ในงานประชุมที่ Bengaluru, India เมื่อไม่นานมานี้ Michael Dell ผู้ก่อตั้งบริษัทและ CEO คนปัจจุบันของ Dell ได้มีการปราศรัยที่น่าสนใจออกมาครับว่า “หากผู้ผลิต PC 3 บริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Lenovo, HP และ Dell รวมตัวกันนั้นน่าจะทำให้ส่วนแบ่งในตลาดของ PC สามารถเพิ่มขึ้นได้ภายในช่วง 2 – 3 ปีนี้ โดยหากเกิดขึ้นจริงนั้นทั้ง 3 บริษัทน่าจะแย่งส่วนแบ่งในตลาดได้ถึง 80% ในช่วง 5 – 7 ปีข้างหน้า”
โดยจากที่ผ่านมานั้นหากอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลอย่างบริษัทวิจัยทางการตลาดอย่าง International Data Corp(IDC) จะพบว่าในปีนี้นั้นยอดจำหน่ายของ PC จะลดลงถึง 8.7%(มากกว่าในตอนแรกที่เคยประเมิณไว้ว่ายอดจำหน่ายของ PC จะลดลง 6.2%) ซึ่งที่เป็นเช่นนี้นั้นก็เนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากกว่า ถึงแม้ว่า IDC จะประเมิณไว้ว่าในปี 2017 นั้นยอดส่วนแบ่งในตลาดของ PC จะกลับมาเติบโตขึ้นทว่าก็ยังไม่สามารถที่จะไว้ใจเหตุการณ์ในอนาคตได้ครับ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 นั้น Dell ได้มีการร่วมทุนครั้งใหญ่กว่า $24.9 billion หรือประมาณ 8.84 แสนล้านบาท(โดยการร่วมกับคู่ค้าเอกชนอย่าง Silver Lake) ในการซื้อหุ้นกลับจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดเพื่อที่จะเปลี่ยนจากบริษัทมหาชนให้กลายเป็นบริษัทเอกชน จนเมื่อ Dell สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นบริษัทเอกชนเต็มตัวสำเร็จแล้วนั้น ทางบริษัทสามารถที่จะวางแผนอนาคตของบริษัทได้เป็นอย่างดีในอีก 3 ปี, 5 ปี หรือแม้กระทั่ง 10 ปีต่อจากนั้นแทนที่จะต้องมาสนใจการปรับตัวบริษัทในระยะสั้นเพื่อเพิ่มผลกำไรให้ตรงตามความต้องการของผู้ถือหุ้นครับ
แน่นอนว่าในไตรมาสที่ผ่านมานั้นเฉพาะแค่อุปกรณ์ประเภทโน๊ตบุ๊คเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ Dell มีผลกำไรประจำไตรมาสสูงขึ้นแล้ว ซึ่งผลกำไรของ Dell นั้นก็สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ตามลำดับต่อเนื่องกันถึง 10 ไตรมาส และ Michael Dell ก็มีความพยายามที่จะเปลี่ยนบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมากับมือของตัวเองตั้งแต่ในปี 1984 ให้กลายเป็นผู้ให้บริการที่สมบูรณ์ของบริการคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กรเหมือนอย่างที่ HP หรือ IBM เคยทำมาด้วย
โดยทาง Dell ได้บอกครับว่าพวกเขาสามารถที่จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ที่ตลาด PC กำลังหดตัวอยู่นี้ แถมธุรกิจของบริษัทเขายังไปได้ดีกับการเปลี่ยนแปลงจากผู้ผลิตอุปกรณ์แต่เพียงอย่างเดียวไปเป็นผู้ให้บริการ data center, software, services and security ด้วยอีกต่างหาก ทาง Dell ได้บอกเอาไว้อีกครับว่าพวกเขาจะไม่มีแผนที่จะเข้าไปในตลาดธุรกิจสมาร์ทโฟนอย่างที่ Microsoft ซื้อ Nokia(ในปี 2014) แต่อย่างใดครับ
Dell ให้เหตุผลที่จะไม่เข้าไปสู่ตลาดธุรกิจสมาร์ทโฟนว่า เขามองไว้ว่าอาจจะมีเพียงแค่หนึ่งหรือสองบริษัทเท่านั้นที่สามารถทำกำไรได้ดีในตลาดธุรกิจสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้และจะมีบริษัทเพียงไม่กี่บริษัทที่จะสูญเงินไปเป็นอย่างมากในตลาดธุรกิจสมาร์ทโฟน ซึ่งนั่นทำให้ทาง Dell เองไม่สนใจที่จะเข้าไปในธุรกิจดังกล่าวและยังคงมีความเชื่อมั่นในตลาด PC อยู่ต่อไป ทว่าการรวมตัวของผู้ผลิต PC นั้นจะเกิดขึ้นอย่างที่ Dell ตั้งใจไว้หรือไม่ก็คงจะต้องคอยติดตามกันต่อไปครับ เพราะผู้ที่ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในตลาด PC อย่าง Lenovo เองก็มีธุรกิจสมาร์ทโฟนของตัวเองเช่นกัน
หมายเหตุ – จากข้อมูลของ IDC ประจำไตรมาสล่าสุดที่ผ่านมา Lenovo มีส่วนแบ่งในตลาด PC อยู่ที่ 20.3% ตามมาด้วย HP กับส่วนแบ่งในตลาดที่ 18.5% และอันดับ 3 เป็นของทาง Dell เองกับส่วนแบ่งในตลาด 14.5% ครับ
ที่มา : venturebeat