เคยคิดไหมครับว่าวันหนึ่งคุณจะต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์สักเครื่องที่สามารถจะรองรับกับแหล่งเก็บข้อมูลแบบใดก็ได้เพื่อความง่ายในการเก็บข้อมูลขนาดมหึมาและการอัพเกรดเพิ่มเติมในอนาคต ในกรณีนี้นั้นถ้าคุณคิดว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มี from factor อย่าง Mini PC (อย่างเช่น Next Unit Computing (NUC) ของทาง Intel) จะไม่ตอบสนองกับความต้องการของคุณแล้วหล่ะก็คุณคิดผิดแล้วครับ วันนี้เราจะพาคุณไปพบกับ Mini PC ที่รับรองว่าคุณสามารถเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลในอนาคตได้อย่างแน่นอนครับ
ถ้าเป็นในอดีตที่ผ่านมานั้นคงต้องบอกเลยครับว่าคอมพิวเตอร์ที่มี from factor แบบ Mini PC นั้นมีข้อจำกัดทางด้านการอัพเกรดแหล่งเก็บข้อมูลภายในเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบของการเชื่อมต่อที่ในสมัยก่อนนั้น Mini PC มักจะมาพร้อมกับฮาร์ดดิสขนาดเล็กที่ 2.5 นิ้ว เท่านั้นแถมฮาร์ดดิสแบบ 2.5 นิ้วในอดีตนั้นก็มีราคาแพงเสียอีก(และยังมีความเร็วที่ต่ำอีกด้วยครับ)
ทว่าในปัจจุบันนั้นด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวไกลไปมากคอมพิวเตอร์แบบ Mini PC ในปัจจุบันนั้นจึงมาพร้อมกับความสามารถที่จะทำการเพิ่มฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้ว หรือ 3.5 นิ้วเข้าไปบนตัวเครื่องได้อีกด้วยครับ(แน่นอนว่าฮาร์ดดิสที่คุณจะเปลี่ยนได้นั้นก็มีทั้งแบบ SSD ที่มีความเร็วสูง ความจุต่ำและราคาค่อนข้างแพง, HDD ที่มีความเร็วต่ำ ความจุสูงแบะราคาค่อนข้างถูกและ SSHD หรือ Solid State Hybrid Technology ที่มีความจุสูง ความเร็วในระดับที่พอดีกับราคาเหมาะสมครับ) ที่สำคัญเลยก็คือสเปคของ Mini PC ในปัจจุบันนั้นดีขึ้นมากกว่าเดิมเลยทีเดียวครับ(เมื่อใช้สำหรับการใช้งานทั่วไปเช่นดูหนัง, ฟังเพลง) โดย Mini PC ที่เราจะนำมาแนะนำในวันนี้ก็คือซีรีส์ Vivo PC ของทาง Asus ครับ
ASUS Vivo Mini PC นั้นมีให้เลือกหลายรุ่นเลยทีเดียวครับ ตั้งแต่รุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i5 ไปจนถึงหน่วยประมวลผลราคาประหยัดอย่าง Intel Celeron อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วสเปคส่วนอื่นๆ ก็จะคล้ายๆ กันครับเช่นหน่วยความจำ(Ram) มีตัวเลือกให้เลือกอยู่ที่ขนาด 2 GB – 16 GB แหล่งเก็บข้อมูลมีให้เลือกทั้งแบบ SSD และ HDD โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งขนาด 2.5 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว และ mSATA SSD มีขนาดความจุดตั้งแต่ 32 GB ไปจนถึง 1 TB ให้เลือก(แล้วแต่รุ่น)
สำหรับหน่วยประมวลผลกราฟิกนั้นก็มีทั้ง Intel® HD Graphics 4xxx และ NVIDIA® GeForce 820M พร้อมหน่วยความจำแบบแยกขนาด 1 GB ให้เลือกครับ การเชื่อมต่อต่างๆ นั้นก็มาแบบครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 2.0, HDMI, RJ45 LAN, Kensington Lock, Optical S/PDIF out, DisplayPort, Audio Jack, Card Reader ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีจำนวนช่องแตกต่างกันไปตามราคาของตัวเครื่องครับ นอกจากนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่าง 802.11a/b/g/n/ac , Bluetooth V4.0 อีกด้วยครับ
การเลือกรุ่นของ ASUS Vivo Mini PC นั้นก็ทำได้ไม่ยากเลยครับ โดยอาจจะดูจากงบประมาณของคุณเป็นที่ตั้งว่างบประมาณของคุณนั้นจะเพียงพอกับเครื่องรุ่นใด โดยรุ่นท๊อปสุดอย่าง VivoPC VM62N ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel® Core™ i5-4210U และหน่วยประมวลกราฟิกแบบแยกอย่าง NVIDIA® GeForce 820M ซึ่งจะสามารถรองรับกับการเล่นเกมออนไลน์เบาๆ ได้ด้วยก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจโดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $350 – 400 หรือ 11,550 – 13,200 บาทเท่านั้น แต่คุณจะไม่ได้รับฮาร์ดดิสแบบใดๆ ติดตั้งมาด้วยนะครับ(สาเหตุที่แนะนำไม่ให้ซื้อรุ่นที่มีฮาร์ดดิสติดตั้งมาให้ด้วยเป็นเพราะอะไรคอยติดตามกันต่อไปครับ)
มาดูกันที่ว่าทำไมเราถึงแนะนำให้คุณเลือกซื้อ ASUS Vivo Mini PC ที่ไม่ได้มาพร้อมกับฮาร์ดดิสแบบภายในกันครับ โดยนอกจากราคาของ ASUS Vivo Mini PC รุ่นนั้นจะถูกกว่าปกติแล้ว คุณเองยังสามารถที่จะทำการเลือกซื้อฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วหรือ 3.5 นิ้วเพิ่มเข้าไปได้ด้วยตัวเองซึ่งราคาของตัวฮาร์ดดิสแบบแยกนั้นจะมีราคาถูกกว่าค่อนข้างมากและน่าจะตอบสนองต่อการใช้งานของคุณในการเก็บข้อมูลได้มากกว่าครับ
หมายเหตุ – ทั้งนี้ ASUS Vivo Mini PC บางรุ่นก็จะไม่สามารถทำการอัพเกรดฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วหรือ 3.5 นิ้วเพิ่มเข้าไปได้ครับเช่นในรุ่น VivoMini UN42 ซึ่งจะสามารถอัพเกรดฮาร์ดดิสได้เฉพาะรูปแบบ mSATA เท่านั้นครับ ยังไงแล้วหากเรื่องของแหล่งเก็บข้อมูลเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญก็ควรจะดูสเปคของ ASUS Vivo Mini PC ที่รองรับการอัพเกรดฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วหรือ 3.5 นิ้วเพิ่มเข้าไปได้ด้วยครับ
อย่างที่บอกไปในตอนเริ่มต้นว่า ASUS Vivo Mini PC (บางรุ่น) นั้นสามารถที่จะอัพเกรดฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วหรือ 3.5 นิ้ว และจากการที่ฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วหรือ 3.5 นิ้วในปัจจุบันนั้นมีหลายรูปแบบทั้ง SSD ที่มีความเร็วสูง ความจุต่ำและราคาค่อนข้างแพง, HDD ที่มีความเร็วต่ำ ความจุสูงแบะราคาค่อนข้างถูกและ SSHD หรือ Solid State Hybrid Technology ที่มีความจุสูง ความเร็วในระดับที่พอดีกับราคาเหมาะสมครับ
ตัวเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับชนิดของแหล่งเก็บข้อมูลที่ควรจะเลือกนำมาใช้บน ASUS Vivo Mini PC คงหนีไม่พ้น SSHD ที่มีความจุสูง ความเร็วในระดับที่พอดีกับราคาเหมาะสมครับ โดย SSHD ของทาง Seagate นั้นถือได้ว่ามีความเร็วอยู่ในระดับที่ดีและราคายอมรับได้โดย SSHD ขนาด 2.5 นิ้วของทาง Seagate นั้นจะมีความจุสูงสุดอยู่ที่ 1 TB ส่วน SSHD ขนาด 3.5 นิ้วของทาง Seagate นั้นจะมีความจุสูงสุดอยู่ที่ 4 TB ครับ
หมายเหตุ – เท่าที่เช็คราคามานั้น SSHD Hybrid รุ่น ST1000DX001 ความจุ 1 TB ในไทยขายอยู่ที่ 2,990 บาท ส่วนขนาดความจุ 2 TB นั้นมีราคาอยู่ที่ 4,990 บาท โดยจะเป็นฮาร์ดดิสขนาด 3.5 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อแบบ SATA 6 Gb/s ครับ
เมื่อเลือกขนาดของ SSHD ได้ตามต้องการแล้วก็มาถึงในส่วนของการติดตั้งครับ โดย ASUS Vivo Mini PC ได้ถูกออกแบบมาให้เปิดฝาเพื่อจะทำการอัพเกรดได้ค่อนข้างง่ายอยู่แล้วดังนั้นในการติดตั้ง SSHD ลงไปนั้นจะไม่ยากเท่าไรเลยครับ
เมื่อติดตั้ง SSHD ลงไปแล้วก็ทำการใส่อุปกรณ์, ถาด และน๊อตต่างๆ ให้เข้าที่เช่นเดิม เครื่อง ASUS Vivo Mini PC ของคุณก็พร้อมที่จะทำงานแล้วครับ แน่นอนว่าการใช้งานนั้นก็จะเร็วกว่าคุณเลือกซื้อฮาร์ดดิสแบบ HDD เป็นอย่างมาก แถมยังมีความเร็วเกือบจะเท่า SSD อีก ซึ่งทำให้การโอนถ่ายข้อมูลของคุณไม่ว่าจะเป็นผ่านทางระบบเครือข่ายหรือการเชื่อมต่อแบบ USB นั้นเร็วขึ้นมากทีเดียวครับ
เห็นไหมครับว่าในปัจจุบันนั้นคอมพิวเตอร์ที่มี from factor แบบ Mini PC ได้ก้าวไกลไปมากแล้ว ด้วยความสะดวกในการติดตั้งรวมไปถึงใช้พื้นที่น้อย(NUC ของ Intel สามารถที่จะตั้งไว้หลังโทรทัศน์ได้ผ่านทางฐานติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน VESA) แถมยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามอีกด้วยต่างหากทำให้การตั้งไว้ใกล้เครื่องโทรทัศน์หรือโต๊ะทำงานนั้นดูนำสมัยเป็นอย่างมากครับ อย่างไรก็ดีครับ Mini PC ยังมีของอีกหลายบริษัทมากที่สามารถอัพเกรดแหล่งเก็บข้อมูลขนาด 2.5 นิ้วและ 3.5 นิ้วเข้าไปได้(เช่นของ Gigabyte) หากคุณไม่สนใจ ASUS Vivo Mini PC ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ให้เลือกอีกมากเลยทีเดียวครับ
ที่มา : vr-zone