ในด้านงานผลิตโน๊ตบุ๊ครุ่นต่างๆ จากค่าย Dell อาจกล่าวได้ว่า เป็นค่ายที่สร้างความโดดเด่นได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มของธุรกิจ เกมเมอร์หรือที่เน้นความบางเบา ส่วนใหญ่จะออกแบบได้น่าสนใจ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี เหลี่ยมมุม ความเพรียวบาง ที่สร้างความแตกต่างจากค่ายอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะความลงตัวของดีไซน์ที่ไม่ได้มีเฉพาะประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความหรูหราที่สะดุดตาด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับ Dell XPS 13 รุ่นนี้ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพในดีไซน์ที่สะดุดตา
Dell XPS 13 จัดอยู่ในตลาดของ Ultrabook ที่เรียกได้ว่าแวดล้อมไปด้วยคู่แข่งมากมาย โดยเฉพาะในรุ่นที่มีกรอบจอเล็กและบาง ไม่ว่าจะเป็น Lenovo Yoga 3 Pro, Acer Aspire S7 หรือแม้กระทั่ง Samsung Ativ Bok 9 Plus ที่ล้วนแต่มีลูกเล่นในการปรับใช้งานตัวเครื่องได้หลากหลาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีอีกหลายรุ่นที่เรียกว่าทำได้ใกล้เคียงกัน แถมยังมีการออกแบบด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย
โดยสเปกพื้นฐานของ Dell XPS 13 รุ่นใหม่นี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 800USD หรือ 24000 บาท โดยประมาณ มาในบอดี้ขนาด 11″ แต่ให้การแสดงผลบนจอได้กว้างถึง 13.3″ ภายใต้วัสดุอลูมิเนียมพร้อมกรอบสีดำ ซึ่งในรุ่น XPS 13 มีออกมา 2 โมเดลด้วยกันคือ รุ่นที่ใช้หน้าจอ Full-HD (1920 x 1080) และ Quad HD (ราคาอยู่ที่ 1299USD) ซึ่งก็เรียกว่าขยับราคาไปสูงกว่า Ultrabook รุ่นอื่นๆ ในตลาดอีกระดับหนึ่ง
สเปกและการออกแบบ
สำหรับโมเดลที่นำมาให้ดูในรุ่นนี้เป็นแบบหน้าจอทัชสกรีน Quad HD (3200 x 1800) มาในระบบปฏิบัติการพื้นฐาน Windows 8.1 พร้อมซีพียู Intel Core processor 5th Gen มีเพียงในรุ่นที่เป็นจอ Quad HD เท่านั้น ที่ให้การทำงานแบบทัชสกรีน โดยในโมเดลนี้จะมีระยะการทำงานอยู่ที่ 11 ชั่วโมง ส่วนรุ่นพื้นฐานอยู่ที่ 15 ชั่วโมง
โดยที่ XPS 13 นี้ มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น แม้จะเป็นรุ่นที่ใช้จอทัชสกรีน Quad HD อีกด้วย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากชิ้นส่วนบางชิ้นที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักไปได้ดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อ WiFi 1560 ในมาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.0 ให้พอร์ต USB 3.0 มาสองช่อง และ Mini DisplayPort อีกหนึ่งช่อง รวมไปถึง SD Card Reader และ 3-in-1 SDHC Card Reader และเลือกติดตั้ง SSD ได้สูงสุดที่ 512GB อีกด้วย ส่วนใครที่คิดว่าการอัพเกรดจากรุ่นธรรมดามาเป็น Quad HD จะคุ้มมั้ย คงต้องบอกว่าคุ้มที่จะได้หน้าจอที่ละเอียดมากขึ้นและยังเป็นจอสัมผัสที่แข็งแรงเพราะใช้กระจกแบบ Gorilla Glass อีกด้วยนั่นเอง ซึ่งหน้าจอรุ่นนี้มาพร้อมความพิเศษคือ เป็นแบบ Boarderless หรือแบบไร้กรอบ ซึ่งจะให้ความบาง แต่หน้าจอกว้างเป็นพิเศษ นั่นหมายถึง XPS 13 รุ่นใหม่นี้ เพิ่มพื้นที่การแสดงผลได้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในรุ่นที่มีกรอบจอแบบปกติทั่วไป
ในส่วนคุณภาพที่ได้นั้น หน้าจอให้ความสว่างระดับ 400 nit พร้อมมุมมองที่กว้าง 170 องศา ซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องความละเอียดบนเม็ดสีขนาด 5.7 ล้านพิกเซล โดยจะสามารถมองเห็นความสว่างแบบไล่โทนไปยังมืดในชัดขึ้น ด้วย Contrast ที่เหมาะสม ก็จะทำให้สามารถมองเห็นความต่างระหว่างสีน้ำเงินเข้มและดำได้เหมือนกับการแยกระดับโทนสีได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ในโมเดลดังกล่าวยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่เป็นคีย์บอร์ดเรือแสงในแบบ Spill-resistant backlit และทัชแพดที่แม่นยำ สิ่งเหล่านี้น่าจะช่วยให้หลายคนที่ชอบความเบาสบาย แต่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสนุกได้บนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้
ลำโพงขนาดเล็ก 2 ช่องที่มีมาให้ ไม่ได้เน้นที่ความทรงพลังมากนัก ทิศทางเสียงที่เน้นไปยังด้านหน้าเป็นหลัก นั่นหากคุณอยู่ในมุมอื่นๆ เสียงที่ได้อาจไม่ได้รับอย่างเต็มที่ เพราะเสียงที่พุ่งออกมานั้นควรจะต้องอยู่ในระดับของการฟังได้ทั้ง 2 หูนั่นเอง
ซึ่งในส่วนนี้คือ รายละเอียดและสเปคบางส่วนของโน๊ตบุ๊คขนาดเล็กและบางจาก Dell ในรุ่น XPS 13 ที่อาจกล่าวได้ว่าหากมองไปที่ดีไซน์ ความคล่องตัวและวัสดุ คงบอกว่าเป็นเรื่องที่ให้ได้อย่างเต็มที่ แต่ก็จะมีรายละเอียดในบางอย่างที่ต้องเข้าใจและเข้าถึง จึงจะพอทราบได้ว่าการใช้งานนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่ อย่างไรก็คงอาจบอกได้ว่า หากคุณเลือกที่จะรับความประทับใจในแบบที่ใช้งานบนหน้าจอแสดงผลคุณภาพ ให้มองข้ามรุ่นพื้นฐานไปได้เลย เพราะในรุ่น Quad HD ให้คุณได้มากกว่าทั้งในเรื่องของภาพและการใช้งานแบบทัชสกรีน เพราะในบางครั้งการใช้งานได้มากขึ้นอีก 4 ชั่วโมงเป็น 15 ชั่วโมงจากรุ่นปกติที่ทำได้11 ชั่วโมง อาจไม่สำคัญกับการแสดงผลแบบเต็มอรรถรสอีกด้วยกับราคา 1299 USD เท่านั้น
ที่มา : techradar