เปิดให้เล่นเรียบร้อยแล้วกับ Farcry 4 ที่ปล่อย DLC ใหม่ในชื่อว่า Valley of the Yetis ที่แค่ดูจากชื่อก็พอจะรู้แล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรและในวันนี้คุณ Kirk Hamilton แห่งเว็บไซต์ Kotaku รับอาสาเป็นผู้กล้าที่จะพร้อมเผชิญหน้ากับอสูรกายหิมะซึ่งและเมื่อเล่นจนจบเกมเขาถึงกับเอ่ยปากชมว่า DLC ตัวใหม่นี้มันสนุกตื่นเต้นและน่าติดตามกว่าที่คิดไว้เยอะ
เริ่มแรกเมื่อกดปุ่มเริ่มตัวเกมก็เปิดฉากทันทีด้วยการปูเนื้อเรื่องหลักที่ในภาคนี้เราจะรับบทเป็น Ajay Ghale ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกบนเทือกเขาหิมาลัยและได้รับภารกิจหลักในตอนแรกเลยซึ่งก็คือตามหาผู้รอดชีวิตและเก็บเสบียงเอาไว้ให้มากที่สุดจากนั้นเขาก็ติดต่อเรียกหน่วยกู้ภัยมาแต่ว่าด้วยสภาพอากาศที่โหดร้ายทำให้หน่วยกู้ภัยต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะเดินทางมาได้ และเหมือนจะเป็นความโชคร้ายซ้ำสองเมื่อ Ajay พบว่าภายในเทือกเขานี้มีกลุ่มลัทธิบูชาปีศาจอันบ้าคลั่งอยู่ด้วย เหตุนี้เขาต้องหาที่มั่นเพื่อรับมือกับศัตรูหน้าใหม่และรอคอยการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย
ในระหว่างนี้คุณ Hamilton ก็บอกว่าสามารถเดินไปสำรวจสถานที่ได้อย่างอิสระแถมยังรู้สึกว่าใน DLC นี้แผนที่จะมีความกว้างมากอีกทั้งสภาพภูมิประเทศเป็นการทำใหม่หมดไม่มีการนำของเก่ามารีไซเคิลแต่ขณะที่เขาง่วนอยู่กับการตั้งป้อมปราการขนาดย่อมนั้นก็มีการจู่โจมจากพวกลัทธิจอมโหดเข้ามาเป็นระยะๆอีกทั้งเมื่อวันเวลาผ่านไปแต่ละคืนศัตรูก็จะมีความเก่งเพิ่มขึ้นมาเรื่อยจนกระทั่งเขาเจอศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดนั่นคือ”เยติ”
ถึงแม้ว่าจะมีศัตรูร้ายกาจแค่ไหนแต่ผู้พัฒนาเกมก็ไม่ได้ใจร้ายให้ผู้เล่นต้องป้องกันฐานอยู่ตลอดเวลา ในตอนกลางวันอาจจะเรียกว่าเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายก็ว่าได้โดยผู้เล่นจะสามารถออกเดินทางสำรวจเส้นทางเพื่อเก็บของหรือทำภารกิจย่อยซึ่งของรางวัลก็จะเป็นเงินและค่าประสบการณ์ที่สามารถนำไปปลดล็อคสกิลเสริมได้รวมไปถึงระบบ Craft ที่ทำให้ตัวละครของเรามีความสามารถเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น วิ่งเร็วขึ้น , ย่องเบา , เพิ่มความอึดของร่างกายรวมไปถึงความสามารถอย่างซ่อมแซมสิ่งของได้เร็วขึ้นเป็นต้น
แต่ในตอนกลางคืนที่ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่อยากจะผ่านไปเร็วๆเพราะจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพลัทธิสุดโหดที่มีอาวุธตั้งแต่มีด , ธนู , ฝูงสุนัข , ปืนกลหนักไปจนถึงจรวดอาร์พีจีเลยทีเดียว ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการอัพเกรดฐานป้องกันให้อยู่ในระดับสูงสุดที่สามารถอัพเกรดในส่วนของปืนชนิดต่างๆแต่ส่วนมากจะเป็นการวางกับระเบิดที่มีให้อัพเกรดทั้ง 4 ทิศรอบฐานและติดตั้งปืนกลหนัก
นอกจากนี้ก่อนจะถึงช่วงกลางคืนผู้เล่นจะต้องเตรียมอาวุธให้พร้อมเพราะถ้าหากผู้เล่นเปิดประตูออกจากฐานแล้วจะไม่สามารถกลับเข้าไปเลือกอาวุธได้ อีกทั้งผู้เล่นสามารถคิดค้นกลยุทธ์ป้องกันได้เองว่าควรจะอัพเกรดระเบิดทิศไหนก่อนหรือจะไปขโมยรถบรรทุกน้ำมันมาตั้งเป็นกำแพงเพลิงก็ยังได้ ในจุดนี้คุณ Hamilton ถึงกับเปรียบเปรยว่า “มันเป็น Home Alone เวอร์ชั่นบู๊แหลกชัดๆ”
เมื่อเกมดำเนินมาถึงคืนที่ 5 ซึ่งเป็นการป้องกันครั้งสุดท้ายแล้วเมื่อมีเสียงตอบรับวิทยุจากหน่วยกู้ภัยว่ากำลังเดินทางมาถึง แต่ว่าศัตรูที่เขาต้องเจอในคืนสุดท้ายนี้ก็คือ”เยติ” ที่มาพร้อมกันถึง 2 ตัวเขาเลยจัดแจงวางระเบิดและอาวุธที่ในตอนนี้อัพเกรดอย่างเต็มรูปแบบและในเวลาไม่นานเขาก็ล้มยักษ์ทั้ง 2 ได้สำเร็จและเกมก็จบลง
สรุปแล้วใน DLC Valley of the Yetis นี้ก็ได้มอบความสนุกแก่ผู้เล่นที่ชื่นชอบความเป็นแอ็คชั่นหรือรูปแบบเกมที่เน้นป้องกันและอัพเกรดฐาน ในส่วนของตัวเยตินั้นคุณ Hamilton ได้บอกว่ามันไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ สามารถหลบหลีกได้ง่ายๆโดยการวิ่งหนีแล้วใช้ปืนยิงลูกระเบิดไปเรื่อยๆ และเขายังแอบบ่นอีกว่าต่อให้ใช้อาวุธหนักแค่ไหนมันก็ไม่ตายถึงจะเป็นปืนล้มช้างที่มีความแรงที่สุดก็ทำได้เพียงแค่ทำให้มันหยุดชะงักแต่รูปแบบการฆ่ามันก็แค่อ้อมไปด้านหลังและใช้มีดปีนขึ้นไปแทงบริเวณที่ต้นคอเท่านั้นไม่มีรูปแบบการฆ่าในแบบอื่นๆเลย แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็น DLC สั้นๆที่อัดแน่นไปด้วยความบันเทิงอย่างแท้จริง
ที่มา : Kotaku