คงเป็นข้อสงสัยของใครหลายๆ คนมาตลอดช่วงเวลาหนึ่งตั้งแต่ทาง Microsoft ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการครับว่าระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 10 นั้นจะเปิดให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าอย่าง Windows 7 หรือ Windows 8 สามารถทำการอัพเกรดกันไปใช้ Windows 10 ได้แบบฟรีๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย(ภายในระยะ 1 ปีแรกที่เปิดตัว Windows 10 อย่างเป็นทางการ) ซึ่งกลยุทธ์ใหม่นี้ขัดต่อหลักการดำเนินการทางตลาดของ Microsoft ในอดีตที่ผ่านมาแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
ในอดีตที่ผ่านมานั้นทุกท่านน่าจะทราบกันดีว่าทาง Microsoft เป็นบริษัทที่ทำรายได้จากการขายตัวซอฟต์แวร์เป็นหลักครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบปฏิบัติการซีรีส์ Windows ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และชุดซอฟต์แวร์สำหรับสำนักงานอย่าง Microsoft Office เป็นหลัก ทว่าหลังจากที่ทาง Microsoft จะเปิดให้ Windows 10 นั้นกลายเป็นของฟรีทำให้เกิดคำถามตามมาครับว่า Microsoft จะสามารถทำรายได้มาจากส่วนไหนเพื่อที่จะมาทดแทนรายได้ที่ต้องหายไปจากการขาย Windows 10
ในงาน Convergence conference ของ Microsoft ที่พึ่งผ่านไปไม่นานมานี้ทาง Chris Caposella ผู้รับผิดชอบทางด้านการตลาดของ Microsoft ได้ออกมาไขข้องใจนี้ให้กับเราๆ ท่านๆ ได้ทราบกันแล้วครับ โดยทาง Caposella ได้บอกเอาไว้ว่าการที่ Microsoft ปล่อยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ของตัวเองได้ฟรีๆ นั้นก็เพื่อที่จะแรกมากับการใช้บริการด้านอื่นของ Microsoft ที่กำลังมีบทบาทสำคัญมากกว่าครับ โดยบริการนั้นๆ ก็จะอยู่ในรูปแบบของการเสียค่าสมัครสมาชิกรายเดือน(หรือปี) ซะเป็นส่วนใหญ่อย่างเช่น Office 365 ของทาง Microsoft ครับ
นอกไปจากนั้นยังมีบริการแฝงอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น Bing, Cortana, Onedrive ฯลฯ ที่ทาง Microsoft สามารถที่จะทำการเก็บค่าบริการแบบการเสียเป็นรายเดือนหรือรายปีได้ครับ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วกลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นกลยุทธ์ใหม่ที่พึ่งมีในตลาด แต่ทางฝั่ง Google หรือ Apple เองได้ทำมาก่อนหน้านานแล้ว โดยทาง Caposella เองก็ได้ทำสไลด์เพื่อที่จะเปรียบเทียบรูปแบบของบริการของ Microsoft กับบริษัททั้ง 2 ออกมาด้วยครับว่ามีความทับซ้อนกันในด้านไหนบ้าง(ตามรูปด้านบน)
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือเรื่องของการโฆษณาผ่านบริการต่างๆ ของ Microsoft ที่ทาง Caposella ให้ความเห็นว่ารูปแบบของการโฆษณานั้นกำลังปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นแต่ในตลาดนั้นยังมีผู้ให้บริการในด้านนี้ไม่มากเท่าไรนัก(รายใหญ่ที่สุดก็หนีไม่พ้น Google เขาหล่ะครับ) สิ่งที่ทาง Microsoft ต้องการตอนนี้ก็คือการให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการของ Microsoft ให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะสามารถทำการขายบริการนั้นๆ ต่อไปได้ในระยะยาว ซึ่งหากจะว่าไปแล้วบริษัทหลายๆ บริษัทต่างก็กำลังปรับกลยุทธ์ตัวเองมาในรูปแบบนี้ทั้งนั้นครับ
ด้วยความที่ Microsoft มีฐานผู้ใช้เดิมมากอยู่แล้วดังนั้นการปล่อยให้ผู้ใช้สามารถที่จะทำการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้แบบฟรีๆ จากระบบปฏิบัติการเดิมนั้นจึงเป็นผลดีกว่าที่จะเป็นผลเสียครับ อย่างไรก็ตามแต่ในส่วนของ PC Desktop แล้ว Microsoft น่าจะใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรมากนักและน่าจะทำได้ดีด้วย แต่ในส่วนของอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ทาง Microsoft ยังเป็นผู้ตามแบบไกลๆ นั้นก็คงต้องออกแรงมากกว่านี้หน่อยครับถึงจะสามารถเห็นกลยุทธ์นี้สำเร็จขึ้นมาได้
หมายเหตุ – นอกไปจากนั้นแล้วทาง Caposella ยังได้บอกอีกครับว่าบริการของ Microsoft นั้นจะเปิดกว้างโดยไม่อยู่บนฐานของซอฟต์แวร์จาก Microsoft เท่านั้น แต่ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอื่นๆ อย่างเช่น Android หรือ iOS ก็จะสามารถใช้บริการของ Microsoft ได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ งานนี้ก็เป็นไปตามรูปแบบของการบริหารงานของ CEO คนปัจจุบันอย่าง Satya Nadella เขาหล่ะครับ
ที่มา : theverge