อย่างที่เพื่อนๆสมาชิก NotebookSPEC หลายๆท่านทราบกันเป็นอย่างดีว่ากระแสของโน๊ตบุ๊คแบบ Hybrid Ultrabook ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงปี สองปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากเทรนด์ในการใช้งานของผู้ใช้โน๊ตบุ๊คเริ่มเปลี่ยนไป เพราะผู้ใช้หลายๆ ท่านก็เคยสัมผัสประสบการณ์ในการใช้ Notebook แบบ Clam Shell กันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงอยากที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆบ้าง รวมไปถึงตัว Hybrid Ultrabook เองก็เริ่มเข้าที่เข้าทางและหลายๆแบรนด์ก็เริ่มออกแบบเจ้า Hybrid Ultrabook ให้มอบประสบการณ์ในการใช้งานได้จริงๆ ไม่ใช่ทำออกมาเพื่อดูสวยงาม แต่ใช้งานลำบากครับ
และหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมโน๊ตบุ๊คในตระกูล Hybrid Ultrabook ที่เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นเคยดี ก็หนีไม่พ้น Acer กันอย่างแน่นอน โดยแบรนด์ Acer นี้เองก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในแง่ของนวัตกรรม และยอดขายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Hybrid ตัว Acer Aspire R7 ที่ได้รับความนิยม และพูดถึงอย่างแพร่หลาย พร้อมได้รับรางวัลต่างๆมากมาย แต่ Acer เองก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น และได้พัฒนา Hybrid Ultrabook ที่สานต่อเจ้า R7 ออกมาภายใต้ชื่อของ Acer Aspire R13 สุดยอดโน๊ตบุ๊ค Hybird 6-in-1 Ultrabook จอแสดงผลขั้นเทพ สุดพรีเมียม แห่งยุคอนาคต ที่พร้อมใช้ในปัจจุบัน!! ที่ทางทีมงาน NotebookSPEC จะมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ชมกันในบทความนี้ครับผม ซึ่งเจ้า Acer Aspire R13 จะสุดยอดแค่ไหนติดตามกันต่อได้ในรีวิวเลยครับ
Video Introduce
Specification
ในด้านของสเปคเชื่อว่าคงผ่านหูผ่านตาเพื่อนๆหลายท่านกันมาบ้างแล้วใช่ไหมละครับ แต่นั่นเป็นแค่รายละเอียดคร่าวๆดังนั้นเรามาดูสเปคฉบับเต็มกันๆเลย สำหรับ Acer Aspire R13 มาพร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Intel ในรหัส Core i7-4510U with Intel HD Graphics 4400 (3.10 GHz, 4 MB cache, 2 core, 4 thread) มีแรมขนาด 8GB LPDDR3L พร้อมที่เก็บข้อมูลความเร็วสูงแบบ SSD 256GB
ส่วนหน้าจอแสดงผลสัมผัสทาง Acer เลือกใช้จอแสดงผลขนาด 13.3 นิ้วพาเนลจอแสดงผล IPS บนเทคโนโลยี IGZO Trasistor (Indium Gallium Zinc Oxide) ที่ประหยัดไฟกว่าแต่ให้ความละเอียดที่สูงกว่าเทคโนโลยีเดิม แถมบวกกับจอแสดงผลแบบ Active Matrix TFT-IPS ที่ให้ภาพที่คมชัดและมีสีสันสมจริงไปในคราวเดียวกันอีกด้วย นอกเหนือจากสเปคข้างต้นแล้วฮาร์ดแวร์ในด้านอื่นก็ก็ติดตั้งมาให้อย่างครบครันประกอบไปด้วยเว็บเคมพร้อมไมโครโฟนแบบ Dual-Array พร้อมตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Acer Purified Voice พร้อมระบบเสียงที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คตัวไหนๆด้วยลำโพงแบบ Dual Speaker บนระบบเสียง Dolby Digital Plus Home Theater ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบเสียงรอบทิศทาง ที่สร้างมาเพื่อทำให้ภาพยนตร์ทุกเรื่องสมจริงดุจมีชีวิต ประหนึ่งว่าคุณร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ฟังเพลง ดูหนังได้แบบสมจริงยิ่งขึ้น
เช่นกันกับพอร์ตเชื่อมต่อที่เรียกได้ว่าครบจริงๆไม่ว่าจะเป็น 2x USB 3.0 , 1x USB 2.0 , HDMI , 1 Secure Digital (SD) Card , RJ45 (10/100/1000 Gigabit Ethernet LAN) , พอร์ตหูฟัง/ไมโครโฟนคอมโบ พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง IEEE 802.11a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.0 แถมยังมี Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ด้วย
Acer Aspire R13 มีขนาดและน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาทีเดียว ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ 13.3 นิ้ว พร้อมความบางเพียง 1 นิ้ว มีมิติตัวเครื่องอยู่ที่ 343.8 x 230.4 x 18 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวที่ 1.5 กิโลกรัม พกพาได้ง่ายสุดๆ และบางเบากว่า Ultrabook ตัวอื่นๆในท้องตลาดเสียอีก ส่วนในเรื่องของการรับประกันการใช้งาน ทาง Acer Thailand รับประกันการใช้งานให้ด้วย 2 ปี โดยเจ้า Acer Aspire R13 มีสนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาทครับผม
สเปคฉบับเต็ม :?Acer Aspire R13
Using Experience
หลังจากดูสเปคในภาพรวมกันจนเต็มอิ่มแล้ว เรามาดูในส่วนของประสบการณ์ใช้งานจริงกับ Acer Aspire R13 กันต่อเลย แต่ขอบอกก่อนว่ารีวิวนี้จะพิเศษกว่าใคร เพราะในบทความนี้น้องพลอย ฉัตรญาดา พริ้ตตี้ระดับแถวหน้ามาร่วมรีวิวใช้งานจริงกับ Acer Aspire R13 สุดพรีเมียมกันด้วยละครับ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาดูประสบการณ์การใช้งานของน้องพลอยกับเครื่อง Aspire R13 กันเลย โดยในครั้งนี้ทางทีมงานก็มาอยู่กันที่ The Nine พระราม 9 ณ ร้าน?Au Bon Pain ในบรรยากาศเอาท์ดอร์ลมเย็นๆ สบายๆ ชิวๆ กันเลยละครับ ซึ่งน้องพลอยบอกกับทางทีมงานว่าเขาเองก็ชอบพก Ultrabook มาใช้งานในสถานที่แบบนี้เหมือนกัน
?
?
?
และเมื่อทางทีมงาน NotebookSPEC ได้นำเจ้า? Acer Aspire R13 ออกมาให้น้องพลอยได้ลองใช้ เราก็สังเกตเห็นแววตาของน้องพลอยที่ค่อนข้างประหลาดใจบนความประทับใจด้วยความที่เจ้า?Acer Aspire R13 นั้นออกแบบได้พรีเมียมสุดๆด้วยวัสดุโลหะตลอดทั้งตัวและมีเนื้องานที่ดี แต่ค่อนข้างแปลกตาด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และมีโหมดต่างให้ใช้งานมากมาย โดยเมื่อทางทีมงานแนะนำโหมดต่างๆ ถึง 6 โหมดการใช้งาน และแนะนำฟีเจอร์ต่างๆไม่นาน ทางน้องพลอยก็เริ่มคล่องแคล่ว และใช้งานโหมดต่างๆของ R13 ได้อย่างสบายๆ ตามลักษณะการใช้งานรูปแบบต่างๆได้ในทันทีเลยละครับ โดยเริ่มแรกน้องพลอยได้ลองใช้โหมดใช้งานปกติทั่วไปอย่าง?Notebook mode เพื่อเช็คงานต่างๆที่บันทึกนัดหมายเอาไว้ รวมถึงเขียนสคริปต่างๆเพื่อเอาไปใช้ในงาน พริตตี้และ MC ก็ทำได้สะดวกมากๆผ่านคีย์บอร์ดแบบขนาดฟูลไซด์พร้อมไฟแสดงผล LED ในตัว ใช้งานได้ง่ายแม้มีแสงน้อย รวมถึงมีทัชแพดที่รองรับเทคโนโลยี Multi-Touch Gesture ควบคู่กับ Windows 8.1 ที่ติดตั้งมาให้ในตัวก็ช่วยให้น้องพลอยเช็คงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ครั้นจะ Access เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตและปรับการใช้งานเบาๆ ในสไตล์ Casual สบายๆ อย่างการ เช็คอีเมล เช็คอินตราแกรม เช็คโซเชียลต่างๆ หรือแม้แต่เช็คคอมเม้นบน Fanpage ของน้องพลอย รวมไปถึงอัพรูป อัพคลิปสวยๆ ผ่านกล้องเว็บแคมลง Facebook Fanpage หรือโซเชียลอื่นๆ ก็ทำได้อย่างลื่นไหลด้วยมาตรฐานอินเตอร์เน็ตไร้ที่สายที่ R13 รองรับทั้ง Wireless n/ac หรือถ้าอยากดูรูป ดูเว็บต่างๆ ให้คมชัดยิ่งขึ้นก็ปรับโหมดมาใช้?Ezel mode?ช่วยให้จอแสดงผลเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้น สามารถใช้ในการท่องเว็บไซด์ และโลกโซเชียลสะดวกมากขึ้นด้วยละ และในการปรับโหมดนี้เองก็สามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเพราะตัวบานพับทำจากโลหะ มีสเถียรภาพสูงและแข็งแรงทนทานมากทีเดียว
?
?
ปรับโหมดลงมาให้ต่ำลงอีกนิดอย่าง?Stand mode?ก็ตอบโจทย์น้อง?พลอย ฉัตรญาดา พริ้ตตี้แถวหน้าได้เป็นอย่างดีเพราะน้องพลอยชอบออกแบบดีไซน์ชุดแต่งตัวเก๋ๆ เป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มความโดดเด่นอยู่เป็นประจำ ยิ่งใช้โหมด?Stand mode ควบคู่ไปกับการสัมผัสที่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือเลยเพราะกระจกหน้าจอเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือเอาไว้ด้วย หรือแม้แต่จะใช้ปากกา?Acer Active Pen ปากกาสุดไฮเทคที่มีเซ็นเซอร์รับรู้ถึงแรงกดในการวาด ทำให้ได้ลายเส้นที่ออกมามีความบางและหนาต่างกัน แถมมีเทคโนโลยี?Acer Hover Access?ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการใช้งานโดยเฉพาะก้ทำได้ดี โดยน้องพลอยบอกกับเราว่าชอบฟีเจอร์นี้สุดๆเลยละ เพราะ Ultrabook ตัวเก่าของน้องทัชหน้าจอก็ไม่ได้ ใช้โหมดแบบนี้ก็ไม่ได้ แถมยังไม่มีปากกาสไตล์ลัสขั้นเทพมาให้อีก
?
?
และเมื่อเบื่อๆกับการทำงานหนักสมองกันแล้วน้องพลอยก็ขอตัวพักผ่อนบ้างครับ โดยในคราวนี้ปรับโหมด Acer Aspire R13 มาใช่งานในโหมด Display Mode?ที่ใช้ดูคลิป ดูหนัง ดูวิดีโอ จากเว็บอย่าง Youtube ก็เพลิดเพลินและสบายตามากทีเดียวเพราะเจ้า R13 มี Light Sensor ที่ปรับระดับแสงหน้าจอให้พอดีกับสภาวะโดยรอบ พร้อมจอแสดงผลเคลือบสารลดแสงสะท้อนให้ด้วย ทำให้ดูหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบแม้อยู่ในที่แสดงเยอะ ครั้นจะซื้อ?Macchiato อร่อยๆมาดื่มสักแก้ว เพื่อจิบคลายหนาวแก้ง่วงและปรับโหมดเป็น?Tent mode เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง แต่ยังคงไว้ซึ่งความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งจากหน้าจอแสดงผลของ Acer Aspire R13 ที่มาพร้อมพาเนลจอคุณภาพสูงอยาง IPS บนเทคโนโลยี IGZO ที่ประหยัดไฟกว่า แต่ให้คุณภาพภาพที่ออกมาสูงกว่าจอภาพปกติทั่วไปก็ทำได้เป็นเยี่ยม ยิ่งพ่วงกับชุดลำโพง Dolby Digital Plus Home Theater เทคโนโลยีระบบเสียงรอบทิศทางน้องพลอยก็บอกกับเราว่าฟังเพลง R&B และเพลงจังหวะมันส์อย่าง Hip-Hop ได้ประทับใจสุดๆจนลืม Ultrabook เครื่องเก่าไปเลย
??
ดูคลิป ดูหนัง ฟังเพลงกันจนเพลินแล้วน้องพลอยก็ขอกลับมาเช็คโซเชียลมีเดียกันอีกรอบแต่ในคราวนี้ลองปรับโหมดการใช้งานเป็น Tablet Mode ก็โดนใจไม่เบา ด้วยหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่เอามากๆ เพราะมีภาพที่สวยกว่า สว่างกว่า แถมการทัชหรือสัมผัสใช้งานยังลื่นกว่าด้วยเทคโนโลยี Zero Air Gap จาก Acer ด้วยละ พอเช็คโซเชียลเสร็จแล้วน้องพลอยขอทิ้งท้ายกันอีกเล็กน้อยด้วยการเล่นเกมจาก Store ของ Microsoft เอกสิทธิ์เฉพาะ Windows 8.1 เท่านั้น ที่บอกเลยว่าน้อยพลอยเล่นจนสนุกสนานเพลินเพลินจนเกือบลืมกลับบ้านกันเลยทีเดียวละครับ
?
?
และด้วยความสวย และบุคคลิกอันโดดเด่นของน้องพลอย ฉัตรญาดา มาควบรวมกับการใช้งาน Acer Aspire R13 สุดพรีเมียมตัวนี้ บอกได้เลยว่าชายหนุ่มที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องเหลียวหลังหันกลับมามองความสวยน้องพลอยและความล้ำของ R13 กันจนคอเคล็ดเลยละครับ ยิ่งบวกกับหน้าจอแสดงผลขั้นเทพ บานพับโลหะที่แข็งแรงทนทาน และฟีเจอร์ที่ครบครัน รวมถึงอายุการใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมงที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการนำไปใช้งานนอกสถานที่ ที่ใครได้ครอบครองเป็นเจ้าของเจ้า Aspire R13 ตัวนี้จะต้องหลงรักมันละครับ รวมถึงตัวของ R13 เองก็ยังสามารถเสริมความโดดเด่น และความน่าสนใจให้กับตัวท่านเองได้ด้วยความหรูหรา พรีเมียมที่มาจากการออกแบบอันสุดแสนปราณีต บอกได้เลยว่าท่านใดกำลังมองหา Hybrid Ultrabook?เจ๋งๆสักตัวอยู่แล้วละก็เจ้า R13 ตัวนีและครับนับเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในปี 2015
Feature
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Acer Aspire R13 มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Aspire R7 อย่างมากมาย พร้อมมีคุณสมบัติต่างๆ อันเยี่ยมยอดเช่น?Acer Ezel Aero เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับเปลี่ยนโหมด บนบานพับสองจุดที่มีกลไลที่ออกมาได้แข็งแกร่งสุดๆ ได้ตามสไตล์การใช้งานของคุณ ถึง 6 รูปแบบดังนี้
- Notebook mode ? ใช้งานในการพิมพ์งานตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คแบบปกติทั่วไป
- Ezel mode ? ช่วยให้จอแสดงผลเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นและเหมาะอย่างยิ่งกับการอ่านและการท่องเว็บไซด์ และโลกโซเชียลมากยิ่งขึ้น
- Stand mode ? ช่วยให้การวาดภาพ รวมไปถึงการทัชสกรีนต่างๆ และการใช้งานในห้องประชุมเป็นไปได้ง่ายขึ้น โนโหมดนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการไปใช้งานในห้องประชุมในลักษณะของทุกคนมารวมกันออกความคิดเห็นและ brainstorm
- Pad mode ? เรียกกันอย่างง่ายเลยก็คือรูปแบบการใช้งานในโหมดแท็บเล็ตนั่นเอง ที่ก็เหมาะกับการเล่นเกม เล่นเว็บ ดูหนังครับผม
- Tent mode ? เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในพื้นที่ๆค่อนข้างจำกัด เช่นบนรถทัวร์ หรือเครื่องบินเป็นต้น
- Display mode ? เหมาะอย่างยิ่งในการใช้งานดูหนัง ดูวิดีโอ ดูภาพ เล่นเกมและอื่นๆ พรีเซ้นต์งานและอีกมากมาย
ซึ่งนอกเหนือจากโหมด 6 ที่ปรับได้ผ่านเทคโนโลยี?Acer Ezel Aero แล้วเจ้า Acer Aspire R13 ยังรองรับ?Acer Active Pen โฉมใหม่ซึ่งใช้เทคโนโลยี Acer Hover Access อีกด้วย แถมยังให้การสัมผัสได้อย่างมั่นใจด้วยกระจกหน้าจอ?Corning Gorilla Glass 3 คงทนแข็งแรงและมั่นใจ พร้อมด้วยการแสดงผลภาพผ่านหน้าจอแสดงผลขนาด 13.3 นิ้วได้ชัดกว่าใครเพื่อนด้วยการแสดงผลระดับ Full-HD ที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน IGZO พร้อมให้ภาพที่คมชัด และมุมมองการรับชมที่กว้างด้วยเทคโนโลยี IPS พร้อมให้การแสดงผลของสีและภาพที่สว่าง คมชัด สมจริง ด้วยเทคโนโลยี Zero Air Gap ที่ให้ตัวกระจกจอแสดงผลแนบชิดกับตัวพาเนลจอพร้อมให้การสัมผัสที่เที่ยงตรง และลื่นไหวกว่า
แถมตัวหน้าจอแสดงผลยังมีเซนเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมอัตโนมัติเพื่อทำให้รู้สึกสบายตายิ่งขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งกว่า พร้อมการเคลือบผิวกระจกแบบ AR/ETC ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ไร้รอยนิ้วมือและทำความสะอาดได้ง่าย?เรียกได้ว่า Acer พีถีพิถันและเน้นหนักจริงๆ กับตัวจอแสดงผลของ?Acer Aspire R13 ตัวนี้ครับ เรียกได้ว่าในเรื่องของจอแสดงผลมีฟีเจอร์ที่แจ๋งกว่า MacBook เสียอีกละครับ
- Acer Active Pen ปากกาสุดไฮเทคที่มาพร้อมกับ Acer Aspire R13 ออกแบบมาสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งเจ้านี่มีเซ็นเซอร์ที่สามารถรับรู้ถึงแรงกดในการวาดได้ทำให้ลายเส้นที่ออกมามีความบางและหนาต่างกัน แถมยังแม่นยำกว่าเดิมด้วยเซ็นเซอร์แบบใหม่
- Acer Hover Access ซอฟแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับการใช้งานปากกาโดยเฉพาะ ที่สำคัญยังมาพร้อมปุ่มกด 2 ปุ่มบนตัวปากกาช่วยให้ใช้งานแทนเมาส์ได้เลย
- Anti-fingerprint technology ที่จะช่วยให้หน้าจอแสดงผลสะอาดเอี่ยมอยู่ตลอดเวลา ไร้ซึ่งรอบนิ้วมือ
- Anti-reflective technology ลดอาการสะท้อนของหน้าจอโดยเพิ่มความคมชัดให้กับหน้าจอเวลาอยู่ในที่ๆมีแสงรบกวนมาก
- Built-in light sensor?เซ็นเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับแสงหน้าจอให้โดยอัตโนมัติ ให้คุณไม่ต้องยุ่งยากในการใช้งานในหลายๆสภาวะแสง
- Gorilla Glass 3 ด้วยกระจกหน้าจอสัมผัสแบบ Gorilla Glass 3 ช่วยให้การใช้งานในรูปแบบสัมผัสได้ลื่นไหลและมั่นใจกว่า
?
Performance / Software
ถึงแม้ Acer Aspire R13 จะเป็น Hybrid Ultrabook?ที่มีฟีเจอร์ในการใช้งานที่หลากหลายหลาย แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพทาง R13 ไม่ได้น้อยหน้า Ultrabook ตัวอื่นๆเลยด้วยสเปคที่จัดว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูงทีเดียวละครับทั้ง หน่วยประมวลผล Core i7 แรม?8GB LPDDR3L และที่เก็บข้อมูล SSD ความจุสูงถึง 256GB ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหนไปดูกันได้เลย
โปรแกรม CPU-Z แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ Acer Aspire R13 ระบุเอาไว้ทั้งหมด เช่นเดียวกับโปรแกรม GPU-Z ที่แสดงผลการ์ดจอได้ตรงตามรุ่นที่ติดตั้งไว้เช่นกัน
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนอยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ค่อนข้างดี
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ก็ทำความเร็วเฉลี่ยได้รวดเร็วทีเดียว
ต่อด้วยลองแปลงไฟล์ DVD ที่เป็นไฟล์ ISO ดูในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันบ้างผ่านโปรแกรม Format Factory โดยแปลงไฟล์ ISO ไปเป็น MPEG4 720P?ซึ่งก็ใช้เวลาไป 22 นาทีไวพอตัวเลยละครับ
บีบอัดเกมสุดฮิตกับไฟล์เกม Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ไฟล์กันบ้างกับโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกเครื่องต้องมีอย่าง Winrar ที่ทำการบีบอัดได้ในเวลาราวๆ 10 นาทีกว่าครับ รวดเร็วดีเยี่ยม
ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 โปรแกรมที่ตากล้องหรือเพื่อนๆหลายๆท่านใช้โพรเซสภาพกัน ที่ปรับรูปไฟล์ Raw จำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900?600 พิกเซล ก็ทำเวลาไป 3 นาทีกว่าเท่านั้น
ในเรื่องของความร้อนงทาง NotebookSPEC เองก็วัดค่าจาก Sensor ต่างๆบนตัวเครื่องผ่านโปรแกรมครับผม โดยพบว่าความร้อนสูงสุดของซีพียูจะไปอยู่ที่ 83 องศาเมื่อใช้งานลักษณะของการประมวลผลและการเล่นเกมต่างๆต่อเนื่องเป็นเวลาราวๆ 30 นาที ในห้องแอร์อุณหูมิ 27-28 องศา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยละครับ ในด้านของการระบายความร้อน
อย่างไรก็ตามในเรื่องของแบตเตอรี่ทาง NotebookSPEC ก็ได้ทำการทดสอบเช่นกันบนการตั้งค่า Balance และเล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วย โดยจับผลทดสอบบนโปรแกรม BatteryMon ซึ่งก็มีระยะการใช้งานทั่วไปที่แสดงออกมาอยู่ที่ราวๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างเพี้ยนไม่ตรวกับความเป็นจริงเนื่องจากทางทีมงานได้ทดสอบใช้งานจริงพบว่าใช้ได้ราวๆ 7-8 ชั่วโมง?แต่ถ้าปรับมาใช้งานหนักๆเช่นเล่นเกมจะใช้ได้ราวๆ 2 ชั่วโมงครับผม ส่วนถ้าดูหนัง FullHD ก็จะอยู่ที่ราว 2-4 ชั่วโมงครับถือว่าทำได้ค่อยข้างดี
Conclusion / Award
Acer Aspire R13 นับได้ว่าเป็นสุดยอด 6-in-1 Hybrid Ultrabook?แห่งยุคอนาคต ที่จอแสดงผลเทพที่สุดในโน๊ตบุ๊คที่มีขายในปัจจุบันในไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอแสดงผล 13.3 นิ้วสัมผัสที่ทาง Acer เลือกใช้พาเนลจอแสดงผล IPS บนเทคโนโลยี IGZO Trasistor (Indium Gallium Zinc Oxide) ที่ประหยัดไฟกว่าแต่ให้ความละเอียดที่สูงกว่าเทคโนโลยีเดิม แถมบวกกับจอแสดงผลแบบ Active Matrix TFT-IPS ที่ให้ภาพที่คมชัดและมีสีสันสมจริงไปในคราวเดียวกันอีกด้วย พร้อมกันนั้นตัวหน้าจอแสดงผลยังมีเซนเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมอัตโนมัติเพื่อทำให้รู้สึกสบายตายิ่งขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งกว่า แถมยังมีการเคลือบผิวกระจกแบบ AR/ETC ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ไร้รอยนิ้วมือและทำความสะอาดได้ง่าย และยังรองรับกับปากกา Acer Active Pen ที่รองรับแรงกดอีกด้วย เรียกได้ว่า Acer พีถีพิถันและเน้นหนักจริงๆ กับตัวจอแสดงผลของ?Acer Aspire R13 ตัวนี้ครับ เรียกได้ว่าในเรื่องของจอแสดงผลมีฟีเจอร์ที่แจ๋งกว่า MacBook กันเลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ Acer Aspire R13 ก็แรงไม่แพ้ Ultrabook และ Hybrid Ultrabook ตัวอื่นๆด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i7 , แรม 8GB รวมถึง SSD ความจุถึง 256GB กันเลยทีเดียวที่ก็มีประสิทธิภาพสูงพอตัวตอบสนองกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรืองานประมวลผล แถมยังมีคีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายพร้อมไฟแสดงผลพร้อมตอบรับกับการใช้งานไม่ว่ากลางวันและกลางคืน ยิ่งไปกว่านั้นโหมดการใช้งานต่างๆ ทาง Acer Aspire R13 เองก็ครบถ้วนและเป็นจุดของของเจ้า R13 กันเลยทีเดียวด้วยโหมดการใช้งานถึง 6 โหมดทั้ง?Notebook mode, Ezel mode, Stand mode, Pad mode, Tent mode และ Display mode ?พร้อมให้เพื่อนใช้งานในทุกสถานการณ์ และทุกรูปแบบการใช้งานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อนการทำงาน การประชุม หรือแม้แต่ความบันเทิงก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนในเรื่องของงานประกอบและการดีไซน์ที่ทำออกมาได้พรีเมียมและดูดีสุดๆ ที่ถึงแม้สีสันจะไม่ฉูดฉาดแต่บอกเลยว่าใครเห็นต้องชอบอย่างแน่นอนด้วยความหล่อเหลาแบบสไตล์หล่อเข้มของมัน แต่อย่างไรก็ตามด้วยนวัตกรรมการออกแบบของมันที่ค่อนข้างแปลกและแตกก็อาจจะทำให้เพื่อนๆหลายคนไม่ชอบใจ แต่ถ้าฐานตัวผู้เขียนเองก็พูดได้อย่างเต็มปากเลยละครับว่าเจ้า Acer Aspire R13 นี้เป็น Hybrid Ultrabook ที่สมบูรณ์แบบตัวหนึ่งในท้องตลาดขณะนี้เลยละครับ ถึงแม้ราคามันจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ราวๆ 49,990 บาทแต่แลกมาด้วยฟีเจอร์ เนื้องาน ก็นับได้ว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาเอามากๆถ้าเลือกให้ถูกกับการใช้งาน เอาเป็นว่าเพื่อนเพื่อนท่านใดที่สวนใจก็สามารถสอบถามได้จาก Acer Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายชั้นนำไม่ว่าจะเป็น JIB , BananIT , Advice หรือ Pantiphotsale กันได้เลยละครับ
จุดเด่น
- น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัมพกพาได้สะดวกมาก
- ดีไซด์ล้ำอนาคต และวัสดุอลูมิเนียมค่อนข้างโดดเด่นกว่า Hybrid ตัวอื่นๆ
- หน้าจอ 13.3 นิ้วที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านของฟีเจอร์ที่หลากหลาย และให้คุณภาพของการแสดงผลที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คตัวไหนๆ
- ประสิทธิภาพสูงด้วยหน่วยประมวลผล Core i7 แรม 8GฺB และ SSD ความจุสูงถึง 256GB
- คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ LED ใช้งานสะดวก แม้ตอนกลางคืน
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0/2.0 รวมกันถึง 3 พอร์ต และมี HDMI พร้อมรองรับ Wireless AC
- มาพร้อมประกัน 2 ปี
ข้อสังเกต
- ดีไซน์สวยล้ำ แต่ล้ำจนบางคนอาจะม่ชอบ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Hybrid Ultrabook?ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่ง Acer Aspire R13?ก็ได้รับรางวัลดังนี้
Ezel hinge ที่ออกแบบมาได้อย่างสุดยอด พร้อมดีไซน์ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้กว่า 6 แบบนั้นนับว่าเป็นการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งใช้งานได้จริงอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นแบบนี้แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ทางทีมงาน NotebookSPEC จึงขอมอบรางวัลดีไซน์นี้ไปเลย
แบตเตอรี่ความจุสูงที่ใช้งานยาวนานได้ถึง 8 ชั่วโมง เนื่องมากจากการจัดสรรพลังงานที่ดีมากๆด้วยหน่วยประมวลผลกลาง Core i7 รหัส U พ่วงด้วยเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบ IGZO ที่ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ต่อเนื่องดังนั้นไม่ต้องส่งสัยเลยว่า Acer Aspire R13 ทำไมถึงได้รางวัลนี้ไป
เทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาบนเจ้า R13 นั้นเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่อัดแน่นเอามากๆ ที่มันจะพร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานอันแปลกใหม่และหลากหลายทั้งการปรับลักษณะการใช้งานได้มากถึง 6 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Notebook mode, Ezel mode, Stand mode, Pad mode, Tent mode และ Display mode ตอบรับกับการใช้งานได้เข้ากับทุกสถานการณ์ อีกทั้งการออกแบบฐานจอและบานพับที่ให้ความแข็งแรง เรียกได้ว่าแปลกใหม่กว่าโน๊ตบุ๊ครวมถึง Ultrabook ทั่วไปในปัจจุบัน
Video Introduce
Specification
ในด้านของสเปคเชื่อว่าคงผ่านหูผ่านตาเพื่อนๆหลายท่านกันมาบ้างแล้วใช่ไหมละครับ แต่นั่นเป็นแค่รายละเอียดคร่าวๆดังนั้นเรามาดูสเปคฉบับเต็มกันๆเลย สำหรับ Acer Aspire R13 มาพร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Intel ในรหัส Core i7-4510U with Intel HD Graphics 4400 (3.10 GHz, 4 MB cache, 2 core, 4 thread) มีแรมขนาด 8GB LPDDR3L พร้อมที่เก็บข้อมูลความเร็วสูงแบบ SSD 256GB
ส่วนหน้าจอแสดงผลสัมผัสทาง Acer เลือกใช้จอแสดงผลขนาด 13.3 นิ้วพาเนลจอแสดงผล IPS บนเทคโนโลยี IGZO Trasistor (Indium Gallium Zinc Oxide) ที่ประหยัดไฟกว่าแต่ให้ความละเอียดที่สูงกว่าเทคโนโลยีเดิม แถมบวกกับจอแสดงผลแบบ Active Matrix TFT-IPS ที่ให้ภาพที่คมชัดและมีสีสันสมจริงไปในคราวเดียวกันอีกด้วย นอกเหนือจากสเปคข้างต้นแล้วฮาร์ดแวร์ในด้านอื่นก็ก็ติดตั้งมาให้อย่างครบครันประกอบไปด้วยเว็บเคมพร้อมไมโครโฟนแบบ Dual-Array พร้อมตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Acer Purified Voice พร้อมระบบเสียงที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คตัวไหนๆด้วยลำโพงแบบ Dual Speaker บนระบบเสียง Dolby Digital Plus Home Theater ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบเสียงรอบทิศทาง ที่สร้างมาเพื่อทำให้ภาพยนตร์ทุกเรื่องสมจริงดุจมีชีวิต ประหนึ่งว่าคุณร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ฟังเพลง ดูหนังได้แบบสมจริงยิ่งขึ้น
เช่นกันกับพอร์ตเชื่อมต่อที่เรียกได้ว่าครบจริงๆไม่ว่าจะเป็น 2x USB 3.0 , 1x USB 2.0 , HDMI , 1 Secure Digital (SD) Card , RJ45 (10/100/1000 Gigabit Ethernet LAN) , พอร์ตหูฟัง/ไมโครโฟนคอมโบ พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง IEEE 802.11a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.0 แถมยังมี Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ด้วย
Acer Aspire R13 มีขนาดและน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาทีเดียว ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ 13.3 นิ้ว พร้อมความบางเพียง 1 นิ้ว มีมิติตัวเครื่องอยู่ที่ 343.8 x 230.4 x 18 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวที่ 1.5 กิโลกรัม พกพาได้ง่ายสุดๆ และบางเบากว่า Ultrabook ตัวอื่นๆในท้องตลาดเสียอีก ส่วนในเรื่องของการรับประกันการใช้งาน ทาง Acer Thailand รับประกันการใช้งานให้ด้วย 2 ปี โดยเจ้า Acer Aspire R13 มีสนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาทครับผม
สเปคฉบับเต็ม :?Acer Aspire R13
Using Experience
หลังจากดูสเปคในภาพรวมกันจนเต็มอิ่มแล้ว เรามาดูในส่วนของประสบการณ์ใช้งานจริงกับ Acer Aspire R13 กันต่อเลย แต่ขอบอกก่อนว่ารีวิวนี้จะพิเศษกว่าใคร เพราะในบทความนี้น้องพลอย ฉัตรญาดา พริ้ตตี้ระดับแถวหน้ามาร่วมรีวิวใช้งานจริงกับ Acer Aspire R13 สุดพรีเมียมกันด้วยละครับ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาดูประสบการณ์การใช้งานของน้องพลอยกับเครื่อง Aspire R13 กันเลย โดยในครั้งนี้ทางทีมงานก็มาอยู่กันที่ The Nine พระราม 9 ณ ร้าน?Au Bon Pain ในบรรยากาศเอาท์ดอร์ลมเย็นๆ สบายๆ ชิวๆ กันเลยละครับ ซึ่งน้องพลอยบอกกับทางทีมงานว่าเขาเองก็ชอบพก Ultrabook มาใช้งานในสถานที่แบบนี้เหมือนกัน
??
?
และเมื่อทางทีมงาน NotebookSPEC ได้นำเจ้า? Acer Aspire R13 ออกมาให้น้องพลอยได้ลองใช้ เราก็สังเกตเห็นแววตาของน้องพลอยที่ค่อนข้างประหลาดใจบนความประทับใจด้วยความที่เจ้า?Acer Aspire R13 นั้นออกแบบได้พรีเมียมสุดๆด้วยวัสดุโลหะตลอดทั้งตัวและมีเนื้องานที่ดี แต่ค่อนข้างแปลกตาด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และมีโหมดต่างให้ใช้งานมากมาย โดยเมื่อทางทีมงานแนะนำโหมดต่างๆ ถึง 6 โหมดการใช้งาน และแนะนำฟีเจอร์ต่างๆไม่นาน ทางน้องพลอยก็เริ่มคล่องแคล่ว และใช้งานโหมดต่างๆของ R13 ได้อย่างสบายๆ ตามลักษณะการใช้งานรูปแบบต่างๆได้ในทันทีเลยละครับ โดยเริ่มแรกน้องพลอยได้ลองใช้โหมดใช้งานปกติทั่วไปอย่าง?Notebook mode เพื่อเช็คงานต่างๆที่บันทึกนัดหมายเอาไว้ รวมถึงเขียนสคริปต่างๆเพื่อเอาไปใช้ในงาน พริตตี้และ MC ก็ทำได้สะดวกมากๆผ่านคีย์บอร์ดแบบขนาดฟูลไซด์พร้อมไฟแสดงผล LED ในตัว ใช้งานได้ง่ายแม้มีแสงน้อย รวมถึงมีทัชแพดที่รองรับเทคโนโลยี Multi-Touch Gesture ควบคู่กับ Windows 8.1 ที่ติดตั้งมาให้ในตัวก็ช่วยให้น้องพลอยเช็คงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ครั้นจะ Access เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตและปรับการใช้งานเบาๆ ในสไตล์ Casual สบายๆ อย่างการ เช็คอีเมล เช็คอินตราแกรม เช็คโซเชียลต่างๆ หรือแม้แต่เช็คคอมเม้นบน Fanpage ของน้องพลอย รวมไปถึงอัพรูป อัพคลิปสวยๆ ผ่านกล้องเว็บแคมลง Facebook Fanpage หรือโซเชียลอื่นๆ ก็ทำได้อย่างลื่นไหลด้วยมาตรฐานอินเตอร์เน็ตไร้ที่สายที่ R13 รองรับทั้ง Wireless n/ac หรือถ้าอยากดูรูป ดูเว็บต่างๆ ให้คมชัดยิ่งขึ้นก็ปรับโหมดมาใช้?Ezel mode?ช่วยให้จอแสดงผลเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้น สามารถใช้ในการท่องเว็บไซด์ และโลกโซเชียลสะดวกมากขึ้นด้วยละ และในการปรับโหมดนี้เองก็สามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเพราะตัวบานพับทำจากโลหะ มีสเถียรภาพสูงและแข็งแรงทนทานมากทีเดียว
??
ปรับโหมดลงมาให้ต่ำลงอีกนิดอย่าง?Stand mode?ก็ตอบโจทย์น้อง?พลอย ฉัตรญาดา พริ้ตตี้แถวหน้าได้เป็นอย่างดีเพราะน้องพลอยชอบออกแบบดีไซน์ชุดแต่งตัวเก๋ๆ เป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มความโดดเด่นอยู่เป็นประจำ ยิ่งใช้โหมด?Stand mode ควบคู่ไปกับการสัมผัสที่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือเลยเพราะกระจกหน้าจอเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือเอาไว้ด้วย หรือแม้แต่จะใช้ปากกา?Acer Active Pen ปากกาสุดไฮเทคที่มีเซ็นเซอร์รับรู้ถึงแรงกดในการวาด ทำให้ได้ลายเส้นที่ออกมามีความบางและหนาต่างกัน แถมมีเทคโนโลยี?Acer Hover Access?ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการใช้งานโดยเฉพาะก้ทำได้ดี โดยน้องพลอยบอกกับเราว่าชอบฟีเจอร์นี้สุดๆเลยละ เพราะ Ultrabook ตัวเก่าของน้องทัชหน้าจอก็ไม่ได้ ใช้โหมดแบบนี้ก็ไม่ได้ แถมยังไม่มีปากกาสไตล์ลัสขั้นเทพมาให้อีก
??
และเมื่อเบื่อๆกับการทำงานหนักสมองกันแล้วน้องพลอยก็ขอตัวพักผ่อนบ้างครับ โดยในคราวนี้ปรับโหมด Acer Aspire R13 มาใช่งานในโหมด Display Mode?ที่ใช้ดูคลิป ดูหนัง ดูวิดีโอ จากเว็บอย่าง Youtube ก็เพลิดเพลินและสบายตามากทีเดียวเพราะเจ้า R13 มี Light Sensor ที่ปรับระดับแสงหน้าจอให้พอดีกับสภาวะโดยรอบ พร้อมจอแสดงผลเคลือบสารลดแสงสะท้อนให้ด้วย ทำให้ดูหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบแม้อยู่ในที่แสดงเยอะ ครั้นจะซื้อ?Macchiato อร่อยๆมาดื่มสักแก้ว เพื่อจิบคลายหนาวแก้ง่วงและปรับโหมดเป็น?Tent mode เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง แต่ยังคงไว้ซึ่งความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งจากหน้าจอแสดงผลของ Acer Aspire R13 ที่มาพร้อมพาเนลจอคุณภาพสูงอยาง IPS บนเทคโนโลยี IGZO ที่ประหยัดไฟกว่า แต่ให้คุณภาพภาพที่ออกมาสูงกว่าจอภาพปกติทั่วไปก็ทำได้เป็นเยี่ยม ยิ่งพ่วงกับชุดลำโพง Dolby Digital Plus Home Theater เทคโนโลยีระบบเสียงรอบทิศทางน้องพลอยก็บอกกับเราว่าฟังเพลง R&B และเพลงจังหวะมันส์อย่าง Hip-Hop ได้ประทับใจสุดๆจนลืม Ultrabook เครื่องเก่าไปเลย
??
ดูคลิป ดูหนัง ฟังเพลงกันจนเพลินแล้วน้องพลอยก็ขอกลับมาเช็คโซเชียลมีเดียกันอีกรอบแต่ในคราวนี้ลองปรับโหมดการใช้งานเป็น Tablet Mode ก็โดนใจไม่เบา ด้วยหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่เอามากๆ เพราะมีภาพที่สวยกว่า สว่างกว่า แถมการทัชหรือสัมผัสใช้งานยังลื่นกว่าด้วยเทคโนโลยี Zero Air Gap จาก Acer ด้วยละ พอเช็คโซเชียลเสร็จแล้วน้องพลอยขอทิ้งท้ายกันอีกเล็กน้อยด้วยการเล่นเกมจาก Store ของ Microsoft เอกสิทธิ์เฉพาะ Windows 8.1 เท่านั้น ที่บอกเลยว่าน้อยพลอยเล่นจนสนุกสนานเพลินเพลินจนเกือบลืมกลับบ้านกันเลยทีเดียวละครับ
??
และด้วยความสวย และบุคคลิกอันโดดเด่นของน้องพลอย ฉัตรญาดา มาควบรวมกับการใช้งาน Acer Aspire R13 สุดพรีเมียมตัวนี้ บอกได้เลยว่าชายหนุ่มที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องเหลียวหลังหันกลับมามองความสวยน้องพลอยและความล้ำของ R13 กันจนคอเคล็ดเลยละครับ ยิ่งบวกกับหน้าจอแสดงผลขั้นเทพ บานพับโลหะที่แข็งแรงทนทาน และฟีเจอร์ที่ครบครัน รวมถึงอายุการใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมงที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการนำไปใช้งานนอกสถานที่ ที่ใครได้ครอบครองเป็นเจ้าของเจ้า Aspire R13 ตัวนี้จะต้องหลงรักมันละครับ รวมถึงตัวของ R13 เองก็ยังสามารถเสริมความโดดเด่น และความน่าสนใจให้กับตัวท่านเองได้ด้วยความหรูหรา พรีเมียมที่มาจากการออกแบบอันสุดแสนปราณีต บอกได้เลยว่าท่านใดกำลังมองหา Hybrid Ultrabook?เจ๋งๆสักตัวอยู่แล้วละก็เจ้า R13 ตัวนีและครับนับเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในปี 2015
Feature
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Acer Aspire R13 มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Aspire R7 อย่างมากมาย พร้อมมีคุณสมบัติต่างๆ อันเยี่ยมยอดเช่น?Acer Ezel Aero เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับเปลี่ยนโหมด บนบานพับสองจุดที่มีกลไลที่ออกมาได้แข็งแกร่งสุดๆ ได้ตามสไตล์การใช้งานของคุณ ถึง 6 รูปแบบดังนี้
- Notebook mode ? ใช้งานในการพิมพ์งานตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คแบบปกติทั่วไป
- Ezel mode ? ช่วยให้จอแสดงผลเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นและเหมาะอย่างยิ่งกับการอ่านและการท่องเว็บไซด์ และโลกโซเชียลมากยิ่งขึ้น
- Stand mode ? ช่วยให้การวาดภาพ รวมไปถึงการทัชสกรีนต่างๆ และการใช้งานในห้องประชุมเป็นไปได้ง่ายขึ้น โนโหมดนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการไปใช้งานในห้องประชุมในลักษณะของทุกคนมารวมกันออกความคิดเห็นและ brainstorm
- Pad mode ? เรียกกันอย่างง่ายเลยก็คือรูปแบบการใช้งานในโหมดแท็บเล็ตนั่นเอง ที่ก็เหมาะกับการเล่นเกม เล่นเว็บ ดูหนังครับผม
- Tent mode ? เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในพื้นที่ๆค่อนข้างจำกัด เช่นบนรถทัวร์ หรือเครื่องบินเป็นต้น
- Display mode ? เหมาะอย่างยิ่งในการใช้งานดูหนัง ดูวิดีโอ ดูภาพ เล่นเกมและอื่นๆ พรีเซ้นต์งานและอีกมากมาย
ซึ่งนอกเหนือจากโหมด 6 ที่ปรับได้ผ่านเทคโนโลยี?Acer Ezel Aero แล้วเจ้า Acer Aspire R13 ยังรองรับ?Acer Active Pen โฉมใหม่ซึ่งใช้เทคโนโลยี Acer Hover Access อีกด้วย แถมยังให้การสัมผัสได้อย่างมั่นใจด้วยกระจกหน้าจอ?Corning Gorilla Glass 3 คงทนแข็งแรงและมั่นใจ พร้อมด้วยการแสดงผลภาพผ่านหน้าจอแสดงผลขนาด 13.3 นิ้วได้ชัดกว่าใครเพื่อนด้วยการแสดงผลระดับ Full-HD ที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน IGZO พร้อมให้ภาพที่คมชัด และมุมมองการรับชมที่กว้างด้วยเทคโนโลยี IPS พร้อมให้การแสดงผลของสีและภาพที่สว่าง คมชัด สมจริง ด้วยเทคโนโลยี Zero Air Gap ที่ให้ตัวกระจกจอแสดงผลแนบชิดกับตัวพาเนลจอพร้อมให้การสัมผัสที่เที่ยงตรง และลื่นไหวกว่า
แถมตัวหน้าจอแสดงผลยังมีเซนเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมอัตโนมัติเพื่อทำให้รู้สึกสบายตายิ่งขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งกว่า พร้อมการเคลือบผิวกระจกแบบ AR/ETC ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ไร้รอยนิ้วมือและทำความสะอาดได้ง่าย?เรียกได้ว่า Acer พีถีพิถันและเน้นหนักจริงๆ กับตัวจอแสดงผลของ?Acer Aspire R13 ตัวนี้ครับ เรียกได้ว่าในเรื่องของจอแสดงผลมีฟีเจอร์ที่แจ๋งกว่า MacBook เสียอีกละครับ
- Acer Active Pen ปากกาสุดไฮเทคที่มาพร้อมกับ Acer Aspire R13 ออกแบบมาสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งเจ้านี่มีเซ็นเซอร์ที่สามารถรับรู้ถึงแรงกดในการวาดได้ทำให้ลายเส้นที่ออกมามีความบางและหนาต่างกัน แถมยังแม่นยำกว่าเดิมด้วยเซ็นเซอร์แบบใหม่
- Acer Hover Access ซอฟแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับการใช้งานปากกาโดยเฉพาะ ที่สำคัญยังมาพร้อมปุ่มกด 2 ปุ่มบนตัวปากกาช่วยให้ใช้งานแทนเมาส์ได้เลย
- Anti-fingerprint technology ที่จะช่วยให้หน้าจอแสดงผลสะอาดเอี่ยมอยู่ตลอดเวลา ไร้ซึ่งรอบนิ้วมือ
- Anti-reflective technology ลดอาการสะท้อนของหน้าจอโดยเพิ่มความคมชัดให้กับหน้าจอเวลาอยู่ในที่ๆมีแสงรบกวนมาก
- Built-in light sensor?เซ็นเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับแสงหน้าจอให้โดยอัตโนมัติ ให้คุณไม่ต้องยุ่งยากในการใช้งานในหลายๆสภาวะแสง
- Gorilla Glass 3 ด้วยกระจกหน้าจอสัมผัสแบบ Gorilla Glass 3 ช่วยให้การใช้งานในรูปแบบสัมผัสได้ลื่นไหลและมั่นใจกว่า
Performance / Software
ถึงแม้ Acer Aspire R13 จะเป็น Hybrid Ultrabook?ที่มีฟีเจอร์ในการใช้งานที่หลากหลายหลาย แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพทาง R13 ไม่ได้น้อยหน้า Ultrabook ตัวอื่นๆเลยด้วยสเปคที่จัดว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูงทีเดียวละครับทั้ง หน่วยประมวลผล Core i7 แรม?8GB LPDDR3L และที่เก็บข้อมูล SSD ความจุสูงถึง 256GB ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหนไปดูกันได้เลย
โปรแกรม CPU-Z แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ Acer Aspire R13 ระบุเอาไว้ทั้งหมด เช่นเดียวกับโปรแกรม GPU-Z ที่แสดงผลการ์ดจอได้ตรงตามรุ่นที่ติดตั้งไว้เช่นกัน
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีผลคะแนนอยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ค่อนข้างดี
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ก็ทำความเร็วเฉลี่ยได้รวดเร็วทีเดียว
ต่อด้วยลองแปลงไฟล์ DVD ที่เป็นไฟล์ ISO ดูในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันบ้างผ่านโปรแกรม Format Factory โดยแปลงไฟล์ ISO ไปเป็น MPEG4 720P?ซึ่งก็ใช้เวลาไป 22 นาทีไวพอตัวเลยละครับ
บีบอัดเกมสุดฮิตกับไฟล์เกม Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ไฟล์กันบ้างกับโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกเครื่องต้องมีอย่าง Winrar ที่ทำการบีบอัดได้ในเวลาราวๆ 10 นาทีกว่าครับ รวดเร็วดีเยี่ยม
ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 โปรแกรมที่ตากล้องหรือเพื่อนๆหลายๆท่านใช้โพรเซสภาพกัน ที่ปรับรูปไฟล์ Raw จำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900?600 พิกเซล ก็ทำเวลาไป 3 นาทีกว่าเท่านั้น
ในเรื่องของความร้อนงทาง NotebookSPEC เองก็วัดค่าจาก Sensor ต่างๆบนตัวเครื่องผ่านโปรแกรมครับผม โดยพบว่าความร้อนสูงสุดของซีพียูจะไปอยู่ที่ 83 องศาเมื่อใช้งานลักษณะของการประมวลผลและการเล่นเกมต่างๆต่อเนื่องเป็นเวลาราวๆ 30 นาที ในห้องแอร์อุณหูมิ 27-28 องศา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยละครับ ในด้านของการระบายความร้อน
อย่างไรก็ตามในเรื่องของแบตเตอรี่ทาง NotebookSPEC ก็ได้ทำการทดสอบเช่นกันบนการตั้งค่า Balance และเล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วย โดยจับผลทดสอบบนโปรแกรม BatteryMon ซึ่งก็มีระยะการใช้งานทั่วไปที่แสดงออกมาอยู่ที่ราวๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างเพี้ยนไม่ตรวกับความเป็นจริงเนื่องจากทางทีมงานได้ทดสอบใช้งานจริงพบว่าใช้ได้ราวๆ 7-8 ชั่วโมง?แต่ถ้าปรับมาใช้งานหนักๆเช่นเล่นเกมจะใช้ได้ราวๆ 2 ชั่วโมงครับผม ส่วนถ้าดูหนัง FullHD ก็จะอยู่ที่ราว 2-4 ชั่วโมงครับถือว่าทำได้ค่อยข้างดี
Conclusion / Award
Acer Aspire R13 นับได้ว่าเป็นสุดยอด 6-in-1 Hybrid Ultrabook?แห่งยุคอนาคต ที่จอแสดงผลเทพที่สุดในโน๊ตบุ๊คที่มีขายในปัจจุบันในไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอแสดงผล 13.3 นิ้วสัมผัสที่ทาง Acer เลือกใช้พาเนลจอแสดงผล IPS บนเทคโนโลยี IGZO Trasistor (Indium Gallium Zinc Oxide) ที่ประหยัดไฟกว่าแต่ให้ความละเอียดที่สูงกว่าเทคโนโลยีเดิม แถมบวกกับจอแสดงผลแบบ Active Matrix TFT-IPS ที่ให้ภาพที่คมชัดและมีสีสันสมจริงไปในคราวเดียวกันอีกด้วย พร้อมกันนั้นตัวหน้าจอแสดงผลยังมีเซนเซอร์ปรับแสงในตัวช่วยปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมอัตโนมัติเพื่อทำให้รู้สึกสบายตายิ่งขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งกว่า แถมยังมีการเคลือบผิวกระจกแบบ AR/ETC ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ไร้รอยนิ้วมือและทำความสะอาดได้ง่าย และยังรองรับกับปากกา Acer Active Pen ที่รองรับแรงกดอีกด้วย เรียกได้ว่า Acer พีถีพิถันและเน้นหนักจริงๆ กับตัวจอแสดงผลของ?Acer Aspire R13 ตัวนี้ครับ เรียกได้ว่าในเรื่องของจอแสดงผลมีฟีเจอร์ที่แจ๋งกว่า MacBook กันเลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ Acer Aspire R13 ก็แรงไม่แพ้ Ultrabook และ Hybrid Ultrabook ตัวอื่นๆด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i7 , แรม 8GB รวมถึง SSD ความจุถึง 256GB กันเลยทีเดียวที่ก็มีประสิทธิภาพสูงพอตัวตอบสนองกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรืองานประมวลผล แถมยังมีคีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายพร้อมไฟแสดงผลพร้อมตอบรับกับการใช้งานไม่ว่ากลางวันและกลางคืน ยิ่งไปกว่านั้นโหมดการใช้งานต่างๆ ทาง Acer Aspire R13 เองก็ครบถ้วนและเป็นจุดของของเจ้า R13 กันเลยทีเดียวด้วยโหมดการใช้งานถึง 6 โหมดทั้ง?Notebook mode, Ezel mode, Stand mode, Pad mode, Tent mode และ Display mode ?พร้อมให้เพื่อนใช้งานในทุกสถานการณ์ และทุกรูปแบบการใช้งานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อนการทำงาน การประชุม หรือแม้แต่ความบันเทิงก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนในเรื่องของงานประกอบและการดีไซน์ที่ทำออกมาได้พรีเมียมและดูดีสุดๆ ที่ถึงแม้สีสันจะไม่ฉูดฉาดแต่บอกเลยว่าใครเห็นต้องชอบอย่างแน่นอนด้วยความหล่อเหลาแบบสไตล์หล่อเข้มของมัน แต่อย่างไรก็ตามด้วยนวัตกรรมการออกแบบของมันที่ค่อนข้างแปลกและแตกก็อาจจะทำให้เพื่อนๆหลายคนไม่ชอบใจ แต่ถ้าฐานตัวผู้เขียนเองก็พูดได้อย่างเต็มปากเลยละครับว่าเจ้า Acer Aspire R13 นี้เป็น Hybrid Ultrabook ที่สมบูรณ์แบบตัวหนึ่งในท้องตลาดขณะนี้เลยละครับ ถึงแม้ราคามันจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ราวๆ 49,990 บาทแต่แลกมาด้วยฟีเจอร์ เนื้องาน ก็นับได้ว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาเอามากๆถ้าเลือกให้ถูกกับการใช้งาน เอาเป็นว่าเพื่อนเพื่อนท่านใดที่สวนใจก็สามารถสอบถามได้จาก Acer Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายชั้นนำไม่ว่าจะเป็น JIB , BananIT , Advice หรือ Pantiphotsale กันได้เลยละครับ
จุดเด่น
- น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัมพกพาได้สะดวกมาก
- ดีไซด์ล้ำอนาคต และวัสดุอลูมิเนียมค่อนข้างโดดเด่นกว่า Hybrid ตัวอื่นๆ
- หน้าจอ 13.3 นิ้วที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านของฟีเจอร์ที่หลากหลาย และให้คุณภาพของการแสดงผลที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คตัวไหนๆ
- ประสิทธิภาพสูงด้วยหน่วยประมวลผล Core i7 แรม 8GฺB และ SSD ความจุสูงถึง 256GB
- คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ LED ใช้งานสะดวก แม้ตอนกลางคืน
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0/2.0 รวมกันถึง 3 พอร์ต และมี HDMI พร้อมรองรับ Wireless AC
- มาพร้อมประกัน 2 ปี
ข้อสังเกต
- ดีไซน์สวยล้ำ แต่ล้ำจนบางคนอาจะม่ชอบ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Hybrid Ultrabook?ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่ง Acer Aspire R13?ก็ได้รับรางวัลดังนี้
Ezel hinge ที่ออกแบบมาได้อย่างสุดยอด พร้อมดีไซน์ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้กว่า 6 แบบนั้นนับว่าเป็นการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งใช้งานได้จริงอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นแบบนี้แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ทางทีมงาน NotebookSPEC จึงขอมอบรางวัลดีไซน์นี้ไปเลย
แบตเตอรี่ความจุสูงที่ใช้งานยาวนานได้ถึง 8 ชั่วโมง เนื่องมากจากการจัดสรรพลังงานที่ดีมากๆด้วยหน่วยประมวลผลกลาง Core i7 รหัส U พ่วงด้วยเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบ IGZO ที่ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ต่อเนื่องดังนั้นไม่ต้องส่งสัยเลยว่า Acer Aspire R13 ทำไมถึงได้รางวัลนี้ไป
เทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาบนเจ้า R13 นั้นเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่อัดแน่นเอามากๆ ที่มันจะพร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานอันแปลกใหม่และหลากหลายทั้งการปรับลักษณะการใช้งานได้มากถึง 6 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Notebook mode, Ezel mode, Stand mode, Pad mode, Tent mode และ Display mode ตอบรับกับการใช้งานได้เข้ากับทุกสถานการณ์ อีกทั้งการออกแบบฐานจอและบานพับที่ให้ความแข็งแรง เรียกได้ว่าแปลกใหม่กว่าโน๊ตบุ๊ครวมถึง Ultrabook ทั่วไปในปัจจุบัน
