ขอเกริ่นๆถึงความเป็นมาของวงการแท็ปเล็ตในปัจจุบันกันก่อน ปัจจุบัน หลังจากที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคไซเบอร์อย่างเต็มตัวนั้น ทำให้ปัจจัยการสื่อสารแบบ Real Time เป็นสิ่งที่สำคัญขึ้นมาแบบทันที เพราะฉะนั้นไม่ว่าวัตถุใดที่สามารถใช้สื่อสารหรือเชื่อมต่อบนโลกอินเตอร์เน็ตได้ ย่อมเป็นสิ่งที่คนส่วนมากกำลังมองหา แต่ถ้ายิ่งพกพาได้สะดวกด้วยนั้น ยิ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊ครายใหญ่ต่างๆทั่วโลก ได้พยายามอย่างหนักในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาให้โน๊ตบุ๊คมีขนาดที่เล็กลง แต่ประสิทธิภาพทัดเทียมกับเครื่องขนาดจอ 14 นิ้วเหมือนเดิม ซึ่งก็เป็นผลออกมาเป็นแท็ปเล็ตพีซีและเน็ตบุ๊ค แต่เท่าที่เห็นหลังจากออกสู่ตลาดจริงนั้น แท็ปเล็ตก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้หลายๆองค์กรเบนเข็มเป้าหมายไปสู่ตลาดเน็ตบุ๊คแทน ที่สร้างยอดขายแบบถล่มทลายได้ดีกว่า แต่แล้วก็มีสิ่งๆหนึ่งที่ออกมาปฏิวัติวงการแท็ปเล็ตอีกครั้ง ด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ Apple ที่ปล่อย iPad ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่จะมาลบจุดยืนเดิมๆของแท็ปเล็ตบนโลกใบนี้อีกครั้ง
ลองมาดูมุมมองของผู้บริโภคกันบ้าง ก่อนที่จะมี iPad ออกมาสู่ตลาดนั้น พวก Ultraportable นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ กับปัจจัยที่ว่าด้วยความพกพาสะดวก น้ำหนักเบา ทำงานได้ทัดเทียมแบบเดิม แต่แล้วก็มีปัญหาในเรื่องของราคาที่สูงเกินเอื้อม ซึ่งตรงกันข้ามกับขนาดหน้าจอที่เล็กลงแบบไร้เหตุผล เพราะค่าวัสดุแพง ทำให้ตลาด Ultraportable อยู่ในข่ายลุ่มๆลอนๆ เช่นกัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้สำหรับเน็ตบุ๊คก็ไม่ต่างกัน เพราะถึงแม้ว่า Eee PC ของ Asus จะมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผู้บุกเบิกตลาดเน็ตบุ๊ค แต่ปัจจุบันนั้นเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่มีราคาถูกสุดๆ สามารถใช้งานเล่นอินเทอร์เน็ตและใช้งาน E-mail แบบพกพาได้ย่อมกินขาดกว่ากันมากมาย โดยที่แทบจะไม่ต้องโปรโมทอย่างใดเลย ด้วยปัจจัยราคาที่ถูกทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก
เรียกได้ว่า iPad นั้นมาได้ถูกที่และถูกเวลาอย่างที่สุดเลยทีเดียว เนื่องด้วยช่วงนี้นับว่าเป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในวงการตลาดไอทีแบบพกพา ผู้คนเริ่มเห็นถึงมุมมองการใช้งานของตนเองมากขึ้น ว่าต้องการใช้งานในส่วนไหนและต้องการสเปคแบบไหนที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้ดีที่สุด อีกทั้งยังต้องคุ้มค่าในปัจจัยของราคาอีกด้วย? ในมุมมองของคนทั่วๆไปนั้น iPad ทำให้ผู้คนมองข้ามคำว่าแท็ปเล็ตไปอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยรูปแบบของตัวอุปกรณ์เอง ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อ iPad ดีกว่าตัวเน็ตบุ๊คเอง หรือที่อยากได้ที่สุดก็คงจะเป็นพวก Hybrid ควบทั้งแท็ปเล็ตและเน็ตบุ๊คในตัวไปเลยเหมือนพวก IdeaPad U1 ของ Lenovo ซึ่งบทความนี้จะช่วยให้ท่านตัดสินใจในเชิงลึกว่า iPad หรือเน็ตบุ๊คควบแท็ปเล็ต ตัวไหนจะเหมาะสมที่สุดกับการใช้งานของท่าน ซึ่งทั้งสองตัวนี้นับว่าภาพรวมทางด้านการใช้งาน ราคา และปัจจัยต่างๆค่อนข้างจะคล้ายคลึงกันมากเลยทีเดียว
สำหรับการเปรียบเทียบเบื้องต้นนั้น ผมขอเริ่มด้วยการมุ่งไปที่เน็ตบุ๊คตัวล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาสู่ตลาดแบบหมาดๆกับ Lenovo S10-3t ซึ่งนับว่าเป็นเน็ตบุ๊คควบแท็ปเล็ตแบบ Hybrid ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก Intel Atom โปรเซสเซอร์ตัวล่าสุด ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 7 เต็มประสิทธิภาพระบบทัชสกรีน และมีหน้าจอสามารถหมุนได้รอบทิศทางเพื่อเปลี่ยนตัวเครื่องให้กลายเป็นแท็ปเล็ตแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจุดเด่นหลักๆที่ iPad ไม่มีนั่นก็เห็นจะเป็นคีย์บอร์ดแบบจริงๆ ราคาของ Lenovo IdeaPad S10-3t อยู่ที่ 549 เหรียญ ขณะที่ iPad เริ่มต้นที่ 499 เหรียญ แต่ถ้าคุณต้องการที่จะเพิ่มพวก USB พอร์ตหรือ SD Card ให้กับ iPad ราคาเริ่มต้นก็จะเปลี่ยนไปที่ 529 เหรียญทันที ซึ่งส่วนนี้จะแสดงให้เห็นถึงปัจจัยเริ่มต้นในเรื่องของการลงทุนในทันที
เรื่องถัดมาก็จะเป็นเรื่องที่เจาะลึกลงไปถึงว่า iPad สามารถใช้งานอะไรได้บ้าง ใช้งานอะไรไม่ได้บ้างตามมาตรฐานของเน็ตบุ๊คในปัจจุบัน และ S10-3t สามารถทำงานที่เหนือกว่าหรืออ่อนกว่าในแง่ของความหลากหลายต่างๆ
iPad กับด้านการทำงาน
แน่นอนว่าหลายๆท่านที่กำลังจะซื้อหรือว่าซื้อ iPad ไปแล้วก็ตาม ย่อมต้องคาดหวังที่จะใช้งานระหว่างทางได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน เนื่องจากความครบวงจรน่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด และต้องสามารถเข้าถึงและใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้ตามที่ต้องการได้เช่นกัน ซึ่งส่วนนี้ iPad นับว่าทำคะแนนได้ดีกว่าหลายทางเลยทีเดียว ลองมาดูกันดีกว่า
ส่วนพื้นฐานเลยก็คือ เรื่องของ CPU ที่ใช้ตัว A4 ความเร็ว 1 GHz ซึ่งสามารถทำงานได้แรงและเร็วกว่าสัญญาณความถี่ที่แสดงไว้มากเลยทีเดียว iPhone ยังต้องร้องให้กลับเครื่องนี้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่มีอาการ lag ใดๆเลยไม่ว่าจะเปิดหรือรันแอพพลิเคชั่นอะไรก็ตาม กดปุ๊บมาปั๊บทันที ส่วนปัญหาหนักๆในเรื่องของการใช้งานจริงบางส่วน ก็จะมีเรื่องของ Gmail ที่ไม่สามารถเข้าใช้งานได้เต็มรูปแบบ โดยแม้กระทั่งจะใช้พวกแอพพลิเคชั่น Gmail หรือเว็บแอพพลิเคชั่นก็จะไม่ใช่ Gmail ที่เป็นเวอร์ชั่นเต็มอยู่ดี คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นพิเศษอย่างการส่งเมล์ไปยังที่เมล์แอดเดรสอื่นๆได้ แม้ว่าจะรันบน Mobile Safari ก็ไม่ต่างกัน
ถัดมาก็จะเป็นพวกเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นที่ท่านใช้งานกันอยู่เป็นประจำ เช่นพวก Photoshop หรือ Microsoft Excel เป็นต้น บอกได้คำเดียวว่า iPad ไม่สามารถใช้งานพวกแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้เลย เนื่องด้วยทาง Apple จะไม่อนุญาติให้สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแบบเต็มรูปแบบได้บน iPad ท่านก็จะติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆคือ Mobile OS เช่นเคย อันนี้เป็นข้อเสียที่ iPad ทำให้ไม่สามารถใช้ทำงานจริงจากประสิทธิภาพเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นได้เลย
ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่พวก Power User เท่านั้นที่ต้องการใช้งานระหว่างเดินทางแน่นอน เพราะงานจริงๆคงไม่ได้ใช้แค่เช็คเมล์ หรือดูไฟล์เอกสาร Word หรือ PowerPoint และตอบกลับเพียงแค่แนะนำเล็กๆน้อย หรือเพียงแค่พูดคุยสั้นๆกับเพื่อนร่วมงานเป็นแน่ แต่ถ้างานท่านเป็นแบบนี้คงจะน่าอิจฉาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกัน iPad จะดูมีประโยชน์มากขึ้นมาทันที ถ้าต้องการใช้เพียงแค่การรับส่งอีเมล์พื้นฐาน แถมคีย์บอร์ดแบบเสมือนจริงนั้นสามารถทำงานได้ดีกว่าคีย์บอร์ดของจริงบนเน็ตบุ๊คหลายๆรุ่นด้วยซ้ำไป แถมรูปแบบการแสดงผลข้อความทำให้ผู้อ่านไม่ซีเรียสไปกับรูปแบบเดิมๆ สำหรับเรื่องแอพพลิเคชั่นนั้น เรียกได้ว่า iPad สามารถตอบสนองได้รวดเร็วตามนิ้วท่านสั่งเลยทีเดียว แถม iPad ยังเป็นเลิศทางด้านการรับ-ส่งอีเมล์เป็นอย่างมาก เหนือกว่าอุปกรณ์พกพาทั่วๆไปมาก และยังใช้งานง่ายพร้อมแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ทำให้ชั่วโมงการใช้งานไม่เป็นปัญหาในทันที