จอแบบโค้งนั้นถือได้ว่ากำลังมาแรงในตลาดมอนิเตอร์และทีวีเลยทีเดียวครับ โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมาผลิตหน้าจอแบบโค้งป้อนตลาดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น HP, Dell หรือ Samsung แต่ที่เห็นกันโดจส่วนใหญ่นั้นขนาดของหน้าจอมอนิเตอร์แบบโค้งนั้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 27 นิ้ว – 31 นิ้วเท่านั้นครับ
แน่นอนว่าผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Acer นั้นย่อมไม่ยอมปล่อยให้ผู้ผลิตรายอื่นนำในตลาดนี้ไปมากอย่างแน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ทาง Acer จึงได้ทำการเปิดตัวหน้าจอมอนิเตอร์แบบโค้งรุ่น XR341CKA ที่ไม่ได้มีดีแค่สไตล์และดีไซน์ที่สวยงามเท่านั้น แต่สเปคนั้นยังอยู่ในระดับที่จัดได้ว่าน่าซื้อหามาใช้งานเป็นอย่างมากทีเดียวครับ
Acer XR341CKA นั้นมีขนาดจออยู่ที่ 34 นิ้ว อัตราส่วนของหน้าจอเป็นแบบกว้างตามมาตรฐานของหน้าจอโค้งคือ 21:9 ultra-wide รองรับความละเอียดระดับ Quad HD หรือ 3,440 x 1,440 pixels มุมมองสูงสุดอยู่ที่ 178 องศส และถือได้ว่าเป็นหน้าจอแบบโค้งตัวแรกที่รองรับเทคโนโลยีการซิงค์ refresh rate ของหน้าจอกับ GPU จากทาง Nvidia อย่าง G-Sync ครับ
นอกจากจะรองรับเทคโนโลยี G-Sync แล้ว มอนิเตอร์ Acer XR341CKA ยังมีระบบปรับแต่งเพื่อนักเล่นเกมโดยเฉพาะอีกมากมายเช่น on-screen refresh rate display และ six-axis color adjustment รวมไปถึงมีไฟสีแดงที่เอาไว้ใช้ในการแสดงผลสถานะการใช้งาน G-Sync บนตัวจอได้อีกด้วยครับ
ทาง Acer ยืนยันว่า XR341CKA มาพร้อมกับดีไซน์ zero-frame ที่จะทำให้คุณแถบจะมองเห็นกรอบเป็นส่วนเล็กๆ ของหน้าจอเท่านั้น แต่ทว่าส่วนทางกรอบและฐานทางด้านล่างนั้นก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่พอสมควรครับ สำหรับสเปคของ XR341CKA ตามที่ Acer ระบุไว้นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
- 34-inch curved IPS LCD: 3440x1440px resolution at 75Hz
- 4ms response time
- 300 cd/m2 brightness
- 100,000,000:1 contrast ratio
- 16.7 million colors
- 100% sRGB color gamut
- Dual 7W DTS speakers
- 1 x HDMI 1.4
- 1 x DisplayPort
- USB 3.0 Hub (1 up / 4 down) ซึ่งสนับสนุนการชาร์จแบบเร็วสำหรับชาร์จอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทางช่องทางนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเสียดายก็คือมอนิเตอร์รุ่น XR341CKA ยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเวลานี้ครับ โดยทาง Acer ได้บอกว่าจะมีการวางจำหน่ายที่แรกในโซนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา ในช่วงเดือนสิงหาคม โดยจะมีราคาอยู่ที่ €1,399 หรือประมาณ 51,750 บาท ส่วนในอเมริกาเหนือ(มีราคาอยู่ที่ $1,299 หรือประมาณ 42,870 บาท) และในประเทศจีน(มีราคาอยู่ที่ 8,999 Yuan หรือประมาณ 48,480 บาท) จะวางจำหน่ายหนังเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไปครับ
ที่มา : neowin