ต่อยอดความสมบูรณ์แบบไปอีกขั้นจากตัวโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 อย่าง?Acer Aspire Switch 10 กับในส่วนของ Acer Aspire Switch 11 ที่เป็นได้ทั้ง Ultrabook และแท็บเล็ตได้ในเครื่องเดียว โดยมาพร้อมสเปคภายในที่น่าสนใจอย่างหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว พาเนลคุณภาพสูง IPS ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญยังใส่เทคโนโลยี LumixFlex ซึ่งจะทำหน้าที่ปรับการแสดงผลให้ชัดเจนได้แม้อยู่ในที่กลางแจ้ง รวมไปถึงยังมีเทคโนโลยี Zero Air Gap ช่วยให้ภาพคมชัดและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ด้วยความที่ Acer Aspire Switch 11 มาพร้อมกับ Snap Hinge ที่ทำหน้าที่เป็น Docking Keyboard ซึ่งติดตั้งพอร์ต USB และฮาร์ดดิสก์ความจุ 500GB ในตัว ส่งผลให้เราสามารถปรับโหมดการใช้ของ?Aspire Switch 11 ได้หลากหลาย ทั้งโหมด Notebook, Pad, Tent?และ?Displayโดยในบทความนี้เราได้ “น้องภา” พริ้ตตี้สาวสวยชื่อดังมาร่วมรีวิวใช้งานจริงกับทางทีมงานด้วย ที่จะอัพเกรดจาก?Acer Aspire Switch 10 อย่างไรบ้าง เดี๋ยวตามไปชมกันครับ
VDO Introduction
Specification
Acer Aspire Switch 11?นี้มาพร้อมกับสเปคที่ค่อนข้างโดดเด่นไปทางประหยัดพลังงาน ซึ่งเครื่องที่นำมาทดสอบสเปกชิปประมวล Intel Core i3-4012Y ที่เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่อย่าง Haswell โดยเป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Thread มีความเร็วในการทำงานอยู่ที่ 1.5 GHz ความสามารถแน่นอนว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ส่วนแรมเครื่องนั้นให้มาอยู่ที่ 4GB และมี SSD ที่ความจุ 128GB และฮาร์ดดิสก์ที่ Docking Keyboard อีก 500GB รวมไปถึงยังรองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วย micro-SD Card อีกด้วย
ส่วนเรื่องหน้าจอได้มีการเลือกใช้จอ LED แบบทัชสกรีน ขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่ให้ทั้งสีสันที่สดใสและมุมมองการรับชมที่กว้าง พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass กันรอยขูดขีด ที่นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งกล้องด้านหน้าความละเอียดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล?เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ และแถมชุดโปรแกรม?Office?365?ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทันที
อีกจุดเด่นของ Acer Aspire Switch 11 คือพอร์ตการใช้งานที่ครบครัน ที่มีทั้ง USB และ micro-HDMI ที่สามารถจะใช้หัวแปลงต่อกับ External Device ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด, แฟลชไดร์ฟ และ LCD TV เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook 2-in-1 ที่กลายร่างเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 อีกหนึ่งรุ่นที่สมบูรณ์ก็ว่าได้ สนนราคาก็จัดได้ว่าไม่แพงเพียง 29,990 บาทเท่านั้นเอง
ชมสเปกเต็มๆ Acer Aspire Switch 11 – Core i3 ได้ที่นี่ <<<
ชมสเปกเต็มๆ Acer Aspire Switch 11 – Core i5 ได้ที่นี่ <<<
Hardware / Design
ตัวเครื่องและการออกแบบของ Acer Aspire Switch 11 จัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ Acer อีกหนึ่งรุ่นที่ทำออกมาได้ดีน่าใช้งาน ซึ่งในเรื่องวัสดุงานประกอบมีคุณภาพดูเรียบร้อยมากๆ โดยการออกแบบหลักๆ แล้วใช้ว้สดุแบบชิ้นเดียวซะส่วนใหญ่ เรียกได้ว่ารุ่นนี้มีงานประกอบดีไม่แพ้ไฮบริดโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ตัวหน้าจอจะเป็นกระจกแบบไร้ขอบ วัสดุในการะประกอบถึงแม้ว่าจะเป็นพลาสติกแต่ก็ให้ความรู้สึกแข็งแรง และดูดีมากๆ ยามสัมผัสก็จะให้ความรู้สึกพิเศษกว่าจับพลาสติกทั่วไปแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้บริเวณด้านบนตรงกลางของหน้าจอ และตรงกลางด้านล่างก็จะเป็นปุ่ม Windows ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งเป็นแบบหน้าจอสัมผัส
และด้วยความที่เป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้วนั้น ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ใหญ่ไป และไม่เล็กไป ถือได้ว่ากำลังดีในการใช้งานต่างๆ ถ้าท่านนึกสภาพไม่ออก ก็จะเทียบให้ว่า Acer Aspire Switch 11 นี้จะใหญ่กว่าAcer Aspire Switch 10 ที่ใส่เคสคีย์บอร์ดนิดเดียวเท่านั้นเอง การใช้งานโดยรวมถือไว้กับมือก็สะดวก เพราะจอขนาดนี้ สามารถที่จะลากนิ้วโดยใช้มือเดียวลากได้ทั่วหน้าจอ การสัมผัสหน้าจอก็สามารถใช้ได้อย่างแม่นยำครับ ถือว่าเหมาะมากกับการใช้งานแบบพกพา?มิติของตัวเครื่องมีความบางเพียง 10.6 มิลลิเมตร ?ที่สำคัญยังมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 850 กรัมเท่านั้นเมื่อทำงานเป็นโหมดแท็บเล็ต
การเชื่อมต่อแท็บเล็ตเข้ากับตัว Docking Keyboard สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่วางแท็บเล็ตลงไปตรงๆ โดยบานพับ Acer Snap Hinge ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Aspire Switch 11 ใช้แรงดูดจากแม่เหล็กสำหรับเชื่อมต่อกับฐานโดยปราศจากสลัก ที่ทำให้เราสามารถถอดและเชื่อมต่อคีย์บอร์ดเข้ากับจอภาพได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ยังคงไว้ในเครื่องความแข็งแรงอยู่
หน้าตา Acer Aspire Switch 11 ดูเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสและระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยตัวคีย์บอร์เองก็เหมือนกับโน๊ตบุ๊คของ Acer ปกติทั่วไป เรียกได้ว่าใช้งานได้ไม่ต่างกันเลย เพราะขนาดของคีย์บอร์ดกับช่องว่างของแต่ละปุ่มมีความพอดีกับการใช้งาน พร้อมกันนั้นยังได้มีการติดตั้งทัชแพดมาอีกด้วย ซึ่งก็เรียกได้ว่าครบครันส่งผลให้เมื่อเราใช้งาน Acer Aspire Switch 11 ?ก็จะเต็มรูปแบบโน๊ตบุ๊คตามมาตรฐาน สำหรับระบบเสียงและลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบตัวเครื่องด้านซ้ายและด้านขวาแบบสเตอริโอ คุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
นอกเหนือจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Acer Active Pen ที่ไว้คอยนำเสนอมิติใหม่ในการทำงาน ซึ่งช่วยให้ป้อนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ รวมไปถึงการวาด หรือร่างภาพ เหมาะสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่การเน้นข้อความในเอกสาร จนถึงการบันทึกข้อมูลในสมุดจดบันทึก
สรุปแล้วการออกแบบดีไซน์รวมไปถึงงานประกอบ จะด้านหน้าหรือด้านหลัง มุมไหน ๆ ก็ทำออกมาได้ดีครับ สวยงามน่าใช้งานมาก ส่วนเรื่องของขนาดและน้ำหนักตัวก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี ไม่ได้หนักไป และไม่ได้ใหญ่ไป สามารถใช้งานถือมือเดียวนาน ๆ ได้ โดยรวมแล้วงานออกแบบและงานประกอบต่างๆ ทำออกมาได้ดี ให้ความรู้สึกว่า นี่แหละเป็น Ultrabook 2-in-1 สมัยใหม่จริงๆ
Acer Snap Hinge
Aspire Aspire Switch 11 ฃสามารถแปลงได้เป็นสี่โหมดที่ต่างกันที่ทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ถอดออกและใช้งานเป็นแท็บเล็ต, ทำงานอย่างจริงจังในโหมดแล็ปท็อป, หมุนจอภาพเพื่อแบ่งปัน หรือพลิกกลับเพื่อรับชมภาพยนตร์เมื่อมีพื้นที่จำกัด
Notebook Mode?เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน๊ตบุ๊ค Acer รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Pad?Mode?ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Display Mode?เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของAspire Aspire Switch 11?เครื่องนี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ขนาด 11.6 นิ้ว ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน๊ตบุ๊คไม่เกินสองหมื่นบาท
Tent Mode?ค่อนข้างจะคล้ายกับ Display Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ?ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
Acer LumiFlex
หน้าจอของแท็บเล็ตAspire Aspire Switch 11?ใช้เป็นเทคโนโลยี ?นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูง โดยมีขนาดอยู่ที่ 11.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass ที่ในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Zero Air Gap ช่วยหลอมรวมรูปลักษณ์และสัมผัสดีกว่าที่เคย เพื่อประสบการณ์จอภาพระบบสัมผัสอันน่าประทับใจอย่างแท้จริง เทคโนโลยีนี้เป็นการเชื่อมโมดูลเข้ากับจอภาพสัมผัสโดยตรง จึงเป็นการกำจัดแสงสะท้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ลดความเปรียบต่างและมุมการรับชม โดยเฉพาะภายใต้การใช้งานกลางแจ้ง?ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ
เรื่องความละเอียดหน้าจอถึงแม้ว่าจะสูงถึงระดับ Full HD ประกอบกับหน้าจอไม่ได้ใหญ่เท่ากับโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่ไอคอนก็ไม่ได้เล็กขนาดที่จะสัมผัสลำบากอะไร ซึ่งการใช้งานสัมผัสหน้าจอบนฝั่งของ Desktop นั้นยังสามารถใช้ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการคลิกที่ไอคอนต่างๆ หรือจะเป็นการคลิกขวาก็สบาย อีกทั้งด้วยความละเอียดเท่านี้กับขนาดหน้า 11.6 นิ้ว ยังทำให้ภาพที่แสดงออกมามีความเนียนตากว่า หน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้ความละเอียดเท่านี้อีกด้วย
การชมภาพยนตร์ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยอัตราส่วนของหน้าจอเป็น 16:9 ซึ่งตรงกันตามสมัยนิยม สามารถรับชมได้เต็มจอกว่าเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตบางรุ่น แต่ด้วยความที่จอนั้นเป็นพาเนลแบบ IPS ทำให้มีความซ้อนบ้างเล็กน้อย อันเนื่องมาจากจอพาเนล IPS จะมีค่า Response Time ที่ต่ำ ที่จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ไม่ต้องคิดมาก
Performance / Software
Acer Aspire Switch 11 รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 แบบ 32-bit และเป็นเวอร์ชั่นที่มีภาษาในการใช้งานเครื่องแบบเดียวคือ English โดยเราเองไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบเมนูต่างๆ เป็นภาษาอื่นได้ (แต่ในการพิมพ์ยังสามารถใช้งานภาษาไทยหรือภาษาอื่นๆ ได้ปกติ)
มาดูสเปกซีพียูกันบ้าง ที่ในตอนที่เราได้ตรวจสอบด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็จะทราบว่าเป็น IIntel Core i3-4012Y ที่มาพร้อมกับความเร็ว 1.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ซึ่งทาง Intel ได้มีการให้ข้อมูลไว้ว่าซีพียูรุ่นนี้แหละ ที่กินพลังงานน้อยมากๆ สามารถอยู่ได้ยาวนานเป็นวันๆ เลย ที่เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันว่าจะจริงหรือเปล่า
มาดูการ์ดจอกันบ้าง Acer Aspire Switch 11 จะใช้เป็น Intel Graphics HD 4200 มาพร้อมกับ VRAM ที่จะแชร์มาจาก แรมหลักนะครับ ซึ่งจะเห็นว่าเวลาเปิดเครื่อง Stand by นั้นจะแชร์มาให้ 16MB
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส Y หรือ U ด้วยกันแล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม
สำหรับการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน SSD ได้ใช้โปรแกรม AS SSD Benchmark ทดสอบ ผลที่ได้ออกมาก็คือมีความเร็วที่สูงมากในการอ่านข้อมูล ซึ่งถึงความเร็วเป็นเท่าตัวในการเขียน ของความเร็วในการอ่าน ก็ยังจัดได้ว่าน่าพอใจอยู่ แน่นอนว่าความรู้สึกของการใช้งานจริงจะมีความเร็วกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ฮาร์ดดิสก์กว่าหลายเท่าตัว โดยส่งผลให้ในการเปิดปิดเครื่องใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและ Sleep/Wake Up จะใช้เวลาเพียง 1-2 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 500 GB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 30 MB/s และสูงสุดที่ 32.7 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 31.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 17.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นเรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะว่าตัวฮาร์ดดิสก์นี้ติดกับตัว Dock ที่เชื่อมต่อด้วยมาตรฐาน USB 2.0
จากการทดลองใช้งานจริงด้วยการเปิดเว็บบราวเซอร์เพื่อชม Youtube ประกอบกับเล่นอินเตอร์เน็ตและทำงานเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย ตัวโปรแกรม BatteryMon ได้มีการคำนวนเวลาที่เหลือที่จะสามารถใช้งานได้ ปรากฏว่ารวมๆ กันแล้ว จะสามารถใช้งานได้ยาวนานเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ตรงนี้การประหยัดพลังงานอาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่ากับแท็บเล็ตปกติ แต่ก็จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์โน๊ตบุ๊คทั่วไปสบายๆ
สำหรับในส่วนของความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นในส่วนที่เป็นแท็บเล็ตที่อาจจะมีความร้อนสูงขึ้นบริเวณด้านฝาหลังของตัวเครื่อง เมื่อเราทำการประมวลผลหนักๆ ซึ่งจากการทดสอบทีมงานได้ทำการเบิร์นเครื่องให้ทำงาน 100% ตลอดเวลา โดยอุณหภูมิห้องอยู่ที่ประมาณช่วง 25 ? 30 องศาเซลเซียส ก็เห็นได้ว่าความร้อนที่เกิดก็ไม่ได้มากมายอะไร พอถือใช้งานได้ปกติดี อันเนื่องมาจากชิปประมวลผลเป็น Intel Core i3 ที่ออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามกรณีที่ใช้งานนอกสถานที่ก็มีความเป็นไปได้ว่าตัวเครื่องอาจจะร้อยมากกว่านี้ ซึ่งก็เป็นปกติอยู่แล้ว ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยตอนนี้ ไม่ว่าจะโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตก็คงร้อนเหมือนๆ กัน
ส่วนเรื่องเสียงรบกวนนั้นก็หายห่วงเพราะตัวเครื่องถูกออกแบบมาไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน ซึ่งความดีความชอบนี้คงต้องยกให้ชิปประมวลผล Intel Core i3 ตระกูลประหยัดพลังงานพิเศษรุ่นล่าสุดที่มีการปลดปล่อยความร้อนนั้นออกมาน้อยมาก จนไม่ต้องอาศัยพัดลมช่วยระบายความร้อนก็สามารถใช้งานได้ปกติ เหมือนกับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนทั่วไปทีเดียว
Conclusion / Award
Aspire Aspire Switch 11?จัดได้ว่าเป็น Ultrabook 2-in-1 อีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจมากๆ ขณะนี้ ด้วยรูปแบบการใช้งานหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่น่าตื่นตาตื่นใจก็สามารถทำได้ ทั้งในเรื่องของซอฟต์แวร์ที่มีความสมบูรณ์แบบ เพราะสามารถติดตั้งโปรแกรมแบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ รวมไปถึงระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานไม่แพ้ในส่วนของแท็บเล็ต Windows 8.1 รุ่นอื่นๆ ส่วนตัว Docking Keyboard เอง มีการติดตั้งแป้นคีย์บอร์ดที่ไม่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป ทำให้เราสามารถใช้งานไฮบริดเครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้วได้ทันที
ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็จัดได้ว่ามีพอตัว ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i แบบประหยัดพลังงานพิเศษ?รองรับทั้งการชมภาพยนตร์ฟังเพลง งานเอกสาร เปิดอินเตอร์เน็ตเล่นเว็บไซต์ ด้วยสเปกภายในเครื่องที่นำมาทดสอบมีติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i3 รุ่นล่าสุด พร้อมแรมขนาด 4GB และ SSD ความจุ 128GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่อยความจำได้ด้วย micro-SD Card แต่ก็ต้องบอกตรงนี้เลยว่า สเปกประมาณนี้ไม่เหมาะงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมกราฟิก 3 มิติแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊ค ในแง่ของราคาและความคุ้มค่าต่อสเปกมาเป็นอันดับแรก อาจจะคิดว่าAspire Aspire Switch 11?ตัวนี้อาจจะมีราคาสูงไปหน่อย แต่ถ้าเรามาดูในส่วนของการใช้งานที่หลากหลายแล้ว จะเห็นได้ว่ามีความยืดหยุ่นกว่าการที่เราใช้งานโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งและแท็บเล็ตอีกเครื่องหนึ่งแน่นอน อีกทั้งหลังจากได้จับ ได้ใช้งาน และเห็นงานประกอบแบบนี้ รวมกับคุณสมบัติดีๆ ที่ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 มีมาให้ โดยส่วนตัวถือได้ว่าโอเคและน่าประทับใจทีเดียวสำหรับAspire Aspire Switch 11?ที่มีราคา 25,990 บาท?มาพร้อมกับการรับประกันถึง 2 ปีเต็ม
สรุปเลยแล้วกัน สำหรับท่านไหนกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คทางเลือกใหม่แบบ 2 in 1 ที่มีคุณสมบัติที่ตัวของ Android และ iPad ไม่สามารถทำได้ ก็อยากให้ลองระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ที่อยู่ในAspire Aspire Switch 11?เครื่องนี้ดูนะครับ เชื่อได้ว่าต้องให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีอย่างแน่นอน
ข้อดี
- วัสดุหลักที่ใช้เป็นพลาสติกคุณภาพดี รวมไปถึงงานประกอบมีความเรียบร้อยดี
- กระจกหน้าจอเป็นแบบ Gorilla Glass แข็งแรง คงทน และพาเนลเป็น IPS ให้สีสันหน้าจอสมจริง
- ประสิทธิภาพการทำงานนั้นพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป โดนรวมมีความลื่นไหล
- สามารถใช้งานหลายโหมดในเครื่องเดียวกัน
- ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Windows 8.1 ที่รองรับโปรแกรมที่เราใช้งานกันอยูแล้ว
- เป็น Ultrabook 2-in-1 ที่มีราคาจำหน่ายถูกที่สุดรุ่นหนึ่ง
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องอาศัยตัวแปลงที่มีมาให้แล้ว
- มาพร้อมปากกา Acer Active Pen?รองรับการขีดเขียน
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
Award
เชื่อได้ว่าหลายๆ คนต้องถูกใจกับหน้าตาของ Acer Aspire Switch 11 แน่นอน เพราะด้วยการออกแบบดีไซน์ที่ใส่ใจในรายละเอียด ที่ถือได้สืบทอดมาจาก Acer Aspire Switch 10 ?ที่ทุกๆ คนที่เป็นแฟนๆ Acer คงคุ้นเคยกันอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งในทั้งความบางและเบา
เทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้นั้น เน้นให้ได้รับประสบการณ์หลากหลาย ปรับรูปร่างได้ถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Notebook?Mode, Pad Mode, Display Mode และ Tent Mode ทำให้ปรับใช้ได้หลากหลายเข้ากับสถานการณ์ อีกทั้งการออกแบบฐานจอที่ให้ความแข็งแรงและถอดหน้าจอออกได้ด้วย เรียกได้ว่าแปลกใหม่กว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในปัจจุบัน
VDO Introduction
Specification
Acer Aspire Switch 11?นี้มาพร้อมกับสเปคที่ค่อนข้างโดดเด่นไปทางประหยัดพลังงาน ซึ่งเครื่องที่นำมาทดสอบสเปกชิปประมวล Intel Core i3-4012Y ที่เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นใหม่อย่าง Haswell โดยเป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Thread มีความเร็วในการทำงานอยู่ที่ 1.5 GHz ความสามารถแน่นอนว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ส่วนแรมเครื่องนั้นให้มาอยู่ที่ 4GB และมี SSD ที่ความจุ 128GB และฮาร์ดดิสก์ที่ Docking Keyboard อีก 500GB รวมไปถึงยังรองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วย micro-SD Card อีกด้วย
ส่วนเรื่องหน้าจอได้มีการเลือกใช้จอ LED แบบทัชสกรีน ขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญยังเป็นพาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่ให้ทั้งสีสันที่สดใสและมุมมองการรับชมที่กว้าง พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass กันรอยขูดขีด ที่นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งกล้องด้านหน้าความละเอียดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล?เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ลิขสิทธิ์ และแถมชุดโปรแกรม?Office?365?ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทันที
อีกจุดเด่นของ Acer Aspire Switch 11 คือพอร์ตการใช้งานที่ครบครัน ที่มีทั้ง USB และ micro-HDMI ที่สามารถจะใช้หัวแปลงต่อกับ External Device ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด, แฟลชไดร์ฟ และ LCD TV เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook 2-in-1 ที่กลายร่างเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 อีกหนึ่งรุ่นที่สมบูรณ์ก็ว่าได้ สนนราคาก็จัดได้ว่าไม่แพงเพียง 29,990 บาทเท่านั้นเอง
ชมสเปกเต็มๆ Acer Aspire Switch 11 – Core i3 ได้ที่นี่ <<<
ชมสเปกเต็มๆ Acer Aspire Switch 11 – Core i5 ได้ที่นี่ <<<
Hardware / Design
ตัวเครื่องและการออกแบบของ Acer Aspire Switch 11 จัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ Acer อีกหนึ่งรุ่นที่ทำออกมาได้ดีน่าใช้งาน ซึ่งในเรื่องวัสดุงานประกอบมีคุณภาพดูเรียบร้อยมากๆ โดยการออกแบบหลักๆ แล้วใช้ว้สดุแบบชิ้นเดียวซะส่วนใหญ่ เรียกได้ว่ารุ่นนี้มีงานประกอบดีไม่แพ้ไฮบริดโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ตัวหน้าจอจะเป็นกระจกแบบไร้ขอบ วัสดุในการะประกอบถึงแม้ว่าจะเป็นพลาสติกแต่ก็ให้ความรู้สึกแข็งแรง และดูดีมากๆ ยามสัมผัสก็จะให้ความรู้สึกพิเศษกว่าจับพลาสติกทั่วไปแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้บริเวณด้านบนตรงกลางของหน้าจอ และตรงกลางด้านล่างก็จะเป็นปุ่ม Windows ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งเป็นแบบหน้าจอสัมผัส
และด้วยความที่เป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้วนั้น ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ใหญ่ไป และไม่เล็กไป ถือได้ว่ากำลังดีในการใช้งานต่างๆ ถ้าท่านนึกสภาพไม่ออก ก็จะเทียบให้ว่า Acer Aspire Switch 11 นี้จะใหญ่กว่าAcer Aspire Switch 10 ที่ใส่เคสคีย์บอร์ดนิดเดียวเท่านั้นเอง การใช้งานโดยรวมถือไว้กับมือก็สะดวก เพราะจอขนาดนี้ สามารถที่จะลากนิ้วโดยใช้มือเดียวลากได้ทั่วหน้าจอ การสัมผัสหน้าจอก็สามารถใช้ได้อย่างแม่นยำครับ ถือว่าเหมาะมากกับการใช้งานแบบพกพา?มิติของตัวเครื่องมีความบางเพียง 10.6 มิลลิเมตร ?ที่สำคัญยังมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 850 กรัมเท่านั้นเมื่อทำงานเป็นโหมดแท็บเล็ต
การเชื่อมต่อแท็บเล็ตเข้ากับตัว Docking Keyboard สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่วางแท็บเล็ตลงไปตรงๆ โดยบานพับ Acer Snap Hinge ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Aspire Switch 11 ใช้แรงดูดจากแม่เหล็กสำหรับเชื่อมต่อกับฐานโดยปราศจากสลัก ที่ทำให้เราสามารถถอดและเชื่อมต่อคีย์บอร์ดเข้ากับจอภาพได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ยังคงไว้ในเครื่องความแข็งแรงอยู่
หน้าตา Acer Aspire Switch 11 ดูเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสและระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยตัวคีย์บอร์เองก็เหมือนกับโน๊ตบุ๊คของ Acer ปกติทั่วไป เรียกได้ว่าใช้งานได้ไม่ต่างกันเลย เพราะขนาดของคีย์บอร์ดกับช่องว่างของแต่ละปุ่มมีความพอดีกับการใช้งาน พร้อมกันนั้นยังได้มีการติดตั้งทัชแพดมาอีกด้วย ซึ่งก็เรียกได้ว่าครบครันส่งผลให้เมื่อเราใช้งาน Acer Aspire Switch 11 ?ก็จะเต็มรูปแบบโน๊ตบุ๊คตามมาตรฐาน สำหรับระบบเสียงและลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบตัวเครื่องด้านซ้ายและด้านขวาแบบสเตอริโอ คุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
นอกเหนือจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Acer Active Pen ที่ไว้คอยนำเสนอมิติใหม่ในการทำงาน ซึ่งช่วยให้ป้อนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ รวมไปถึงการวาด หรือร่างภาพ เหมาะสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่การเน้นข้อความในเอกสาร จนถึงการบันทึกข้อมูลในสมุดจดบันทึก
สรุปแล้วการออกแบบดีไซน์รวมไปถึงงานประกอบ จะด้านหน้าหรือด้านหลัง มุมไหน ๆ ก็ทำออกมาได้ดีครับ สวยงามน่าใช้งานมาก ส่วนเรื่องของขนาดและน้ำหนักตัวก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี ไม่ได้หนักไป และไม่ได้ใหญ่ไป สามารถใช้งานถือมือเดียวนาน ๆ ได้ โดยรวมแล้วงานออกแบบและงานประกอบต่างๆ ทำออกมาได้ดี ให้ความรู้สึกว่า นี่แหละเป็น Ultrabook 2-in-1 สมัยใหม่จริงๆ
Acer Snap Hinge
Aspire Aspire Switch 11 ฃสามารถแปลงได้เป็นสี่โหมดที่ต่างกันที่ทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ถอดออกและใช้งานเป็นแท็บเล็ต, ทำงานอย่างจริงจังในโหมดแล็ปท็อป, หมุนจอภาพเพื่อแบ่งปัน หรือพลิกกลับเพื่อรับชมภาพยนตร์เมื่อมีพื้นที่จำกัด
Notebook Mode?เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน๊ตบุ๊ค Acer รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Pad?Mode?ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Display Mode?เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของAspire Aspire Switch 11?เครื่องนี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ขนาด 11.6 นิ้ว ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน๊ตบุ๊คไม่เกินสองหมื่นบาท
Tent Mode?ค่อนข้างจะคล้ายกับ Display Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ?ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
Acer LumiFlex
หน้าจอของแท็บเล็ตAspire Aspire Switch 11?ใช้เป็นเทคโนโลยี ?นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูง โดยมีขนาดอยู่ที่ 11.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass ที่ในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Zero Air Gap ช่วยหลอมรวมรูปลักษณ์และสัมผัสดีกว่าที่เคย เพื่อประสบการณ์จอภาพระบบสัมผัสอันน่าประทับใจอย่างแท้จริง เทคโนโลยีนี้เป็นการเชื่อมโมดูลเข้ากับจอภาพสัมผัสโดยตรง จึงเป็นการกำจัดแสงสะท้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ลดความเปรียบต่างและมุมการรับชม โดยเฉพาะภายใต้การใช้งานกลางแจ้ง?ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ
เรื่องความละเอียดหน้าจอถึงแม้ว่าจะสูงถึงระดับ Full HD ประกอบกับหน้าจอไม่ได้ใหญ่เท่ากับโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่ไอคอนก็ไม่ได้เล็กขนาดที่จะสัมผัสลำบากอะไร ซึ่งการใช้งานสัมผัสหน้าจอบนฝั่งของ Desktop นั้นยังสามารถใช้ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการคลิกที่ไอคอนต่างๆ หรือจะเป็นการคลิกขวาก็สบาย อีกทั้งด้วยความละเอียดเท่านี้กับขนาดหน้า 11.6 นิ้ว ยังทำให้ภาพที่แสดงออกมามีความเนียนตากว่า หน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้ความละเอียดเท่านี้อีกด้วย
การชมภาพยนตร์ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยอัตราส่วนของหน้าจอเป็น 16:9 ซึ่งตรงกันตามสมัยนิยม สามารถรับชมได้เต็มจอกว่าเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตบางรุ่น แต่ด้วยความที่จอนั้นเป็นพาเนลแบบ IPS ทำให้มีความซ้อนบ้างเล็กน้อย อันเนื่องมาจากจอพาเนล IPS จะมีค่า Response Time ที่ต่ำ ที่จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ไม่ต้องคิดมาก
Performance / Software
Acer Aspire Switch 11 รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 แบบ 32-bit และเป็นเวอร์ชั่นที่มีภาษาในการใช้งานเครื่องแบบเดียวคือ English โดยเราเองไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบเมนูต่างๆ เป็นภาษาอื่นได้ (แต่ในการพิมพ์ยังสามารถใช้งานภาษาไทยหรือภาษาอื่นๆ ได้ปกติ)
มาดูสเปกซีพียูกันบ้าง ที่ในตอนที่เราได้ตรวจสอบด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็จะทราบว่าเป็น IIntel Core i3-4012Y ที่มาพร้อมกับความเร็ว 1.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ซึ่งทาง Intel ได้มีการให้ข้อมูลไว้ว่าซีพียูรุ่นนี้แหละ ที่กินพลังงานน้อยมากๆ สามารถอยู่ได้ยาวนานเป็นวันๆ เลย ที่เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันว่าจะจริงหรือเปล่า
มาดูการ์ดจอกันบ้าง Acer Aspire Switch 11 จะใช้เป็น Intel Graphics HD 4200 มาพร้อมกับ VRAM ที่จะแชร์มาจาก แรมหลักนะครับ ซึ่งจะเห็นว่าเวลาเปิดเครื่อง Stand by นั้นจะแชร์มาให้ 16MB
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส Y หรือ U ด้วยกันแล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม
สำหรับการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน SSD ได้ใช้โปรแกรม AS SSD Benchmark ทดสอบ ผลที่ได้ออกมาก็คือมีความเร็วที่สูงมากในการอ่านข้อมูล ซึ่งถึงความเร็วเป็นเท่าตัวในการเขียน ของความเร็วในการอ่าน ก็ยังจัดได้ว่าน่าพอใจอยู่ แน่นอนว่าความรู้สึกของการใช้งานจริงจะมีความเร็วกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ฮาร์ดดิสก์กว่าหลายเท่าตัว โดยส่งผลให้ในการเปิดปิดเครื่องใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและ Sleep/Wake Up จะใช้เวลาเพียง 1-2 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 500 GB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 30 MB/s และสูงสุดที่ 32.7 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 31.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 17.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นเรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะว่าตัวฮาร์ดดิสก์นี้ติดกับตัว Dock ที่เชื่อมต่อด้วยมาตรฐาน USB 2.0
จากการทดลองใช้งานจริงด้วยการเปิดเว็บบราวเซอร์เพื่อชม Youtube ประกอบกับเล่นอินเตอร์เน็ตและทำงานเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย ตัวโปรแกรม BatteryMon ได้มีการคำนวนเวลาที่เหลือที่จะสามารถใช้งานได้ ปรากฏว่ารวมๆ กันแล้ว จะสามารถใช้งานได้ยาวนานเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ตรงนี้การประหยัดพลังงานอาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่ากับแท็บเล็ตปกติ แต่ก็จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์โน๊ตบุ๊คทั่วไปสบายๆ
สำหรับในส่วนของความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นในส่วนที่เป็นแท็บเล็ตที่อาจจะมีความร้อนสูงขึ้นบริเวณด้านฝาหลังของตัวเครื่อง เมื่อเราทำการประมวลผลหนักๆ ซึ่งจากการทดสอบทีมงานได้ทำการเบิร์นเครื่องให้ทำงาน 100% ตลอดเวลา โดยอุณหภูมิห้องอยู่ที่ประมาณช่วง 25 ? 30 องศาเซลเซียส ก็เห็นได้ว่าความร้อนที่เกิดก็ไม่ได้มากมายอะไร พอถือใช้งานได้ปกติดี อันเนื่องมาจากชิปประมวลผลเป็น Intel Core i3 ที่ออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามกรณีที่ใช้งานนอกสถานที่ก็มีความเป็นไปได้ว่าตัวเครื่องอาจจะร้อยมากกว่านี้ ซึ่งก็เป็นปกติอยู่แล้ว ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยตอนนี้ ไม่ว่าจะโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตก็คงร้อนเหมือนๆ กัน
ส่วนเรื่องเสียงรบกวนนั้นก็หายห่วงเพราะตัวเครื่องถูกออกแบบมาไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน ซึ่งความดีความชอบนี้คงต้องยกให้ชิปประมวลผล Intel Core i3 ตระกูลประหยัดพลังงานพิเศษรุ่นล่าสุดที่มีการปลดปล่อยความร้อนนั้นออกมาน้อยมาก จนไม่ต้องอาศัยพัดลมช่วยระบายความร้อนก็สามารถใช้งานได้ปกติ เหมือนกับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนทั่วไปทีเดียว
Conclusion / Award
Aspire Aspire Switch 11?จัดได้ว่าเป็น Ultrabook 2-in-1 อีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจมากๆ ขณะนี้ ด้วยรูปแบบการใช้งานหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่น่าตื่นตาตื่นใจก็สามารถทำได้ ทั้งในเรื่องของซอฟต์แวร์ที่มีความสมบูรณ์แบบ เพราะสามารถติดตั้งโปรแกรมแบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ รวมไปถึงระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานไม่แพ้ในส่วนของแท็บเล็ต Windows 8.1 รุ่นอื่นๆ ส่วนตัว Docking Keyboard เอง มีการติดตั้งแป้นคีย์บอร์ดที่ไม่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป ทำให้เราสามารถใช้งานไฮบริดเครื่องนี้เป็นโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้วได้ทันที
ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็จัดได้ว่ามีพอตัว ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i แบบประหยัดพลังงานพิเศษ?รองรับทั้งการชมภาพยนตร์ฟังเพลง งานเอกสาร เปิดอินเตอร์เน็ตเล่นเว็บไซต์ ด้วยสเปกภายในเครื่องที่นำมาทดสอบมีติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i3 รุ่นล่าสุด พร้อมแรมขนาด 4GB และ SSD ความจุ 128GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่อยความจำได้ด้วย micro-SD Card แต่ก็ต้องบอกตรงนี้เลยว่า สเปกประมาณนี้ไม่เหมาะงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมกราฟิก 3 มิติแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊ค ในแง่ของราคาและความคุ้มค่าต่อสเปกมาเป็นอันดับแรก อาจจะคิดว่าAspire Aspire Switch 11?ตัวนี้อาจจะมีราคาสูงไปหน่อย แต่ถ้าเรามาดูในส่วนของการใช้งานที่หลากหลายแล้ว จะเห็นได้ว่ามีความยืดหยุ่นกว่าการที่เราใช้งานโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งและแท็บเล็ตอีกเครื่องหนึ่งแน่นอน อีกทั้งหลังจากได้จับ ได้ใช้งาน และเห็นงานประกอบแบบนี้ รวมกับคุณสมบัติดีๆ ที่ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 มีมาให้ โดยส่วนตัวถือได้ว่าโอเคและน่าประทับใจทีเดียวสำหรับAspire Aspire Switch 11?ที่มีราคา 25,990 บาท?มาพร้อมกับการรับประกันถึง 2 ปีเต็ม
สรุปเลยแล้วกัน สำหรับท่านไหนกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คทางเลือกใหม่แบบ 2 in 1 ที่มีคุณสมบัติที่ตัวของ Android และ iPad ไม่สามารถทำได้ ก็อยากให้ลองระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ที่อยู่ในAspire Aspire Switch 11?เครื่องนี้ดูนะครับ เชื่อได้ว่าต้องให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีอย่างแน่นอน
ข้อดี
- วัสดุหลักที่ใช้เป็นพลาสติกคุณภาพดี รวมไปถึงงานประกอบมีความเรียบร้อยดี
- กระจกหน้าจอเป็นแบบ Gorilla Glass แข็งแรง คงทน และพาเนลเป็น IPS ให้สีสันหน้าจอสมจริง
- ประสิทธิภาพการทำงานนั้นพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป โดนรวมมีความลื่นไหล
- สามารถใช้งานหลายโหมดในเครื่องเดียวกัน
- ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Windows 8.1 ที่รองรับโปรแกรมที่เราใช้งานกันอยูแล้ว
- เป็น Ultrabook 2-in-1 ที่มีราคาจำหน่ายถูกที่สุดรุ่นหนึ่ง
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องอาศัยตัวแปลงที่มีมาให้แล้ว
- มาพร้อมปากกา Acer Active Pen?รองรับการขีดเขียน
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
Award
เชื่อได้ว่าหลายๆ คนต้องถูกใจกับหน้าตาของ Acer Aspire Switch 11 แน่นอน เพราะด้วยการออกแบบดีไซน์ที่ใส่ใจในรายละเอียด ที่ถือได้สืบทอดมาจาก Acer Aspire Switch 10 ?ที่ทุกๆ คนที่เป็นแฟนๆ Acer คงคุ้นเคยกันอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งในทั้งความบางและเบา
เทคโนโลยีต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้นั้น เน้นให้ได้รับประสบการณ์หลากหลาย ปรับรูปร่างได้ถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Notebook?Mode, Pad Mode, Display Mode และ Tent Mode ทำให้ปรับใช้ได้หลากหลายเข้ากับสถานการณ์ อีกทั้งการออกแบบฐานจอที่ให้ความแข็งแรงและถอดหน้าจอออกได้ด้วย เรียกได้ว่าแปลกใหม่กว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในปัจจุบัน