดู Youtube ได้
ส่วนของความร้อนในการทำงานนั้น หากว่าไม่ได้ใช้งานแบบรีดประสิทธิภาพเครื่องสูงจริงๆ ก็จะไม่ส่งผลถึงด้านความร้อนมากนัก และยังให้อุณหภูมิสูงสุดที่ชิปประมวลผลที่ 72 องศาเซลเซียส ส่วนเย็นสุดก็จะอยู่ที่ 27องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าไม่สูงหากว่าใช้งานแบบปกติ และสำหรับระบบระบายความร้อนก็ทำออกมาได้ดี เพราะเมื่อใช้งานจริงแล้ว ความร้อนไม่พุ่งขึ้นมาถึงมือของผู้เขียนเลย ตรงนี้นับว่าระบบระบายความร้อนทำออกมาใช้ได้ แม้ว่าจะไม่มีพัดลมระบายความร้อน ตามความสามารถของ Intel Core m
ด้านของเสียงระบบระบายความร้อนที่ส่งออกมานั้น ก็ไม่มีได้ยินอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่มีพัดลมมาให้หมุนให้ก่อเกิดเสียงใดๆ แต่การจัดการระบบระบายความร้อนและการออกแบบทำออกมาได้ดี ตรงนี้เป็นส่วนที่น่าชื่นชมว่าแม้จะไม่มีช่องอากาศเย็นเข้า แต่กลับเย็นใกล้เคียงกับหลายๆ รุ่น อาจจะเป็นเพราะมีช่องระบายความร้อนมาให้ใต้ส่วนของหน้าจอ
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับ ASUS ZenBook UX305 เครื่องนี้จัดได้ว่าเป็น ZenBook รุ่นพัฒนาต่อมาจาก Ultrabook รุ่นก่อนหน้าของทาง ASUSU แน่นอนว่ามาพร้อมกับความแข็งแกร่งและทนทานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊คจากทาง ASUS อีกทั้งยังมีราคาที่จำต้องได้ง่ายกว่าเดิมโดยเริ่มต้นที่ 19,990 บาทเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นยังติดตั้งชิปประมวลผลมาเป็น Intel Core m รุ่นล่าสุด แรมขนาด 4GB หรือ 8GB และยังได้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูง ที่ความจุ 128GB หรือ 256GB มาเสริมประสบการณ์ในการทำงานที่มีความสมบูรณ์แบบมายิ่งขึ้น
ASUS ZenBook UX305 เหมาะสำหรับการใช้งานเอกสารและอินเตอร์เน็ตเป็นหลักอย่างนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงในส่วนของการใช้งานจริงจังที่ไม่เน้นประมวลผลมาก ซึ่งถ้าใครที่เป็นนักธุรกิจหรือคนที่เน้นใช้งานแบบมืออาชีพ รวมไปถึงอาชีพที่ต้องพบปะลูกค้าที่เน้นของการนำเสนองานก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา แถมยังมีตัวเครื่องที่บางเฉียบ และน้ำหนักก็ยังเบาสุดๆ เหมาะกับการพกพาเป็นอย่างมาก เวลาใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงและไม่ก่อความร้อนรบกวนระหว่างใช้งาน เพราะว่าเป็นแบบไร้พัดลม
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่บางๆ เบาๆ มาพร้อมสเปคใหม่ล่าสุด ในช่วงราคา 19,990 – 29,990 บาท ก็สามารถเลือกดูเป็น ASUS ZenBook UX305 รุ่นที่ทางทีมงานรีวิวไปกันได้นะครับ รับรองว่าด้านการใช้งานคุ้มค่าสมราคา แม้ว่าประสิทธิภาพอาจจะสู้พวกชิปประมวลผล Intel Core i ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีไม่ผิดหวัง
ASUS ZenBook UX305 แบ่งออกเป็น 3 รุ่น 3 สเปคด้วยกัน คือ
- Core m-5Y10 / RAM 4GB / SSD 128GB ราคา 19,990 บาท
- Core m-5Y10 / RAM 8GB / SSD 256GB ราคา 26,990 บาท
- Core m-5Y71 / RAM 4GB / SSD 256GB / Windows 10 ราคา 29,990 บาท
ข้อดี
- การเลือกใช้วัสดุมาประกอบสร้างตัวเครื่องและงานประกอบทำได้ดีน่าประทับใจมาก
- หน้าจอแสดงผล 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
- พาเนล IPS ให้สีสันสวยงามสมจริง
- การใช้งานลื่นไหลรวดเร็วจาก SSD
- มีพอร์ต micro HDMI และรองรับ USB 3.0 ถึง 3 พอร์ต
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- ราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 19,990 บาท
ข้อสังเกต
- ประสิทธิภาพเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป
- ไม่มีคีย์บอร์ดติดตั้งระบบไฟ Backlit มาให้
- พอใช้งานหนักๆ อุณหภูมิเครื่องร้อน ส่งผลให้ชิปประมวลผลทำงานได้ไม่เต็มที่
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook UX305 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ZenBook UX305 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งความบางและความเบาของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า ASUS ZenBook ทั้งหมดอีกด้วย
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจสุดๆ ทั้งในความบางเฉียบ และน้ำหนักเบา 1.2 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะฮาร์ดแวร์ไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เรียกได้ว่าในการพกพาไปไหนมา ก็ตอบโจทย์ทีเดียว เทียบเท่าแล้วหนักกว่าแท็บเล็ตจอใหญ่ใส่เคสเล็กน้อยเท่านั้นเอง
Best Value
ในกลุ่ม Ultrabook ส่วนมากจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับ ASUS ZenBook UX305 ที่เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้วนี้ กลับมีราคาเริ่มต้นเพียง 19,990 บาทเท่านั้น โดยให้สเปคภายในที่เพียงพอกับการใช้งาน รวมไปถึงให้หน้าจอที่แสดงภาพได้สีสันสวยงาม เรียกได้ว่าใครมองหาโน๊ตบุ๊คเราคาคุ้มค่ากับดีไซน์บางเบาสไตล์ Ultrabook แล้วล่ะก็ ASUS ZenBook UX305 ก็คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook UX305 ขนาดหน้า 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ด้านชิปประมวลผลเป็น Intel Core m-5Y10 ความเร็ว 0.8 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 2.0 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 2 คอร์ 4 เทรด รุ่นล่าสุดที่เน้นการประหยัดไฟและลดความร้อน ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDRL3 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 5300 ที่เรียกได้ว่าสดใหม่กว่า HD Intel Core i รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ฮาร์ดดิสก์ SSD ยังมีความจุสูงที่ 256GB ทำให้มีความเร็วสูงทั้งเขียนและอ่าน พร้อมขนาดที่พอเพียงการใช้งาน
ตัวเครื่อง ASUS ZenBook UX305 ติดตั้งกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720 และไมโครโฟนแบบ Dual Microphone ไว้สำหรับแชท และวิดีโอคอลได้อย่างคมชัดลื่นไหล พอร์ตเชื่อมต่อเองก็จะมี USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต, micro HDMI สำหรับต่อหน้าจอแยกตัวที่ 2 , Audio Combo Jack, รองรับการเชื่อมไร้สายอย่าง Wireless 802.11 b/g/n , Bluetooth 4.0 และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 19,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี
สเปกเต็มๆ ของ ASUS ZenBook UX305
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook UX305 เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่ดูแล้วดีไซน์บางกว่า Ultrabook ทั่วไปที่ใช้ Core i ส่งผลให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา จากการที่เลือกใช้ชิปประมวลผล Core m ที่ไม่จำเป็นต้องมีพัดลมช่วยระบายความร้อน ส่วนของบอดี้จะใช้เป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยเครื่องที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้มารีวิวนั้นเป็นสีขาวสวยงาม ซึ่งอีกสีหนึ่งก็จะเป็นสีดำ ที่หรูหราไม่แพงกัน รวมไปถึงในบันเดิลยังมีซองหนังสีเดียวกับตัวเครื่องและอแดปเตอร์แปลง USB เป็น LAN มาให้อีกด้วย
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย ฝาหลังอลูมิเนียมที่เรียบเนียนส่วนขอบรอบของตัวเครื่องให้ความสวยงามมันวาว สำหรับวัสดุพลาสติกนั้นจะถูกนำเอามาใช้ด้านในของตัวเครื่องเป็นหลัก โดยให้ความรู้สึกที่แข็งแรงไม้แพ้ในส่วนที่เป็นอลูมิเนียมเลย แถมยังไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายด้วย แต่อย่างไรก็ตามที่เป็นสีขาวก็ต้องรักษาความสะอาดเสียหน่อย ไม่งั้นอาจจะเลอะแล้วเช็ดออกลำบาก
อีกหนึ่งจุดเด่นของ ASUS ZenBook UX305 ที่เป็น Ultrabook ระดับสูงก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางก็เพียง 12 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าบางเทียบเท่ากับ MacBook ของทาง Apple ได้อย่างสบายๆ นอกจากจากนี้ยังมีสุดที่เด่นที่เมื่อเรากางหน้าจอ ASUS ZenBook UX305 ออกมาแล้ว ส่วนขอบฝาหลังที่มียาวรอง จะทำหน้าที่ดันตัวเครื่องให้ยกสูงขึ้น แน่นอนว่าทำให้ตัวเครื่องลาดเอียด และเรานั้นใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งการพิมพ์หรือมองหน้าจอ
อย่างไรก็ตามถ้าหากจะหาการออกแบบที่ขาดหายไปจาก ASUS ZenBook UX305 ตัวนี้สักอย่างนึง ก็เป็นจะเรื่องของความง่ายในการอัพเกรดตัวเครื่องเองของผู้ใช้ด้วยตนเอง แต่นั่นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ ASUS ไม่ได้ตั้งใจหรือมีความต้องการให้ผู้ใช้ทำอะไรมากมายกับตัวเครื่องมากนักนั่นเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ Ultrabook อยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องใช้แรมและ SSD ที่มากกว่ารุ่นเริ่มต้น ก็ต้องเลือกสเปคที่สูงกว่านั่นเอง
จัดได้ว่า ASUS ZenBook UX305 เป็นการออกแบบ Ultrabook ที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจน ว่านี่คือ ASUS ZenBook ที่ได้รับการต่อยอดมาอย่างยาวนาน โดยใส่ในรายละเอียดอย่างที่สุด ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงจนเกินไป ทุกคนสามารถจำต้องได้
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีขาวเหมือนกัยตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรสีดำ มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งคีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size ซึ่งในด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ในส่วนของไฟ LED Backlit เสียดายที่ไม่มีการติดตั้งมาให้แต่อย่างใด ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ Ultrabook หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า แน่นอนว่าใช้ร่วมกับ Windows 10 ได้อย่างลงตัว
Screen / Speaker
หน้าจอของ ASUS ZenBook UX305 นอกเหนือจากเรื่องความบางเฉียบแล้ว จุดเด่นที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ASUS เลือกใส่มาให้เป็นความละเอียดสูงระดับ Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนล IPS ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่ Ultrabook ราคาใกล้เคียงกันไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการใช้งานก็เรียกได้ว่าประทับใจ จากประสิทธิภาพการแสดงผลที่เหนือชั้นกว่าพาเนล TN ทั่วไป รวมไปถึงความละเอียด Full HD ก็ให้ทั้งความเรียบเนียนตา และพื้นที่การใช้งานที่มากกว่า HD ปกติ ไม่ว่าจะทำงานหรือความบันเทิงก็ตอบโจทย์เป็นอย่างดี
ด้านของลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้ในระดับที่สอบผ่าน แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ZenBook UX305 นี้จัดว่าเป็น Ultrabook ที่มีความครบครับระดับนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต และ micro HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน รวมถึงมีช่อง SD Card Reader นอกเหนือจากนี้ยังมีช่องต่อกับ Power Adapter สำหรับจ่ายไฟให้กับตัวเครื่อง ส่วนอแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็ก พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น
ตัวเครื่องเมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook 13.3 นิ้วทั่วไปถือเป็นมาตรฐาน ซึ่งดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คปกติพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็น Ultrabook ในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
ASUS ZenBook UX305 ตัวทดสอบนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core M-5Y10 ซึ่งเป็นซีพียูใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 0.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i แบบตรงๆ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 5300 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส U แล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม (ถือว่าไม่สูงเท่าใดนัก แต่เพียงพอกับการใช้งานแน่นอน)
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก ทั้งการเขียนและการอ่าน ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด ตั้งแต่การเปิดเครื่อง หรือระบบโดยรวม
สำหรับ Street Fighter 4 ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่า Ultrabook ชิป Core m รุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยได้คะแนนอยู่ที่ 10720 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 69.32 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ ASUS ZenBook UX305 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี
อีกเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แน่นอนว่าที่ความละเอียด Native 1920 x 1080 พิกเซล ไม่สามารถเล่นอย่างลื่นๆ ได้ สำหรับการปรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็ปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 40-50 แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 30 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook UX305 จะเป็นแบตเตอรี่แบบฝังอยู่ในตัวเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาเพื่อเปลี่ยนในภายหลังได้ ดังนั้นเมื่อใช้งานแล้วแบตเตอรี่ใกล้หมดก็ไม่สามารถหาแบตเตอรี่สำรองมาเปลี่ยนได้ ไม่ก็ตั้งให้เป็น Sleep Mode, ดับเครื่อง ก็ต้องหาที่สำหรับเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่อย่างเดียว ทว่าสำหรับระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องแบบใช้งานจริง สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง ในการทำงานแบบปกติ คือดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ตและก็ดู Youtube ได้
ส่วนของความร้อนในการทำงานนั้น หากว่าไม่ได้ใช้งานแบบรีดประสิทธิภาพเครื่องสูงจริงๆ ก็จะไม่ส่งผลถึงด้านความร้อนมากนัก และยังให้อุณหภูมิสูงสุดที่ชิปประมวลผลที่ 72 องศาเซลเซียส ส่วนเย็นสุดก็จะอยู่ที่ 27องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าไม่สูงหากว่าใช้งานแบบปกติ และสำหรับระบบระบายความร้อนก็ทำออกมาได้ดี เพราะเมื่อใช้งานจริงแล้ว ความร้อนไม่พุ่งขึ้นมาถึงมือของผู้เขียนเลย ตรงนี้นับว่าระบบระบายความร้อนทำออกมาใช้ได้ แม้ว่าจะไม่มีพัดลมระบายความร้อน ตามความสามารถของ Intel Core m
ด้านของเสียงระบบระบายความร้อนที่ส่งออกมานั้น ก็ไม่มีได้ยินอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่มีพัดลมมาให้หมุนให้ก่อเกิดเสียงใดๆ แต่การจัดการระบบระบายความร้อนและการออกแบบทำออกมาได้ดี ตรงนี้เป็นส่วนที่น่าชื่นชมว่าแม้จะไม่มีช่องอากาศเย็นเข้า แต่กลับเย็นใกล้เคียงกับหลายๆ รุ่น อาจจะเป็นเพราะมีช่องระบายความร้อนมาให้ใต้ส่วนของหน้าจอ
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับ ASUS ZenBook UX305 เครื่องนี้จัดได้ว่าเป็น ZenBook รุ่นพัฒนาต่อมาจาก Ultrabook รุ่นก่อนหน้าของทาง ASUSU แน่นอนว่ามาพร้อมกับความแข็งแกร่งและทนทานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊คจากทาง ASUS อีกทั้งยังมีราคาที่จำต้องได้ง่ายกว่าเดิมโดยเริ่มต้นที่ 19,990 บาทเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นยังติดตั้งชิปประมวลผลมาเป็น Intel Core m รุ่นล่าสุด แรมขนาด 4GB หรือ 8GB และยังได้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูง ที่ความจุ 128GB หรือ 256GB มาเสริมประสบการณ์ในการทำงานที่มีความสมบูรณ์แบบมายิ่งขึ้น
ASUS ZenBook UX305 เหมาะสำหรับการใช้งานเอกสารและอินเตอร์เน็ตเป็นหลักอย่างนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงในส่วนของการใช้งานจริงจังที่ไม่เน้นประมวลผลมาก ซึ่งถ้าใครที่เป็นนักธุรกิจหรือคนที่เน้นใช้งานแบบมืออาชีพ รวมไปถึงอาชีพที่ต้องพบปะลูกค้าที่เน้นของการนำเสนองานก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา แถมยังมีตัวเครื่องที่บางเฉียบ และน้ำหนักก็ยังเบาสุดๆ เหมาะกับการพกพาเป็นอย่างมาก เวลาใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงและไม่ก่อความร้อนรบกวนระหว่างใช้งาน เพราะว่าเป็นแบบไร้พัดลม
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ที่บางๆ เบาๆ มาพร้อมสเปคใหม่ล่าสุด ในช่วงราคา 19,990 – 29,990 บาท ก็สามารถเลือกดูเป็น ASUS ZenBook UX305 รุ่นที่ทางทีมงานรีวิวไปกันได้นะครับ รับรองว่าด้านการใช้งานคุ้มค่าสมราคา แม้ว่าประสิทธิภาพอาจจะสู้พวกชิปประมวลผล Intel Core i ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีไม่ผิดหวัง
ASUS ZenBook UX305 แบ่งออกเป็น 3 รุ่น 3 สเปคด้วยกัน คือ
- Core m-5Y10 / RAM 4GB / SSD 128GB ราคา 19,990 บาท
- Core m-5Y10 / RAM 8GB / SSD 256GB ราคา 26,990 บาท
- Core m-5Y71 / RAM 4GB / SSD 256GB / Windows 10 ราคา 29,990 บาท
ข้อดี
- การเลือกใช้วัสดุมาประกอบสร้างตัวเครื่องและงานประกอบทำได้ดีน่าประทับใจมาก
- หน้าจอแสดงผล 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
- พาเนล IPS ให้สีสันสวยงามสมจริง
- การใช้งานลื่นไหลรวดเร็วจาก SSD
- มีพอร์ต micro HDMI และรองรับ USB 3.0 ถึง 3 พอร์ต
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- ราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 19,990 บาท
ข้อสังเกต
- ประสิทธิภาพเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป
- ไม่มีคีย์บอร์ดติดตั้งระบบไฟ Backlit มาให้
- พอใช้งานหนักๆ อุณหภูมิเครื่องร้อน ส่งผลให้ชิปประมวลผลทำงานได้ไม่เต็มที่
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook UX305 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ZenBook UX305 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งความบางและความเบาของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า ASUS ZenBook ทั้งหมดอีกด้วย
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจสุดๆ ทั้งในความบางเฉียบ และน้ำหนักเบา 1.2 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะฮาร์ดแวร์ไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เรียกได้ว่าในการพกพาไปไหนมา ก็ตอบโจทย์ทีเดียว เทียบเท่าแล้วหนักกว่าแท็บเล็ตจอใหญ่ใส่เคสเล็กน้อยเท่านั้นเอง
Best Value
ในกลุ่ม Ultrabook ส่วนมากจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับ ASUS ZenBook UX305 ที่เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้วนี้ กลับมีราคาเริ่มต้นเพียง 19,990 บาทเท่านั้น โดยให้สเปคภายในที่เพียงพอกับการใช้งาน รวมไปถึงให้หน้าจอที่แสดงภาพได้สีสันสวยงาม เรียกได้ว่าใครมองหาโน๊ตบุ๊คเราคาคุ้มค่ากับดีไซน์บางเบาสไตล์ Ultrabook แล้วล่ะก็ ASUS ZenBook UX305 ก็คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว