มาตามคำสัญญาครับกับบทความรีวิวแนะนำเครื่องเกมมิ่ง PC Barebone ประสิทธิภาพสูงมาก แต่มาพร้อมขนาดเล็กจิ๋วที่น่าสนใจมากๆ อย่าง MSI NightBlade MI รุ่นล่าสุดที่ต่อยอดความสำเร็จจากผู้เป็นพี่อย่าง MSI NightBlade ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ทั้งในแง่ของหน้าตาเหลี่ยมมุมต่างๆที่สวยงามโดดเด่นมากกว่าเดิม ทั้งในแง่ของขนาดที่พัฒนาให้เล็กลงไปกว่าเดิม ทั้งในแง่ของฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์อย่างครบครัน ทั้งในแง่ของสเปคที่เร็วและแรงไม่แพ้เครื่องใหญ่ๆ ซึ่ง MSI NightBlade MI จะน่าสนใจเหมือนที่ผมเกริ่นไว้หรือไม่ตามไปดูกันในรีวิวฉบับเต็มกันได้เลย
Video Introduce
Specification
ในแง่ของสเปค MSI NightBlade MI เลือกติดตั้งหน่วยประมวลผลหรือซีพียูในรุ่น Intel Core i5-4440S (3.3GHz 4C/4T) ในตระกูล Hasewell “Gen 4” (อัพเกรดได้สูงสุดถึงระดับ Core i7-4790S) ที่กินไฟต่ำเพียง 65 W พร้อมด้วยแรมสูงสุด 16GB แบบ Dual Channel (8GBx2) พร้อมสามารถติดตั้งที่เก็บข้อมูลก็ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว เพราะสามารถติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟแบบ 3.5 นิ้วได้ถึง 2 ตัว และยังเพิ่มเติม SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ได้อีกหนึ่งตัว
เรื่องของการเล่นเกมไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะทาง MSI เลือกที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่รองรับอนาคตอย่าง DirectX 12 ขับเคลื่อนผ่านกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce GTX960 2GB GDDR5 (อัพเกรดได้สูงสุด GeForce GTX970 4GB GDDR5) บนเมนบอร์ด ITX ในชิป B85 ผ่านตัวจ่ายไฟหรือ PSU 350W 80+ Bronze รุ่นพิเศษ หายห่วงได้เลยทั้งในแง่ของความแรงในการเล่นเกม การรองรับเกมใหม่ในอนาคต และหายห่วงได้เลยว่ากำลังไฟจะจ่ายไม่พอ
การเชื่อมต่อต่างๆ เห็น MSI NightBlade MI มีขนาดตัวเล็กๆ กระทัดเพียง 128x 235x 340 มิลลิเมตร (10 ลิตร) หนัก 8 กิโลกรัมหรือเทียบเท่ากับ UPS ตัวเล็กตัวนึงเท่านั้น แต่บอกได้เลยว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบ ทั้งจาก 1 x PS/2 keyboard/mouse combo , 1 x LAN (RJ45) , 4 x USB 2.0 2 x USB 3.0 , 1 x Optical S/PDIF OUT connector , 6 x OFC audio jacks ที่อยู่บริเวณด้านหลัง และ 2 x USB 3.0 , 1 x Mic-in , 1 x Audio jack และ Slim ODD บริเวณด้านหน้าให้ใช้งานกันได้สะดวกสุดๆ ส่วนจะเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Bluetooth 4.0 และ Wireless AC ด้วยละ ครบถ้วนกันเลยทีเดียว
Features
MSI NightBlade MI นอกเหนือจากจะมีสเปค พอร์ตเชื่อมต่อ และขนาดตัวเครื่องที่โดดเด่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่เลยก็คือฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าจัดมาให้อย่างเต็มสตรีมไม่แพ้ Gaming PC เครื่องใหญ่ๆ เลยซึ่งแต่ละฟีเจอร์สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีมากทีเดียวเชียวละครับยกตัวอย่างเช่น
ระบายความร้อนที่ดีกว่า และเงียบกว่าด้วยเทคโนโลยี Silent Storm Cooling ที่ทาง MSI ออกแบบมาใช้งานกับ Nigitbade MI โดยเฉพาะ เพื่อความประหยัดพื้นที่ โดยอาศัยท่อฮีทไปป์ในการช่วยระบายความร้อนจำนวน 2 เส้น เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน โดยทาง MSI เคลมมาว่ามันสามารถลดอุณหภูมิได้ดีกว่า 9 องศา ลดเสียงรบกวนได้มากวก่า 8dB เมื่อเปรียบเทียบกับ CPU Cooler ทั่วๆไป แถมยังคงทนกว่าด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทั้งเครื่องในเกรดเดียวกับการทหารที่แน่นอนว่าคงทน และมีอายุยืนยาวกว่าเกรดทั่วๆ ไปมั่นใจได้เลยในเรื่องของอายุการใช้งาน
อีกหนึ่งจัดเด่นอย่างเทคโนโลยีเสียง Nahimic Sound ที่รองรับระบบเสียง 7.1 Channel เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ที่ให้ประสบการณ์ในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง หรือแม้แต่วิดีโอคอลได้ดีกว่าที่เคย ด้วยซอฟแวร์เสียงจากฝรั่งเศส ที่จะเพิ่มเบส รายละเอียดของเสียง และลดเสียงรบกวน รวมไปถึงยังมีเทคโนโลยีเสียงอย่าง Audio Boost ที่จะช่วยรีดประสิทธิภาพของหูฟังเกมมิ่งได้ดียิ่งขึ้น
เช่นกันกับการออกแบบภายในตัวเครื่องที่ออกแบบใส่ใจทุกรายละเอียด แบ่งโซนนิ่งต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนถึง 6 โซนไม่ว่าจะเป็น โซนระบายความร้อน , โซนเก็บสาย , โซนสายสัญญาณ , โซนที่เก็บข้อมูล , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูง และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง ที่จะเห็นว่าแบ่งไว้เป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน ส่งผลให้ทุกอย่างใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการหมุนเวียนของอากาศที่ดี การอัพเกรดที่ง่าย และการที่ทำให้เครื่องมีขนาดที่เล็กลงแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับ Gaming PC Barebone จากแบรนด์ไหนมาก่อน ยกเว้น MSI NightBlade MI
Using Experience
ดูกันในส่วนของภาพรวมเรื่องของสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ กันไปแล้ว เรามาดูกันในส่วนของการออกแบบและประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI กันต่อเลย โดยในส่วนแรกที่เราจะพูดถึงจะเป็นดีไซน์ของตัวเครื่องที่ได้รับการ Redesign รูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่เป็นเหลี่ยมๆ มุมๆ ในตัวก่อน กับ MSI NightBlade MI ตัวนี้จะมีความโค้งเว้า รวมถึงนูนต่ำนูนสูงของตัวเครื่องมากยิ่งขึ้นในทุกๆ มุมมองและมุมสัมผัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน้ากากของตัวเครื่องสีดำที่ตัดด้วยแผงรังผึ้งสีแดง รวมถึงมีโลโก้มังกร Gaming G Series และโลโก้ MSI พร้อมด้วย ODD แบบ DVD Slim มาให้ด้วย โดยฝาหน้าด้านล่างจะทำเว้าเล็กน้อยเพื่อดูดลมเย็นเข้าไปด้วย ปุ่มเปิด-ปิดรวมถึงพอร์ตต่างๆบริเวณ Front Panel จะอยู่บริเวณฝาครอบด้านข้างขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มเปิดเครื่อง ที่มีไฟแสดงสถานะ , พอร์ต USB Charger และ USB 3.0 รวมถึงแจ็คหูฟัง และลำโพง
ด้านข้างซ้ายและขวาของฝาครอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะสีดำแบบชิ้นเดียวดูแปลกตากว่า PC เครื่องอื่นๆ อย่างชัดเจนอย่างมากเพราะปกติช่องระบายความร้อนด้านข้างแต่เจ้า MSI Nigitbade MI จับย้ายมาไว้ด้านขวาเพราะการจัดวางเลย์เอาท์แบบกลับหัวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยทั้งสองด้านจะมีการเล่นลวดลายปั้มเว้า ปั้มนูน เจาะรูรังผึ้งเฟี้ยวดีทีเดียว ส่วนด้านบนจะเป็นโลหะผิวเรียบๆ ไม่มีลวดลายเช่นเดียวกันกับตัวเคสด้านล่างที่ก็เรียบๆ เช่นกันแต่จะมียางรองกันลื่นให้สี่มุม ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องกระทัดรัดดีจริงๆ แต่บอกได้เลยว่า I/O Connector และพอร์ตต่างมาๆเต็มจริงๆ เลยละครับ
เปิดเครื่องดูเครื่องในของ MSI Nigitbade MI กันต่อเลย โดยการเปิดฝาเครื่องทำได้ยากเล็กน้อยเพราะตัวฝาข้างเคสเป็นแบบชิ้นเดียวไม่ได้แบ่งส่วนไว้ เวลาเปิดฝาข้างต้องรูดเปิดฝาข้างออกทั้งหมดทีเดียว เมื่อเปิดออกจะเห็นการจัดวางโซนนิ่งต่างๆ ดังที่ผมได้กล่าวไว้ชัดเจน 6 โซน ทั้ง โซนระบายความร้อน , โซนเก็บสาย , โซนสายสัญญาณ , โซนที่เก็บข้อมูล , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูง และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง
ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นจะเป็นการ์ดจอตัวเป้ง ซึ่งเครื่องที่ได้มาทดสอบจะติดตั้งการ์ดจอ MSI GeForce GTX 960 Armor 2x สีขาวอร่อมตาวางเด่นเป็นสง่าผ่าน Riser แบบแข็งพร้อมตัวจ่ายไฟแบบ Slim ขนาด 350W ที่เป็นมาตรฐาน 80 Plus Bronze จาก FSP รุ่นพิเศษแบบวัตต์เต็มไม่ต้องกลัวว่าไฟจะไม่พอ
เมื่อรื้อการ์ดจอจากแผง Riser ออกมาจะเห็นสายไฟที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแบ่งเป็นส่วนๆ ไว้อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้นก็จะเห็นแผงแรมที่ใส่ได้สองแผง รวมไปถึงชุดผัดลมแบบก้นหอยสั่งทำผิดเศษเพื่อประหยัดพื้นที่มากที่สุด แต่ก็ยังระบายความร้อนได้ดีในชื่อ Silent Storm Cooling โดยชุดระบายความร้อนตัวนี้ทำงานผ่านท่อฮีทไปป์ 2 เส้นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน โดยจะมีพัดลมด้านหน้าเครื่องช่วยทำให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น
ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลในรูปแบบของ Hot Swop แบบถาดที่สามารถใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้ว ได้ 2 ตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณและสายไฟให้ยุ่งย่าง ส่วนด้านหลังเครื่องจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลขนาด 2.5 นิ้ว ที่ในส่วนนี้สามารถติดตั้ง SSD ก็ได้ หรือ SSHD ก็ได้เช่นกัน ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นแผงหลังของตัวเมนบอร์ด ตัวแบคเพลทของตัวชุดระบายความร้อน
ในแง่ของประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI บอกได้เลยว่าทำได้ประทับใจมากทั้งในแง่ของการจัดวางต่างๆ ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบา สามารถจัดวางและปรับโยกย้ายไปตรงนู้นที ตรงนี้ทีได้ง่ายทีเดียว แถวเอาไปวางด้วยดีไซน์ของมันเองก็ทำให้มันดูโดดเด่น ประหนึ่งดั่งเป็นเครื่องประหยัดชิ้นนึงประจำห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องนอนได้แบบไม่เคอะเขิลเลยละครับ
ส่วนการใช้งานเองสำหรับ MSI Nigitbade MI ทำได้ง่ายและน่าประใจเกินขนาดไปมากๆ เลยละครับ เพราะตัวเครื่องทั้งเครื่องทดสอบและขายจริงทำการลง Windows 10 เอาไว้ให้ด้วย ไม่ต้องยุ่งยากลงไดร์ฟเวอร์ต่างๆ เพิ่มเติ่ม และมันสามารถเล่นเกมในระดับ Full-HD ปรับ High ได้ลื่นทุกเกมจริงๆ เรียกได้ว่าเล่นไปเลือดออกไปเพราะลื่นหัวแตกนั่นเอง ส่วนครั้งจะเล่นบาความละเอียดสูงอย่าง 2K , 2.5K , 3K , 4K หรือแม้แต่ 5K ก็ทำได้ดีเช่นกันนะครับด้วยประสิทธิภาพที่ดีและพอร์ตเชื่อต่อจากกราฟิการ์ดอย่าง Display Port ที่มีให้ถึง 3 พอร์ต ยิ่งถ้าปรับมาใช้เป็น GTX 970 ตามที่ MSI มีสเปคไว้ให้ด้วยก็จะได้อถรรสได้ดีขึ้นไปอีก ส่วนการใช้งานอื่นๆ หายห่วงเลยละครับเพราะ MSI Nigitbade MI ได้หมดอย่างสบายๆ ทั้งจากสเปคที่แรง และพอร์ตเชื่อมต่อทั้งไร้สายและมีสายที่มากันอย่างครบครัน
แถมระดับเสียงรบกวนต่างๆ ก็ถือว่าค่อนข้างเงียบดีนะเพราะชุดระบายความร้อนที่ติดตั้งมานั้นทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว จะมีดังบ้างก็ตอนเล่นเกมหนักๆ นั่นและครับ ส่วนความร้อนมั่นใจหายห่วงได้เลยละ เพราะถึงแม้จะเป็นเคสที่โคตรเล็ก แต่ MSI เค้าคิดระบบระบายความร้อน และควบคุมการหมุนเวียนของอากาศมาได้ดีมาก
Performance / Software
MSI Nigitbade MI ตัวที่เราได้รับมานั้น ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบนั้นจะมีสเปคข้างต้นตามด้านบนเลยครับ
โปรแกรมอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ระบุเอาไว้
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนตามประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามสไตล์สเปคของระบบขั้นกลางสูง
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ HDD 7200RPM ความจุ 1TB ไว้สำหรับเก็บข้อมูล ที่มีความเร็วอยู่ในระดับที่ที่น่าพอใจ
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จาก Transend ความจุ 128GB ก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะใช้เป็นตัวติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10
การเล่นเกมต่างๆ จะเห็นได้ว่าทำได้ดีมาก สามารถเล่น Full-HD ได้ลื่นไหลทุกเกมเลยละครับ ส่วนถ้าความละเอียดสูงกว่านี้อย่างระดับ 4K UltraHD ก็ยังทำได้นะ แต่ปรับให้เหมาะสมก็เพียงพอ
โปรแกรม Benchmark หรือทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมยอมฮิตอย่างชุดทดสอบ 3D Mark สำหรับเพื่อนๆที่อยากเห็นคะแนนครับผม
ส่วนในเรื่องของความร้อนที่หลายๆ คนกังวลบอกได้เลยว่าหายห่วง เพราะจากผลทดสอบด้านในตัว CPU จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความร้อนโดยรวมอยู่ที่ราวๆ 38 องศาฯ แต่ถ้าใช้งานประมวลผลหนักๆ ความร้อนของซีพียูจะไปสูงสุดอยู่ที่ระดับ 70-73 องศาฯ ซึ่งจัดอยู่ในโซนที่ค่อนข้างปลอดภัยทีเเดียว ที่ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับชุดระบายความร้อนนั่นเองละครับ ส่วนตัวการ์ดจอเองก็ชิวๆ เลยเพราะความร้อนสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 75 องศาฯ เท่านั้นเอง
Conclusion / Award
จากการที่ได้สัมผัสต้องบอกได้เลยว่า MSI Nigitbade MI เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปขนาดเล็กสไตล์ Barebone สำหรับเล่นเกมที่ดีมากตัวหนึ่งในท้องตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งจากขนาดของตัวเครื่องเกมมิ่งที่มีขนาดกระทัดรัดและประหยัดพื้นที่ในการจัดวางเอามากๆ แต่ก็ยังคงไว้ในเรื่องของประสิทธิภาพที่จัดเต็มจัดหนักอย่างครบครันในแบบที่เกมมิ่งคอมพิวเตอร์ระดับท็อปๆ เครื่องหนึ่งควรจะมี ทั้งในแง่ของสเปคที่สูงและไม่แพ้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Full Tower เลยจากหน่วยประมวลผลกลางประสิทธิภาพดีอย่าง Intel Core i5-i7 แรมสูงถึง 16GB รวมไปถึงกราฟิกการ์ด GTX960 แบบเต็มใบ และที่จัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก ยิ่งไปกว่าในส่วนของที่เก็บข้อมูลต่างๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนทั้งฮาร์ดขนาด 3.5 นิ้วที่รองรับได้ถึง 2 ตัว และ SSD ขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับได้อีก 1 ตัว ก็ทำให้ MSI Nigitbade MI สมบูรณ์แบบมากๆ เลยละครับ
เช่นกันกับในแง่ของฟีเจอร์ต่างๆ ที่อัดแน่นมาให้และใช้ประโยชน์ได้จริงๆ อย่างพอร์ตเชื่อมต่อมีสายและไร้สายที่หลากหลาย , ชุดระบายความร้อน Silent Strom ที่ออกแบบมาได้ดีมาก , ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ รวมถึงการออกแบบภายในตัวเครื่องที่เป็นระบบระเบียบช่วยให้การอัพเกรดและอากาศภายในตัวเครื่องไหลเวียนได้ดี การออกแบบภาพนอกตัวเครื่องที่กระทัดรัด แต่สวยงามเหมาะจะเป็นเฟอร์แบบแมนๆ ในห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยแล้ว ยิ่งส่งให้ MSI Nigitbade MI น่าจับจองเป็นเจ้าของเข้าไปอีกละครับ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ MSI Nigitbade MI ต้องพิสูจน์ตัวเองเอามากๆ เลยก็คือราคาขายนั่นเองละครับ ว่าสรุปแล้วจะเปิดออกมาที่เท่าไรกันแน่ ถ้าเปิดออกมาโดนรับรองได้เลยว่าขายดีแน่นอน แต่ถ้าเปิดมาสูงไปพาลเอาแป็กก็กลายเป็น Gaming Barebone ในฝัน(ที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง)เท่านั้นเองละครับ
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุดูดี งานประกอบแจ่ม แข็งแรงทนทาน
- ขนาดเล็กกระทักรัด เหมาะกับการจัดวางในทุกพื้นที่
- ชุดระบายความร้อน Silent Strom ที่ออกแบบมาได้ดีมาก การออกแบบภายในตัวเครื่องที่เป็นระบบระเบียบอากาศภายในตัวเครื่องไหลเวียนได้ดี
- ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 , HDMI , DP และอื่นๆ อีกมามาย
- สเปคเครื่องค่อนข้างสูงมากทั้ง Core i7 และการ์ดจอ GeForce GTX 960 เล่นเกมลื่นทุกเกม
ข้อสังเกต
- ฝาข้าง-ฝาบนตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวกัน ถอดได้ยากสักเล็กน้อย
Award
นับว่า MSI Nigitbade MI เกมมิ่งพีซีครื่องนี้โดดเด่นเรื่องดีไซน์และการออกแบบเอามากๆ เลยละครับ ด้วยการคิดแล้วคิดอีกทำให้เกิดเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งแรงๆ บนขนาดที่เล็กกระทัดรัดสมบูรณ์ในทุกแง่มุมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่บอกได้เลยว่าเหล่าเกมเมอร์เห็นแล้วต้องเป็นปลื้มอย่างแน่นอน
Video Introduce
Specification
ในแง่ของสเปค MSI NightBlade MI เลือกติดตั้งหน่วยประมวลผลหรือซีพียูในรุ่น Intel Core i5-4440S (3.3GHz 4C/4T) ในตระกูล Hasewell “Gen 4” (อัพเกรดได้สูงสุดถึงระดับ Core i7-4790S) ที่กินไฟต่ำเพียง 65 W พร้อมด้วยแรมสูงสุด 16GB แบบ Dual Channel (8GBx2) พร้อมสามารถติดตั้งที่เก็บข้อมูลก็ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว เพราะสามารถติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟแบบ 3.5 นิ้วได้ถึง 2 ตัว และยังเพิ่มเติม SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ได้อีกหนึ่งตัว
เรื่องของการเล่นเกมไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะทาง MSI เลือกที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่รองรับอนาคตอย่าง DirectX 12 ขับเคลื่อนผ่านกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce GTX960 2GB GDDR5 (อัพเกรดได้สูงสุด GeForce GTX970 4GB GDDR5) บนเมนบอร์ด ITX ในชิป B85 ผ่านตัวจ่ายไฟหรือ PSU 350W 80+ Bronze รุ่นพิเศษ หายห่วงได้เลยทั้งในแง่ของความแรงในการเล่นเกม การรองรับเกมใหม่ในอนาคต และหายห่วงได้เลยว่ากำลังไฟจะจ่ายไม่พอ
การเชื่อมต่อต่างๆ เห็น MSI NightBlade MI มีขนาดตัวเล็กๆ กระทัดเพียง 128x 235x 340 มิลลิเมตร (10 ลิตร) หนัก 8 กิโลกรัมหรือเทียบเท่ากับ UPS ตัวเล็กตัวนึงเท่านั้น แต่บอกได้เลยว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบ ทั้งจาก 1 x PS/2 keyboard/mouse combo , 1 x LAN (RJ45) , 4 x USB 2.0 2 x USB 3.0 , 1 x Optical S/PDIF OUT connector , 6 x OFC audio jacks ที่อยู่บริเวณด้านหลัง และ 2 x USB 3.0 , 1 x Mic-in , 1 x Audio jack และ Slim ODD บริเวณด้านหน้าให้ใช้งานกันได้สะดวกสุดๆ ส่วนจะเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Bluetooth 4.0 และ Wireless AC ด้วยละ ครบถ้วนกันเลยทีเดียว
Features
MSI NightBlade MI นอกเหนือจากจะมีสเปค พอร์ตเชื่อมต่อ และขนาดตัวเครื่องที่โดดเด่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่เลยก็คือฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าจัดมาให้อย่างเต็มสตรีมไม่แพ้ Gaming PC เครื่องใหญ่ๆ เลยซึ่งแต่ละฟีเจอร์สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีมากทีเดียวเชียวละครับยกตัวอย่างเช่น
ระบายความร้อนที่ดีกว่า และเงียบกว่าด้วยเทคโนโลยี Silent Storm Cooling ที่ทาง MSI ออกแบบมาใช้งานกับ Nigitbade MI โดยเฉพาะ เพื่อความประหยัดพื้นที่ โดยอาศัยท่อฮีทไปป์ในการช่วยระบายความร้อนจำนวน 2 เส้น เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน โดยทาง MSI เคลมมาว่ามันสามารถลดอุณหภูมิได้ดีกว่า 9 องศา ลดเสียงรบกวนได้มากวก่า 8dB เมื่อเปรียบเทียบกับ CPU Cooler ทั่วๆไป แถมยังคงทนกว่าด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทั้งเครื่องในเกรดเดียวกับการทหารที่แน่นอนว่าคงทน และมีอายุยืนยาวกว่าเกรดทั่วๆ ไปมั่นใจได้เลยในเรื่องของอายุการใช้งาน
อีกหนึ่งจัดเด่นอย่างเทคโนโลยีเสียง Nahimic Sound ที่รองรับระบบเสียง 7.1 Channel เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ที่ให้ประสบการณ์ในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง หรือแม้แต่วิดีโอคอลได้ดีกว่าที่เคย ด้วยซอฟแวร์เสียงจากฝรั่งเศส ที่จะเพิ่มเบส รายละเอียดของเสียง และลดเสียงรบกวน รวมไปถึงยังมีเทคโนโลยีเสียงอย่าง Audio Boost ที่จะช่วยรีดประสิทธิภาพของหูฟังเกมมิ่งได้ดียิ่งขึ้น
เช่นกันกับการออกแบบภายในตัวเครื่องที่ออกแบบใส่ใจทุกรายละเอียด แบ่งโซนนิ่งต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนถึง 6 โซนไม่ว่าจะเป็น โซนระบายความร้อน , โซนเก็บสาย , โซนสายสัญญาณ , โซนที่เก็บข้อมูล , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูง และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง ที่จะเห็นว่าแบ่งไว้เป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน ส่งผลให้ทุกอย่างใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการหมุนเวียนของอากาศที่ดี การอัพเกรดที่ง่าย และการที่ทำให้เครื่องมีขนาดที่เล็กลงแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับ Gaming PC Barebone จากแบรนด์ไหนมาก่อน ยกเว้น MSI NightBlade MI
Using Experience
ดูกันในส่วนของภาพรวมเรื่องของสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ กันไปแล้ว เรามาดูกันในส่วนของการออกแบบและประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI กันต่อเลย โดยในส่วนแรกที่เราจะพูดถึงจะเป็นดีไซน์ของตัวเครื่องที่ได้รับการ Redesign รูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่เป็นเหลี่ยมๆ มุมๆ ในตัวก่อน กับ MSI NightBlade MI ตัวนี้จะมีความโค้งเว้า รวมถึงนูนต่ำนูนสูงของตัวเครื่องมากยิ่งขึ้นในทุกๆ มุมมองและมุมสัมผัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน้ากากของตัวเครื่องสีดำที่ตัดด้วยแผงรังผึ้งสีแดง รวมถึงมีโลโก้มังกร Gaming G Series และโลโก้ MSI พร้อมด้วย ODD แบบ DVD Slim มาให้ด้วย โดยฝาหน้าด้านล่างจะทำเว้าเล็กน้อยเพื่อดูดลมเย็นเข้าไปด้วย ปุ่มเปิด-ปิดรวมถึงพอร์ตต่างๆบริเวณ Front Panel จะอยู่บริเวณฝาครอบด้านข้างขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มเปิดเครื่อง ที่มีไฟแสดงสถานะ , พอร์ต USB Charger และ USB 3.0 รวมถึงแจ็คหูฟัง และลำโพง
ด้านข้างซ้ายและขวาของฝาครอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะสีดำแบบชิ้นเดียวดูแปลกตากว่า PC เครื่องอื่นๆ อย่างชัดเจนอย่างมากเพราะปกติช่องระบายความร้อนด้านข้างแต่เจ้า MSI Nigitbade MI จับย้ายมาไว้ด้านขวาเพราะการจัดวางเลย์เอาท์แบบกลับหัวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยทั้งสองด้านจะมีการเล่นลวดลายปั้มเว้า ปั้มนูน เจาะรูรังผึ้งเฟี้ยวดีทีเดียว ส่วนด้านบนจะเป็นโลหะผิวเรียบๆ ไม่มีลวดลายเช่นเดียวกันกับตัวเคสด้านล่างที่ก็เรียบๆ เช่นกันแต่จะมียางรองกันลื่นให้สี่มุม ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องกระทัดรัดดีจริงๆ แต่บอกได้เลยว่า I/O Connector และพอร์ตต่างมาๆเต็มจริงๆ เลยละครับ
เปิดเครื่องดูเครื่องในของ MSI Nigitbade MI กันต่อเลย โดยการเปิดฝาเครื่องทำได้ยากเล็กน้อยเพราะตัวฝาข้างเคสเป็นแบบชิ้นเดียวไม่ได้แบ่งส่วนไว้ เวลาเปิดฝาข้างต้องรูดเปิดฝาข้างออกทั้งหมดทีเดียว เมื่อเปิดออกจะเห็นการจัดวางโซนนิ่งต่างๆ ดังที่ผมได้กล่าวไว้ชัดเจน 6 โซน ทั้ง โซนระบายความร้อน , โซนเก็บสาย , โซนสายสัญญาณ , โซนที่เก็บข้อมูล , โซนกราฟิกการ์ดประสิทธิภาพสูง และโซนพัดลมด้านหน้าเครื่อง
ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นจะเป็นการ์ดจอตัวเป้ง ซึ่งเครื่องที่ได้มาทดสอบจะติดตั้งการ์ดจอ MSI GeForce GTX 960 Armor 2x สีขาวอร่อมตาวางเด่นเป็นสง่าผ่าน Riser แบบแข็งพร้อมตัวจ่ายไฟแบบ Slim ขนาด 350W ที่เป็นมาตรฐาน 80 Plus Bronze จาก FSP รุ่นพิเศษแบบวัตต์เต็มไม่ต้องกลัวว่าไฟจะไม่พอ
เมื่อรื้อการ์ดจอจากแผง Riser ออกมาจะเห็นสายไฟที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแบ่งเป็นส่วนๆ ไว้อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้นก็จะเห็นแผงแรมที่ใส่ได้สองแผง รวมไปถึงชุดผัดลมแบบก้นหอยสั่งทำผิดเศษเพื่อประหยัดพื้นที่มากที่สุด แต่ก็ยังระบายความร้อนได้ดีในชื่อ Silent Storm Cooling โดยชุดระบายความร้อนตัวนี้ทำงานผ่านท่อฮีทไปป์ 2 เส้นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังแผงฮีทซิงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน โดยจะมีพัดลมด้านหน้าเครื่องช่วยทำให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น
ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลในรูปแบบของ Hot Swop แบบถาดที่สามารถใส่ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้ว ได้ 2 ตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณและสายไฟให้ยุ่งย่าง ส่วนด้านหลังเครื่องจะเห็นช่องเชื่อมต่อที่เก็บข้อมูลขนาด 2.5 นิ้ว ที่ในส่วนนี้สามารถติดตั้ง SSD ก็ได้ หรือ SSHD ก็ได้เช่นกัน ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นแผงหลังของตัวเมนบอร์ด ตัวแบคเพลทของตัวชุดระบายความร้อน
ในแง่ของประสบการณ์ใช้งานบน MSI Nigitbade MI บอกได้เลยว่าทำได้ประทับใจมากทั้งในแง่ของการจัดวางต่างๆ ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบา สามารถจัดวางและปรับโยกย้ายไปตรงนู้นที ตรงนี้ทีได้ง่ายทีเดียว แถวเอาไปวางด้วยดีไซน์ของมันเองก็ทำให้มันดูโดดเด่น ประหนึ่งดั่งเป็นเครื่องประหยัดชิ้นนึงประจำห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องนอนได้แบบไม่เคอะเขิลเลยละครับ
ส่วนการใช้งานเองสำหรับ MSI Nigitbade MI ทำได้ง่ายและน่าประใจเกินขนาดไปมากๆ เลยละครับ เพราะตัวเครื่องทั้งเครื่องทดสอบและขายจริงทำการลง Windows 10 เอาไว้ให้ด้วย ไม่ต้องยุ่งยากลงไดร์ฟเวอร์ต่างๆ เพิ่มเติ่ม และมันสามารถเล่นเกมในระดับ Full-HD ปรับ High ได้ลื่นทุกเกมจริงๆ เรียกได้ว่าเล่นไปเลือดออกไปเพราะลื่นหัวแตกนั่นเอง ส่วนครั้งจะเล่นบาความละเอียดสูงอย่าง 2K , 2.5K , 3K , 4K หรือแม้แต่ 5K ก็ทำได้ดีเช่นกันนะครับด้วยประสิทธิภาพที่ดีและพอร์ตเชื่อต่อจากกราฟิการ์ดอย่าง Display Port ที่มีให้ถึง 3 พอร์ต ยิ่งถ้าปรับมาใช้เป็น GTX 970 ตามที่ MSI มีสเปคไว้ให้ด้วยก็จะได้อถรรสได้ดีขึ้นไปอีก ส่วนการใช้งานอื่นๆ หายห่วงเลยละครับเพราะ MSI Nigitbade MI ได้หมดอย่างสบายๆ ทั้งจากสเปคที่แรง และพอร์ตเชื่อมต่อทั้งไร้สายและมีสายที่มากันอย่างครบครัน
แถมระดับเสียงรบกวนต่างๆ ก็ถือว่าค่อนข้างเงียบดีนะเพราะชุดระบายความร้อนที่ติดตั้งมานั้นทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว จะมีดังบ้างก็ตอนเล่นเกมหนักๆ นั่นและครับ ส่วนความร้อนมั่นใจหายห่วงได้เลยละ เพราะถึงแม้จะเป็นเคสที่โคตรเล็ก แต่ MSI เค้าคิดระบบระบายความร้อน และควบคุมการหมุนเวียนของอากาศมาได้ดีมาก
Performance / Software
MSI Nigitbade MI ตัวที่เราได้รับมานั้น ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบนั้นจะมีสเปคข้างต้นตามด้านบนเลยครับ
โปรแกรมอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ระบุเอาไว้
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนตามประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามสไตล์สเปคของระบบขั้นกลางสูง
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ HDD 7200RPM ความจุ 1TB ไว้สำหรับเก็บข้อมูล ที่มีความเร็วอยู่ในระดับที่ที่น่าพอใจ
ผลทดสอบตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จาก Transend ความจุ 128GB ก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะใช้เป็นตัวติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10
การเล่นเกมต่างๆ จะเห็นได้ว่าทำได้ดีมาก สามารถเล่น Full-HD ได้ลื่นไหลทุกเกมเลยละครับ ส่วนถ้าความละเอียดสูงกว่านี้อย่างระดับ 4K UltraHD ก็ยังทำได้นะ แต่ปรับให้เหมาะสมก็เพียงพอ
โปรแกรม Benchmark หรือทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมยอมฮิตอย่างชุดทดสอบ 3D Mark สำหรับเพื่อนๆที่อยากเห็นคะแนนครับผม
ส่วนในเรื่องของความร้อนที่หลายๆ คนกังวลบอกได้เลยว่าหายห่วง เพราะจากผลทดสอบด้านในตัว CPU จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความร้อนโดยรวมอยู่ที่ราวๆ 38 องศาฯ แต่ถ้าใช้งานประมวลผลหนักๆ ความร้อนของซีพียูจะไปสูงสุดอยู่ที่ระดับ 70-73 องศาฯ ซึ่งจัดอยู่ในโซนที่ค่อนข้างปลอดภัยทีเเดียว ที่ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับชุดระบายความร้อนนั่นเองละครับ ส่วนตัวการ์ดจอเองก็ชิวๆ เลยเพราะความร้อนสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 75 องศาฯ เท่านั้นเอง
Conclusion / Award
จากการที่ได้สัมผัสต้องบอกได้เลยว่า MSI Nigitbade MI เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปขนาดเล็กสไตล์ Barebone สำหรับเล่นเกมที่ดีมากตัวหนึ่งในท้องตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งจากขนาดของตัวเครื่องเกมมิ่งที่มีขนาดกระทัดรัดและประหยัดพื้นที่ในการจัดวางเอามากๆ แต่ก็ยังคงไว้ในเรื่องของประสิทธิภาพที่จัดเต็มจัดหนักอย่างครบครันในแบบที่เกมมิ่งคอมพิวเตอร์ระดับท็อปๆ เครื่องหนึ่งควรจะมี ทั้งในแง่ของสเปคที่สูงและไม่แพ้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Full Tower เลยจากหน่วยประมวลผลกลางประสิทธิภาพดีอย่าง Intel Core i5-i7 แรมสูงถึง 16GB รวมไปถึงกราฟิกการ์ด GTX960 แบบเต็มใบ และที่จัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก ยิ่งไปกว่าในส่วนของที่เก็บข้อมูลต่างๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนทั้งฮาร์ดขนาด 3.5 นิ้วที่รองรับได้ถึง 2 ตัว และ SSD ขนาด 2.5 นิ้วที่รองรับได้อีก 1 ตัว ก็ทำให้ MSI Nigitbade MI สมบูรณ์แบบมากๆ เลยละครับ
เช่นกันกับในแง่ของฟีเจอร์ต่างๆ ที่อัดแน่นมาให้และใช้ประโยชน์ได้จริงๆ อย่างพอร์ตเชื่อมต่อมีสายและไร้สายที่หลากหลาย , ชุดระบายความร้อน Silent Strom ที่ออกแบบมาได้ดีมาก , ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ รวมถึงการออกแบบภายในตัวเครื่องที่เป็นระบบระเบียบช่วยให้การอัพเกรดและอากาศภายในตัวเครื่องไหลเวียนได้ดี การออกแบบภาพนอกตัวเครื่องที่กระทัดรัด แต่สวยงามเหมาะจะเป็นเฟอร์แบบแมนๆ ในห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยแล้ว ยิ่งส่งให้ MSI Nigitbade MI น่าจับจองเป็นเจ้าของเข้าไปอีกละครับ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ MSI Nigitbade MI ต้องพิสูจน์ตัวเองเอามากๆ เลยก็คือราคาขายนั่นเองละครับ ว่าสรุปแล้วจะเปิดออกมาที่เท่าไรกันแน่ ถ้าเปิดออกมาโดนรับรองได้เลยว่าขายดีแน่นอน แต่ถ้าเปิดมาสูงไปพาลเอาแป็กก็กลายเป็น Gaming Barebone ในฝัน(ที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง)เท่านั้นเองละครับ
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุดูดี งานประกอบแจ่ม แข็งแรงทนทาน
- ขนาดเล็กกระทักรัด เหมาะกับการจัดวางในทุกพื้นที่
- ชุดระบายความร้อน Silent Strom ที่ออกแบบมาได้ดีมาก การออกแบบภายในตัวเครื่องที่เป็นระบบระเบียบอากาศภายในตัวเครื่องไหลเวียนได้ดี
- ระบบเสียง Nahimic Sound ที่เจ๋งสุดๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 , HDMI , DP และอื่นๆ อีกมามาย
- สเปคเครื่องค่อนข้างสูงมากทั้ง Core i7 และการ์ดจอ GeForce GTX 960 เล่นเกมลื่นทุกเกม
ข้อสังเกต
- ฝาข้าง-ฝาบนตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวกัน ถอดได้ยากสักเล็กน้อย
Award
นับว่า MSI Nigitbade MI เกมมิ่งพีซีครื่องนี้โดดเด่นเรื่องดีไซน์และการออกแบบเอามากๆ เลยละครับ ด้วยการคิดแล้วคิดอีกทำให้เกิดเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งแรงๆ บนขนาดที่เล็กกระทัดรัดสมบูรณ์ในทุกแง่มุมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่บอกได้เลยว่าเหล่าเกมเมอร์เห็นแล้วต้องเป็นปลื้มอย่างแน่นอน
