ต้องยอมรับนะครับว่าโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์พกพานั้นมีราคาไม่แพงแล้ว แถมยังมีช่วงราคาให้เลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่ไม่ถึงหมื่นบาทจนไปถึงหลายหมื่นบาท แน่นอนว่าสำหรับหลายๆ คนงบประมาณในการเลือกซื้อไม่เกินสองหมื่นบาทนั้นน่าจะคำตอบแรกๆ จากการที่ต้องการเพียงโน๊ตบุ๊คที่สามารถใช้งานพื้นฐานได้ แต่ในตอนนี้ถ้าใครอยากได้โน๊ตบุ๊คที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในราคาที่ไม่แพงแล้วล่ะก็ HP Pavilion X2 ปี 2015 น่าจะเป็นคำตอบได้ดีทีเดียว
HP Pavilion X2 ปี 2015 เป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่สามารถถอดหน้าจอให้สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ มาพร้อมสเปกระดับที่ดี รองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญยังมีดีไซน์การออกแบบที่สวยงามโดดเด่นเกินราคา แน่นอนว่าตัวเครื่องมีความบางเบาและเบาเป็นพิเศษ เหมาะแก่การพกพามากๆ อีกด้วย สนนราคาก็ไม่แพงเลย โดยอยู่ที่ 15,990 บาทเท่านั้น
VDO Review
Specification
HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้มาพร้อมกับสเปคที่ค่อนข้างโดดเด่นไปทางประหยัดพลังงาน โดยซีพียูเองใช้เป็น Intel Atom Z3736F ที่เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Bay Trail โดยเป็นซีพียูแบบ 4 Core 4 Thread มีความเร็วในการทำงานอยู่ที่ 1.33 GHz – 1.86 GHz ความสามารถแน่นอนว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ส่วนแรมเครื่องนั้นให้มาอยู่ที่ 2GB และมี Flash Memory ที่ความจุ 64GB โดย Docking Keyboard สามารถถอดออกมาทำให้เราสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้
ส่วนหน้าจอเป็น LED แบบทัชสกรีน ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 800 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่ให้ทั้งสีสันที่สดใสและมุมมองการรับชมที่กว้าง พร้อมด้วยกระจกกันรอยขูดขีด ที่นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งกล้องด้านหน้าความละเอียดสูง เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ (อัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรี) และมี Office 365 + One Drive ความจุ 1TB มาให้อีกด้วย
อีกจุดเด่นของHP Pavilion X2 10 คือพอร์ตการใช้งานที่ครบครัน เมื่อเทียบกับไฮบริดโน๊ตบุ๊คทั่วไป ที่มีทั้ง USB Type-C, USB 2.0 และ micro-HDMI ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด, แฟลชไดร์ฟ และ LCD TV อีกทั้งยังมีช่องเสียบ micro-SD Card ไว้เพิ่มควมจุข้อมูล เรียกได้ว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่กลายร่างเป็นแท็บเล็ต Windows 10 อีกหนึ่งรุ่นที่สมบูรณ์ก็ว่าได้ สนนราคาก็จัดได้ว่าไม่แพงเลย เพราะเพียง 15,990 บาทเท่านั้นเอง มาพร้อมบริการ HP SmartFriend อีกด้วย
HP SmartFriend
สำหรับในรุ่นHP Pavilion X2 จะมีบริการ HP Smart Friend ให้ด้วยครับ ซึ่งก็คือ
1. บริการรับ-ส่งถึงบ้าน (Pickup and Return)
สะดวกสบายด้วยบริการรับ ส่งเครื่องซ่อมถึงที่ฟรี 77 จังหวัดทั่วไทย
ให้บริการคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตและพรินท์เตอร์ ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 8:30 – 17:30 น.
2. ให้คำปรึกษาทางโทรศัทพ์เป็นภาษาไทย ตลอด 24 ชั่วโมง (Call-Center 24Hrs.)
สอบถามหรือรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำหรับการแก้ไขเบื้องต้นด้วยตนเอง
- ติดต่อทางโทรศัพท์ได้ที่โทร. 02-118-6300 หรือโทรฟรี 001 800 441 4085
3. บริการกู้คืนข้อมูล (Data Recovery)
เข้ารับบริการกู้คืนข้อมูลฟรี 1 ครั้งต่อปี ณ ศูนย์บริการ HP ทุกสาขา รับข้อมูลที่กู้คืนในรูปแบบแผ่น DVD
หมายเหตุ: ทางบริษัทไม่รับประกันปริมาณข้อมูลที่สามารถกู้คืนได้
4. บริการตรวจเช็คสภาพผลิตภัณฑ์ (Health Check)
บริการดูแลตรวจเช็คคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ตฟรี ปีละ 2 ครั้ง หากตรวจสอบพบความผิดปกติ บริษัทจะทำการแก้ไข ก่อนส่งคืนลูกค้าพร้อมผลรายงานการตรวจเช็ค
5.?บริการซ่อมทันใจ (Express Repair)
บริการซ่อมด่วนที่รวดเร็วเพียง 30 นาที ณ ศูนย์บริการ HP เฉพาะชิ้นส่วนทั่วไปของคอมพิวเตอร์ (Battery,Adapter,CD/DVD-Rom)
- สามารถโทรนัดวันเวลาเข้ารับบริการได้ที่ Call-Center 02-118-6300 หรือโทรฟรี 001 800441 4085 แสดง ID Case เพื่อรับบริการที่เคาน์เตอร์ ณ ศูนย์บริการ HP เข้ารับบริการได้ที่ 5 ศูนย์ใหญ่ (กรุงเทพฯ,เชียงใหม่, หาดใหญ่, ขอนแก่น และ ชลบุรี)
6. สอบถามความพึงพอใจหลังบริการ (HappyCall)
ทีมงานจะโทรศัพท์สอบถามความพึงพอใจหลังการบริการในวันทำการถัดไป หลังจากทีมงานได้รับการยืนยันที่เสร็จสิ้นในแต่ละกรณี
เรียกได้ว่าบริการหลังการขาย HP SmartFriend เป็นอะไรที่มากกว่าบริการจริงๆ เพราะเราได้ทั้งในส่วนของความมั่นใจเรื่องของการซ่อม รวมไปถึงสะดวกสบายไม่ต้องเสียเวลาไปด้วยตนเอง ประหยัดเวลา พร้อมให้ปรึกษาด้วยทีมงานผู้ชำนาญ ทำให้เราอุ่นใจเลยว่าจะได้รับบริการที่พิเศษสุดจากทาง HP จริงๆ
ผลิตภัณฑ์ HP รุ่นใหม่จะได้รับบริการ HP SmartFriend ทั้งหมดครับ โดยเราสามารถเช็คตัวเครื่องว่ารองรับบริการ HP SmartFriend หรือไม่ ได้ผ่านทาง http://goo.gl/DU6sR4?จากการที่เรากรอกข้อมูล Serial Number ของผลิตภัณฑ์ลงไป พร้อมเลือกประเทศ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถทราบถึงบริการ HP SmartFriend ของเครื่องเราได้แล้ว
Hardware / Design
การดีไซน์ออกแบบตัวเครื่องโดยรวมของ HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้ จัดได้ว่ามีความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปพอสมควร ด้วยดีไซน์ที่บางเบาคล้ายกับเป็น Ultrabook ขนาดเล็ก ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อม Docking Keyboard ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยในส่วนของสีสันก็เรียบง่ายด้วยสีแดงฉูดฉาด (อีกสีที่มีจำหน่ายเป็นสีขาว) พร้อมด้วย Docking Keyboard ที่เป็นสีเดียวกัน ผ่านทางการเชื่อมต่อด้วยแม่เหล็ก ทำให้มีความมั่นคงแต่ก็สามารถถอดออกจากกันได้อย่างสะดวกไม่ยุ่งยาก ส่วนงานประกอบโดยรวมถือได้ว่าดีเยี่ยม ที่ดูแล้วตัวเครื่องหรูหราสะดุดตามีราคากว่าค่าตัว 15,990 บาท
ตัวเครื่องที่เป็นหน้าจอไม่รวมส่วนของ Docking Keyboard จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.585 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบาพอประมาณหากมองว่าเป็นแท็บเล็ต และถามรวมกับ Docking Keyboard แล้ว ก็จะมีน้ำหนักราวๆ 1 กิโลกรัมนิดๆ เพียงเท่านั้น สำหรับความบางของตัวเครื่องที่บางเฉียบที่ 9.65 มิลลิเมตร เรียกได้ว่ามีความบางมากๆ สำหรับแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Winodws โดยถึงแม้จะรวมกับ Docking Keyboard ก็ถือว่าพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายอยู่ดี สำหรับโน๊ตบุ๊คถอดจดได้รุ่นนึง
Keyboard / Touchpad
เมื่อเปิดเครื่องออกมาในลักษณะของโน๊ตบุ๊คปกติก็พบกับตัวคีย์บอร์ดที่จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำด้าน มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบ Full-size island-style เอกสิทธิเฉพาะ HP เท่านั้น ใช้งานจริงตอบสนองและรับกันนิ้วได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความพิเศษที่ตัวของ Docking Keyboard จะทำให้หน้าที่ส่วนของหน้าจอให้สูงขึ้น และสำหรับตัวแป้นคีย์บอร์ดเองก็จะมีความลาดเอียงเข้ารับกับมือในการพิมพ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เช่นเดียวกันกับทัชแพดที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ และยังสามารถใช้งานแบบ Multi-Touch Gesture ที่มีใน Windows 10 ได้ด้วย ที่สำคัญบริเวณที่เชื่อมต่อตัวเครื่องและ Docking Keyboard สามารถใช้งานได้ง่ายดาย ด้วยการยึดติดกันแบบแม่เหล็ก
Screen / Speaker
หน้าจอของแท็บเล็ต HP Pavilion X2 ปี 2015 ใช้เป็นเทคโนโลยี นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูง โดยมีขนาดอยู่ที่ 10.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1280 x 800 พิกเซล โดยสัดส่วนเป็น 16:10 ส่งผลให้พื้นที่ในการทำงานมากกว่าสัดส่วนทั่วไปอย่าง 16:9 อีกทั้งยีงให้ประสบการณ์จอภาพระบบสัมผัสอันน่าประทับใจอย่างแท้จริง เทคโนโลยีนี้เป็นการเชื่อมโมดูลเข้ากับจอภาพสัมผัสโดยตรง จึงเป็นการกำจัดแสงสะท้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ลดความเปรียบต่างและมุมการรับชม โดยเฉพาะภายใต้การใช้งานกลางแจ้ง ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ส่วนบริเวณด้านหน้าของ HP Pavilion X2 ปี 2015 แล้วประกอบไปด้วยกล้อง Webcam ความละเอียด HD พร้อมไมค์มาให้เพื่อไว้ใช้งาน Video Call รวมไปถึงยังมีลำโพงสเตอริโอที่ดีไซน์การติดตั้งบริเวณซ้ายขวาของหน้าจอ (ทำให้หน้าจอดูบาง) ซึ่งให้คุณภาพเสียงและความดังที่ดีจากการเป็น B&O play เรียกได้ว่าจากการทดลองฟังเพลงและชมภาพยนตร์แล้วน่าประทับใจจริงๆ
Four versatile modes
HP Pavilion X2 สามารถปรับเปลี่ยนได้สี่โหมดการใช้งานที่แตกต่างกันทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ถอดออกและใช้งานเป็นแท็บเล็ต, ทำงานอย่างจริงจังในโหมดแล็ปท็อป, กางจอภาพเพื่อแบ่งปัน หรือพลิกกลับเพื่อรับชมภาพยนตร์เมื่อมีพื้นที่จำกัด
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน๊ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Tablet Mode ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 10.6 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของ HP Pavilion X2 นี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ขนาด 10.1 นิ้ว ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน๊ตบุ๊คไม่เกินสองหมื่นบาท
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
เรียกได้ว่า HP Pavilion X2 นั้นเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ใช้งานได้อย่างเยี่ยมยอด จากการที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้อย่างอิสระเหมือนกับโน๊ตบุ๊คราคาแพงในหลายๆ รุ่น ซึ่งอย่าลืมนะครับว่า HP Pavilion X2 มีราคาจำหน่ายเพียง 15,990 บาทเท่านั้น แต่ทำได้เหมือนไฮบริดโน๊ตบุ๊คราคาหลายหมื่นบาทเลย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อของ HP Pavilion X2 จัดได้ว่าให้มาเท่าที่จะให้ได้โดยอยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านขวา อาทิ พอร์ตชาร์จไฟที่เป็นมาตรฐาน USB Typt-C ที่เราสามารถชาร์จไฟหรือเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟที่เป็น USb Type-C ได้เหมือนกันทันที แน่นอนว่าเร็วกว่า USB 3.0 ทั่วไป เพราะเป็น USB 3.1 แล้ว รวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานอย่าง USB 2.0 แบบปกติก็มีมาให่เช่นกัน ที่ถ้าไม่พอใช้งานก็คงจำเป็นต้อง Hub USB เข้าไป ต่อด้วยพอร์ตการแสดงผลภายนอกอย่าง micro-HDMI ที่เอาไว้เชื่อมต่อหน้าจอหรือโปรเจคเตอร์ผ่านทางสาย micro-HDMI to HDMI และช่องเชื่อมต่อ micro-SD Card ที่เอาไว้เพิ่มหน่วยความจำในตัวเครื่อง (มีเฉพาะหูฟังจะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านซ้าย)
นอกจากนี้บริเวณตัวเครื่องขอบด้านขวายังมีปุ่ม Windows ที่มีตามปกติของแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows และปุ่มเพิ่มลดเสียงอีกด้วย เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น สำหรับปุ่ม Power/Sleep ก็จะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านขวาบน ซึ่งง่ายต่อการใช้งานทีเดียว
Conclusion / Award
HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้เป็นอีกหนึ่งไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจทีเดียว ด้วยดีไซน์สวยงามและคุณสมบัติที่สามารถแยกถอดจอแยกใช้งานในแบบแท็บเล็ตก็ได้ หรือจะเชื่อมต่อใช้งานกับ Keyboard Docking เพื่อเป็นโน๊ตบุ๊คในแบบปกติก็สามารถทำได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมน้ำหนักเครื่องที่เบาสุดๆเพียง 0.585 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรืvคนทำงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการพกพา และใช้งานนอกสถานที่เป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงยังสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ไม่แพ้ในส่วนของแท็บเล็ตที่เป็น Android หรือ iOS ทีเดียว
ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็จัดได้ว่ามีพอตัว ด้วยชิปประมวลผล Intel Atom รองรับทั้งการชมภาพยนตร์ฟังเพลง งานเอกสาร เปิดอินเตอร์เน็ตเล่นเว็บไซต์ ด้วยสเปกภายในที่มีการติดตั้งชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดที่ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมเพราะก่อเกิดความร้อนน้อย พร้อมแรมขนาด 2GB และ Flash Memory ความจุ 64GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่อยความจำได้ด้วย micro-SD Card แต่ก็ต้องบอกตรงนี้เลยว่าสามารถทำงานเอกสาร งานพรีเซนต์ต่างๆได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ครั้นจะนำไปใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต Windows 10 หน้าจอ 10.1 นิ้ว เพื่อตอบสนองความบันเทิงก็ทำได้ดีทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามสเปกประมาณนี้ไม่เหมาะงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมกราฟิก 3 มิตินะครับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อสุดทันสมัยอย่าง USB Type-C ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบ USB 3.1 ที่เป็นมาตรฐานใหม่อีกด้วย แน่นอนว่ามีความพิเศษตรงที่มีขนาดที่เล็กกว่าเดิมมากๆ และสามารถเสียบด้านไหนก็ได้ รวมไปถึงยังสามารถจ่ายไฟได้อีกด้วย เรียกได้ว่าHP Pavilion X2 ที่ติดตั้ง USB Type-C มาให้นี้ กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ล้ำที่สุดในปี 2015 รุ่นนึงทีเดียว
อีกหนึ่งอย่างที่โดนใจคนทำงานนอกเหนือจากได้ Windows 8.1 แท้ๆ (อัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี) มาแล้วก็คือ ยังได้ Office 365 แท้เป็นเวลาหนึ่งปีด้วย โดย Office 365 ถือเป็นโปรแกรมทำงานด้านเอกสารที่ดีที่สุดในตอนนี้จาก Microsoft มาครบหมดทั้ง Work, Excel, Power point, Onenote ฯลฯ พร้อมพื้นที่จัดเก็บไฟล์คลาวน์ One Drive ความจุ 1TB
ที่สำคัญยังมีบริการอินเตอร์เน็ต WiFi รอบโลกอย่าง iPass ที่มากับ HP Pavilion X2 ซึ่ง iPass นี้เองจะสามารถใช้งานได้จริงๆ กว่าหลายๆร้อยประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์ Wi-Fi และ Log-in ผ่านแอพพลิเคชั่น iPass ก็สามารถใช้งานได้แล้วละครับ โดยในประเทศไทยทั้ง True, AIS และ 3BB ก็รองรับ ซึ่งให้ใช้กันได้ฟรีๆ เป็นระยะวะเวลา 1 ปีเลย
แต่ข้อสังเกตของ HP Pavilion X2 10 ปี 2015 ก็มีอยู่บ้างเช่นกัน ด้วยจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่มีมาให้ในระดับพอใช้งานเท่านั้น รวมไปถึงการใช้ชิปประมวลผลแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลม แม้ว่าจะช่วยให้ตัวเครื่องบางเบาลงไปอีก แต่ก็ส่งผลเสียให้ระบายความร้อนได้น้อยลงเช่นกัน คือจะบอกว่าถ้ามันไม่ร้อนมากก็คงไม่เป็นเป็นไร แต่ถ้าร้อนสะสมมากเมื่อไหร่ ความสามารถในการทำงานอาจจะตกลงไปได้
สนนราคาของ HP Pavilion X2 ที่ 15,990 บาทเท่านั้น เทียบกับจุดสังเกตเล็กน้อยๆ ก็นับว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คอีกตัวเลือกเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่น่าลองเลยละครับ
ข้อดีของ HP Pavilion X2
- ดีไซน์สวยงามและบางเบา
- ถอดจอเป็นแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้วได้
- เปลี่ยนโหมดการใช้งานได้หลายรูปแบบ
- ประสิทธิภาพเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
- มีพอร์ต USB type-C สุดล้ำ
- สามารถชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องผ่านทาง Power Bank ที่เชื่อมต่อผ่าน USB type-C ได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- มี Windows 8.1 แท้ (สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี)
- มี Office 365 + One Drive ความจุ 1TB มาให้
- มี iPass ให้ใช้ Wi-Fi ฟรี 1 ปี
- มาพร้อมบริการ HP SmartFriend
จุดสังเกตของ HP Pavilion X2
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพ่อต่อการใช้งานพื้นฐานเท่านั้น
- การไม่มีพัดลม อาจจะทำให้ก่อเกิดความร้อนสะสมได้ง่าย
- ความจุในตัวเครื่องมีน้อย แต่ก็สามารถเพิ่มได้ด้วย micro-SD Card หรือ One drive
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มไฮบริดขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ซึ่ง HP Pavilion X2 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของ HP Pavilion X2 ทั้งในความบางและน้ำหนักเบา 1.1 กิโลกรัม (โหมดแท็บเล็ตหนักเพียง 0.585 กิโลกรัม) ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก อีกทั้งด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่งผลให้เราสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที เปิดหน้าจออีกทีก็ใช้งานได้เลย อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก จึงทำให้ HP Pavilion X2 ได้รับรางวัล Best Mobility ไปอย่างง่ายดาย
Best Value
ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาเริ่มต้นที่หมื่นบาทจนไปถึงสองหมื่นกว่าบาท ที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมความเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คนั้นหาได้ยากทีเดียว แต่สำหรับ HP Pavilion X2 นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายทีเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครมองหาโน๊ตบุ๊คที่แตกต่างแต่ราคาคุ้มค่ากับดีไซน์ดีเยี่ยม ถือว่า HP Pavilion X2 ปี 2015 เครื่องนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงเลย
VDO Review
Specification
HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้มาพร้อมกับสเปคที่ค่อนข้างโดดเด่นไปทางประหยัดพลังงาน โดยซีพียูเองใช้เป็น Intel Atom Z3736F ที่เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Bay Trail โดยเป็นซีพียูแบบ 4 Core 4 Thread มีความเร็วในการทำงานอยู่ที่ 1.33 GHz – 1.86 GHz ความสามารถแน่นอนว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ส่วนแรมเครื่องนั้นให้มาอยู่ที่ 2GB และมี Flash Memory ที่ความจุ 64GB โดย Docking Keyboard สามารถถอดออกมาทำให้เราสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้
ส่วนหน้าจอเป็น LED แบบทัชสกรีน ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 800 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่ให้ทั้งสีสันที่สดใสและมุมมองการรับชมที่กว้าง พร้อมด้วยกระจกกันรอยขูดขีด ที่นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งกล้องด้านหน้าความละเอียดสูง เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ (อัพเกรดเป็น Windows 10 ฟรี) และมี Office 365 + One Drive ความจุ 1TB มาให้อีกด้วย
อีกจุดเด่นของHP Pavilion X2 10 คือพอร์ตการใช้งานที่ครบครัน เมื่อเทียบกับไฮบริดโน๊ตบุ๊คทั่วไป ที่มีทั้ง USB Type-C, USB 2.0 และ micro-HDMI ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด, แฟลชไดร์ฟ และ LCD TV อีกทั้งยังมีช่องเสียบ micro-SD Card ไว้เพิ่มควมจุข้อมูล เรียกได้ว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่กลายร่างเป็นแท็บเล็ต Windows 10 อีกหนึ่งรุ่นที่สมบูรณ์ก็ว่าได้ สนนราคาก็จัดได้ว่าไม่แพงเลย เพราะเพียง 15,990 บาทเท่านั้นเอง มาพร้อมบริการ HP SmartFriend อีกด้วย
HP SmartFriend
สำหรับในรุ่นHP Pavilion X2 จะมีบริการ HP Smart Friend ให้ด้วยครับ ซึ่งก็คือ
1. บริการรับ-ส่งถึงบ้าน (Pickup and Return)
สะดวกสบายด้วยบริการรับ ส่งเครื่องซ่อมถึงที่ฟรี 77 จังหวัดทั่วไทย
ให้บริการคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตและพรินท์เตอร์ ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 8:30 – 17:30 น.
2. ให้คำปรึกษาทางโทรศัทพ์เป็นภาษาไทย ตลอด 24 ชั่วโมง (Call-Center 24Hrs.)
สอบถามหรือรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำหรับการแก้ไขเบื้องต้นด้วยตนเอง
- ติดต่อทางโทรศัพท์ได้ที่โทร. 02-118-6300 หรือโทรฟรี 001 800 441 4085
3. บริการกู้คืนข้อมูล (Data Recovery)
เข้ารับบริการกู้คืนข้อมูลฟรี 1 ครั้งต่อปี ณ ศูนย์บริการ HP ทุกสาขา รับข้อมูลที่กู้คืนในรูปแบบแผ่น DVD
หมายเหตุ: ทางบริษัทไม่รับประกันปริมาณข้อมูลที่สามารถกู้คืนได้
4. บริการตรวจเช็คสภาพผลิตภัณฑ์ (Health Check)
บริการดูแลตรวจเช็คคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ตฟรี ปีละ 2 ครั้ง หากตรวจสอบพบความผิดปกติ บริษัทจะทำการแก้ไข ก่อนส่งคืนลูกค้าพร้อมผลรายงานการตรวจเช็ค
5.?บริการซ่อมทันใจ (Express Repair)
บริการซ่อมด่วนที่รวดเร็วเพียง 30 นาที ณ ศูนย์บริการ HP เฉพาะชิ้นส่วนทั่วไปของคอมพิวเตอร์ (Battery,Adapter,CD/DVD-Rom)
- สามารถโทรนัดวันเวลาเข้ารับบริการได้ที่ Call-Center 02-118-6300 หรือโทรฟรี 001 800441 4085 แสดง ID Case เพื่อรับบริการที่เคาน์เตอร์ ณ ศูนย์บริการ HP เข้ารับบริการได้ที่ 5 ศูนย์ใหญ่ (กรุงเทพฯ,เชียงใหม่, หาดใหญ่, ขอนแก่น และ ชลบุรี)
6. สอบถามความพึงพอใจหลังบริการ (HappyCall)
ทีมงานจะโทรศัพท์สอบถามความพึงพอใจหลังการบริการในวันทำการถัดไป หลังจากทีมงานได้รับการยืนยันที่เสร็จสิ้นในแต่ละกรณี
เรียกได้ว่าบริการหลังการขาย HP SmartFriend เป็นอะไรที่มากกว่าบริการจริงๆ เพราะเราได้ทั้งในส่วนของความมั่นใจเรื่องของการซ่อม รวมไปถึงสะดวกสบายไม่ต้องเสียเวลาไปด้วยตนเอง ประหยัดเวลา พร้อมให้ปรึกษาด้วยทีมงานผู้ชำนาญ ทำให้เราอุ่นใจเลยว่าจะได้รับบริการที่พิเศษสุดจากทาง HP จริงๆ
ผลิตภัณฑ์ HP รุ่นใหม่จะได้รับบริการ HP SmartFriend ทั้งหมดครับ โดยเราสามารถเช็คตัวเครื่องว่ารองรับบริการ HP SmartFriend หรือไม่ ได้ผ่านทาง http://goo.gl/DU6sR4?จากการที่เรากรอกข้อมูล Serial Number ของผลิตภัณฑ์ลงไป พร้อมเลือกประเทศ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถทราบถึงบริการ HP SmartFriend ของเครื่องเราได้แล้ว
Hardware / Design
การดีไซน์ออกแบบตัวเครื่องโดยรวมของ HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้ จัดได้ว่ามีความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปพอสมควร ด้วยดีไซน์ที่บางเบาคล้ายกับเป็น Ultrabook ขนาดเล็ก ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อม Docking Keyboard ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยในส่วนของสีสันก็เรียบง่ายด้วยสีแดงฉูดฉาด (อีกสีที่มีจำหน่ายเป็นสีขาว) พร้อมด้วย Docking Keyboard ที่เป็นสีเดียวกัน ผ่านทางการเชื่อมต่อด้วยแม่เหล็ก ทำให้มีความมั่นคงแต่ก็สามารถถอดออกจากกันได้อย่างสะดวกไม่ยุ่งยาก ส่วนงานประกอบโดยรวมถือได้ว่าดีเยี่ยม ที่ดูแล้วตัวเครื่องหรูหราสะดุดตามีราคากว่าค่าตัว 15,990 บาท
ตัวเครื่องที่เป็นหน้าจอไม่รวมส่วนของ Docking Keyboard จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.585 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบาพอประมาณหากมองว่าเป็นแท็บเล็ต และถามรวมกับ Docking Keyboard แล้ว ก็จะมีน้ำหนักราวๆ 1 กิโลกรัมนิดๆ เพียงเท่านั้น สำหรับความบางของตัวเครื่องที่บางเฉียบที่ 9.65 มิลลิเมตร เรียกได้ว่ามีความบางมากๆ สำหรับแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Winodws โดยถึงแม้จะรวมกับ Docking Keyboard ก็ถือว่าพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายอยู่ดี สำหรับโน๊ตบุ๊คถอดจดได้รุ่นนึง
Keyboard / Touchpad
เมื่อเปิดเครื่องออกมาในลักษณะของโน๊ตบุ๊คปกติก็พบกับตัวคีย์บอร์ดที่จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำด้าน มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบ Full-size island-style เอกสิทธิเฉพาะ HP เท่านั้น ใช้งานจริงตอบสนองและรับกันนิ้วได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความพิเศษที่ตัวของ Docking Keyboard จะทำให้หน้าที่ส่วนของหน้าจอให้สูงขึ้น และสำหรับตัวแป้นคีย์บอร์ดเองก็จะมีความลาดเอียงเข้ารับกับมือในการพิมพ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เช่นเดียวกันกับทัชแพดที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ และยังสามารถใช้งานแบบ Multi-Touch Gesture ที่มีใน Windows 10 ได้ด้วย ที่สำคัญบริเวณที่เชื่อมต่อตัวเครื่องและ Docking Keyboard สามารถใช้งานได้ง่ายดาย ด้วยการยึดติดกันแบบแม่เหล็ก
Screen / Speaker
หน้าจอของแท็บเล็ต HP Pavilion X2 ปี 2015 ใช้เป็นเทคโนโลยี นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูง โดยมีขนาดอยู่ที่ 10.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1280 x 800 พิกเซล โดยสัดส่วนเป็น 16:10 ส่งผลให้พื้นที่ในการทำงานมากกว่าสัดส่วนทั่วไปอย่าง 16:9 อีกทั้งยีงให้ประสบการณ์จอภาพระบบสัมผัสอันน่าประทับใจอย่างแท้จริง เทคโนโลยีนี้เป็นการเชื่อมโมดูลเข้ากับจอภาพสัมผัสโดยตรง จึงเป็นการกำจัดแสงสะท้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ลดความเปรียบต่างและมุมการรับชม โดยเฉพาะภายใต้การใช้งานกลางแจ้ง ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ส่วนบริเวณด้านหน้าของ HP Pavilion X2 ปี 2015 แล้วประกอบไปด้วยกล้อง Webcam ความละเอียด HD พร้อมไมค์มาให้เพื่อไว้ใช้งาน Video Call รวมไปถึงยังมีลำโพงสเตอริโอที่ดีไซน์การติดตั้งบริเวณซ้ายขวาของหน้าจอ (ทำให้หน้าจอดูบาง) ซึ่งให้คุณภาพเสียงและความดังที่ดีจากการเป็น B&O play เรียกได้ว่าจากการทดลองฟังเพลงและชมภาพยนตร์แล้วน่าประทับใจจริงๆ
Four versatile modes
HP Pavilion X2 สามารถปรับเปลี่ยนได้สี่โหมดการใช้งานที่แตกต่างกันทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ถอดออกและใช้งานเป็นแท็บเล็ต, ทำงานอย่างจริงจังในโหมดแล็ปท็อป, กางจอภาพเพื่อแบ่งปัน หรือพลิกกลับเพื่อรับชมภาพยนตร์เมื่อมีพื้นที่จำกัด
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน๊ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Tablet Mode ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 10.6 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของ HP Pavilion X2 นี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ขนาด 10.1 นิ้ว ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน๊ตบุ๊คไม่เกินสองหมื่นบาท
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
เรียกได้ว่า HP Pavilion X2 นั้นเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ใช้งานได้อย่างเยี่ยมยอด จากการที่สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้อย่างอิสระเหมือนกับโน๊ตบุ๊คราคาแพงในหลายๆ รุ่น ซึ่งอย่าลืมนะครับว่า HP Pavilion X2 มีราคาจำหน่ายเพียง 15,990 บาทเท่านั้น แต่ทำได้เหมือนไฮบริดโน๊ตบุ๊คราคาหลายหมื่นบาทเลย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อของ HP Pavilion X2 จัดได้ว่าให้มาเท่าที่จะให้ได้โดยอยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านขวา อาทิ พอร์ตชาร์จไฟที่เป็นมาตรฐาน USB Typt-C ที่เราสามารถชาร์จไฟหรือเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟที่เป็น USb Type-C ได้เหมือนกันทันที แน่นอนว่าเร็วกว่า USB 3.0 ทั่วไป เพราะเป็น USB 3.1 แล้ว รวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานอย่าง USB 2.0 แบบปกติก็มีมาให่เช่นกัน ที่ถ้าไม่พอใช้งานก็คงจำเป็นต้อง Hub USB เข้าไป ต่อด้วยพอร์ตการแสดงผลภายนอกอย่าง micro-HDMI ที่เอาไว้เชื่อมต่อหน้าจอหรือโปรเจคเตอร์ผ่านทางสาย micro-HDMI to HDMI และช่องเชื่อมต่อ micro-SD Card ที่เอาไว้เพิ่มหน่วยความจำในตัวเครื่อง (มีเฉพาะหูฟังจะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านซ้าย)
นอกจากนี้บริเวณตัวเครื่องขอบด้านขวายังมีปุ่ม Windows ที่มีตามปกติของแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows และปุ่มเพิ่มลดเสียงอีกด้วย เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น สำหรับปุ่ม Power/Sleep ก็จะอยู่ขอบตัวเครื่องด้านขวาบน ซึ่งง่ายต่อการใช้งานทีเดียว
Conclusion / Award
HP Pavilion X2 ปี 2015 นี้เป็นอีกหนึ่งไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจทีเดียว ด้วยดีไซน์สวยงามและคุณสมบัติที่สามารถแยกถอดจอแยกใช้งานในแบบแท็บเล็ตก็ได้ หรือจะเชื่อมต่อใช้งานกับ Keyboard Docking เพื่อเป็นโน๊ตบุ๊คในแบบปกติก็สามารถทำได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมน้ำหนักเครื่องที่เบาสุดๆเพียง 0.585 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรืvคนทำงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการพกพา และใช้งานนอกสถานที่เป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงยังสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ไม่แพ้ในส่วนของแท็บเล็ตที่เป็น Android หรือ iOS ทีเดียว
ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็จัดได้ว่ามีพอตัว ด้วยชิปประมวลผล Intel Atom รองรับทั้งการชมภาพยนตร์ฟังเพลง งานเอกสาร เปิดอินเตอร์เน็ตเล่นเว็บไซต์ ด้วยสเปกภายในที่มีการติดตั้งชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดที่ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมเพราะก่อเกิดความร้อนน้อย พร้อมแรมขนาด 2GB และ Flash Memory ความจุ 64GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่อยความจำได้ด้วย micro-SD Card แต่ก็ต้องบอกตรงนี้เลยว่าสามารถทำงานเอกสาร งานพรีเซนต์ต่างๆได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ครั้นจะนำไปใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต Windows 10 หน้าจอ 10.1 นิ้ว เพื่อตอบสนองความบันเทิงก็ทำได้ดีทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามสเปกประมาณนี้ไม่เหมาะงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมกราฟิก 3 มิตินะครับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อสุดทันสมัยอย่าง USB Type-C ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบ USB 3.1 ที่เป็นมาตรฐานใหม่อีกด้วย แน่นอนว่ามีความพิเศษตรงที่มีขนาดที่เล็กกว่าเดิมมากๆ และสามารถเสียบด้านไหนก็ได้ รวมไปถึงยังสามารถจ่ายไฟได้อีกด้วย เรียกได้ว่าHP Pavilion X2 ที่ติดตั้ง USB Type-C มาให้นี้ กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ล้ำที่สุดในปี 2015 รุ่นนึงทีเดียว
อีกหนึ่งอย่างที่โดนใจคนทำงานนอกเหนือจากได้ Windows 8.1 แท้ๆ (อัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี) มาแล้วก็คือ ยังได้ Office 365 แท้เป็นเวลาหนึ่งปีด้วย โดย Office 365 ถือเป็นโปรแกรมทำงานด้านเอกสารที่ดีที่สุดในตอนนี้จาก Microsoft มาครบหมดทั้ง Work, Excel, Power point, Onenote ฯลฯ พร้อมพื้นที่จัดเก็บไฟล์คลาวน์ One Drive ความจุ 1TB
ที่สำคัญยังมีบริการอินเตอร์เน็ต WiFi รอบโลกอย่าง iPass ที่มากับ HP Pavilion X2 ซึ่ง iPass นี้เองจะสามารถใช้งานได้จริงๆ กว่าหลายๆร้อยประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์ Wi-Fi และ Log-in ผ่านแอพพลิเคชั่น iPass ก็สามารถใช้งานได้แล้วละครับ โดยในประเทศไทยทั้ง True, AIS และ 3BB ก็รองรับ ซึ่งให้ใช้กันได้ฟรีๆ เป็นระยะวะเวลา 1 ปีเลย
แต่ข้อสังเกตของ HP Pavilion X2 10 ปี 2015 ก็มีอยู่บ้างเช่นกัน ด้วยจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่มีมาให้ในระดับพอใช้งานเท่านั้น รวมไปถึงการใช้ชิปประมวลผลแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลม แม้ว่าจะช่วยให้ตัวเครื่องบางเบาลงไปอีก แต่ก็ส่งผลเสียให้ระบายความร้อนได้น้อยลงเช่นกัน คือจะบอกว่าถ้ามันไม่ร้อนมากก็คงไม่เป็นเป็นไร แต่ถ้าร้อนสะสมมากเมื่อไหร่ ความสามารถในการทำงานอาจจะตกลงไปได้
สนนราคาของ HP Pavilion X2 ที่ 15,990 บาทเท่านั้น เทียบกับจุดสังเกตเล็กน้อยๆ ก็นับว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คอีกตัวเลือกเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่น่าลองเลยละครับ
ข้อดีของ HP Pavilion X2
- ดีไซน์สวยงามและบางเบา
- ถอดจอเป็นแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้วได้
- เปลี่ยนโหมดการใช้งานได้หลายรูปแบบ
- ประสิทธิภาพเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
- มีพอร์ต USB type-C สุดล้ำ
- สามารถชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องผ่านทาง Power Bank ที่เชื่อมต่อผ่าน USB type-C ได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- มี Windows 8.1 แท้ (สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี)
- มี Office 365 + One Drive ความจุ 1TB มาให้
- มี iPass ให้ใช้ Wi-Fi ฟรี 1 ปี
- มาพร้อมบริการ HP SmartFriend
จุดสังเกตของ HP Pavilion X2
- พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพ่อต่อการใช้งานพื้นฐานเท่านั้น
- การไม่มีพัดลม อาจจะทำให้ก่อเกิดความร้อนสะสมได้ง่าย
- ความจุในตัวเครื่องมีน้อย แต่ก็สามารถเพิ่มได้ด้วย micro-SD Card หรือ One drive
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มไฮบริดขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ซึ่ง HP Pavilion X2 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของ HP Pavilion X2 ทั้งในความบางและน้ำหนักเบา 1.1 กิโลกรัม (โหมดแท็บเล็ตหนักเพียง 0.585 กิโลกรัม) ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก อีกทั้งด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่งผลให้เราสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที เปิดหน้าจออีกทีก็ใช้งานได้เลย อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก จึงทำให้ HP Pavilion X2 ได้รับรางวัล Best Mobility ไปอย่างง่ายดาย
Best Value
ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คราคาเริ่มต้นที่หมื่นบาทจนไปถึงสองหมื่นกว่าบาท ที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมความเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คนั้นหาได้ยากทีเดียว แต่สำหรับ HP Pavilion X2 นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายทีเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครมองหาโน๊ตบุ๊คที่แตกต่างแต่ราคาคุ้มค่ากับดีไซน์ดีเยี่ยม ถือว่า HP Pavilion X2 ปี 2015 เครื่องนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงเลย