สำหรับ Ultrabook แล้ว ประกอบไปด้วยสิ่งสำคัญต่างๆ เหล่านี้คือ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, มีความบาง เคลื่อนย้ายง่าย พกพาสะดวกและตอบสนองความต้องการได้ทั้งในสำนักงานและภายในบ้าน โดยที่ ASUS ZenBook UX305 เอง ก็ดูเหมือนจะตอบโจทย์กับสิ่งเหล่านี้ได้ครบ ด้วยบอดี้อะลูมิเนียมที่ออกแบบได้บางและมีน้ำหนักเบา แบตที่ใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมง รวมไปถึงความแข็งแกร่งของซีพียู Intel Core M ภายใต้ราคาประมาณ 699USD ซึ่งดูจะสบายกระเป๋ากว่า Ultrabook หลายรุ่นที่ออกมา ที่สำคัญยังได้ SSD 256GB ในขณะที่บางค่ายให้มาเพียง 128GB เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็น Ultrabook ที่น่าจับตามองอีกรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
รูปลักษณ์และการออกแบบ
UX305 มาในสไตล์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย ดูกลมกลืนกันเป็นชิ้นเดียว เน้นความบางเฉียบ ไม่มีส่วนที่นูนสูงให้ได้เห็น ด้วยเส้นสายของตัวเครื่องที่ดูโค้งมนและลื่นไหล โดยยังคงเอกลักษณ์ของทาง ZenBook ไว้อย่างชัดเจน ด้วยอะลูมิเนียมที่ดูงดงามและความปราณีตในการผลิต
ฝาปิดมีการตกแต่งด้วยลายเส้นโค้งวงกลมด้วยเลเซอร์แบบบางๆ กระจายออกมาจากจุดศูนย์กลาง และดึงดูดสายตาด้วยโลโก้ ASUS ตรงกลางฝา
ภายในเป็นเป็นอะลูมิเนียม พร้อมแป้นพิมพ์แบบชิคเคลท และทัชแพดที่ออกแบบมาเป็นชิ้นเดียว ซึ่งภายในใช้การระบายความร้อนแบบ Fanless ด้านใต้ของ UX305 เป็นแผงเดียวติดกันทั้งชิ้น ยกเว้นตะแกรงลำโพงทั้งสองด้านและยางรองพื้นทั้ง 4 จุด
Specifications
- CPU : 0.80-GHz Intel Core M 5Y10
- Operating System : Windows 8.1
- RAM : 8GB RAM
- Hard Drive Size : 256GB
- Hard Drive Type : SSD Drive
- Display Size : 13.3 Native Resolution 1920×1080
- Graphics Card : Intel HD 5300 Graphics
- Video Memory : Shared
- Wi-Fi : 802.11a/b/g/n/ac Wi-Fi Model 802.11a/g/n/ac dual-band Wi-Fi
- Bluetooth : Bluetooth 4.0
- Touchpad Size : 4.1 x 2.9-inches
- Ports (excluding USB) : Headphone/Mic
- Ports (excluding USB) : SD card slot
- Ports (excluding USB) : micro HDMI Ports (excluding USB) USB 3.0
- USB Ports : 3
- Card Slots : SD memory reader
- Size : 12.75 x 8.89 x 0.48-inches
- Weight : 2.64-pounds
มิติของ ZenBook UX305 อยู่ที่ 324 x 226 x 12.3 mm (WxDxH) แสดงให้เห็นถึงความบางเป็นพิเศษ เรียกว่าบางกว่า Ultrabook อยู่หลายค่าย เพียงแต่น้ำหนักยังอยู่ในระดับที่ไม่ต่างกันมากนัก
คีย์บอร์ดและทัชแพด
UX305 มาพร้อมกับคีย์บอร์ด Chiclet style ที่ให้ความนุ่มนวล ปุ่มคีย์มาตรฐาน น้ำหนัก 60 กรัม โดยปุ่มมีความตื้นกว่าปกติอยู่ที่ประมาณ 1.2mm ทำให้ไม่ต้องกดลึกมาก
หากต้องการใช้งานเมาส์ UX305 มาพร้อมฟีเจอร์ทัชแพด กว้างถึง 4.1 x 2.9 นิ้ว และระบบ Gestures ด้วยใช้ระบบทัชแบบ 2 นิ้ว เพื่อย่อขยาย ที่ให้ความนุ่มนวลและตอบสนองได้รวดเร็ว อีกทั้งไม่ต้องสับสนกับการคลิกซ้ายหรือขวา
หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแบบด้าน (Matte) ของ UX305 ส่งผลให้ความอิ่มตัวในส่วนของสี น้อยกว่าคู่แข่งอื่นๆ อยู่เล็กน้อย แต่ในทางกลับกัน ด้วยความสว่างของหน้าจอ ทำให้มุมมองนั้นกว้างขึ้นถึง 180 องศา รวมถึงการมองเห็นนที่แจ้งได้ดี ให้ความคุ้มค่าสำหรับการใช้งานไฟล์เอกสารและภาพ รวมถึงการดูวีดีโอได้คมชัด จึงทำให้หน้าจอแบบ Matte ที่ใช้บน UX305 นี้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแง่การใช้งานจริง
จากการวัดค่า Light Meter พบว่า UX305 ให้ผลออกมาอยู่ที่ 281 nits ซึ่งอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยของจอแบบด้านทั่วไป แต่ก็ยังให้ตัวเลขค่าความสว่างที่ดี เมื่อเฉลี่ยจาก Ultraportable ที่ประมาณ 247 nits นั่นเอง ในแง่ของการแสดงผลสีบนจอแสดงผล UX305 ให้ผลอยู่ที่ 93.9% ในส่วนของ sRGB นับว่าเป็นเรื่องที่ดี อยู่ในระดับมาตรฐานของ Ultrabook ในช่วงเวลานี้ แต่ยังน้อยกว่าจอ Matte บางรุ่น
ระบบเสียง
ในด้านของเสียงบน UX305 นั้นมาจากลำโพงที่ได้รับการออกแบบมาจาก Bang & Olufden ซึ่งเสียงที่ได้อยู่ในระดับที่ดี ในแง่ของพลังเสียง รวมถึงในด้านคุณภาพเสียงที่อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดีในช่วงของการทดสอบด้วยเพลง กับการแยกโทนเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องที่ทำได้ละเอียดอ่อน
โดยที่ ZenBook รุ่นนี้ยังจับคู่มากับซอฟต์แวร์ AudioWizard ที่เป็นตัวใช้ในการควบคุมตั้งค่าโหมดเสียง ไม่ว่าจะเป็นเพลง วีดีโอหรือเกมก็ตาม พร้อมกันนี้ยังมี Smart Audio ซอฟต์แวร์สำหรับการปรับแต่งเสียง Equalizer และออพชั่นสำหรับไมโครโฟนและการบันทึกเสียง สำหรับให้การปรับแต่งโทนเสียง เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำงานร่วมกับลำโพง UX305 รุ่นนี้ ซึ่งผลที่ได้ในด้านของ Volumn ลำโพงจาก UX305 ให้ค่าการทำงานอยู่ใน 79 เดซิเบล ซึ่งอาจเป็นผลที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของ Ultrabook ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งที่อยู่ประมาณ 86 เดซิเบลอยู่เล็กน้อย
อุณหภูมิและความร้อน
แม้จะมีความหนาน้อยกว่าครึ่งนิ้วและยังเป็นระบบ Fanless ก็ตาม แต่อุณหภูมิที่เกิดขึ้นบน UX305 ก็ยังไม่ข้ามไปที่ 35 องศาเซลเซียส ในการทำงานทั่วไป ส่วนการทดสอบด้วยการสตรีมมิ่งวีดีโอ HD ระยะเวลา 15 นาที จุดที่ร้อนสุดบนช่องระหว่างคีย์ G และ H ซึ่งเป็นจุดระบาย ยังอยู่ที่ไม่เกิน 30 องศาอีกด้วย
ประสิทธิภาพในการทำงาน
หลายคนอาจมองว่าซีพียูความเร็วต่ำในระดับ 1GHz หรือน้อยกว่านั้น อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ในการทำงานไม่ว่าจะสตรีมมิ่งวีดีโอหรือการใช้งานสเปรดชีท รวมถึงเปิดเว็บไซต์หลายๆ หน้าได้พร้อมกัน ก็น่าจะทำให้เปลี่ยนมุมมองไป เช่นเดียวกับซีพียูบน UX305 นี้ ที่มาพร้อมกับซีพียูที่ใช้พลังงานต่ำอย่าง Intel Core M-5Y10 และแรม 8GB รวมถึง SSD 256GB ซึ่งนับว่าเป็นส่วนที่สร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Core M นี้ก็จะอยู่ที่การทำให้ระบบ Fanless สมบูรณ์ขึ้น ไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวน ในขณะที่ดูหนังหรือนั่งทำงานที่ต้องการความสงบ นอกจากนี้ยังมีผลที่ได้จากการทดสอบที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Geekbench 3 ที่ได้คะแนนโดยรวม 4623 คะแนน ซึ่งน้อยกว่า Core i5 บนอัลตร้าบุ๊คบางรุ่น อยู่ประมาณ 20% แต่ก็ยังเรียกได้ว่ามีราคาที่ถูกกว่าหลายค่าย จึงกลายเป็นว่าให้ความคุ้มค่าที่ดีกว่า รวมถึงได้ SSD 256GB ที่หาได้ยากบน Ultrabook ในระดับเดียวกัน
ส่วนในการทดสอบ SSD นั้นจะใช้การโอนถ่ายข้อมูลไฟล์ขนาด 4.97GB ซึ่งเป็นมีเดียไฟล์แบบผสม ผลที่ได้จาก UX305 สามารถโอนเสร็จได้ใน 33 วินาที ด้วยความเร็ว 154.2MB/s ส่วนในการทดสอบ Laptop Mag Spreadsheet นั้น UX305 สามารถจับคู่ 20000 รายชื่อให้ตรงตำแหน่งด้วยความเร็ว 6 นาที 50 วินาทีเท่านั้น
ในแง่ของงานกราฟฟิก Intel HD5300 นั้น สามารถจัดการกับเกมได้อย่างง่ายดายบน UX305 ไม่ว่าจะเป็นเกม Heartstone : Heroes of Warcraft บนความละเอียด 1920 x 1080 และคุณภาพกลางๆ ด้วยอัตราเฟรมเรตที่ค่อนข้างลื่นไหล แต่เมื่อเล่นเกมที่มีความต้องการประสิทธิภาพภาพมากยิ่งขึ้น เช่น StarCraft II การวิ่งไปเกิน 30fps อาจจะดูเหนื่อยไปบ้าง รวมถึง การทดสอบ 3DMark Fire Strike บนกราฟฟิกมาตรฐาน คะแนนอยู่ที่ 603 จัดอยู่ในระดับปกติไม่ได้โดดเด่นมากนัก ส่วนในการทดสอบระยะเวลาในการทำงาน UX305 สามารถผ่านการทดสอบที่ต่อเนื่องบนการเชื่อมต่อ WiFi และความสว่าง 100 nits ที่เวลา 9 ชั่วโมง 38 นาทีเลยทีเดียว
สรุปในภาพรวมอาจต้องกล่าวว่า ASUS UX305FA ที่เป็นโมเดลในการทดสอบนี้ ค่อนข้างจะแข็งแกร่งในด้านของประสิทธิภาพและความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล 13″ ความละเอียด Full-HD ที่มาพร้อมซีพียู Core M และแรม 8GB รวมถึง SSD 256GB ด้วยสนนราคาประมาณ 699USD ที่ไม่ได้ถือว่าสูงไป หากเทียบกันในตลาด เพราะนอกจากจะให้เสถียรภาพที่ดีและความร้อนน้อย ไร้เสียงรบกวนจากพัดลมแล้ว ด้านการออกแบบและวัสดุยังถือว่าจัดจ้าน พกพาสะดวกและน้ำหนักเบาเพียง 1.2Kg เท่านั้น
ที่สำคัญยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์บันเดิลต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ควบคุมคุณภาพและปรับแต่งเสียงแล้ว ยังมีซอฟต์แวร์ที่เป็น Third party มาให้ใช้งานอยู่ไม่น้อย เช่น Flipboard, Line, TripAdvisor รวมถึง MS Office ที่เป็น Trial และ ASUS WebStorage ความจุ 16GB อีกด้วย เรียกว่ามีให้อย่างครบครัน จะใช้ตัวไหนก็เลือกกันตามสะดวก ในภาพรวมต้องถือว่าจัดวางองค์ประกอบได้ดี เพียงพอกับการใช้งาน แถมด้วยดีไซน์ที่เฉียบขาดหาตัวจับยากในเวลานี้
ที่มา : laptopmag