ในการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยนั้นโดยปกติแล้วเพื่อการยืนยันตัวตนกับระบบที่ถูกต้องว่าเราเป็นผู้ใช้งานจริงๆ นั้นมีหลายกรรมวิธีด้วยกันครับ วิธีที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการตั้งรหัสผ่าน ซึ่ง ณ เวลาปัจจุบันก็ถือว่าเป็นกรรมวิธีที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยมากเท่าไรนักแล้ว หากจะมองไปถึงอุปกรณ์สมัยใหม่ ท่านก็จะได้เห็นการใช้การระบุตัวตนทางชีวภาพอย่างเช่นการสแกนลายนิ้วมือนั้นก็เริ่มมีเข้ามาให้เราใช้งานกันเรื่อยๆ ครับ
อย่างไรก็ตามวิธีการระบุตัวตนอย่างการสแกนลายนิ้วมือนั้นก็ยังคงมีข้อจำกัดหลายอย่างครับ หากท่านเคยติดตามข่าวในช่วงที่ iPhone 5s ออกใหม่แล้วหล่ะก็ น่าจะพอจำกันได้ดีว่าเคยมีคนที่ใช้วิธีการสร้างลายนิ้วมือขึ้นมาหลอก Touch ID ได้ ซึ่งแน่นอนครับว่าด้วยเหตุการณ์แบบนี้ย่อมทำให้เกิดข้อกังขาเกิดขึ้น ครั้นจะเปลี่ยนมาใช้การระบุตัวตนด้วยการสแกนม่านตาก็อาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ค่อนข้างสูง นักวิจัยจาก?Georgia Institute of Tech and research labs ในประเทศจีนจึงได้คิดค้นคีย์บอร์ดที่สามารถทำการระบุตัวตนได้ขึ้นมาครับ
ทางนักวิจัยได้ทำการนำเสนอคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับความสามารถในการระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้ทันทีที่ใช้ แถมยังสามารถแยกแยะได้ด้วยว่าผู้ใช้คนนั้นเป็นผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลได้หรือไม่ตัวต้นแบบออกมาครับ โดยตัวคีย์บอร์ดนั้นไม่ได้มาในรูปแบบของปุ่มกดแบบคีย์บอร์ดธรรมดาที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันครับ ซึ่งนั่นทำให้ตัวคีย์บอร์ดนั้นสามารถที่จะทำการสร้างพลังงานขึ้นมาตอนที่มีการใช้งานได้ด้วยตัวของมันเอง ตัวคีย์บอร์ดประกอบไปด้วยชั้นของพลาสติกทางด้านบนและหุ้มด้วยฟิล์มนำไฟฟ้า ซึ่งทำให้เวลาที่ผู้ใช้ทำการกดแป้นพิมพ์ลงไปนั้นจะเกิดประจุอ่อนๆ ขึ้นทุกครั้งที่มีการกดปุ่มบนคีย์บอร์ดซึ่งตัวคีย์บอร์ดจะจดจำลักษณะของประจุที่เกิดขึ้นของผู้พิมพ์เอาไว้และสามารถนำมาใช้ในการระบุตัวตนภายหลังครับ
อย่างไรก็ตามจากลักษณะของการใช้งานดังกล่าวของคีย์บอร์ดนั้นจะทำให้เห็นได้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังไม่สามารถที่จะนำมาปรับปรุงให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ครับ คงต้องรอให้มีการพัฒนากันต่อไปสักพัก ทว่าตัวคีย์บอร์ดต้นแบบนั้นก็ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของการระบุตัวตนรูปแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม โดยทางนักวิจัยอย่าง?Zhong Lin Wang ได้บอกว่าด้วยความสามารถที่ตัวคีย์บอร์ดสามารถทำการแยกและจดจำรูปการพิมพ์ของแต่ละบุคคลได้นั้น ทำให้วิธีการนี้เป็นการเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าการสแกนลายนิ้วมือครับ เพราะคงไม่มีใครสามารถที่จะคัดลอกรูปแบบการพิมพ์ของเราได้เหมือน 100% นั่นเองครับ
ที่มา :?techcrunch