เป็นอีกหนึ่งมหกรรมงานคอมพิวเตอร์และไอทีที่อยู่คู่กับคนไทยและเมืองไทยมาอย่างช้านาน (รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย) กับงาน Commart ที่เป็นงานเซลลดราคาสินค้า โดยมีผู้จัดอย่าง ARIP เป็นแม่งาน โดยที่ผ่านมานั้นหลายๆ คน (อาจจะวัยรุ่นตอนปลายขึ้นไปหน่อย) คงคุ้นเคยกับนิตยสาร Commart, Win Mag กันเป็นอย่างดี ซึ่งงาน Commart ก็มีชื่อมาจากนิตยสาร Commart นั้นเอง
แต่ที่ช่วงหลายปีมานี้ก็ได้ปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนิตยสาร Commart, Win Mag เพราะว่าไม่คุ้มที่จะทำ จากการที่รายได้นั้นลดลงไปทุกๆ ปีนั่นเอง จากการที่คนไม่ค่อยที่จะเสพนิตยสารคอมพิวเตอร์ไอทีแล้ว โดยในช่วงนึงก็ได้มีการรวมนิตยสาร Commart, Win Mag เป็นเล่มเดียวกันด้วยซ้ำก่อนเลิกทำจริงๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของ COMTODAY ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน (ตัวเล่มก็บางลงเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง)
อีกทั้งต้องยอมรับว่ารายได้หลักของ ARIP ก็คือเป็นผู้จัดงาน Commart นั่นเอง โดยมีอยู่ปีนึงที่บูมๆ (หรือสองปีนี่แหละ) จัดถึงปีละ 4 ครั้งทีเดียว แต่หลังจากนั้นมาตัวงาน Commart ความนิยมก็ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไป จากการมาของสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตที่ทำให้ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลงไปเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าส่งผลให้คนมาเดินซื้อคอมพิวเตอร์ในงานก็ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด (ส่วนงานมือถือของอีกเจ้าก็มีคนมาเดินเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน)
รวมไปถึงรูปแบบการซื้อหาสินค้าของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย จากการร้านค้าใหญ่ๆ ก็จัดงานเซลของตัวเองได้ และยังช่องทางในการซื้อออนไลน์ได้ง่ายขึ้นไปอีก จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่งาน Commart ที่เป็นงานเซล ลดกระจาย แบบที่หาไม่ได้จากนอกงานนั้น จะได้รับผลกระทบเต็มๆ จะว่าไปจริงๆ ก็มีกิจกรรมอื่นด้วย อย่างโชว์ของล้ำๆ หรือประมูลสินค้าที่ไม่มีขายในไทย แต่ช่วงหลังๆ คนก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ เพราะหาซื้อเองในอินเตอร์เน็ตก็ทำได้
โดยล่าสุดนั้นในปี 2015 ทาง ARIP ก็จัดงาน Commart เป็นครั้งที่สองแล้ว อย่างงาน Commart Next Gen 2015 (ที่นำมาประกอบบทความนี้) ซึ่งโดยปกติแล้วงาน Commart จะจัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกอยู่ช่วงเดือนมีนาคมจะใช้ชื่อว่า Commart Summer Sale ช่วงเดือนมิถุนายนจะเป็น Commart Next Gen และพฤศจิกายนจะใช้ชื่อว่า Commart Comtech
บรรยายกาศภายในงานก็ถือว่าเงียบเหงากว่าช่วงหลายปีก่อนหน้านี้มาก ทั้งในส่วนของผู้ที่มาออกบูธและบรรดาผู้คนที่เข้ามาเดินในงานว่าลดลงไปอีก แต่ในส่วนของงานแข่งเกมก็ต้องบอกว่ามีความคึกคักอยู่ไม่น้อยเลย เรียกได้ว่างาน Commart ครั้งนี้เรียกสีสันได้เป็นอย่างดี เพราะมีบรรดาผู้เข้าร่วมงานที่เป็นเด็กๆ มากมาย รวมไปถึงธีมงานของหลายๆ บูธก็เป็นแนว Gaming เหมือนกัน ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จทีเดียวตรงจุดนี้ ส่วนกิจกรรมอื่นๆ อย่างงาน Workshop ก็มีความน่าสนใจทีเดียว แต่ผู้คนมานั่งฟังกันน้อยมากขึ้นอยู่กับประเด็นด้วย ส่วนตัวไปนั่งฟังเรื่อง Windows 10, Office 365 จากทางทีมงาน Microsoft ก็ประทับใจทีเดียว (แต่คอนเทนต์แบบนี้เราก็สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ตหมดแล้ว)
อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วตัวงาน Commart เองก็ถือว่าต่อลมหายใจไปได้อีกหนึ่งครั้ง เพราะผู้คนที่มาเดินงานก็ไม่ได้น้อยจนน่าเกลียดอะไรรวมไปถึงผู้ที่มาออกบูธก็ได้ยอดขายกลับไปในระดับนึง ส่วนแคมเปญที่เคยแจกรถยนต์นั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นรถจักรยานยนต์แทน อีกทีทั้งพื้นที่บางส่วนที่ให้เช่านั้นก็จะไม่ใช่พื้นที่จำหน่ายสินค้าไอทีอีกแล้วอย่างโซน C ล่างแถวหลังๆ แต่มีร้านอาหารผุดขึ้นมา (คือโซนนั้นเดินผ่านแล้วน้ำลายไหลเลยเวลาหิวๆ) ส่วนครั้งที่สามของปีนั้นก็ยังจัดอยู่นะ เดี๋ยวคงได้อัพเดทกันอีกที แต่ในธีมงานในครั้งหน้านั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะมาแนวไหนนะครับ หรือจะมาแนวเดิมนั้นอันนี้ก็ไม่ทราบได้ และคิดว่าฝั่ง Commart เองก็คงยังไม่ได้คิด
มาถึงประเด็นสำคัญก็คือ งาน Commart ยังน่าเดินอยู่ไหม ???
ก็ต้องตอบว่ายังน่าเดินอยู่ครับ ทั้งคนที่มาเดินเล่นและมาเดินซื้อของ แม้ว่าคนเดินงานจะลดลงไปมาก แต่หลายสิ่งหลายอย่างก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมภายในงานต่างๆ นอกเหนือจากงานขายงานเซล อาทิ กิจกรรมของแต่ละบูธ, Workshop, พริตตี้สาวสวย, ลองของใหม่ๆ ส่วนโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีเรียกกระแสได้ไม่น้อย อย่างแบรนด์คอมพิวเตอร์หลายเจ้าก็จัดโปรโมชั่นหนักๆ กันอยู่ รวมไปถึงผ่อน 0% หรือของแถมต่างๆ ก็ยังมีพิเศษกว่าร้านข้างนอกทั่วไป และสินค้า Clearance ราคาก็ถือว่าถูกกว่าปกติไม่น้อยทีเดียว อีกทั้งเรียกได้ว่ามางานนี้งานเดียวครบ ไม่ต้องเดินทางไปหลายที่ให้เมื่อย เพราะสินค้าทุกอย่างมีขายหมด อย่างร้าน Advice และ J.I.B. ขนมาเพียบ
อย่างไรก็ตามจุดเด่นที่หายไปเมื่อเทียบกับแต่ก่อนก็คือส่วนของราคาสินค้า ที่ไม่ได้มีโปรโมชั่นถูกที่สุดแต่อย่างใด ส่วนของแถมก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าร้านข้างนอกเลย (แย่พอกัน) แถมข้อสังเกตุอีกอย่างก็คือ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากร้านข้างนอกซักเท่าไหร่นัก ทั้งราคา บริการ และอื่นๆ ส่งผลให้หลายคนก็ให้ความเห็นว่าไม่น่าเดิมอีกแล้ว กับงาน Commart ที่เคยเป็นหนึ่งงานที่หลายคนรอคอยเพื่อมาซื้อสินค้ากันแบบเต็มที่
ปัจจัยอื่นๆ ก็คงเป็นที่ตลาดคอมพิวเตอร์นั้นหดตัวลงมาก คนซื้อก็น้อยลงเพราะแทบทุกบ้านก็มีคอมพิวเตอร์ใช้งานกันอยู่แล้ว แตกต่างจากหลายปีก่อน อีกทั้งเดี๋ยวนี้ถ้าคนส่วนมาให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนซะหมด คือ ซื้อสมาร์ทโฟนแพงกว่าคอมพิวเตอร์แบบไม่ต้องคิดมากอะไร ส่วนตัวบรรดาแรนด์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เองนั้นก็รายได้ลดลงไป ครั้นจะโปรโมชั่นหนักๆ แบบแต่ก่อนก็ลำบากเพราะอาจจะไม่คุ้มที่ลงไป สังเกตได้จากหลายๆ แบรนด์ก็เริ่มหายไปจากตลาดแล้ว
เอาว่าใครว่างๆ ก็มาเดินเล่น ชมนู้นนี่นั่นได้อยู่ ส่วนคนที่จะซื้อของจริงจัง ถ้าไม่เดินทางลำบากก็มาเดินซื้อกันได้ (ไม่คิดว่าเสียเวลามาก ก็ถือมาเดินชมงานก็แล้วกัน) แม้ว่ามนต์เสน่ห์งาน Commart แบบเดิมๆ ที่เป็นงานขายคอมพิวเตอร์ที่เดียวที่ถูกที่สุดและโปรโมชั่นดีที่สุดแล้วก็ตาม…
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็ยังมีความหวังว่ามหกรรมงานคอมพิวเตอร์และไอทีอย่าง Commart นั้นจะอยู่กับคนไทยต่อไป ด้วยการปรับตัวที่ให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนเองนั้นก็มีความผูกผันกับงาน Commart อยู่ไม่น้อยเลย เพราะสมัยเป็นนักศึกษาก็เคยเป็นหนึ่งในทีมงาน Buyer Guides ภายในงาน Commart หลายปี รวมถึงเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่นิตยสาร Commart ด้วย แน่นอนว่าเคยเขียนบทความลงนิตยสารด้วยจนถึงเล่มสุดท้ายทีเดียว ไม่อยากเลยที่จะให้งาน Commart นั้นหายไปจากเมืองไทย อยู่คู่คนไทยไปตลอดได้ยิ่งดี ยังไงทาง ARIP ที่เป็นผู้จัดงานคงต้องทำการบ้านมาหนักหน่อยในครั้งต่อๆ ไป
ปิดท้ายก็ชมภาพบรรยากาศภายในงาน Commart Next Gen 2015 แบบเต็มๆ กันดูนะครับ น่าจะพอให้เห็นภาพได้อยู่