หากจะพูดไปแล้วตัวผมเองนั้นในตอนแรกไม่ค่อยเชื่อมากครับว่า Project Ara หรือโครงการสมาร์ทโฟนแบบโมดูลที่ผู้ใช้สามารถจะทำการเปลี่ยนโมดูลต่างๆ เพื่อทำการอัพเกรดเครื่องได้เองโดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมดจะสามารถออกมาเป็นรูปร่างจริงๆ ได้ แต่ทว่าต้องนับถือ Google จริงๆ ครับที่ทำให้โครงการนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ โดยล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมานั้นทาง Google ก็ได้ออกมาประกาศภายในงาน Project Ara Module Developer Conference ครั้งที่ 2 ครับว่าเมื่อไรและที่ไหนที่ Project Ara จะถูกปล่อยออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จริง รวมไปถึงได้มีการเปิดเผยโครงสร้างของโมดูลให้กับผู้พัฒนา(รวมไปถึงผู้ผลิต) เพื่อที่ได้นำเอาไปผลิตโมดูลสำหรับ Project Ara ออกมาวางจำหน่ายได้ครับ
สำหรับที่แรกที่ Project Ara จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นก็คือ?Puerto Rico ซึ่งเป็นเกาะในเครือของสหรัฐอเมริกาเป็นที่นำร่องทดลองวางจำหน่าย Project Ara ครับ โดยทาง Google ได้ร่วมกับทางคู่ค้าอย่างผู้ให้บริการเครือข่าย?OpenMobile?และ?Claro ในการวางจำหน่ายในครั้งนี้ เมื่อ Project Ara วางจำหน่ายใน?Puerto Rico อย่างเป็นทางการซึ่งทาง Google บอกว่าน่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 2015 นี้ ผู้ใช้สามารถที่จะซื้อหาโมดูลต่างๆ ได้ผ่านทางรถขายโมดูลที่อยู่ในรูปแบบของ “food-truck” ซึ่งจะมีโมดูลให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อได้ 20 – 30 โมดูลใน 10 ประเภทหลักๆ โดยตัวรถ?”food-truck” นั้นจะมีลักษณะเหมือนกับรูปทางด้านล่างนี้ครับ สาเหตุที่ทาง Google เลือก?Puerto Rico เป็นสถานที่นำร่องสำหรับ Project Ara นั้นก็เพราะกว่า 75% ของตัวเกาะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางบริการเครือข่ายมือถือได้ครับ
เพื่อที่จะให้ Project Ara สามารถออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ ที่สามารถใช้งานได้จนถึงขั้นสามารถนำร่องใช้งานใน Puerto Rico ได้นั้นทาง Google จะต้องทำงานหนักมากครับในเรื่องของการให้ความรู้สำหรับการผลิตโมดูล รวมไปถึงต้องเพิ่มความไว้วางใจให้ผู้ผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าเพื่อที่จะเข้ามาผลิตโมดูลสำหรับ Project Ara นี้ ทาง?Paul Eremenko ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าของโครงการ Project Ara ได้ออกมายอมรับครับว่าทาง Google เองยังมีสิ่งที่ต้องให้ทำอีกมากสำหรับ Project Ara
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปค ที่ในปัจจุบันนั้น Project Ara ยังมีโมดูลที่ไม่ใช่สำหรับตลาดระดับบนเท่าไรนัก เช่นรองรับแค่การเชื่อมต่อแบบ 3G หรือแบตเตอรี่มีขนาดเล็กใช้งานได้ไม่ถึงวัน ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังถือว่าอยู่ในขั้นตอนที่ 2 ของการพัฒนาที่ทาง Google เรียกว่า Spiral 2 เท่านั้น ทาง Google ได้ย้ำว่าเราจะมีการพัฒนาโมดูลให้ดีกว่านี้ใน Spiral 3 ซึ่งน่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่ Google จะเข้าสู่แผนการพัฒนา Project Ara ใน Spiral 3 ได้ครับ
สำหรับในช่วงเวลา Spiral 3 นั้นก็จะมีการพัฒนาทางด้านสเปคที่เด่นชัดขึ้นอย่างชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโมดูลที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE หรือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน(ซึ่งนั่นอาจจะแก้ได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณมีโมดูลแบตเตอรี่ 2 ชิ้น แล้วทำการสลับสับเปลี่ยนใช้งานระหว่างวันเท่านั้น) รวมไปถึงโมดูลกล้องที่มีความสามารถเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน(ใน Spiral 2 นั้น โมดูลกล้องของ Project Ara มีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 5 MP เท่านั้น) เป็นต้น ซึ่งทาง Google บอกว่าน่าจะมีโมดูลอีก 20 – 30 โมดูลที่จะสร้างความแตกต่างนี้ให้กับ Project Ara ได้ใน Spiral 3 อย่างไรก็ดีครับทาง Google ได้บอกไว้ว่าการที่จะเข้าสู่ Spiral 3 ได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีสมาร์ทโฟนจาก Project Ara ลงสู่ตลาดจริงๆ ก่อน ซึ่งนั่นเลยเป็นที่มาของการนำร่องใน?Puerto Rico ด้วยนั่นเองครับ
และเพื่อที่จะเป็นการจัดการควบคุมโมดูลได้อย่างมีประสิทธิภาพทาง Google จึงได้มีการเพิ่มแอปพลิเคชันสำหรับ Project Ara ที่มีชื่อว่า Ara Manager app ออกมาโดยเฉพาะครับ โดยแอปนี้จะเอาไว้ใช้งานในการควบคุมโมดูลต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณบ้าพอที่จะใส่โมดูลกล่องลงไปบนสมาร์ทโฟนของคุณถึง 2 โมดูล แอป Ara Manager ก็จะสามารถที่จะทำการบังคับให้คุณได้ครับว่าโมดูลกล้องไหนที่คุณจะใช้เป็นโมดูลหลักเป็นต้นครับ ทั้งนี้แอป Ara Manager จะเป็นทั้งแอปที่เอาไว้ใช้แก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ของ Project Ara อีกด้วยครับ เรียกได้ว่าคราวนี้ Google คิดมาดีแบบครบวงจรทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จริงๆ ครับ คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าเมื่อ Project Ara นำร่องใน?Puerto Rico แล้วจะสามารถทำได้ดีขนาดไหน หากมีอัพเดทอย่างไรทางทีมงานจะนำมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไปครับ
ที่มา : theverge
