ในงาน Computex 2015 ช่วงกลางปีมานี้ทาง ASUS ได้มีการเปิดตัว Zen AiO series ออกมาแล้วรอบหนึ่งครับ มาในครั้งนี้ ASUS ได้ทำการเปิดตัว All-in-one ซีรีส์นี้ใหม่อีกครั้งอย่างเป็นทางการด้วยการเพิ่มตัวอักษร S เข้าไปในชื่อเป็น Zen AiO S series โดยจะใช้หน่วยประมวลผล Core i7 Gen 6 และ NVIDIA Maxwell ทั้งนี้ ASUS เปิดตัว Zen AiO S series ออกมา 2 รุ่นด้วยกันคือ Z240IC ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 23.8 นิ้วและ Z220IC ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 21.5 นิ้วครับ
ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นมาในรูปแบบของ Zen ดีไซน์ที่คงความสวยงามน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่งครับ โดยทาง ASUS ได้วางตำแหน่งของ Zen AiO S series นี้ไว้ในส่วนของผู้ใช้ระดับพรีเมียมที่ต้องการความแรงในการใช้งาน โดยการดึงดูดด้วยดีไซน์ที่ดูทันสมัยวัสดุที่ใช้เป็นอลูมิเนียมครับ สำหรับสเปคของ Zen AiO S series นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
- รุ่น Z240IC ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 23.8 นิ้วและ Z220IC ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 21.5 นิ้ว
- หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K/UHD สามารถสัมผัสได้พร้อมกับ 10 จุด ใช้ panel หน้าจอแบบ IPS ที่รองรับช่วงสี sRGB 100%
- หน่วยประมวลผล Intel Core i7 Gen 6 (คาดว่าเป็นรุ่น i7-6700U)
- กราฟิกการ์ดแยกของ NVIDIA สถาปัตยกรรม Maxwell รุ่น GTX 960M พร้อมหน่วยความจำขนาด 4 GB
- หน่วความจำ(RAM) เริ่มต้นที่ขนาด 8 GB สามารถอัพเกรดได้สูงสุดถึง 32 GB แบบ DDR4
- เป็น All-in-One รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับช่องเชื่อมต่อแบบ USB 3.1 Gen 2 Type-C พร้อมด้วยช่องเชื่อมต่อแบบ USB 3.0 จำนวน 4 ports และ USB 2.0
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในมาในรูปแบบการเชื่อมต่อ PCIe 3.0 x4 M.2 SSD (แต่ยังไม่มีการเผยข้อมูลว่าจะมีความจุเริ่มต้นอยู่ที่ขนาดเท่าไร)
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ 802.11ac Wi-Fi
- ในรุ่น Zen AiO S Z240IC จะมาพร้อมกับกล้องหน้าเทคโนโลยี Intel RealSense รองรับ 3D facial recognition ที่อยู่บนระบบปฎิบัติการ Windows 10
- ตั้งเครื่องทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับลำโพงภายในมากถึง 6 ตัวให้เสียงที่คอมชัดและสดใส โดยลำโพงแต่ละค้าง(จำนวนข้างละ 3 ตัว) สามารถให้กำลังเสียงได้สูงสุดถึง 8 watts รวมแล้วทั้ง 2 ข้างให้กำลังเสียงได้สูงสุด 16 watts ในรูปแบบเสียง stereo
จุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งของ Zen AiO S ก็คือความสามารถในการสร้าง personal cloud ในตัวด้วยซอฟต์แวร์เฉพาะของทาง ASUS อย่าง ASUS HomeCloud, PC Link, Share Link และ SyncUp apps ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ด้วยความรวดเร็ว ที่สำคัญก็คือผู้ใช้ Zen AiO S จะได้รับพื้นที่ cloud บนบัญชี ASUS WebStorage อีกถึง 100 GB มาใช้งานได้ฟรีเป็นระยะเวลาถึง 1 ปีด้วยกัน
งานนี้เรียกได้ว่า ASUS All-in-one Zen AiO S series รองรับการใช้งานทั้งทางด้านการเล่นเกมและการใช้งานทางด้านธุรกิจรวมไปถึงผู้ใช้ระดับมืออาชีพได้อย่างเต็มตัวครับ ทั้งนี้ ASUS จะประกาศวันวางจำหน่ายและราคาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ท่านใดที่สนใจ Zen AiO S series อยู่หล่ะก็บอกได้แค่ว่าอีกไม่นานเกินรอครับ
ที่มา : vr-zone, techpowerup