น้ำหนัก
น้ำหนักเครื่องรุ่นที่ผมลองใช้อยู่นี้เป็นรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวก็จะหนักอยู่ที่ 0.68 กิโลกรัม ไม่หนักนะ สำหรับผมเองมันค่อนข้างเบา (อย่าแปลกใจครับ ผมตัวใหญ่และเล่นเวทมาหลายปีแล้ว ฮ่าๆ) แม้ว่ามันจะไม่ได้หนักมากมาย แต่กระนั้นการถือ iPad มือเดียวเพื่ออ่านอะไรนานๆ ก็ยังไม่ใช่เรื่องสะดวกครับ เพราะจะทำให้เกิดความล้าที่ข้อมือได้ ถ้าเทียบกับการถือนิตยสารทั่วๆไป ยังไม่สะดวกที่จะถืออ่านได้นานๆ
Battery
การชาร์จแบตนั้น จะต้องเสียบชาร์จจากตัว Wall Charge ที่แถมมาด้วยเท่านั้น? ไม่สามารถเสียบชาร์จจากคอมพิวเตอร์ได้ เมื่อเสียบสาย USB เข้ากับเครื่องคอมพ์จะเป็นการ Sync ข้อมูลเท่านั้น โดยตัวเครื่องจะแสดงข้อความว่า Not Charging ที่สถานะแบตเตอรี่ เท่ากับว่าถ้าไปใช้งานนอกสถานที่ ยังไงก็ต้องพกตัว Wall Charge ไปด้วยตลอด หวังจะไปเสียบชาร์จต่อจาก Notebook หรือคอมพิวเตอร์คนอื่นนั้นหมดสิทธิ์ครับ
แต่ในเว็บของ Apple บอกไว้ว่าชาร์จจากคอมพิวเตอร์ได้นะครับ ผมไม่แน่ใจว่าต้องใช้สาย USB แบบที่มีหัวต่อ USB 2 Port เพื่อเพิ่มกระแสรึเปล่า ? แต่ของผมที่บ้านและที่ทำงานไม่สามารถชาร์จจาก USB Port เดียวได้
สำหรับระยะเวลาการใช้งานนั้น Apple ระบุไว้ว่า 10 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานเล่นเว็บผ่าน Wi-Fi และดูหนังฟังเพลง จากการลองใช้งานมาสามวัน ผมว่าค่อนข้างเป็นไปตามที่เขาระบุไว้ แม้ว่าผมจะไม่ได้ทดลองเล่นยาวนานต่อเนื่องรวดเดียว 10 ชั่วโมง แต่ใช้มา 3 วันแบบเห่อๆพอสมควร แบตหมดจาก 97% เหลือ 10% ก็โอเคอยู่นะครับ … ในขณะเดียวกันระยะเวลาการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ก็นานอยู่เหมือนกันกินเวลาอย่างน้อยเกินหนึ่งชั่วโมงแน่ๆ ผมจับเวลาดู 20 นาทีแบตเพิ่มขึ้น 5% คิดคร่าวๆ ถ้าชั่วโมงนึงชาร์จได้ 30% ชาร์จเต็มจะประมาณ 3 ชั่วโมงรึเปล่า ? อย่างไรก็ตามผมไม่ได้นั่งดูตลอดว่ามันเต็มเมื่อไหร่ หลับไปก่อน Zzz…
การใช้งาน
เปิดเครื่องมาครั้งแรกจะเจอกับหน้าจอ Lock screen คล้ายๆกับที่มีใน iPhone ให้เราเลื่อนตัวปุ่มอันนึงเพื่อคลายล็อกหน้าจอ ที่เพิ่มมาจาก iPhone ก็คือจะมีปุ่มนึงเป็นรูปดอกไม้ เป็นการนำภาพใน Photo Library มาแสดงในรูปแบบ Slide Show หน้าจอ iPad คล้ายกับ iPhone ขยายใหญ่ แต่ต่างกันตรงที่มันเปลี่ยนพื้นหลังเป็นภาพได้ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าการวาง icon แบบ iPhone ใน iPad เป็นอะไรที่ตลกมากกว่าสวยงาม มันดูโล่งเกินไป น่าเกลียดพิกล จอก็ใหญ่น่าจะมีการออกแบบใหม่ให้มันใช้พื้นที่ใหญ่ๆได้ดีกว่านี้ ส่วนด้านล่างมี Dock ซึ่งสามารถลากไอคอนมาใส่ได้ 6 ไอคอน
ด้านข้าง iPad
การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในเครื่องทำได้รวดเร็ว รู้สึกว่าเร็วกว่า iPhone 3GS นะครับ
โปรแกรมที่แถมมาเบื้องต้นเท่าที่เห็นเหมือนใน iPhone แต่… ไม่มีโปรแกรม Calculator , Stocks, Weather, Clocks ? แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มี มันก็ไม่น่าจะพัฒนายากอะไรนะ อันอื่นๆน่าจะยากกว่ายังมีเลย ?? แต่อย่างไรก็ตามโปรแกรมทำนองพวกนี้มีให้โหลดฟรีใน App Store
อีกมุมหนึ่งของ iPad
Bluetooth ใช้งานได้จำกัดแบบเดียวกับ iPhone สามารถใช้เล่นเกมส์ร่วมกันได้ แต่ยังไม่ได้ทดลองเนื่องจากมีเครื่องเดียว แต่เมื่อพยายามจะต่อเพื่อส่งนั่นนี่โน่นกับคอมพิวเตอร์ ทั้ง Mac และ PC ไม่สามารถทำได้ เขาเปิดให้ใช้เฉพาะอย่างเท่านั้น เช่นการเชื่อมต่อกับ Apple Wireless Keyboard , Campass หรือเข็มทิศดิจิตอลใช้งานได้ดี , GPS ตัว iPad ที่ผมทดลองใช้อยู่นี้ ไม่มี GPS ในตัวนะครับ มันจะมีเฉพาะรุ่น 3G เท่านั้น ถ้าจะใช้งาน Location Service ก็ทำได้ผ่าน Wi-Fi อย่างเดียวครับ (สามารถนำ Mac Address ของ Access Point ที่คุณใช้งานอยู่ไปกรอกใน SkyHook ได้นะครับ iPhone , iPod touch และ iPad ใช้ฐานข้อมูล AP จากที่นี่เพื่อใช้ในการหาตำแหน่งพิกัดเครื่องได้ http://www.skyhookwireless.com/howitworks/submit_ap.php )
Print ไม่ได้ อันนี้เป็นข้อหงุดหงิดอยู่บางทีเหมือนกันว่า มันไม่สามารถเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ได้โดยตรง เครื่องมันทำอะไรได้หลายอย่าง แต่บางทีจำกัดการส่งข้อมูลออกมาแค่ทางอีเมล์ก็ไม่ค่อยสะดวกนัก เอาละครับ เดี๋ยวมาดูถึงการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ไปทีละโปรแกรมด้วยกันนะครับ