หากจะพูดถึงประเทศแถบตะวันออกกลางหลายๆท่านคงจะนึกถึงความรุนแรงหรือกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัวผ่านสื่อต่างๆแต่ถ้าหากลองนึกดูดีๆแล้วมันเป็นเพียงแค่การเหมารวมเท่านั้นและคงจะไม่ดีแน่หากเรามีทัศนคติที่ไม่ดีต่อชาวตะวันออกกลางอย่างเช่นเจ้าชาย “ฟาฮัด อัล ซาอัด” แห่งซาอุดิอาระเบียก็ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ดีเขาจึงได้คิดวิธีใหม่ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีนั่นก็คือการใช้วีดีโอเกม
จุดเริ่มต้นการพัฒนาเกมของเจ้าชายนี้เริ่มจากงาน Games For Change Festival ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเจ้าชายฟาฮัดได้กล่าวในงานว่าผู้คนส่วนใหญ่มองชาวตะวันออกกลางในทางที่ผิดไปมากและอยากจะขอให้ทุกๆคนเปลี่ยนความคิดนั้นใหม่เสีย
“เราถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าใครกันที่ทำให้คนอื่นมองพวกเราเป็นเช่นนี้?”
“ทั้งประเทศนานาชาติอีกทำไมถึงชอบมองเราในแง่ที่ไม่ดีบ่อยเช่นต้องไว้หนวดเคราหนาๆ , ผิวสีน้ำตาล , ต้องโผกผ้าถือปืนเป็นผู้ก่อการร้าย เราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแต่เรารู้ว่าต้องขจัดความคิดเดิมๆแบบนั้นออกไปซะ” เจ้าชายฟาฮัดกล่าว
จุดเริ่มต้น
หลังจากคำกล่าวที่งานในนิวยอร์กแล้วนั้นความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงของเจ้าชายฟาฮัดก็เพิ่มขึ้นและสิ่งหนึ่งที่เขาเริ่มทำเป็นอันดับแรกคือการช่วยพัฒนา Facebook ภาษาอาหรับเพื่อให้โอกาสผู้หญิงในตะวันออกกลางอีกทั้งเขาคิดว่าการเปิดกว้างการใช้โซเชียลมีเดียในตะวันออกกลางจะเป็นสื่อกลางที่ช่วยเปลี่ยนทัศนคติได้
“เราร่วมงานกับ Facebook ตั้งแต่ปี 2010 เพื่อช่วยเหลือในเรื่องภาษาอาหรับและมันเป็นความสนใจอย่างแรกที่ทำด้วยเพราะเรื่องโซเชียลมีเดียค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงและเราจะแก้ไขให้มันดีขึ้น”
“และเพื่อให้ใช้งานได้จริงๆเราจะทำให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโลกโซเชียลมีเดียและเปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น” เจ้าชายฟาฮัดกล่าว
นอกจาก Facebook แล้วเจ้าชายก็ยังได้มีส่วนการพัฒนา Instagram อีกด้วยและในปี 2015 นี้ผู้หญิงในซาอุฯแทบทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสังคมที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแต่ว่าความทะเยอทะยานของเขาก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้เจ้าชายฟาฮัดคิดว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดียยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูวิถีชีวิตเขาจึงได้หันไปหาสื่อกลางที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดซึ่งก็คือ”วีดีโอเกม”
35 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกอบการด้านไอทีในตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือเป็นผู้หญิง เขายังบอกว่าแรงงานหญิงในซาอุดิอาระเบียมีอัตราเพิ่มขึ้นจาก 55,000 คนในปี 2010 มาเป็น 454,000 คนในปี 2013 และนี่จึงเป็นโอกาสที่ดีแล้วที่เขาจะพัฒนาฝันของเขาให้เป็นจริง
“ตอนนี้วัตถุดิบต่างๆก็มีครบถ้วนและเราก็พร้อมแล้วที่จะเล่าเรื่องราวที่แท้จริงของดินแดนตะวันออกกลางเสียที”
“เราจะใส่ทุกอย่างที่มีในประเทศนี้ลงไปในตัวเกมทั้งวัฒนธรรมประเพณี , การศึกษา , เทคโนโลยี , นวัตกรรมและความเป็นเอกลักษณ์”
NA3M บริษัทเกมสัญชาติอาหรับกับความตั้งใจอันแรงกล้า
บริษัท NA3M เป็นชื่อภาษาอาหรับมาจากคำว่า ” naem” ที่แปลว่า “ถูกต้อง” ซึ่งชื่อของบริษัทก็ถูกตั้งเพื่อให้สอดคล้องกับความตั้งใจของเจ้าชายฟาฮัดที่ต้องการให้นานาประเทศทำให้เข้าใจเกี่ยวกับประเทศอาหรับให้ถูกต้อง โดยบริษัทนี้เป็นบริษัทที่นอกจากจะผลิตเกมบนมือถือเช่นเกม Run Camel Run , Nitro Punch , NA3M Words และ Caravan Master Adventures แล้วพวกเขาก็ยังพัฒนาซอฟท์แวร์หรือมีเดียต่างๆเพื่อการศึกษาอีกด้วย
การที่ NA3M เป็นบริษัทผลิตเกมที่สื่อไปยังโลกภายนอกได้และพวกเขาก็ยังมีโปรเจคเกมที่จะเปลี่ยนโฉมความคิดของผู้คนภายนอกด้วยเกมที่ชื่อว่า “SAUDI GIRLS REVOLUTION”
เกม SAUDI GIRLS REVOLUTION หรือ SGR เป็นเกมที่เจ้าชายตั้งใจและทุ่มเทให้กับมันมากเขาเล่าว่าเดิมทีมันเป็นหนังสือการ์ตูนแต่การนำมาทำเป็นเกมนั้นจะช่วยในเรื่องของการเล่าเรื่องที่ยืดหนุ่นขึ้นและสามารถใส่รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมได้
“รายละเอียดที่เราได้เพิ่มเข้าไปมันจะทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายโดยตัวเกมจะเล่าถึงเหตุการณ์หลังวันสิ้นโลกผู้หญิงถูกคุมขังจากพวกชนชั้นปกครองแต่ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ลุกขึ้นต่อต้านด้วยมอเตอร์ไซค์สุดเท่อีกหนึ่งคันอีกทั้งผู้เล่นจะพบเจอกับศัตรูแปลกใหม่เช่น ราชาวานร , ยักษ์คริสตัล , ทหารจักรกล รวมไปถึงซอมบี้ที่ไม่รู้จักตาย”
เจ้าชายก็ยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุที่ให้ตัวเอกเป็นผู้หญิงนั้นก็เพื่อที่จะบ่งบอกว่าเพศหญิงในตะวันออกกลางก็มีความแข็มแข็งไม่แพ้เพศชาย
“เรามองว่าผู้หญิงในตะวันออกกลางมีพลัง มีความแข็งแกร่งทางจิตใจสูงและสามารถเป็นผู้นำได้”
ทั้งนี้ทางสตูดิโอและเจ้าชายฟาฮัดจะพัฒนาตัวเกมให้สนับสนุนกับ Oculus Rift อีกด้วยครับ
สงครามวัฒนธรรม
สุดท้ายนี้ทางเจ้าชายฟาฮัดก็ได้รับเชิญไปร่วมถามตอบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการใช้เกมเป็นสื่อกลางว่ามันจะเป็นสงครามระหว่างวัฒนธรรมหรือไม่
“มันก็เป็นปัญหาใหญ่ที่น่าคิดนะ” เจ้าชายฟาฮัดกล่าว
“ที่จริงเราไม่ชอบคำว่า สงครามวัฒนธรรมเท่าไหร่ เราคิดว่าวัฒนธรรมต่างๆมันควรจะอยู่ร่วมกันและผสมผสานกันได้”
“เราเองก็เคยได้ไปใช้ชีวิตเรียนหนังสือที่อเมริกาซึ่งที่นั่นก็สอนให้รู้ว่าการอยู่ร่วมกันกับคนหลากหลายวัฒนธรรมไม่ใช่เรื่องยาก”
ส่วนเรื่องของเกมทางเจ้าชายได้บอกว่าเกมที่ทำจะสอดแทรกวัฒนธรรมต่างๆในตะวันออกกลางในลักษณะที่พอดีและมีความร่วมสมัยอีกด้วยครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียวกับการกระทำของเจ้าชายพระองค์นี้เพราะนอกจากพระองค์จะลงมือทำด้วยพระองค์เองแล้ว แนวคิดต่างๆเรื่องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิง ความตั้งใจที่จะเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ว่าคนตะวันออกกลางเป็นปีศาจร้ายทั้งที่พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาปกติทั่วไปเท่านั้นเองก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเกม SAUDI GIRLS REVOLUTION ที่เป็นความหวังของชาวตะวันออกกลางจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆได้สำเร็จหรือไม่
ที่มา : Polygon