โปรแกรม Super PI คือ การคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง (กลม)/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14… โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ (เลขหลังทศนิยมไม่มี Loop ซ้ำ) ดังนั้น เมื่อ Loop เป็นค่าอนันต์ เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้มันหยุด ในโปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน (เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง) โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่งต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ซีพียู Intel Core i5 รุ่นใหม่อย่าง i5-520M ของ Dell Studio 1458 สามารถทำเวลาได้ 16.083 วินาทีในการคำนวณค่า PI 1M
ด้วยสเปกซีพียูที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งรองรับ Turbo Boost ย่อมทำให้ใช้เวลาในการคำนวณค่า PI ที่น้อยมาก
Hyper PI
มีหลักการทำงานคล้ายๆ กับ Super PI แต่จะรองรับการทำงานของซีพียูหลายหัวหรือหลาย Thread พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกับตัว Turbo Boost เพราะซีพียูทำงานพร้อมกันหลายหัว ทำให้ความเร็วของซีพียูไม่สูงมาก เพราะจำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรเพื่อทำงานในเวลาเดียวกัน
แม้ทำงานพร้อมกันทั้ง 4 เทรด แต่ก็ใช้เวลาในการคำนวณที่เร็วมากกว่ารุ่นเก่าๆ เยอะเลย
คะแนนที่ออกมานั้นนับได้ว่าสูงมาก เพราะเป็นชิปตัวใหม่ แถมด้วยการ์ดจอในซีพียูที่ช่วยในการคำนวณรูป 3D แบบนี้ได้อย่างดี
ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูลของ HDD
วิธีทดสอบ : ทดสอบความเร็วในการอ่านข้อมูล สเปกของ HDD เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB
จากการทดสอบความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูลจะอยู่ที่ 78.9 Mb ต่อวินาที ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 18.6 ms (ยิ่งน้อยยิ่งดี)
Wireless Mon
แม้จะมีความจุสูง แต่ก็ใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลได้เร็วมาก
เป็นการ์ดจาก Dell เอง มีความเข้มของสัญญาณที่สูง แต่ก็แกว่งมากพอสมควร ไม่ค่อยนิ่งนัก
ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องทั้งหมดด้วยโปรแกรม PCMark05
วิธีทดสอบ : รันโปรแกรม โดยให้ทดสอบทั้ง System, CPU, Memory, Graphics, HDD
สามารถทำคะแนนออกมาได้สูงเลยทีเดียวในหลายๆ ส่วน
PCMart Vantage
คะแนนที่ออกมาจัดได้ว่าสูงเอาเรื่อง ด้วยซีพียูที่แรงอย่าง I5-520M และแรม DDR3 4GB
ทดสอบระบบกราฟิกด้วยโปรแกรม 3DMark06
วิธีทดสอบ : รันโปรแกรม โดยให้ทดสอบทั้ง SM 2.0 Graphics Tests, CPU Test
เป็นไปตามประสิทธิภาพของการ์ดจอในรุ่นกลางๆ ไม่ค่อยแรงมาก
