เมื่อไม่นานมานี้ทาง Samsung ได้ทำการเปิดตัวทีวี SUHD ออกมาใหม่ครับ ซึ่งด้วยการเพิ่มตัว S เข้ามาหน้า UHD ที่มีความหมายว่าความละเอียดระดับ 4K นั้นอาจจะทำให้หลายๆ ท่านงงได้ครับว่าเจ้า SUHD ที่ว่านี้ของทาง Samsung คืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับว่าเจ้า SUHD นั้นคืออะไร และจะมีอะไรดีมากกว่าเดิมแค่ไหนครับ
จากคำตอบอย่างเป็นทางการของทาง Samsung นั้น S ไม่ได้มีความหมายย่อมาจากตัวหนังสือใดแต่อย่างไรครับ เจ้าตัวอักษร S ที่ทาง Samsung ใส่เพิ่มเข้ามานั้นเป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อเสมือนกับว่า UHD TV รุ่นนั้นเป็นรุ่นท๊อปกว่าเดิมที่จะปรากฎตัวในปี 2015 นี้ครับ(เหมือนกับ Galaxy S ของทางฝั่งสมาร์ทโฟนที่ตัว S ก็ไม่ได้ย่อมาจากอะไรนั่นแหละครับ)
ทีนี้ถามว่าเมื่อเพิ่ม S เข้ามาเป็น SUHD TV แล้ว จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นไปกว่าจาก UHD TV แบบเดิมหรือไม่ ก็คงต้องขอบอกว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายเท่าไรนักครับ SUHD TV นั้นยังคงเป็น LCD TV เทคโนโลยี LED-backlit ระดับสูงที่มาพร้อมกับความละเอียด 4K หรือ UHD ครับ(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทีวีที่มาในรูปแบบของจอโค้ง) ไม่ใช่ OLED TV สุดหรู(และแพง) แต่อย่างใดครับ
อย่างไรก็ตามแต่ใช้ว่า SUHD TV นั้นจะไม่มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ เลยครับ เนื่องด้วยการที่เป็น TV ระดับสูงนั้นทำให้ทาง Samsung ได้เพิ่มเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาด้วยเช่นกัน โดยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
Nano-crystal technology
เทคโนโลยี Nano-crystal นั้นจะเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายๆ กับ Quantum dots แต่ว่ามาในชื่อของทาง Samsung เองครับ เทคโนโลยีนี้จะเข้ามามีบทบาทภาพที่แสดงผลบนหน้าจอนั้นมีความสดใสมากขึ้นและดูสมจริงมากขึ้นครับ โดยเจ้าเทคโนโลยีนี้จะไปเพิ่มให้จำนวนสีที่แสดงผลออกมาทางหน้าจอนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมทำให้ช่วงกว้างของสีบนหน้าจอ SUHD TV นั้นเพิ่มขึ้นครับ
หมายเหตุ – ทาง Sony ก็มีเทคโนโลยีคล้ายๆ กันนี้โดยใช้ชื่อว่า Triluminous ส่วนทางฝั่ง LG นั้นใช้ชื่อว่า Prime UHD ครับ
Peak Illuminator Ultimate / Peak Illuminator Pro
ต่อมากับเทคโนโลยี High Dynamic Range (HDR) ที่จะไปช่วยเพิ่มความสามารถทางด้าน contrast ของ SUHD TV ครับ ซึ่งในที่นี้จะทำให้เราสามารถที่จะมองเห็นรายละเอียดของภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ดูสว่างสดใสมากกว่าทีวีที่ใช้ panel 10-bit LCD ทั่วไป แต่ทว่าข้อเสียของเทคโนโลยี HDR ก็คือคุณจะต้องมีทั้งแหล่งเนื้อหา, แหล่งส่งสัญญาณภาพและสายเชื่อมต่อที่รองรับกับเทคโนโลยีนี้ด้วยถึงจะสามารถใช้งานได้
ซึ่งแต่ละอย่างที่บอกไปนั้นก็มีราคาแพงมากครับ ตัวอย่างเช่นสายเชื่อมต่อแบบ HDMI 2.0a ที่รองรับการส่งสัญญาณภาพแบบ HDR นั้นก็มีราคาเมตรละ 32,xxx บาทเข้าไปแล้วครับ ไหนจะเครื่องเล่น Blu-ray หรือเครื่องเล่น HD ต่างๆ ที่ต้องรองรับอีก เรียกได้ว่าถ้าอยากจะอัพเกรดระบบให้รองรับกับเทคโนโลยีนี้ต้องใช้เงินมากเลยทีเดียวในปัจจุบันครับ
สำหรับ HDR Peak Illuminator Ultimate นั้นจะพบใน SUHD TV รุ่น JS9500 curved ที่ราคามหาโหด และ HDR Peak Illuminator Pro จะพบใน SUHD TV รุ่น JS9000 curved และ JS8500 flat ซึ่งมีราคาต่ำกว่า(แต่ก็ยังถือว่าโหดเช่นเดียวกัน) โดย HDR Peak Illuminator Pro นั้นจะมีข้อด้อยกว่าหน่อยในเรื่องของ edge-lit local dimming ครับ
สรุป
ถามว่าตอนนี้ SUHD TV ของทาง Samsung นั้นน่าเล่นไหมคำตอบที่ได้ต้องบอกเลยครับว่าน่าเล่นมาก เพราะถึงจะไม่ได้เป็น OLED TV แต่ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของปี 2015 เลยทีเดียว ทว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องคิดหนักกันหน่อยก่อนจะซื้อก็คือเรื่องราคาและอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมดที่จะต้องรองรับตัวระบบก่อนครับ ซึ่งหากประเมินดูแล้วคุณพร้อมจริงๆ หล่ะก็มีเสียเงินในหลัก 25x,xxx บาทขึ้นไปสำหรับการอัพเกรดแน่ครับ
ที่มา : cnet