ปล่อยให้หลายๆ ค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนได้ทำการเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของตัวเองกันมาได้สักพักแล้วครับ หากจะว่าไปแล้วตอนนี้ก็ใกล้จะครบรอบที่จะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นประจำปี 2016 กันแล้ว ดังนั้นทาง tom’s Guide จึงได้จัดการนำเอาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงประปี 2015 นี้มาทำการทดสอบ โดยไม่ได้ทดสอบเฉพาะกับโปรแกรม Benchmark เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงประสิทธิภาพในการใช้งานในแต่ละวันด้วยอีกต่างหาก และผู้ที่สามารถครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนที่เร็วที่สุดในโลกจากการทดสอบนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Samsung Galaxy S6 นั่นเองครับ
ในการทดสอบครั้งนี้สมาร์ทโฟนที่ถูกนำมาทดสอบนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่นครับได้แก่ Samsung Galaxy S6, LG G4, Apple iPhone 6, HTC One M9, Google Nexus 6 และ Asus ZenFone 2 ครับ การทดสอบที่จัดขึ้นนั้นประกอบไปด้วย 10 การทดสอบและ Samsung Galaxy S6 นั้นก็สามารถที่จะขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ได้ถึง 7 การทดสอบ ตามมาด้วย LG G4 ที่เป็นอันดับ 1 ใน 2 การทดสอบ และ Apple iPhone 6 กับ HTC One M9 เป็นอันดับ 1 กันเครื่องละ 1 การทดสอบ
ก่อนที่จะเข้าสู่ผลการทดสอบในด้านต่างๆ นั้นลองไปดูกันก่อนดีกว่าครับว่าสมาร์ทโฟนแต่ละเครื่องนั้นมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์อะไรบ้าง
Samsung Galaxy S6 : เริ่มต้นกันที่ Galaxy S6 ที่ในครั้งนี้นั้น Samsung เลือกที่จะใช้ชิปเซ็ทของตัวเองอย่าง octa-core Exynos 7420 แทนที่ Qualcomm Snapdragon อย่างใน Galaxy S5 ซึ่งนั่นทำให้ Galaxy S6 นั้น เป็น 1 ใน 2 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ advanced DDR4 memory(อีกรุ่นที่มาพร้อมกับหน่วยความจำนี้คือ HTC One M9) จุดเด่นที่สำคัญอีกจุดก็คือการเลือกใช้แหล่งเก็บข้อมูลมาตรฐานใหม่ที่ทั้งเร็วและแรงอย่าง UFS 2.0 ซึ่งทาง Samsung บอกว่าเสมือนกับเป็น SSD สำหรับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียวครับ
LG G4 : สำหรับ G4 นั้นเลือกที่จะใช้ชิปเซ็ทของ Qualcomm Snapdragon รุ่น 808 ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของ G4 นั้นจะไม่สามารถที่ต่อกรกับ Galaxy S6 ได้อย่างจริงจังมากนัก แต่ถึงกระนั้นในการใช้งานจริง G4 กลับสามารถที่จะทำการเปิดกล้องและถ่ายภาพได้เร็วกว่า แถม G4 ยังเป็นสมาร์ทโฟนลำดับที่ 2 ในการทดสอบการตัดต่อวีดีโอและ Geekbench 3 performance benchmark อีกด้วยครับ
Apple iPhone 6 : หากจะว่าไปแล้ว iPhone 6 นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคที่ต่ำที่สุดที่ปรากฎในการทดสอบเลยก็ว่าได้ครับ แถม iPhone 6 เองก็มีอายุอยู่มานานกว่าชาวบ้านเขาอีกต่างหาก(เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว) แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่ใช้ระบบปฎิบัติการ iOS ที่ปรับแต่งมาให้เหมาะสมโดยเฉพาะทำให้ในการทดสอบนั้น iPhone 6 สามารถที่จะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดีในหลายการทดสอบเช่น PDF-open test และ gaming frame-rate test
HTC One M9 : One M9 นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เป็นตัวแทนของสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทสุดร้อนแรงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 810 ครับ(ร้อนจนมีข่าวว่าบางรุ่นนั้นถึงขึ้นใช้กันไม่ได้จนต้องออก Firmware มาแก้ไขกันเชียว) และในทางทฤษฎีแล้วนั้น One M9 น่าจะเป็นคู่ต่อสู่ที่สมน้ำสมเนื้อกับ Galaxy S6 มากที่สุด ทว่าจากการทดสอบนั้นนอกเหนือไปจากเรื่องของกราฟิกแล้ว One M9 กลับสร้างความผิดหวังเป็นอย่างมากครับเพราะประสิทธิภาพที่แสดงออกมานั้นด้อยมากเหลือเกิน
Google Nexus 6 : ด้วยความที่เป็นตัวแทนของการเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่เป็น Stock Android ดังนั้นแล้วความคาดหวังของ Nexus 6 ก็คือการเห็นความสามารถของ Android อย่างเต็มที่พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ตรงอันมีประสิทธิภาพของ Android แต่ด้วยความที่ Nexus 6 นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 805 ที่เก่ากว่าเพื่อนไปสักหน่อย แถมผลการทดสอบใช้จริงของ Snapdragon 805 นั้นก็ไม่ค่อยจะดีมากนักสักเท่าไร ทำให้โดยรวมแล้ว Nexus 6 มีผลการทดสอบอยู่ในระดับกลางๆ ด้านกล้องก็ไม่ค่อยจะดีนัก ความเร็ว Wi-Fi ที่ไม่โดดเด่น แถมเรื่องเล่นเกมก็ยังไม่สามารถเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่นำมาทดสอบได้เลยครับ
Asus ZenFone 2 : ปิดท้ายด้วยสมาร์ทโฟนที่เลือกใช้ชิปเซ็ทจากทาง Intel อย่าง Atom Z3580 พร้อมด้วยหน่วยความจำมากที่สุดคือ 4 GB แต่ราคานั้นน่าสนใจเป็นที่สุดเพราะอยู่ที่ $299 หรือประมาณ 9,900 บาทเท่านั้น(ในไทยรุ่นใหญ่จะอยู่ที่ 11,900 บาท) ซึ่งจากผลการทดสอบนั้นก็เป็นไปตามราคาหล่ะครับ เพราะโดยรวมแล้วก็ไม่ได้เร็วมากเท่าไรจะเว้นก็แต่ในการทดสอบเรื่องของหน่วยความจำที่อยู่อันดับที่ 3 (เพราะดันมีหน่วยความจำตั้ง 4 GB แต่ก็แพ้ DDR4 อยู่ดี) ถึงกระนั้นถ้าเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่าคุ้มหล่ะครับ
ได้ดูข้อมูลในส่วนรวมไปแล้วต่อจากนี้ไปเราจะมาแยกดูการทดสอบในแต่ละการทดสอบว่าจะเป็นอย่างไรบ้างครับ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
Real-Word Performance Tests
PDF Load Time
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งานจริงนั้นทาง tom’s guide เลือกใช้การโหลดไฟล์ PDF เพื่อดูครับว่าสมาร์ทโฟนเครื่องใดจะสามารถทำการเปิดไฟล์ PDF ได้เร็วที่สุด โดยไฟล์ PDF ที่นำมาทดสอบนั้นมีขนาดไฟล์อยู่ที่ 1.6 GB ใช้แอปพลิเคชัน Adobe Reader ทั้งบนระบบปฎิบัติการ Android และ iOS ผลปรากฎว่า Galaxy S6 นำเป็นที่หนึ่งด้วยความเร็วที่ใช้เพียง 127 ms ตามมาด้วย iPhone เป็นอันดับที่ 2 ครับ
สำหรับผู้ที่ทำได้น่าผิดหวังที่สุดก็คือ Nexus 6 ที่รั้งท้ายด้วยเวลา 482 ms ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้วด้วยความที่เป็น stock Android ที่ไม่น่าจะมีแอปพลิเคชันขยะจากผู้ผลิตมาถ่วงให้เครื่องหนักเล่นๆ แต่อาจจะด้วยเหตุผลที่ Nexus 6 นั้นใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 805 ซึ่งถือว่าเก่าสุดดังนั้นผลจึงออกมาในรูปแบบนี้ครับ
Camera Load Time
ต่อที่การทดสอบที่สองกับเวลาที่ใช้ในการโหลดแอปพลิเคชันกล้องขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป ซึ่งในการทดสอบนั้นทาง tom’s guide พยายามทำให้เหมือนการใช้งานจริงๆ ด้วยที่สุดด้วยการเปิดแอปพลิเคชันในพื้นหลังทิ้งไว้ 10 แอปพลิเคชันอย่างเช่น Facebook, Instagram และ Twitter เป็นต้น โดยผลของการทดสอบออกมาดังต่อไปนี้ครับ
งานนี้กลับกลายเป็นว่า LG G4 สามารถที่จะเอาชนะขึ้นเป็นอันดับ 1 ไปได้ด้วยการใช้เวลาในการเปิดกล้องอยู่ที่ 52.5 ms ตามมาแบบติดๆ กับ Galaxy S6 ที่ 55.5 ms และ iPhone 6 ที่ 61.5 ms ซึ่งหากจะว่าไปแล้วทั้ง 3 รุ่นนี้หากเทียบกันในชีวิตจริงคงมองความต่างไม่ค่อยออกมากเท่าไรนัก แต่กับ HTC One M9 ที่ใช้เวลาไป 100.5 ms และ Nexus 6 ที่ใช้เวลาไปที่ 128.25 ms นั้น ค่อนข้างที่จะเกิดความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยหล่ะครับ
Gaming Performance
มาถึงการทดสอบที่ 3 กับการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพในการเล่นเกมซึ่งจะเน้นไปที่ความสามารถของชิปเซ็ททั้งส่วนที่เป็น CPU และ GPU โดยเฉพาะ ซึ่งทาง tom’s guide ได้ใช้แอปพลิเคชัน GameBench เพื่อทำการวัด frame rate เฉลี่ยของการเล่นเกม Asphalt 8 เป็นระยะเวลา 3 นาทีต่อเนื่อง โดยนอกจากจะดูความเร็วในการเล่นเกมแล้วยังสามารถที่จะดูเสถียรภาพในการเล่นเกมได้อีกด้วย(จากความต่อเนื่องของ frame rate) ผลทดสอบนั้นเป็นดังต่อไปนี้ครับ
จากผลการทดสอบนั้นจะเห็นได้ว่าทั้ง Galaxy S6 และ iPhone 6 สามารถที่จะทำ frame rate ไปได้ที่ความเร็วเท่าๆ กัน คือ 30 fps แต่เมื่อเทียบทางด้านเสถียรภาพแล้ว Galaxy S6 สามารถทำได้ดีกว่าคืออยู่ที่ 96% ในขณะที่ iPhone 6 ทำได้ 94%(ต้องไม่ลืมด้วยว่าความละเอียดหน้าจอของ Galaxy S6 สูงกว่า iPhone 6) และที่น่าผิดหวังที่สุดก็ยังหนีไม่พ้น Nexus 6 ที่ทำ frame rate ไปได้เพียง 26 fps ภายใต้ความเสถียรภาพที่ 77% ซึ่งนั่นหมายความว่าเมื่อเล่นเกมไปได้ 3/4 ของ 3 นาที frame rate จะร่วงลงครับ
Video Editing
การทดสอบอันต่อมาเป็นการทดสอบทางด้านการตัดต่อวีดีโอโดยใช้แอปพลิเคชัน VidTrim เพื่อที่จะแปลงไฟล์วีดีโอขนาด 204 MB ที่ความละเอียด 1080p เป็นความละเอียด 480p ซึ่งจากกราฟผลการทดสอบนั้นทุกท่านจะเห็นว่าขาด iPhone 6 ไป โดยทาง tom’s guide ได้ให้เหตุผลว่าไม่สามารถที่จะหาแอปพลิเคชันที่เสมอภาคกันบน iOS ได้ ดังนั้นการทดสอบนี้จึงกลายเป็นการทดสอบเฉพาะบนสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Android ไปครับ
อย่างไรก็ตามแต่การทดสอบนี้เป็นการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพของ CPU ของสมาร์ทโฟนโดยตรงครับ และจากการทดสอบนั้น Exynos 7420 บน Galaxy S6 นั้นก็สามารถเอาชนะไปได้อย่างงดงามด้วยเวลาที่เร็วกว่ารุ่นอื่นๆ ถึงเกือบเท่าตัว ในขณะที่สมาร์ทโฟนที่ใช้ขิปเซ็ทของ Qualcomm Snapdragon นั้นมีผลการทดสอบไล่เลี่ยกัน(แตกต่างกันไม่มากเท่าไรนัก) ปิดท้ายด้วย ZenFone 2 ที่ใช้ชิปเซ็ทของ Intel ครับ
Benchmark Results
Geekbench 3
มาดูกันที่การทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark บ้างครับ โดยแอปแรกที่ทาง tom’s guide เลือกใช้ในการทดสอบนั้นเป็น Geekbench 3 ซึ่งจะทดสอบทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกันประกอบไปด้วย CPU, RAM, GPU และแหล่งเก็บข้อมูล หลังจากนั้นก็จะรวมคะแนนออกมาเป็นคะแนนเดียวกันเพื่อแสดงถึงประสิทธิภาพโดยรวมของระบบทั้งหมด
จากผลการทดสอบนั้น Galaxy S6 ยังคงนำโด่งด้วยคะแนน 5,283 คะแนนด้วยความแรงของชิปเซ็ท octa-core Exynos 7420 และ หน่วยความจำ DDR4 ขนาด 3 GB ตามมาด้วย LG G4 ที่คะแนนทิ้งห่างเกือบจะ 50% และอันดับที่ 3 กับ Nexus 6 ที่ในครั้งนี้ไม่ทำให้เจ้าของเครื่องผิดหวัง ต่างจาก HTC One M9 ที่ใช้ชิปเซ็ทสุดแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 810 แต่คะแนนกลับรั้งท้ายเลยครับ
Basemark OS II System
ต่อกันด้วยแอป Baskmark OS II System ที่จะทำการทดสอบทางด้านการคำนวน multiple floating-point และ integer โดยผลการทดสอบยังคงเป็นไปในทิศทางเดิมที่ Galaxy S6 นำมาเป็นที่ 1 แต่ในรอบนี้ iPhone 6 กลับตามมาเป็นลำดับที่ 2 และมี Nexus 6 อยู่ในอันดับ 3 ใกล้ๆ กับ LG G4 ที่คะแนนไม่ทิ้งห่างกันมากนัก ที่น่าห่วงก็ยังคงเป็น HTC One M9 ที่ใช้ชิปเซ็ทสุดแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 810 เช่นเดิมครับ
Basemark OS II Memory
ยังคงอยู่ที่ Baskmark OS II แต่คราวนี้เป็นการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพของ Memory หรือ NAND storage ครับ การทดสอบนั้นก็จะทำการอ่านและเขียนไฟล์ในขนาดหลายๆ ขนาด ซึ่งการทดสอบนี้สามารถที่จะบอกเราได้ทางทฤษฎีครับว่าความเร็วสูงสุดที่สมาร์ทโฟนเครื่องนั้นๆ จะสามารถทำการบันทึกหรือเรียกขึ้นมาจากแหล่งเก็บข้อมูลนั้นจะเป็นเช่นไร ตัวอย่างก็เช่นระยะเวลาในการโหลดแอปพลิเคชันขึ้นมาหรือการเล่นไฟล์มีเดียต่างๆ ครับ(เหมือนกับการทดสอบความเร็วของฮาร์ดดิสบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นแหละครับ)
ในการทดสอบนี้นั้นทำให้เราแปลกใจอยู่ไม่น้อยครับเพราะ LG G4 สามารถที่จะทำคะแนนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เหนือ Galaxy S6 ไปได้ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม คำถามก็เลยเกิดขึ้นมาครับว่ามาตรฐาน NAND ใหม่ของทาง Samsung อย่าง UFS system (Universal Flash Storage) ที่ทาง Samsung บอกว่าเหนือกว่า eMMC แบบเก่าในทุกๆ ด้านนั้น ดีจริงเหมือนที่ Samsung กล่าวอ้างหรือไม่
3DMark Ice Storm Unlimited
เปลี่ยนมาดูการทดสอบทางด้านกราฟิกกันบ้างครับกับ 3DMark Ice Storm Unlimited ที่เป็นการทดสอบประสิทธิภาพของ GPU โดยตรงเน้นๆ ซึ่งพอมาถึงจุดนี้ HTC One M8 ที่มาพร้อมกับ GPU Adreno 430 กลับสามารถขึ้นเป็นที่ 1 ไปได้อย่างงดงาม ตามมาห่างๆ นิดๆ กับ Nexus 6 และ Galaxy S6 ที่คะแนนไม่ได้ทิ้งห่างกันมากเท่าไรนัก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ZenFone 2 ที่ตามมาเป็นอันดับที่ 4 (ด้วยคะแนนเกิน 20000 เช่นกัน) ในขณะที่ราคาตัวเครื่องนั้นหากเทียบแล้ว ZenFone 2 นั้นมีราคาต่ำกว่ารุ่นอื่นๆ ถึง 2 เท่า(บางรุ่นก็ 3) เลยหล่ะครับ
Wi-Fi Speed
สุดท้ายแล้วกับการทดสอบความเร็วของ Wi-Fi โดยทุกๆ รุ่นที่นำมาทดสอบในครั้งนี้นั้นรองรับมาตรฐาน 802.11 ac ครับ อย่างไรก็ตามแต่การทดสอบนี้นั้นขึ้นอยู่กับ Wi-Fi modems และความเร็วของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi นั้นๆ ด้วยนะครับไม่ใช้ว่าเมื่อคุณเอาเครื่องของคุณไปทดสอบแล้วจะได้ผลการทดสอบแบบเดียวกับที่ tom’s guide ได้ ทว่าก็สามารถดูเอาไว้อ้างอิงได้พอสมควรครับ
หมายเหตุ – ทาง tom’s guide ใช้โปรแกรม IxChariot networking benchmark ในการส่ง packets ของข้อมูลไปยังแต่ละเครื่องผ่านทาง Asus RT-AC87U router และวัดค่า throughput ที่ได้
ในการทดสอบนั้นทุกเครื่องจะถูกวางห่างจาก router เป็นระยะ 4.57 m ครับ โดยผลการทดสอบนั้น Galaxy S6 ก็นำมาเป็นที่ 1 ตามมาด้วย HTC One M9 เป็นลำดับที่ 2 ด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียง 4 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 นั้นห่างลงไปไกลกับ LG G4 ที่ 160 คะแนน ตามมาด้วย Nexus 6, iPhone 6 และปิดท้ายด้วย ZenFone 2 ครับ
บทสรุป
โดยรวมแล้วก็คงไม่เป็นที่น่าแปลกใจครับ เพราะ Samsung Galaxy S6 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ท Exynos 7420 พร้อมดัวยหน่วยความจำ DDR4 และแหล่งเก็บข้อมูลมาตรฐาน USF ใหม่ สามารถที่จะทำคะแนนขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ถึง 6 การทดสอบ จากทั้งหมด 9 การทดสอบ ดังนั้นทาง tom’s guide จึงได้ยกให้ Galaxy S6 เป็นสมาร์ทโฟนที่เร็วที่สุดในโลก(ในขณะนี้) หล่ะครับ อย่างไรก็ตามที่น่าเสียดายก็คือว่า HTC One M9 ที่ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 810 นั้นไม่สามารถที่จะทำได้ดีเท่าไร(ซึ่งในตอนแรกผมเชียร์รุ่นนี้สุดใจเพราะชิปเซ็ทนี่แหละครับ)
อย่างไรก็ตามถ้าให้เลือกจริงๆ แล้วคงไม่พ้นที่จะเลือก Asus ZenFone 2 ครับ เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่าตัว(หรือ 3 เท่าในบางรุ่น) แต่ผลการทดสอบนั้นกลับไม่ได้ดูด้อยกว่ากันมากเท่าไรนัก(เว้นเรื่องของการตัดต่อวีดีโอซึ่งผมคิดว่าในชีวิตจริงทุกท่านน่าจะเลือกอัพไฟล์เข้าคอมพิวเตอร์เพื่อทำการตัดต่อมากกว่า) ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจอีกหลายรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในการทดสอบนี้ ส่วนท่านจะเลือกสมาร์ทโฟนตัวไหนขอให้เอาความชอบและงบประมาณเป็นหลักให้ตอบสนองต่อการใช้งานของตัวเองมากที่สุดจะดีกว่าครับ
ที่มา : tomsguide