ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังจาก RAZER ที่เป็นที่รู้จักกันในกลุ่มของเกมเมอร์อย่างกว้างขวางแล้ว เชื่อว่าชื่อของ Kraken นั้น ย่อมคุ้นหูกันดีอย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้หลายคนคงได้ทำความรู้จักกับ Kraken 7.1 กันไปแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่เรียกว่า ให้เสียงที่จัดจ้าน ตอบรับกับเกมเมอร์และเน้นสุ้มเสียงที่กระชากอารมณ์ในการดูหนังและความบันเทิงอื่นๆ ได้ดีทีเดียว ด้วยการเป็นหูฟัง 7.1 ที่เรียกว่าหาตัวจับยาก ที่สำคัญยังใช้วัสดุที่มีความนุ่มนวล ทนทาน ในส่วนของ Ear cup แต่มีโครงสร้างน้ำหนักเบา ใช้งานได้เป็นเวลานานๆ แบบไม่เกะกะอีกด้วย
ที่กล่าวไปนั้นเป็นหูฟัง Kraken 7.1 แต่มาเวลานี้ สำหรับใครที่คิดว่าต้องการหูฟังที่เน้นความเป็นเกมมิ่งแบบจัดๆ Kraken USB เป็นรุ่นที่ถอดเอาความสามารถของ Kraken 7.1 ออกมา แต่ยังคงหัวใจหลักเอาไว้ ทอนฟีเจอร์บางส่วนลง เปลี่ยนการเชื่อมต่อเป็น USB เพื่อให้ใช้งานได้กับหลายๆ แพลตฟอร์ม ไม่ใช่แค่เพียง Windows หรือ Mac OS เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้งานกับ Play Station ได้อีกด้วย เป็นหูฟังในแบบ Ear Cup ครอบหูขนาดกลาง ที่มาพร้อมไมโครโฟนในตัว มีแรงขับจาก?Neodymium?32mm และสายที่ยาวถึง 2 เมตรเลยทีเดียว โดยมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
Specification
- Advanced 7.1 virtual surround sound engine
- Unidirectional analog microphone
- Powerful drivers for high-quality gaming audio
- Closed ear cup design for optimal sound isolation
System Requirements
- PC / Mac with USB port
- Input Power: 50 mW
- Windows? 8 / Windows? 7 / Windows Vista? / Mac OS X (10.7-10.9)
- Internet connection (for driver installation)
- At least 100MB of free hard disk space
Headphones
- Drivers: 32mm with Neodymium
- Frequency response: 20Hz?20kHz
- Impedance: 32?
- Sensitivity @ 1kHz: 112dB
- Output power: 30mW
- Connector: Gold plated USB
- Cable length: 2m/6.56ft rubber sheathed USB cable
- Approximate weight: 250g (including 2.0m cable)
ได้ดูสเปกที่พอจะมองเห็นความเป็นหูฟังระดับเกมเมอร์ที่น่าจะกระชากใจกันไปบ้างแล้ว ทีนี้ลองมาดูการออกแบบและโครงสร้างโดยรวมของ Kraken USB ตัวนี้กันบ้าง มาดูกันสิว่ามีความเป็นกันเองกับผู้ใช้มากน้อยเพียงใด
ความแตกต่างเปรียบเทียบกันระหว่าง RAZER Kraken รุ่นเดิมและรุ่นใหม่ที่ออกมาเป็น Kraken USB
หน้ากล่องกับการสกรีนเข้มๆ ตามสไตล์ของ RAZER ในแบบที่คุ้นเคยกันดี
เมื่อเปิดกล่องขึ้นมา ไม่ได้มีสิ่งใดหวือหวานัก นอกจากตัวหูฟังและสายต่อที่จัดวางมาเป็นระเบียบ
มีไมโครโฟนแบบถาวรติดมาให้ สำหรับการสนทนาในระหว่างเล่นเกมหรือจะใช้เป็นวีดีโอคอลก็ยังได้
จุดของสายหูฟังจากด้านข้างซ้าย พร้อมตัวครอบเพื่อป้องกันการเสียดสีของสายต่อและช่องออกแบบได้ดี ไม่เกะกะเวลาที่ใช้งาน
หัวต่อเป็นแบบ USB มาพร้อมสายสัญญาณสีเขียวสดใสยาวถึง 2 เมตร
ด้านข้างของหูฟัง ดูลงตัว ด้วยส่วนของ Ear cup พอดีๆ กับที่คาดศีรษะและใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้ใช้ร่วมกันกับผู้ใช้ทุกวัย ในขนาดที่พอเหมาะ
ด้านนอกของ Ear cup สกรีนลวดลายเอาไว้ แยกส่วนระหว่างตัวครอบหูฟังกับลำโพงด้านใน เพื่อให้เคลื่อนไหวเข้ากับหูฟังได้ง่ายขึ้นและลดความรำคาญเมื่อหมุนศีรษะหรือเคลื่อนไหว
Ear Cup เป็นฟองน้ำหุ้มด้วยหนังค่อนข้างแน่น ส่วนหนึ่งก็เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก การยุบตัวทำได้ดีพอสมควร ครอบหูฟังได้เกือบเต็ม อาจจะมีขนาดเล็กไปบ้าง แต่ถือได้ว่าจัดการเรื่องเสียงได้ดี
ที่ครอบศีรษะด้านบนสกรีน RAZER อย่างชัดเจน ซึ่งด้านล่างเป็นฟองน้ำหุ้มหนังนุ่มนวลในระดับหนึ่ง
ข้อต่อระหว่างรางเลื่อนกับหูฟัง เป็นพลาสติกรางเดี่ยว แต่ค่อนข้างแข็งแรง มีนำ้หนักเบา ปรับระดับได้ตามต้องการ
ในส่วนของหูฟังปรับยืดออกได้อีกประมาณ 5cm ทั้งสองด้าน เป็นแบบรางเลื่อน ค่อนข้างแน่นพอสมควร ปรับให้เข้ากับศีรษะได้ง่าย
Conclusion
นับเป็นหูฟังเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่งจาก RAZER ที่ออกมาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว อีกทั้งการเชื่อมต่อผ่าน USB ก็ทำให้รู้สึกว่าจัดการได้ง่ายขึ้น ซึ่งใครที่เคยใช้หูฟังในลักษณะนี้อยู่น่าจะพอทราบกันดี โดยเฉพาะในเรื่องการปรับแต่งหรือการเชื่่อมต่อซอฟต์แวร์ก็จะสะดวกมากขึ้น เมื่อต่อเข้ากับระบบ หากมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ ก็จะเข้าสู่การติดตั้ง RAZER Synapse ได้ทันที เพื่อที่จะใช้ปรับและอัพเดตสิ่งต่างๆ ได้
ด้วยขนาดของหูฟังที่ไม่ได้ใหญ่มาก จึงทำให้เข้ากับผู้ใช้ในทุกโอกาสได้สบาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอยู่ที่โต๊ะหรือใช้เป็นหูฟังในบ้านหรือสำนักงาน รางเลื่อนปรับขนาดได้ง่ายแค่ขยับเลื่อนขึ้นลง Ear cup เป็นฟองน้ำค่อนข้างแน่น เวลาครอบหูจะตัดเสียงรบกวนได้มาก แต่ด้วยความที่ครอบหูกับโครง แยกออกจากกัน จึงทำให้ขยับได้อีกระดับหนึ่ง ไม่แน่นจนเกินไป การใช้งานเป็นเวลานานๆ จึงไม่เป็นปัญหาหรือรู้สึกอึดอัด ที่สำคัญน้ำหนักที่เบา จึงช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น สายหูฟังที่ยาวถึง 2 เมตร ช่วยให้คุณออกห่างจากเครื่องได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใช้จอภาพขนาดใหญ่หรือใช้กับเครื่องเล่นเกมอย่าง Play Station น่าจะสะดวกกับการใช้งาน
เรื่องของเสียงเดิมๆ ตั้งแต่เปิดกล่องตั้งแต่แรก อาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก เสียงยังขยับไปทางกลางๆ แต่ทุ้มได้มาก เบสได้ระดับดีพอสมควร พอใช้ไปได้สักระยะ มีการปรับด้วยโปรนแกรมและเข้าที่มากขึ้น ก็จะเริ่มให้เสียงที่แหลมที่จัดขึ้นมา รวมถึงเบสที่หนักขึ้น อย่างไรก็ดี เมื่อใช้ในการเล่นเกมต้องบอกว่าให้เสียงที่หนักและเร้าใจมากทีเดียว เก็บรายละเอียดในเกมได้ค่อนข้างดี อีกทั้งในเรื่องของดนตรีและเอฟเฟกต์ถือว่าทำได้น่าประทับใจ จึงน่าจะกล่าวได้ว่า ไม่ได้ทิ้งลายเดิมจากต้นกำเนิดของ Kraken ความสอดคล้องของระบบเสียง ไม่ว่าจะเป็นหูฟังหรือไมโครโฟนทำได้ดี ที่สำคัญใช้งานง่ายและเป็นกันเอง ไม่ได้เน้นที่ความหรูหรือยุ่งยากในการใช้งาน แถมราคายังไม่สูงอีกด้วย ใครสนใจหรือกำลังมองหาไปทดลองฟังกันดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจครับ
จุดเด่น
- ขนาดพอเหมาะ ปรับเลื่อนได้
- ครอบหูฟังนุ่มนวล ลดเสียงรบกวนได้มาก
- น้ำหนักเบา
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB
ข้อสังเกต
- ระดับเสียงเหมาะกับในส่วนของเกมมากกว่า
- สายที่ยาวถึง 2 เมตรอาจจะจัดเก็บได้ยาก กรณีที่ต้องใช้บนพื้นที่จำกัด